ตอนที่ 105 ท่องเที่ยวในชายหาดส่วนตัว

เดิมพันเสน่หา

เพราะเขาหวั่นไหว จึงใจลอยไปสามวินาที 

 

 

ระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่สามวินาที เข็มฉีดยาขนาดเล็กของหลินมั่นหรูเจาะเข้าที่หลังคอของเขา เสี้ยววินาที ความชาแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว 

 

 

ถังเฮ่าไม่ได้โกรธ ในทางตรงกันข้ามเขากลับหัวเราะ “คุณเป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆ” ความชาในร่างกายแผ่วงกว้าง ถังเฮ่ายืนนิ่ง เขารู้ดีว่ายิ่งขยับก็จะยิ่งชาเร็วขึ้น เขาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะแพ้ทางให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป คงถูกหัวเราะเยาะแน่ ถังเฮ่าแพ้ให้กับความสวยของผู้หญิง! 

 

 

หลินมั่นหรูยิ้มแล้วก้าวถอยหลังสองก้าว เธอพยุงตัวถังเฮ่ามานั่งตรงเก้าอี้ คลายยิ้มบางๆ พูดเสียงหวาน “คุณถัง ฉันแค่อยากขโมยยาที่ช่วยให้ผิวพรรณดีก็เท่านั้น สำหรับผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ยาที่ช่วยในผิวพรรณสวยงามของตระกูลถัง เป็นอะไรที่ยั่วยวนผู้หญิงมาก ฉันไม่คิดจะหาเรื่องคุณชายถังจริงๆ นะคะ ดังนั้นคุณอย่าผูกใจเจ็บฉันเลย อีกหนึ่งชั่วโมง ยาชาจะหมดฤทธิ์ คุณพักผ่อนเถอะนะคะ” 

 

 

ขณะที่พูด หลิ่นมั่นหรูวิ่งไปที่หน้าต่าง 

 

 

ถังเฮ่ากระตุกยิ้มมุมปาก แววตาของเขามีความเสียดาย เขายิ้มแล้วพูดขึ้น “อย่าให้ผมจับตัวคุณได้อีก ครั้งหน้าคุณจะไม่โชคดีแบบนี้อีกแล้ว” 

 

 

หลินมั่นหรูหรูยิ้ม แล้วกระโดดออกนอกหน้าต่างไป 

 

 

ถังเฮ่าเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างหมดแรง เขายกมือขวาขึ้น แววตาของเขาฉายรอยยิ้มบางๆ “เส้นขอบฟ้าหรือสุดขอบทะเล ผมก็จะตัวคุณจนเจอ” 

 

 

มือขวาของเขามีจี้หยกสีนิล นั่นเป็นเครื่องประดับของคนซีหลิง ตอนที่หลินมั่นหรูฉีดยาเข้าที่หลังคอของเขา เขาเองก็รู้ตัว มือใหญ่คว้าจับจี้หยกสีนิลตรงเอวของเธอ จี้หยกนี้สลักตัวอักษรคำว่า “หรู” เดาว่านี่คงจะเป็นชื่อเธอ เธอเป็นคนซีหลิง 

 

 

ขณะที่เขากำลังจะหมดสติ เขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ม่านตาหดเล็กลง ผู้หญิงคนนั้นปะทะกับบอร์ดี้การ์ดของเขา! 

 

 

เขาเม้มกัดฟันกดโทรศัพท์ที่อยู่ตรงโต๊ะข้างๆ ไปที่เบอร์ภายในของวิลล่า “ปล่อยเธอไป” 

 

 

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงปืนหยุดลง ผู้ช่วยและคนงานของเขารีบวิ่งเข้ามาในห้องทดลอง 

 

 

เขาถามด้วยความเป็นห่วง “เธอได้รับบาดเจ็บไหม” 

 

 

ผู้ช่วยตอบ “โดนยิงไปหนึ่งนัดครับ บริเวณแขน ไม่ถึงกับชีวิตครับ” 

 

 

ถังเฮ่าโล่งอก เขาหลับตาลงช้าๆ 

 

 

หลินมั่นหรูกุมแขนของตนเอง เธอกลับมาถึงวิลล่าชานเมืองด้วยความทุลักทุเล เมื่อเดินเข้ามาก็ตะโกนบอกกับอาเธอร์ทันที “ฉันโดนยิง ช่วยทำแผลให้ฉันที” 

 

 

อาเธอร์ตกใจ รีบวิ่งไปหยิบกล่องยา เขาใช้อุปกรณ์ในการเอากระสุนออกให้เธอ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่ก็เป็นคนในกลุ่มเดียวกัน ไม่มีทางที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือ 

 

 

หลังจากเอากระสุนออกมาและฆ่าเชื้อเรียบร้อย อาเธอร์ตำหนิเธอ “หลินมั่นหรู คุณไปทำอะไรมากันแน่” 

 

 

หลินมั่นหรูเอนหลังพิงโซฟาด้วยความเหนื่อย “ฉันไม่อยากเล่า” เธอไม่มีวันเล่าให้เขาฟังหรอกว่าตนเองไปขโมยยาแล้วเจอเรื่องน่าอายแบบนั้น อีกทั้งฝ่ายนั้นยังเห็นหน้าของตนด้วย 

 

 

อาเธอร์ทำสีหน้าเคร่งขรึม “หลินมั่นหรู คุณอย่าลืมว่าตนเองเป็นใคร ถ้าคุณแอบทำอะไรจนสร้างปัญหาขึ้นมา เจ้าวิหารไม่เก็บคุณไว้แน่!” 

 

 

“ฉันรู้ ช่วงนี้ฉันจะเก็บตัวอยู่ในวิลล่าไม่ออกไปไหน” เธอต้องพักรักษาตัว ในทางเดียวกันเพื่อกันไม่ให้ถังเฮ่าเจอตัวเธอด้วย 

 

 

อาเธอร์ชำเลืองตามองดูเธอ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังเดินกลับไปที่ห้อง พร้อมกับแอบส่งเมลล์ไปหาเหลิ่งรั่วปิง เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลินมั่นหรู 

 

 

***** 

 

 

อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ สถานที่ก่อสร้างแลนด์มาร์คเมืองหลง เครื่องยนต์ส่งเสียงดัง คนงานเร่งทำงาน ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว 

 

 

หลังจากคืนวันฝนตก ความสัมพันธ์ระหว่างหนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิงดีขึ้นมา หัวใจของเหลิ่งรั่วปิงเริ่มหวั่นไหวแล้ว ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รักหนานกงเยี่ย แต่ความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอ มันทำให้เธอหวั่นไหวจริงๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงอ่อนโยนกับเขามากขึ้น ทางด้านหนานกงเยี่ยเองก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนไปของเธอ หัวใจของเขาชุ่มช่ำ นับวันก็ยิ่งตามใจเธอมากขึ้น ถ้าเธอต้องการดวงดาวบนท้องฟ้า เขาไม่มีวันสอยดวงจันทร์มาให้ ถ้าเธอจะไปทางซ้าย เขาไม่มีวันไปทางขวา 

 

 

ราชาที่กำลังมีความรัก บางครั้งเขาเหมือนเด็กน้อย 

 

 

พวกเขานั่งรถไปทำงานด้วยกันทุกวัน ตอนเลิกงานเขาก็จะรอเธอที่ลานจานรถใต้ดินเพื่อกลับวิลล่าหย่าเก๋อด้วยกัน มื้อเที่ยงก็พาเธอไปกินด้วยทุกวัน คนทั้งบริษัทหนานกงต่างรู้กันหมดว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่ถือสาที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของตนแล้ว แต่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานักข่าวไม่รู้ มีเพียงแค่คนในของบริษัทหนานกงเท่านั้นที่รู้ คนของบริษัทหนานกงเองก็ไม่มีใครใจกล้าเปิดเผยข้อมูลนี้ 

 

 

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แสงแดดเจิดจ้าลมพัดปลิวไสว ท้องฟ้าสดใส ต้นหลิวปลิวไปตามแรงลมเหมือนหิมะร่ายรำร่วงหล่นลงทุกจุด 

 

 

หนานกงเยี่ยนอนกลางวันกับเหลิ่งรั่วปิง แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิแทรกผ่านม่านสาดส่องเข้ามาบนเตียง แดดส่องไปยังใบหน้าที่งดงามของเธอ หนานกงเยี่ยคลายยิ้มแล้วจ้องมองหน้าเธอ มือของเขาจับใบหน้าที่เนียนนุ่มราวกับผิวเด็กด้วยความรัก หน้าของเธอนุ่มมือมาก 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงที่ถูกจับใบหน้าเอาไว้รู้สึกจั๊กจี้ เธอลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิด “คุณหนานกงเยี่ย ให้ฉันนอนหลับสบายๆ หน่อยไม่ได้หรอคะ” 

 

 

หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบ้าง “คุณยังจะนอนอีกหรอ ตอนนี้กี่โมงแล้ว ช่วงนี้คุณเริ่มขี้เกียจแล้วนะครับ” 

 

 

เหลิ่งรั่วปลิงพลิกตัว เอาหน้าแนบชิดกับหมอนด้วยความขี้เกียจ “คอยไปดูงานที่ก่อสร้างทุกสองสามวันมันเหนื่อยมากนะคะ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ งีบสักหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย คุณไม่ให้พนักงานหยุดพักช่วงวันหยุดบ้างหรอคะ” 

 

 

หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วลูบจับแขนของเธอ “ครับๆ คุณสถาปนิกเหลิ่งเหนื่อยมากแล้ว ผมที่เป็นหัวหน้าของคุณ วันนี้ต้องตบรางวัลให้คุณแล้ว” 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงพลิกตัว ดวงตากลมโตของเธอเปล่งประกาย “คุณจะให้อั่งเปาฉันหรอคะ” 

 

 

หนานกงเยี่ยหัวเราะ แล้วดีดไปที่จมูกของเธอเบาๆ “คุณเนี่ยจริงๆ เลย ในความคิดของคุณมีแต่เรื่องเงิน!” ทั้งเสื้อผ้าและอาหารของเธอเขาเป็นคนจ่ายทั้งหมด อีกทั้งเขายังทำบัตรเสริมให้เธอรูดกระจายได้อีกด้วย แต่เธอกลับชอบขออั่งเปาจากเขา เธอชอบเงินมากแค่ไหนกัน! 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงพลิกตัวหันหลังให้เขา “ถ้าไม่ใช่อั่งเปาแล้วจะเรียกว่าของรางวัลได้ยังไงคะ” 

 

 

“การที่ผมอยู่กับคุณไงครับ” 

 

 

“ฉันไม่เห็นอยากได้เลย” 

 

 

“เหลิ่งรั่วปิง คุณช่วยพูดให้ผมไม่ต้องรู้สึกเสียใจหน่อยได้ไหม” 

 

 

“ได้ค่ะ ฉันไม่ต้องการให้คุณอยู่กับฉันจริงๆ” เงียบไปครู่หนึ่ง “แต่ถ้ามีอั่งเปามาให้ก็อีกเรื่องหนึ่ง” 

 

 

หนานกงเยี่ยเม้มกัดฟัน สูดลมหายใจเข้า แล้วหัวเราะออกมา “ได้ครับๆ อั่งเปา!” ขณะที่พูด เขาหยิบปากกาและเช็คที่วางอยู่บนโต๊ะมา เขียนเช็คที่ไม่ระบุจำนวนเงิน ฉีกแล้วยื่นให้กับเธอ “อ่ะนี่ พอใจหรือยังครับ” 

 

 

เมื่อก่อนเวลาเขาเขียนเช็คให้เธอจะระบุจำนวนเงินเอาไว้ ทว่าไม่รู้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกครั้งที่เขาเขียนเช็คให้เธอล้วนไม่ระบุจำนวนเงิน เธอจะเอาเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเธอ 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงพลิกตัวกลับมา มองดูเช็คในมือแล้วยิ้มร่า “พอใจแล้วค่ะ!ว่ามาสิคะ วันนี้คุณจะอยากให้ฉันไปที่ไหนกับคุณ” 

 

 

“พาคุณไปชายหาดส่วนตัวของผม ถังเฮ่า ไป่หัน เฉิงซีเองก็ไป จริงด้วยยังมีเวินอี๋อีกคน” 

 

 

“นี่ถือเป็นการนัดรวมตัวหรอคะ” 

 

 

“อื้ม ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว ทิวทัศน์ก็สวยขึ้นมาก ควรจะมารวมตัวเจอกันสักหน่อย” 

 

 

“ได้ค่ะ เห็นแก่เวินอี๋ ฉันยอมฝืนไปกับคุณก็ได้” 

 

 

หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วดีดหน้าผากเธอ “ยิ่งอยู่ยิ่งพูดเก่งนะ” 

 

 

หนานกงเยี่ยพยุงตัวเหลิ่งรั่วปิงลงจากเตียง เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเธอ หลังจากเก็บข้าวของเสร็จทั้งสองก็เดินลงไปกินมื้อเช้าชั้นล่าง จากนั้นขับรถไปยังชายหาดส่วนตัวที่เวสต์แบงค์ 

 

 

ชายหาดส่วนตัวของหนานกงเยี่ย มีความส่วนตัวสูงมาก บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นด้านใน วิลล่าอยู่ติดกับชายหาด มีศาลาและดอกไม้นานาพันธุ์ อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ตรงทางทิศใต้มีเนินหินยกสูง อีกฟากฝั่งที่ติดกับทะเลเป็นหน้าผา 

 

 

ตอนที่หนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิงมาถึง คนอื่นๆ กำลังนอนอาบแดดบนชายหาดแล้ว มู่เฉิงซีโอบเวินอี๋เอาไว้ พวกเขาสองคนพูดกระหนุงกระหนิงกันอยู่ ทางด้านอวี้ไป่หัน เขานอนอาบแดดบนเก้าอี้โดยมีหมวกปิดหน้าเอาไว้ ส่วนถังเฮ่าวันนี้เขากลับไม่ได้ศึกษาขวดยาของเขา เขานั่งคนเดียวตรงที่ไกลๆ กำลังเล่นของบางอย่างในมือ 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงไม่ชอบใส่กระโปรง วันนี้เธอจึงเลือกใส่กระโปรงชายหาดสั้นสีเหลืองอ่อน เข้าชุดกับกางเกงเจ็ดส่วน ผมยาวสลวยของเธอพาดบ่าอย่างสบายๆ เธอดูสดใสเป็นธรรมชาติและสวยมาก 

 

 

เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิง อวี้ไป่หันอดพูดแซวไม่ได้ “จุ๊ๆๆ เหลิ่งรั่วปิง คุณใส่อะไรก็สวยไปหมดจริงๆ ถ้าผู้หญิงทุกคนหน้าตาเหมือนคุณ ผู้ชายบนโลกใบนี้คงมีความสุขมาก” 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงชินกับคำพูดกวนประสาทของเขาแล้ว เธอคลายยิ้มไม่ได้พูดอะไร เดินตามหนานกงเยี่ยไปนั่งบนเก้าอี้ชายหาด 

 

 

ทั้งสองเพิ่งนั่งลง อวี้ไป่หันก็เริ่มสอดรู้สอดเห็นทันที เขาพูดเสียงเบา “พวกนายเห็นไหม ถังเฮ่าผิดปกติ ช่วงนี้มันไม่ได้ศึกษาวิจัยยาของมันแล้ว มันเปลี่ยนเป็นจ้องมองดูเครื่องประดัง เฮ้อ แกดูท่าทีใจลอยของมันสิ” 

 

 

หนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิงมองตามอวี้ไป่หัน เห็นถังเฮ่านั่งอยู่คนเดียว บนเก้าอี้ชายหาดที่อยู่ไกลออกไป เขาก้มหน้าลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่เพราะเขานั่งไกลมากจึงมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ เห็นเพียงแค่จี้หยกสีนิลขนาดเล็กเท่านั้น 

 

 

หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม เขาเริ่มสงสัย “ในมือของมันถืออะไรเอาไว้” 

 

 

อวี้ไป่หันยังคงพูดซุบซิบนินทาไม่หยุด “ช่วงนี้มันไม่ค่อยอยู่รวมกลุ่มกับพวกเราเลย เอาแต่นั่งอยู่คนเดียว ฉันเองก็ไม่กล้าไปใกล้มันเท่าไหร่ แต่ฉันใช้กล้องส่องทางไกลมองดูละ ในมือของมันเป็นจี้อะไรบางอย่าง เป็นเครื่องประดับที่ผู้หญิงใส่กัน ฉันเดาว่าถังเฮ่าของเรากำลังมีความรัก” 

 

 

หนานกงเยี่ยหัวเราะ “จริงหรอ มันไม่ได้เอายามาเป็นแฟนใช่ไหม” 

 

 

“ฮ่าๆๆ อ่ะให้ แกรีบดูเอาเอง” ขณะที่พูด อวี้ไป่หันยื่นกล้องส่องทางไกลให้กับหนานกงเยี่ย 

 

 

หนานกงเยี่ยคว้ากล่องส่องทางไกลมาดูด้วยความสงสัย “เป็นเครื่องประดับของผู้หญิงจริงๆ ด้วย หยกสีนิล เครื่องประดับของชาวซีหลิง” 

 

 

พูดถึงซีหลิง หัวใจของเหลิ่งรั่วปิงเต้นแรง เธอแย่งกล้องส่องทางไกลจากหนานกงเยี่ยมา “ฉันขอดูหน่อย” 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนมีสง่าและนิ่งเงียบ ยากนักกว่าจะได้เห็นเธอสอดรู้สอดเห็น หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วยื่นกล้องส่องทางไกลให้เธอ 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงหยิบกล้องส่องทางไกลแล้วมองไปทางถังเฮ่า สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้กำลังใจลอย สีหน้าของเขายิ้มกรุ้มกริ่ม แววตาของเขาเหม่อลอย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ ถ้าจะอธิบายสิ่งที่เขาเป็นในตอนนี้ก็คือคิดถึงคนที่รัก 

 

 

จากนั้นเหลิ่งรั่วปิงเลื่อนมองดูของในมือเขา รูม่านตาของเหลิ่งรั่วปิงหดเล็ก จี้หยกสีนิลนั้นเป็นของหลินมั่นหรู! 

 

 

เธอนึกถึงอีเมลล์ที่อาเธอร์ส่งมาให้กับเธอ เขาบอกว่าหลินมั่นหรูถูกยิง ช่วงนี้เธอจะอยู่พักรักษาตัวที่วิลล่า ไม่ออกไปไหน 

 

 

เหลิ่งรั่วปิงมีลางสังหรณ์ไม่ดี หลินมั่นหรูมีปัญหากับถังเฮ่า