บทที่ 95

มูฉิงมองจูนัวและยิ้มให้ “แม่ทัพจู ทางตะวันออกของเมืองนั้นมีที่ให้ซ่อนพวกทหารอยู่แห่งหนึ่ง !”

“ที่ไหนกัน ?” ไม่ใช่แค่จูนัว คนอื่นก็สงสัยเช่นกัน

มูฉิงพูดอย่างตั้งใจ “แน่นอนว่าต้องเป็นเมืองหวางไงล่ะ”

ถังหยินเริ่มตามทันแล้ว หากแต่พวกมอร์ฟีสนั้นสูญเสียทหารไปมากในศึกที่เมืองหวาง ดังนั้นเมื่อพวกมันกลับมาล้างแค้น ถ้างั้นพวกมันก็ต้องเล็งโจมตีไปที่เมืองนั้นก่อนไม่ใช่หรือ แล้วงั้นการที่พวกเขาส่งทหารเข้าไปยังเมืองหวาง มันก็จะไม่ยิ่งเป็นการเข้าถ้ำเสือหรอกหรือ ?

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง มองมูฉิง “นายกองเสี่ยว เจ้าคิดเช่นนั้นจริงหรือ ?”

“ข้าจริงจังขอรับ ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าจะพูดเล่นได้ไงกัน ?” มูฉิงพูดอย่างจริงจัง “นายท่าน เมืองหวางเป็นเมืองที่ถูกโจมตีบ่อยที่สุด ถ้าว่ากันตามตรง ทั้งเมืองควรจะถูกทำลายไปนานแล้ว แต่ที่ไม่เป็นเช่นนั้นก็เพราะมีเหตุผลบางอย่างอยู่ นั่นก็คือทุกคนที่อยู่ในเมืองหวางนั้นได้ทำการขุดหลุมหลบภัยเอาไว้หมดแล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเราใช้หลุมนั่นเพื่อซ่อนตัว รอให้พวกมอร์ฟีสมันเข้ามาเจอกับเมืองร้างและมองข้ามไป เพียงแค่นี้พวกเราก็สามารถตลบหลังพวกมันได้แล้ว !”

อย่างนี้นี่เอง เมื่อได้ยินคำอธิบายทุกคนก็เริ่มชื่นชมเขา

ถังหยินเองก็พยักหน้าให้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเวลาที่พวกมันเข้าโจมตี ถึงได้ไม่เจอใครเหลืออยู่ในเมืองเลย ที่แท้ก็เพราะชาวเมืองพวกนั้นหลบซ่อนตัว และรอพวกมันกลับไปก่อนจะออกจากที่ซ่อนตัวนั่นเอง !

จูนัวไม่สงสัยอีกต่อไป เขาจึงหันไปบอกกับถังหยิน “นายท่าน ข้าว่าแผนนี้นับได้ว่าน่าสนใจทีเดียว”

ไม่ใช่แค่น่าสนใจ แต่มันใช้ได้เลยละ ! ถังหยินกะพริบตาและหัวเราะออกมาอย่างดัง “เยี่ยมมาก ถ้าพวกมอร์ฟีสไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพวกมันมาเมื่อไหร่ พวกเราก็จะใช้พลทหารที่ซุ่มอยู่เข้าตลบหลังพวกมันในทันที !”

ทางด้านมูฉิง เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็พลันดีใจไม่น้อย เพราะในที่สุดเขาก็เจอคนที่ยอมรับในความสามารถของเขาแล้ว

ชิวเจิ้นมองมูฉิงด้วยหางตา เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกแปลก ๆ กับชายคนนี้ !

หรืออาจเป็นเพราะปกติแล้วนั้น เขาต้องเป็นฝ่ายที่คอยช่วยเหลือถังหยินในเวลายากลำบากเช่นนี้ หากแต่ตอนนี้กลับมีคนมาใหม่แทน จึงทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตำแหน่งของตัวเองกำลังสั่นคลอนงั้นหรือ ?

ทว่า ชิวเจิ้นนั้นคนที่เก็บอาการเก่ง ดังนั้นไม่ว่าเขาจะหงุดหงิดแค่ไหนก็สามารถเก็บมันไว้ได้ “นายกองเสี่ยวมีความคิดที่ดีทีเดียว แต่ใครจะเป็นคนที่ไปซุ่มโจมตีกัน ? เพราะพลทหารทั้ง 2 พันนายนั้นจะกลายเป็นอาวุธสังหาร หรือจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าก็ขึ้นอยู่กับ…”

ถังหยินพูดแทรกขึ้นมา “ข้าจะไปเอง”

“ไม่มีทาง !” ทุกคนตะลึง

ชายหนุ่มเป็นถึงแม่ทัพและผู้ว่าเขตปิงหยวน รวมไปถึงเป็นผู้นำของเขาทุกคน ดังนั้นมันจึงเป็นการเสี่ยงเกินไป ถ้าหากให้เขาออกไปทำการซุ่มโจมตี ว่าแล้วชิวเจิ้นก็พยายามพูดห้าม “นายท่าน มันอันตรายเกินไป ข้าว่าเราควรใช้ผู้อื่น !”

“ไม่จำเป็นหรอก ต่อให้ข้าจะตกอยู่ในอันตรายก็ไม่มีปัญหา” เมื่อเห็นว่าชิวเจิ้นร้องห้าม เขาก็โบกมือปัดไปมา “ไม่ต้องเถียงกันในเรื่องนี้ ข้าตัดสินใจแล้ว ทุกคนรีบไปจัดการให้เร็วที่สุด”

“หา ?” มันจะไปทำลวก ๆ เช่นนั้นได้อย่างไรเล่า ! ทุกคนได้แต่มองหน้ากันเอง ก่อนที่จางโจวจะรีบพูดขึ้นมา “นายท่าน นี่มันไม่ถูกต้อง อย่างน้อยก็ให้กองทหารของข้าไปด้วยเถอะ”

ถังหยินหันมองเขา ไป่หยง และจูนัว “พวกเจ้าทั้ง 3 กองพันจงกลับไปปกป้องเมืองเฮิงให้ดีเถอะ ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน และถ้าพวกมอร์ฟีสเล็งเมืองชายแดนเอาไว้จริง ๆ ถ้างั้นพวกเจ้าก็ต้องเตรียมกำลังเสริมเอาไว้ให้พร้อม เข้าใจหรือไม่ ?”

ทั้งสามไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาแอบรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย

ถังหยินหัวเราะออกมา “สิ่งที่พวกเจ้าพูดมาก่อนหน้านี้มันก็ถูกอยู่ นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ฝึกทหารหน้าใหม่ พวกเจ้าทั้งสามนั้นสู้กับพวกมันมามากแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกองอื่นบ้างเถอะ”

“นายท่าน พวกเราไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงถึงความปลอดภัยของท่านเท่านั้น !”

แน่นอนว่าถังหยินเข้าใจถึงความกังวลนั้นดี หากแต่เขาก็ยังคงทำตัวตามสบาย ๆ “ไม่ต้องห่วงหรอก พวกมันไม่ได้น่าเกรงกลัวอะไรขนาดนั้นสักหน่อย”

“ใช่แล้ว !” หยวนอู่และหยวนเปียวพูดขึ้นมา “การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น พวกเราสองพี่น้องจะคอยช่วยนายท่านเอง !”

ทั้ง 2 พี่น้องถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงของเมืองนี้เลยทีเดียว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ทว่าแม่ทัพทั้งสามกลับยังไม่อาจผ่อนคลายลงได้เลย

จางโจวยังไม่ยอมแพ้ “ได้โปรดคิดอีกครั้งเถอะนายท่าน !”

ถังหยินยิ้มและส่ายหัว เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบด้วยความสบายใจ

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ชิวเจิ้นก็ไม่ดื้อดึงอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะพูดเช่นไร ถังหยินก็คงไม่เปลี่ยนใจแน่นอนแล้ว เด็กหนุ่มส่ายหัวให้กับจางโจว และพูดว่า “นายท่าน ทหารทั้ง 2 พันนายนั้นจะต้องถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีที่สุดจากกองที่ 1 ที่ 2 และ 3 เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีความสามารถมากที่สุด”

ถังหยินไม่คิดค้านและพยักหน้าให้ “ชิวเจิ้น เจ้าไปจัดการซะ”

เด็กหนุ่มรับคำ

เมื่อเสร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว ถังหยินก็พลันหันมองเสี่ยวมูฉิงที่พยายามทำเป็นสงบสติ นั่งอยู่เก้าอี้

มูฉิงเป็นคนที่ฉลาดมากทีเดียว ถ้าบอกว่าชิวเจิ้นเป็นพวกเจ้าเล่ห์ละก็ ถ้างั้นมูฉิงก็นับได้ว่าเป็นพวกจอมฉวยโอกาสที่เก่งมากทีเดียว ถังหยินครุ่นคิดอยู่นาน และไม่รู้ว่าจะต้องมอบตำแหน่งไหนให้กับเขาดี

ดังนั้นชายหนุ่มจึงพูดออกไปว่า “นายกองเสี่ยว สักวันหนึ่งข้าจะมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับเจ้านะ”

เมื่อพูดจบ เขาจึงจัดให้มูฉิงมีตำแหน่งเทียบเท่านายกองหรือหัวหน้าพลาธิการกองทัพไปก่อน เพราะแม้ว่าจะไม่มีอำนาจโดยตรง แต่ตำแหน่งดังกล่าวนั้นก็ถือได้ว่ามีอำนาจเทียบเท่าพวกแม่ทัพนายกองทีเดียว

ด้วยคำพูดนี้ มันก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับให้มูฉิงเข้าร่วมกองทัพแล้ว

มูฉิงตะลึง เขาลุกขึ้นยืนก่อนที่จะคุกเข่าลงและพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “เป็นพระคุณอย่างยิ่งขอรับ”

ถังหยินโบกมือให้ว่าไม่ต้องทำท่าทีสุภาพขนาดนั้นก็ได้

“ข้าหวังว่าในอนาคตเจ้าจะสามารถทำให้กองทัพเฟิงเกรียงไกรได้นะ”

“แน่นอนขอรับ ข้าจะทำให้ดีที่สุด”

ทุกคนที่ได้ยินพากันหัวเราะออกมา แม้ว่าในใจจะสบถด่าไปหลายครั้งแล้วก็ตาม

มีแค่ชิวเจิ้นที่แอบมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าใดนัก

“วันนี้พอแค่นี้ พวกเจ้าทั้งหมดไปได้แล้ว ส่วนแม่ทัพไป่กับแม่ทัพจู พวกเจ้าทั้งสองกลับไปยังเมืองเฮิงเพื่อเตรียมตัวรับมือซะ แล้วก็แม่ทัพจางรอก่อน ข้ามีบางอย่างจะถามเจ้า”

“ไม่มีปัญหาขอรับ”

“เอาล่ะทุกท่าน หมดธุระแล้ว เชิญกลับไปได้”

“ข้าน้อยขอตัวลา” ทุกคนเดินเข้ามา

จางโจวยังคนยืนรออยู่ที่เดิม เขานั้นอยากรู้ว่าถังหยินต้องการอะไรจากตนกันแน่ ?

เมื่อทุกคนไปแล้วเขาก็พลันถามขึ้น “มีอะไรอีกหรือขอรับ ?”

ถังหยินหัวเราะ “กองพันที่ 4 และ 5 นั้นเป็นกองทหารใหม่ ข้าอยากจะให้แม่ทัพจางช่วยสอนพวกเขาเกี่ยวกับการป้องกันเสียหน่อย”

“อย่างนี้นี่เอง นายท่านไม่ต้องกังวลไป ข้าน้อยจะทำให้ดีที่สุดในเวลาอันกระชั้นชิดนี้”

ถังหยินพยักหน้าให้ “รบกวนด้วยแล้ว แม่ทัพจาง”

คำสั่งในกองทัพนั้นเด็ดขาด ไป่หยงกับจูนัวจึงรีบกลับไปที่เมืองเฮิงในทันที ส่วนกองพันที่ 4 และ 5 นั้น พวกเขาก็ได้ถูกเรียกตัวไปสำหรับการฝึกซ้อม

แม้ว่าทั้ง 2 กองพันนี้จะมีทหารนับหมื่นนาย แต่ด้วยความที่ว่าพวกเขาเป็นหน้าใหม่ จึงทำให้ไม่อาจเทียบความสามารถได้แม้ว่าจะมีความกล้าหาญองอาจที่ใกล้เคียงกันก็ตาม …แต่อย่างน้อย พวกเขานั้นก็มีความคิดที่ไม่ย่อท้อและมุ่งมั่นที่จะปกป้องแคว้นและคนที่พวกเขารักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย !