เซียวจื่อเซวียนเห็นพี่สะใภ้ใหญ่เร่งรีบ จึงเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “เกิดเรื่องแล้วจริงๆ วันนี้พี่สะใภ้ใหญ่พาพวกเจ้าไปเดินเที่ยวไม่ได้ พวกเรากลับบ้านก่อน ข้ามีธุระต้องจัดการ”
เด็กสองคนเดิมก็ไม่ได้อยากเที่ยวอยู่แล้ว จึงตามพี่สะใภ้ใหญ่กลับบ้านไปอย่างว่าง่าย
หลังจากกลับถึงบ้าน เซี่ยยวี่หลัวพาเซียวจื่อเซวียนเข้าไปในห้อง เซียวจื่อเมิ่งไปให้อาหารกระต่าย
เซี่ยยวี่หลัวนำสัญญาออกมา บอกเล่าข้อตกลงระหว่างนางและซ่งฉางชิงด้วยวาจาเข้าใจง่ายและกระชับ พร้อมทั้งบอกเรื่องที่ตนเองขายสูตรอาหารสองสูตรให้เซียวจื่อเซวียนฟังเพียงคนเดียว
เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวนำเงินสิบตำลึงและห้าสิบอิแปะออกมาราวกับเล่นกล เซียวจื่อเซวียนก็อ้าปากจนแทบจะใส่ไข่ไก่ได้ “พี่สะใภ้ใหญ่ นี่… นี่เป็นเงินจากที่ไหนขอรับ? ”
เริ่มจากได้เงินห้าตำลึงจากฮวาหม่านยี ตอนนี้ยังมี…
มีสัญญาอยู่ในมือ เวลานี้เซี่ยยวี่หลัวเป็นผู้จัดหาผักตี้เอ่อแต่เพียงผู้เดียว เซียนจวีโหลวซื้อผักตี้เอ่อจากนาง จินละห้าอิแปะ
เซี่ยยวี่หลัวสามารถหากำไรส่วนต่างได้
ผักตี้เอ่อสองตะกร้าที่นำไปก่อนหน้านี้ มีสิบกว่าจิน เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวจะมอบให้เซียนจวีโหลวโดยไม่คิดเงิน แต่ซ่งฉางชิงไม่ยอม มอบเงินห้าสิบอิแปะให้นางตามราคาที่ตกลงกันไว้
หลังจากเซียวจื่อเซวียนฟังเซี่ยยวี่หลัวอธิบายจบ ก็ชูนิ้วโป้งขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน… ท่านเก่งกาจเกินไปแล้วขอรับ! ”
เพียงเก็บผักป่าตามพื้นก็สามารถหาเงินได้มากขนาดนี้เชียว?
เซี่ยยวี่หลัวลูบศีรษะเซียวจื่อเซวียน กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้ใหญ่เคยบอกแล้ว ว่าจะให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ดี! ”
ดูสิ ขณะนี้ก็กำลังก้าวเดินไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นทีละก้าวไม่ใช่หรือ?
ในบ้านมีเงินสิบตำลึงแล้ว!
“ตอนนี้ก็เหลือแต่ไปเก็บผักตี้เอ่อ แต่อาศัยพวกเราเพียงสามคน ทั้งช่วงบ่ายก็เก็บได้แค่สองตะกร้า เซียนจวีโหลวเป็นภัตตาคารใหญ่ ผักตี้เอ่อสองตะกร้านั้นน้อยนิดเกินไป ดังนั้น พวกเราจะเก็บเองอย่างเดียวไม่ได้ ต้องระดมกำลังคนทั้งหมู่บ้านไปเก็บด้วยกัน”
นางขายห้าอิแปะ รับซื้อสามอิแปะ ตัวเองเก็บกำไรสองอิแปะ ชาวบ้านในหมู่บ้านได้สามอิแปะ ก็เพียงพอแล้ว
เซียวจื่อเซวียน “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านคิดจะทำอย่างไรขอรับ? ”
ชื่อเสียงของเซี่ยยวี่หลัวในหมู่บ้านถือว่าเลวร้ายจนไม่อาจร้ายกว่านี้ได้อีกแล้ว ให้นางไปพูด เกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่จะยอมฟังนาง
เซียวจื่อเซวียนคิดครู่หนึ่ง “ไปหาท่านปู่เซียวดีกว่าขอรับ ท่านปู่เซียวมีบารมีในหมู่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอาเซียวเหลียงรับซื้อสัตว์ป่ามาตลอด ครั้งนี้ก็ให้บอกว่าท่านอาเซียวเหลียงรับซื้อ คนในหมู่บ้านย่อมไม่คิดสงสัย ท่านคิดว่าอย่างไรขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัวเห็นด้วย
“ครั้งก่อนเจ้าบอกว่า ก่อนพี่ใหญ่เจ้าจะไป เคยยืมเงินห้าตำลึงจากท่านปู่เซียวใช่หรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถาม
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “ขอรับ เคยยืม”
เซี่ยยวี่หลัวแบ่งเงินห้าตำลึงออกมาจากสิบตำลึง เก็บไว้กับตัว จากนั้นจึงเก็บเงินห้าตำลึงที่เหลือและสัญญาไว้ในลิ้นชักพร้อมใส่กุญแจลิ้นชักและตู้เก็บของ เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนใส่กุญแจประตูใหญ่ แล้วจึงมุ่งหน้าไปบ้านท่านปู่เซียว
ท่านปู่เซียวอยู่บ้านพอดี เมื่อเห็นเด็กสองคนมา ก็รีบพาเด็กสองคนเข้าบ้าน เซี่ยยวี่หลัวก็เอ่ยเรียก “ท่านปู่เซียว” อย่างอ่อนหวาน ท่านปู่เซียวขานตอบทีหนึ่ง
ไม่ได้เย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ถือเป็นเรื่องดี
เซี่ยยวี่หลัวนำเงินห้าตำลึงออกมา ยื่นให้ท่านปู่เซียว “ท่านปู่เซียว นี่เป็นเงินห้าตำลึงเจ้าค่ะ ข้านำเงินที่ครั้งก่อนเซียวยวี่ยืมไปมาคืนท่าน ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ! ”
สามารถให้ยืมเงินทีเดียวห้าตำลึง นี่เป็นบุญคุณที่ไม่น้อยเลย!
ท่านปู่เซียวเห็นเงินในมือเซี่ยยวี่หลัว ก็ผงะไปครู่หนึ่ง “ครั้งก่อนเจ้าเพิ่งเอาเงินให้เซียวยวี่ไม่ใช่หรือ? เจ้าเอาเงินนี่มาจากไหน? ”
นี่เพิ่งผ่านไปนานเพียงใดเอง นำเงินออกมาได้อีกห้าตำลึง มาจากที่ใดกัน?
สตรีนั้นหาเงินได้ง่ายมาก โดยเฉพาะสตรีรูปโฉมงดงาม เพียงแต่…
นั่นไม่ใช่เงินสะอาด!
ท่านปู่เซียวจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทีระแวง เหมือนจะมองนางให้ทะลุปรุโปร่ง เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร จึงรีบบอกเล่าเรื่องที่ตนเองร่วมงานกับเซียนจวีโหลวให้เขาฟังโดยคร่าว นางไม่ได้บอกเรื่องขายสูตรอาหาร เพียงบอกว่าเซียนจวีโหลวให้นางรวบรวมผักตี้เอ่อ
ท่านปู่เซียวเห็นว่านางหาเงินมาด้วยความสามารถของตัวเอง จึงไม่ได้คิดมาก รับเงินไว้
เป็นเงินสะอาดก็ดี!
ท่านปู่เซียวยังรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ผักตี้เอ่อที่เจ้าว่ามา เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน? ผักตี้เอ่อเป็นอย่างไร? ”
เซี่ยยวี่หลัวหยิบผักตี้เอ่อที่ตนเองเก็บมาก่อนหน้านี้ออกมาจากตะกร้า พร้อมกล่าว “ท่านปู่เซียว คือสิ่งนี้เจ้าค่ะ มีสีเขียวเข้ม”
ท่านปู่เซียวมองแล้วมองอีก เจ้าสิ่งนี้ขึ้นตามคันนา เขาเคยเห็นมาไม่น้อย รู้จักดี เพียงแต่ เขาไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้กินได้ด้วย?
“กินได้ขอรับ! ” เซียวจื่อเซวียนชิงพูด “ไม่เพียงแค่กินได้ ทั้งยังอร่อยมากด้วยขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ทำให้พวกเรากินเยอะมาก มื้อหนึ่งข้ากินข้าวได้สองชามเลยทีเดียว! ”
เซียวจื่อเมิ่งก็กล่าวเสียงใส “ผักตี้เอ่อผัดไข่ อร่อยมากเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินว่าเด็กสองคนได้กินดีขนาดนี้ ท่านปู่เซียวก็ยิ้มจนแทบไม่เห็นตา “ดีดีดี กินได้เยอะก็ดี หากพี่ชายของเจ้ารู้ ต้องรู้สึกดีใจแน่! ปู่เซียวเองก็ดีใจ”
แม่หนูนี่ไม่เลว ไม่ได้ทารุณเด็กที่น่าสงสารสองคนนี้อีก
จิตปรปักษ์อันน้อยนิดที่มีต่อเซี่ยยวี่หลัว ค่อยๆ สลายหายไปเมื่อเห็นเด็กสองคนเกาะติดอยู่ข้างกายเซี่ยยวี่หลัว
“เจ้าบอกว่าจะรับซื้อผักตี้เอ่อจากทั้งหมู่บ้าน รับซื้อมากขนาดนั้น เจ้าจะขายได้หรือ? “
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “มีคนลงนามในสัญญาจัดหาวัตถุดิบกับข้าแล้ว พรุ่งนี้ยามเฉินจะมีรถม้าของภัตตาคารมารับสินค้า นอกจากนั้น ข้าจะไม่ค้างชำระเงินของชาวบ้าน พวกเขาเก็บมาได้เท่าไร ข้าจะจ่ายสดทั้งหมด”
นั่นก็คือ เก็บผักได้มาก ก็จะจ่ายให้มาก
ท่านปู่เซียวสูบยาสูบหนึ่งที หลังจากพ่นควันออกมา จึงพาดกล้องยาสูบไว้ตรงเอว “ได้! ข้าจะไปบอกกับพวกเขาเอง”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว “ท่านปู่เซียว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งต้องรบกวนท่านด้วยเจ้าค่ะ”
“เรื่องอะไร? บอกมาเลย” ยังจะคิดว่ารบกวนอะไรอีก
“ข้าเกรงว่าคนในหมู่บ้านจะไม่เชื่อข้า ถ้าอย่างไรท่านก็บอกว่าท่านอาเซียวเหลียงจะรับซื้อผักตี้เอ่อ หากพรุ่งนี้มีคนมารับผักตี้เอ่อ ข้าจะพาเขามาที่บ้านท่าน ได้หรือไม่เจ้าคะ? “
บ้านนางไม่มีผู้ใหญ่แม้แต่คนเดียว มีนางที่เป็นสตรีหนึ่งคน และเด็กอีกสองคน หากรู้ว่าพวกนางกำลังทำการค้ากับภัตตาคาร มีรายได้ หากถูกคนไม่ดีหมายตา เช่นนั้นต้องลำบากแน่
ท่านปู่เซียวรู้ถึงความกังวลของเซี่ยยวี่หลัวทันที เขาพยักหน้า “อืม ข้ารู้แล้ว ข้าจะบอกว่าพวกเจ้าสามคนมาช่วยงานข้า! “
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านปู่เซียว” ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ท่านปู่เซียวเบ้ปากทีหนึ่งจึงเดินจากไป
แม่หนูนี่ เหตุใดช่วงนี้ถึงปากหวานนัก ราวกับกินน้ำผึ้งมาก็มิปาน
ทว่า นางดีต่อเด็กสองคน หากสามารถหาเงินมาใช้จ่ายในครัวเรือนได้บ้าง ก็ถือเป็นเรื่องดี เด็กสองคนย่อมไม่ต้องอยู่อย่างลำบาก
ท่านปู่เซียวช่วยทำงานนี้อย่างสุดความสามารถ เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งพาเด็กสองคนไปเก็บผักตี้เอ่อตามคันนา ก็เห็นผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยพาเด็กๆ หิ้วตะกร้ามุ่งหน้าไปตามคันนา
ท่านป้าสี่ก็พาเซียวหมิงจูไปในท้องนา
การเก็บผักตี้เอ่อไม่ใช่งานหนักอะไร
ขณะที่เซี่ยยวี่หลัวลุกขึ้น ก็สบสายตากับเซียวหมิงจูเข้าพอดี
สตรีสองนาง เจ้ามองดูข้า ข้ามองดูเจ้า