เล่มที่ 4 บทที่ 106 รับซื้อผักตี้เอ่อครั้งแรก

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

ระหว่างทางกลับ เซียวหมิงจูเปิดดูของในตะกร้าเป็นครั้งคราว

ในตอนท้ายถงเต๋อกล่าวกับนางว่า หากนางปักได้ดี ต่อไปสามารถร่วมงานกับฮวาหม่านยีแบบระยะยาวได้ นั่นหมายความว่า นางเองก็หาเงินได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ

ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนได้ห้าอิแปะ ห้าผืนเป็นยี่สิบห้าอิแปะ หากหนึ่งเดือนปักได้สามสิบผืน ก็เป็นเงินหนึ่งร้อยห้าสิบอิแปะ

เป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย!

เซียวหมิงจูยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น กลับบ้านอย่างรวดเร็ว กลับถึงบ้านก็ปิดประตูปักผ้าเช็ดหน้า

นางตื่นเต้นจนลืมเวลา ถึงเวลาที่นางมองเห็นไม่ชัด ท้องฟ้าภายนอกก็มืดแล้ว นางรีบจุดไฟ เพิ่งจุดไฟเสร็จ ประตูด้านนอกก็ถูกผลักเปิดจนเกิดเสียง

เซียวหมิงจูไม่ต้องมองด้วยซ้ำ ก็รู้ว่ามารดาของตนกลับมาแล้ว

ท่านป้าสี่รออยู่ในท้องนาตลอดช่วงบ่าย ก็ยังไม่เห็นเซียวหมิงจู เมื่อเห็นว่าคนอื่นที่มากันหลายคน ต่างก็เก็บผักได้หลายตะกร้า นางเก็บได้แค่หนึ่งตะกร้า จึงโมโหเดือดดาล

เข้าบ้านก็รีบไปหาเซียวหมิงจู

เมื่อเห็นว่าเซียวหมิงจูกำลังปักผ้าเช็ดหน้า เพลิงโทสะของนางก็ไม่มีที่ระบายอีก

บุตรสาวของตนเองก็กำลังยุ่งอยู่ ท่านป้าสี่ทอดถอนใจ ได้แต่ไปห้องครัวด้วยความจนใจ เพื่อไปทำอาหารเย็น

เซียวหมิงจูไม่ได้สนใจนาง ทำงานในมือต่อ

นางคิดจะปักผ้าเช็ดหน้าห้าผืนให้เสร็จก่อนสามวัน รีบนำไปส่ง แล้วจึงปักเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง จะหาเงินได้มากขึ้น

เซียวหมิงจูก็อยากหาเงิน หากนางหาเงินได้มาก นางคิดอยากทำอะไรก็สามารถทำได้!

เสื้อที่อาเซวียนสวมใส่เก่าถึงเพียงนั้น นางจะหาเงินให้มากหน่อย ตัดเสื้อใหม่ให้อาเซวียน ยังมีอายวี่อีก ต้องตัดเสื้อใหม่ให้เขาด้วย เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ซักจนสีซีดแล้ว รอให้เขากลับมา เสื้อผ้าของปีก่อนต้องทั้งตัวเล็กและขาดแล้วเป็นแน่ นางทำเสร็จเมื่อไร เขาก็จะได้สวมใส่เสื้อที่นางตัดเย็บเองกับมือ

นางจะทำให้อายวี่ได้รู้ ว่าบนโลกใบนี้ มีเพียงนางที่รักเขาที่สุด!

นางจิ้งจอกเซี่ยยวี่หลัวนั่น ไสหัวไปให้พ้นเสีย!

นางไม่เชื่อ ว่านางจะเทียบกับเซี่ยยวี่หลัวที่ทำอะไรไม่เป็นไม่ได้!

วันรุ่งขึ้นฟ้าเพิ่งสาง เซี่ยยวี่หลัวก็ลุกขึ้นแล้ว ยังไม่ทันล้างหน้าบ้วนปากก็รีบต้มโจ๊กก่อน ขณะที่นางตักข้าวสาร ก็เพิ่มข้าวอีกจำนวนหนึ่ง ปกติต้มไข่ไก่เพียงสามฟอง วันนี้ก็เพิ่มอีกหนึ่งฟอง ต้มไปสี่ฟอง หลังจากต้มด้วยไฟแรงจนสุกจึงอุ่นด้วยไฟอ่อนไว้

เวลานี้ในบ้านไม่ขาดแคลนเงิน เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดจะประหยัดด้านอาหารการกินของที่บ้าน

เด็กสองคนอยู่ในวัยกำลังโต นางจะเลี้ยงดูเด็กสองคนให้ทั้งขาวทั้งอ้วน

เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งนั้นนางไม่ต้องดูแลเลย พวกเขาตื่นแต่เช้าพร้อมกับเซี่ยยวี่หลัว ทั้งสองคนล้างหน้าบ้วนปากแล้วจึงไปให้อาหารกระต่าย

หลังจากทำงานเหล่านั้นเสร็จจึงไปห้องครัว โจ๊กต้มเสร็จแล้ว เซี่ยยวี่หลัวก็ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ล้างกระทะด้านในเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวใส่น้ำมัน ผัดผักตี้เอ่อใส่ไข่ด้วยไฟแรง ใส่ผักตี้เอ่อลงไปหนึ่งจินกว่า ตอกไข่ลงไปสองฟอง ก่อนจะตักไปวางบนโต๊ะ เซี่ยยวี่หลัวตักแบ่งออกมาหนึ่งจานใหญ่ จากนั้นนางและเด็กสองคนจึงกินโจ๊กข้นชามโตคนละชาม กับไข่ไก่หนึ่งฟองและผักตี้เอ่อผัดไข่ที่หอมกรุ่น กินอย่างเอร็ดอร่อย

เมื่อกินอิ่มแล้ว เซี่ยยวี่หลัวหยิบไข่ไก่ที่ต้มเสร็จแล้ว จากนั้นจึงนำชามใหญ่ตักโจ๊ก ยังมีผักตี้เอ่อที่นางตักแบ่งไว้เมื่อครู่ หิ้วผักตี้เอ่อที่เก็บมาได้เมื่อวาน ใส่กุญแจประตูห้องเสร็จ จึงมุ่งหน้าไปบ้านท่านปู่เซียวท่ามกลางแสงแดดในรุ่งอรุณ

ท่านปู่เซียวอายุมากแล้ว นอนไม่ค่อยหลับ ฟ้าเพิ่งสว่างก็ตื่นแล้ว เพิ่งล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ ก็มีเสียงตะโกนเรียกของเซียวจื่อเซวียนดังจากด้านนอก

ท่านปู่เซียวเปิดประตู เซียวจื่อเซวียนยกอาหารมาหนึ่งจาน กล่าวอย่างอ่อนหวาน “ท่านปู่เซียว ท่านกินอาหารเช้าหรือยังขอรับ? ”

คู่ชีวิตของท่านปู่เซียวจากโลกนี้ไปเมื่อหลายปีที่แล้ว เขามีเซียวเหลียงเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว บุตรชายอยู่ในตัวเมือง ปกติท่านปู่เซียวจะกินข้าวก็ทำอาหารเอง เวลาเช้าก็จะกินอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน อุ่นหน่อยก็สามารถกินได้หนึ่งมื้อ

ในห้องครัวมีอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน ท่านปู่เซียวกล่าว “ปู่ยังไม่ได้กิน จะไปทำเดี๋ยวนี้ พวกเจ้ากินหรือยัง หากยังไม่ได้กิน…”

“ท่านปู่ พวกเรากินแล้วเจ้าค่ะ” เซียวจื่อเมิ่งยื่นส่งไข่ไก่ร้อนในมือตัวเองให้ท่านปู่เซียว พร้อมกล่าวเสียงหวาน “พี่สะใภ้ใหญ่ต้มไข่ไก่ให้ท่านหนึ่งฟองเจ้าค่ะ”

เซียวจื่อเซวียนวางจานในมือลงบนโต๊ะ “ยังมีผักตี้เอ่อผัดไข่อีกหนึ่งจานขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ผัดเสร็จแล้วก็ตักแบ่งส่วนของท่านไว้ พวกเราไม่ได้แตะเลยขอรับ! ”

เซี่ยยวี่หลัววางชามใหญ่ในมือลงบนโต๊ะ “ท่านปู่เซียว ช่วงเช้าพวกเรากินโจ๊ก กินไข่ และผักตี้เอ่อผัดไข่อีกหนึ่งจาน คิดว่ายังเช้ามาก ท่านน่าจะยังไม่ได้ทาน จึงทำเผื่อมาชุดหนึ่ง”

ไม่ใช่ของที่กินเหลือ แต่ทำเผื่อเขาหนึ่งชุดโดยเฉพาะ

ท่านปู่เซียวยิ้มพร้อมนั่งลงกิน

โจ๊กถูกเคี่ยวจนข้นมาก ไข่ไก่นี่ก็ไม่รู้ว่าต้มอย่างไร ไข่ขาวมีสีเทาอ่อนๆ ด้วย ไม่เหมือนกับไข่ที่ต้มตามแบบปกติ แต่กลับหอมอร่อยกว่าไข่ที่กินตามปกติมากนัก

การค้าของเซียวเหลียงถือว่าไม่เลว ปกติอาหารการกินของท่านปู่เซียวจึงไม่แย่

ครั้งแรกที่เซียวจื่อเซวียนกินไข่เช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก ไข่ขาวที่ปกติเป็นสีขาวสะอาด เหตุใดถึงเปลี่ยนสีได้ เมื่อเห็นท่านปู่เซียวรู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน จึงกล่าว “ไข่นี่ต้มในโจ๊กขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ขัดล้างเปลือกไข่จนสะอาด แล้วจึงใส่ลงไปในหม้อต้มพร้อมกับโจ๊ก ไข่ที่ต้มออกมาจึงเป็นสีนี้ พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าไข่นี่ต้มด้วยน้ำข้าว จะมีคุณค่าทางอาหารมากขึ้นขอรับ”

ท่านปู่เซียวหรี่ตา กินไข่หนึ่งคำสลับกับโจ๊กหนึ่งคำเงียบๆ

โจ๊กร้อนๆ เข้าไปในกระเพาะ ร่างกายอบอุ่นขึ้นทันที

เซียวจื่อเมิ่งชี้ไปที่ผัก กล่าวเสียงใส “ท่านปู่ ท่านลองชิมนี่ดู สิ่งนี้อร่อยมากเจ้าค่ะ”

ท่านปู่เซียวคีบผักตี้เอ่อผัดไข่มาหนึ่งคำ “นี่… เป็นของที่พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าทำงั้นหรือ? ”

น้ำเสียงแฝงเร้นด้วยความสงสัย ราวกับไม่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนทำอาหารเหล่านี้

ผักตี้เอ่อเดิมทีก็นุ่มอยู่แล้ว ไข่ไก่ก็นุ่ม ท่านปู่เซียวอายุมากแล้ว ฟันไม่ค่อยดี ผักนี้เมื่อเคี้ยวในปาก เพียงเคี้ยวเบาๆ ก็ละลาย ที่สำคัญคือรสชาติอาหาร อร่อยกว่าที่เซียวเหลียงพาเขาไปกินในร้านอาหารเสียอีก!

เซี่ยยวี่หลัวกำลังง่วนอยู่กับเรื่องที่อีกชั่วครู่จะรับซื้อผักตี้เอ่อ ไม่ได้สนใจทางนี้

เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส “เจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนผัด! ”

อาหารการกินในระยะนี้ของนางดีเสียยิ่งกว่ากระไร แก้มขึ้นสีแดงเลือดฝาด แววตาเป็นประกายแวววาว

“มีน้ำมีนวลแล้ว! ” ท่านปู่เซียวยิ้มพร้อมกล่าว ดวงตาขุ่นมัวฉายประกายรักใคร่เอ็นดู

“พี่สะใภ้ใหญ่ทำอาหารอร่อยให้พวกเรากินทุกวันเจ้าค่ะ มีข้าวกับไข่กินทุกวัน พี่สะใภ้ใหญ่ยังทำปลาให้พวกเรากินด้วย ได้ดื่มน้ำแกงปลาทุกวัน ทั้งยังกินเนื้อหมู พี่สะใภ้ใหญ่เคยห่อเกี๊ยวให้พวกเรากินด้วยเจ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวอย่างได้ใจ สาธยายโอ้อวดอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวเคยทำให้นางกินออกมาทั้งหมด

ท่านปู่เซียวหรี่ตา หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังทำงานกับเซียวจื่อเซวียนอยู่ คนยังคงเป็นคนเดิม แต่อุปนิสัย…

ท่านปู่เซียวยิ้มด้วยความเอ็นดู ก้มหน้ากินโจ๊ก ผักตี้เอ่อผัดไข่และไข่ต้มตรงหน้าจนเกลี้ยง

ภรรยาเซียวยวี่ เหมือนว่าจะกลายเป็นคนดีแล้วจริงๆ