เพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ ก็มีชาวบ้านมาขายผักตี้เอ่อแล้ว
เซี่ยยวี่หลัว ท่านปู่เซียว และเซียวจื่อเซวียนแบ่งงานกัน ต้อนรับคนแรกที่มาขายผักตี้เอ่อ
คนที่มาเป็นคนแรกคือท่านป้าสี่
เดิมทีเซียวหมิงจูไม่อยากมา แต่พอคิดว่ามารดาตนเองต้องมาแต่เช้าก็ลำบาก ไม่ว่าอย่างไร นางก็เป็นลูกกตัญญู จึงตามมาด้วย
เมื่อวานนางเก็บผักตี้เอ่อมาได้หนึ่งตะกร้า นำมาขายแต่เช้า ได้เงินแล้วนางก็จะไปเก็บต่ออีก!
เซียวหมิงจูคิดไม่ถึงว่าจะได้พบเซี่ยยวี่หลัวที่บ้านท่านปู่เซียว ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ท่านป้าสี่ก็คิดไม่ถึงว่าจะพบเซี่ยยวี่หลัว นางตกตะลึงมาก
ความจริงนางกลัวการพบเซี่ยยวี่หลัวเสียยิ่งกว่ากระไร และรู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอด ด้วยเกรงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะพูดเรื่องที่ภายในใจหมิงจูมีเซียวยวี่ออกมา
อย่างไรหมิงจูก็เป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน หากให้คนอื่นรู้ว่าภายในใจนางแอบชอบคนที่แต่งงานแล้ว ก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
บุรุษล้วนแต่รักศักดิ์ศรี หากรู้ว่าก่อนผู้หญิงของตนเองจะแต่งงานเคยชอบบุรุษอื่น เช่นนี้ก็เหมือนกับสวมเขาให้เขาไม่ใช่หรือ?
ท่านป้าสี่กังวลใจ แต่อีกฝ่ายไม่ได้เงยหน้าด้วยซ้ำ เทผักตี้เอ่อทั้งตะกร้าเข้าไปในถังใหญ่ ดูตราชั่ง ขานตัวเลข
เทผักตี้เอ่อที่ล้างสะอาดแล้วหนึ่งตะกร้าลงไปในถังใหญ่ ชั่งน้ำหนัก รวมถังใหญ่ทั้งหมดสิบจิน ถังใหญ่มีน้ำหนักห้าจิน เช่นนั้นผักตี้เอ่อที่ท่านป้าสี่นำมาก็หนักห้าจิน จินละสามอิแปะ ห้าจินเป็นสิบห้าอิแปะ
ท่านปู่เซียวนับเงินเสร็จแล้วยื่นส่งให้เซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ข้างๆ หลังจากเซี่ยยวี่หลัวนับอีกครั้ง จึงยื่นให้ท่านป้าสี่
คนหนึ่งนับ อีกคนนับซ้ำ กันพลาดสองชั้น ข้างๆ มีคนจดตัวเลขอีกหนึ่งคน
เมื่อท่านป้าสี่เห็นสองคนนี้ทำงานร่วมกัน ก็รู้สึกประหลาดใจนัก
ท่านปู่เซียวไม่พอใจเซี่ยยวี่หลัวมากไม่ใช่หรือ?
เหตุใดดูจากท่าทาง เหมือนว่าทั้งสองคนจะเข้ากันได้ดีทีเดียว
เซียวจื่อเมิงไม่มีอะไรทำ จึงเล่นอยู่ข้างๆ ตอนเซียวหมิงจูเข้ามาเพียงเอ่ยเรียกท่านป้าสี่ ก็ไปเล่นคนเดียวแล้ว ไม่ได้โผเข้ากอดอย่างสนิทสนมเหมือนเคย
เซียวจื่อเซวียนมีงานต้องทำ เพียงเอ่ยเรียกด้วยความเคารพก็ก้มหน้าทำงานต่อแล้ว
เด็กสองคนไม่สนใจใยดีนาง เรื่องนี้ทำให้เซียวหมิงจูรู้สึกเจ็บปวดนัก
ท่านป้าสี่ดึงนางไว้แน่นตลอด ไม่อย่างน้้น นางคงพุ่งออกไปเพื่อคุยกับเซียวจื่อเมิ่งแล้ว
นางเอ่ยเรียกอาเซวียนและอาเมิ่ง ทั้งสองคนเพียงกล่าวทักทาย ต่างไม่ได้มาหานาง
เซียวหมิงจูจ้องเด็กสองคนเขม็ง แต่เด็กสองคนต่างก็เล่นของตัวเองไป ไม่ได้สนใจนางแม้แต่น้อย เซียวจื่อเมิ่งรินน้ำหนึ่งถ้วย กระโดดโลดเต้นไปข้างกายเซี่ยยวี่หลัว “พี่สะใภ้ใหญ่ ดื่มน้ำเจ้าค่ะ…”
เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวลง ดื่มน้ำตามมือของเซียวจื่อเมิ่งที่ป้อนให้ จากนั้นจึงลูบศีรษะเซียวจื่อเมิ่ง กล่าวขอบคุณ เซียวจื่อเมิ่งดีใจยิ้มจนคิ้วโก่งโค้ง จากนั้นจึงวิ่งไปรินน้ำอีกหนึ่งถ้วยให้ท่านปู่เซียว
เซียวจื่อเซวียนที่อยู่ข้างๆ เห็นแล้วก็อยากดื่มบ้าง “จื่อเมิ่ง ไม่เทให้พี่รองสักหนึ่งถ้วยหรือ? ”
จื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส “มาแล้ว มาแล้วเจ้าค่ะ…”
เซียวหมิงจูเห็นแล้วดวงตาแทบพ่นไฟได้!
จื่อเมิ่งสนิทกับใครที่สุด ย่อมรินน้ำให้คนนั้นเป็นคนแรก!
ทั้งที่เมื่อก่อนจื่อเมิ่งสนิทกับนางที่สุด!
พอคิดถึงตรงนี้ เซียวหมิงจูยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเสียใจ จ้องเซี่ยยวี่หลัวด้วยความไม่พอใจ เซี่ยยวี่หลัวไม่มีแก่ใจจะสนใจสตรีผู้นั้นมากนัก ขณะนี้นางมีงานต้องทำมากมาย
มีเวลาสนใจอารมณ์ยินดียินร้ายของคนอื่นอย่างไรกัน
เวลานี้ มีคนทยอยกันนำผักตี้เอ่อมาขาย มีคนที่ขายปริมาณมาก ขายทีเดียวสามถึงสี่ตะกร้า ตะกร้าละห้าจินกว่า สามตะกร้ามีสิบห้าจิน สิบห้าจินก็เป็นเงินเกือบห้าสิบอิแปะแล้ว
ท่านป้าสี่เห็นแล้วรู้สึกอิจฉายิ่งนัก
หากหมิงจูไปกับนาง เมื่อวานคงไม่ใช่แค่เก็บได้ตะกร้าเดียว น่าจะเก็บได้สองตะกร้าแล้ว
เซียวหมิงจูมองเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังยุ่งพร้อมส่งเสียงเย็นในลำคอทีหนึ่ง
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้มองนางด้วยซ้ำ
มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ เจ้ากำลังโมโห กำลังอิจฉา อีกฝ่ายกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เปรียบเสมือนเอามีดมาทิ่มแทงหัวใจก็มิปาน
เซียวหมิงจูทั้งอายทั้งโมโห เห็นเด็กสองคนไม่สนใจนาง จึงเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
ท่านป้าสี่รับเงินมา ก็รีบหิ้วตะกร้าตามเซียวหมิงจูไป
เซี่ยยวี่หลัวดูตราชั่งต่อ ดูตราชั่งเสร็จจึงบอกตัวเลขให้เซียวจื่อเซวียน เซียวจื่อเซวียนจดบันทึกตาม
ไม่เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
เถียนเอ๋อย่อมเก็บผักตี้เอ่อมาไม่น้อยเหมือนกัน
เห็นเซี่ยยวี่หลัวอยู่ในบ้านเซียวเหลียง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากแปลกใจ ภายในใจก็คิดเรื่องอื่น ให้ใครช่วยก็ไม่ให้ เหตุใดต้องเจาะจงให้เซี่ยยวี่หลัวช่วย ใครจะรู้ว่าระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์อื่นหรือไม่!
เถียนเอ๋อครุ่นคิดเรื่องเลวทรามอยู่ในใจ
ครั้งก่อนเซี่ยยวี่หลัวทำให้นางและหลัวซื่อถูกขังอยู่ในศาลบรรพชนหนึ่งวันหนึ่งคืน กลับไปสามีของนางก็ทะเลาะกับนางยกใหญ่ บอกว่านางทำให้เขาไม่มีหน้าจะพบผู้คนในหมู่บ้าน ขายหน้าแทบตาย
ต้าหมินก็เช่นกัน เพื่อนเล่นของเขาหัวเราะเยาะว่าแม่เขาถูกขังในศาลบรรพชน กลับมาต้าหมินก็ชักสีหน้าใส่นาง เถียนเอ๋อโมโหจนเพลิงโทสะโหมไหม้อยู่เต็มอก วันนี้เห็นเซี่ยยวี่หลัวมาช่วยงานที่นี่ ไม่รู้ว่าภายในใจแอบคิดแผนอะไรอยู่
ชาวบ้านบางส่วนย่อมเห็นเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่คิดเป็นอื่น จึงเอ่ยถามตามตรง
ท่านปู่เซียวยิ้มพร้อมกล่าว “เซียวเหลียงอยู่ในตัวเมืองมีงานยุ่ง ของที่เขาต้องการ ข้าที่เป็นพ่อย่อมต้องช่วยหาให้เขา แต่ข้าก็ทำไม่ไหว จึงได้แต่เรียกภรรยาอายวี่และเด็กสองคนมาช่วย! “
เมื่อกล่าวถึงภรรยาอายวี่ ท่านปู่เซียวไม่ได้มีท่าทางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเหมือนแต่ก่อน เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต่างทอดถอนใจ ดูท่าว่าเซี่ยยวี่หลัวจะกลายเป็นคนดีแล้วจริงๆ
แม้แต่ท่านปู่เซียวที่เกลียดชังคนชั่วร้ายมาตลอด ก็มองเซี่ยยวี่หลัวต่างจากเดิมแล้ว
เพราะท่านปู่เซียวบอกไว้ ว่าจะรับเฉพาะผักตี้เอ่อที่เก็บก่อนยามเฉิน คนส่วนใหญ่จึงนำมาขายก่อนถึงเวลาดังกล่าว ชาวไร่ชาวนามักจะตื่นค่อนข้างเช้า นอกจากนั้น พวกเขายังต้องตื่นแต่เช้า เพราะอีกสักครู่ก็จะไปเก็บผักตี้เอ่อต่อ หากเสียเวลาก็จะไม่ได้เงิน
เถียนเอ๋อหิ้วตะกร้าเปล่าขึ้น มองดูท่านปู่เซียวนับเงินเสร็จแล้วยื่นส่งให้เซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวนับอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงยื่นส่งให้เถียนเอ๋อ
สีหน้าของนางเรียบสงบ ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดมาก่อน
เถียนเอ๋อโมโหแทบตาย เซี่ยยวี่หลัวย่อมสามารถทำราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น คนที่โชคร้ายคือนาง!
เซี่ยยวี่หลัวจะรู้ได้อย่างไรว่าภายในใจเถียนเอ๋อมีอารมณ์มากมายขนาดนั้น อย่างไรเสียผักตี้เอ่อของใครนางก็รับหมด ผักตี้เอ่อหนึ่งจินนางได้กำไรสองอิแปะ คนอื่นนำมาขายมาก นางก็ได้กำไรมาก เรื่องดีเช่นนี้มีเหตุอันใดให้ไม่ทำกัน!
นางยุ่งเต็มที ย่อมไม่ทันสังเกตเห็นว่าก่อนเถียนเอ๋อจะไป ได้มองใบหน้าของนางและท่านปู่เซียวด้วยแววตาแฝงประกายชั่วร้ายทีหนึ่ง!