“แต่ไหนแต่ไรมา กระหม่อมก็ไม่เคยเห็นนางมาก่อน ทุกครั้งนางจะกลั่นสุราส่งให้น้องสาวกระหม่อมอยู่สองสามไห กระหม่อมเคยได้ยินน้องสาวพูดถึงนางอยู่บ่อยครั้ง หากพระชายาปรารถนาจะคบค้าสมาคมกับนาง กระหม่อมสามารถให้น้องสาวแนะนำให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮั่วซืออวี่คิดเอาว่าซูจิ่นซีเป็นคนดีคนหนึ่ง จึงไม่ได้ระวังตัวมากจนเกินไป
ให้ฮั่วอวี้เจียวแนะนำแม่นางผู้นั้นให้กับตนอย่างนั้นหรือ?
ช่างมันดีกว่ากระมัง!
ฮั่วซืออวี่ดูเป็นผู้ที่มีอุปนิสัยตรงไปตรงมาและไร้เดียงสา ทว่าฮั่วอวี้เจียวกลับไม่ใช่ผู้ที่มีลักษณะเป็นมิตรที่ดีเท่าใดนัก ซูจิ่นซีควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
ซูจิ่นซียิ้มอ่อน “ข้าถามถึงเพียงนี้แล้ว ไม่รบกวนคุณหนูฮั่วหรอก ช่วงนี้ในจวนมีงานมากมาย ตัวข้าเองก็ไม่ค่อยสบาย เกรงว่าจะละเลยต่อหน้าที่ได้”
ฮั่วซืออวี่ได้ยินคำพูดที่ซูจิ่นซีปฏิเสธ ก็ไม่พูดให้มากความเช่นกัน
ทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพัก ซูจิ่นซีก็เริ่มแสดงอาการอ่อนเพลีย ฮั่วซืออวี่เข้าใจถึงสัญญาณการส่งแขก จึงได้บอกลาแล้วจากไป
เรื่องราวดูเหมือนเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาเช่นนี้มักทำให้ผู้คนหวาดผวาอย่างที่สุด สิ่งที่ควรทำคือทำจิตใจให้มั่นคงเข้าไว้ และดำเนินการอย่างรอบคอบ
ฮั่วอวี้เจียวเป็นน้องสาวของฮั่วซืออวี่ ซูจิ่นซีเคยเห็นฮั่วอวี้เจียวเป็นกังวลและตื่นตระหนกกับชีวิตของฮั่วซืออวี่ เมื่อครั้งที่เขาได้รับพิษ จึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะร่วมมือกับคนนอกวางยาพิษพี่ชายตนเอง
ดังนั้นฮั่วอวี้เจียวอาจถูกผู้อื่นหลอกใช้ประโยชน์
บัดนี้มีเพียงเบาะแสจากฮั่วอวี้เจียวเท่านั้น ดูจากความสัมพันธ์ระหว่างซูจิ่นซีกับฮั่วอวี้เจียวในตอนนี้ หากซูจิ่นซีเดินเข้าไปถามฮั่วอวี้เจียวตรงๆ นางต้องไม่ยอมพูดอันใดอย่างแน่นอน
“แม่นมฮวา ข้าจำได้ว่าเมื่อวันก่อน เจ้าบอกว่าท่านอ๋องจะสั่งย้ายทหารลับมาให้ข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้วเพคะ พระชายา!”
แม่นมฮวารีบเอ่ยเสียงตอบ สำหรับทหารลับเหล่านั้น ซูจิ่นซีไม่ได้พูดว่าจะจัดแจงอย่างไร นางยังคิดว่าซูจิ่นซีลืมเรื่องนี้ไปแล้วเสียอีก!
“เจ้าไปพาตัวพวกเขามา”
“เพคะ! ”
ผ่านไปไม่นาน ทหารลับทั้งสี่นายก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าเรือนอวิ๋นไคอย่างเป็นระเบียบ
ลมหายใจของพวกเขาแต่ละคนล้วนเย็นยะเยือก สายตาเฉียบแหลม มองดูก็รู้ว่าฝีมือไม่ธรรมดา
ซูจิ่นซีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“พวกเจ้า มีนามว่าอย่างไรกันบ้าง? ”
หนึ่งในนั้นก้าวเดินมาข้างหน้าแล้วคำนับ “ทูลพระชายา ข้าน้อยเป็นทหารลับ มีเพียงรหัสประจำตัวเท่านั้น ไม่มีนามพ่ะย่ะค่ะ”
อย่างนั้นหรือนี่?
“แล้วรหัสประจำตัวของแต่ละนายคือกระไร? ”
ไม่รอให้ทหารลับตอบกลับ แม่นมฮวาก็ก้าวเข้าไปใกล้ซูจิ่นซี แล้วพูดที่ข้างหูของนางว่า “ทูลพระชายาเพคะ ทหารลับล้วนมีความจงรักภักดีเป็นอย่างมาก ในเมื่อท่านอ๋องยกพวกเขาให้พระชายาแล้ว ต่อไปนี้พวกเขาก็จะเป็นคนของพระชายาและจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นท่านสามารถจัดแจงรหัสประจำตัวให้พวกเขาใหม่ได้เพคะ”
ซูจิ่นซีเคยเห็นเรื่องพวกนี้เพียงในนิยาย ไม่คิดว่านางจะได้พบเจอเข้าจริงๆ
“พวกเจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ ว่าต่อจากนี้ไปจะฟังเพียงคำสั่งจากข้า? ”
“ข้าน้อยจะรอเพียงคำสั่งที่มาจากพระชายาเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ทั้งสี่นายคำนับให้ซูจิ่นซีอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ดี! ”
ซูจิ่นซีพอใจเป็นอย่างมาก
“จากนี้ไปเจ้าจะเป็น JX1 เจ้าJX2 เจ้าJX3 และเจ้าJX4 ฟังเข้าใจหรือไม่? ”
ซูจิ่นซีได้เรียงลำดับหมายเลขให้ทหารลับทั้งสี่นายตามความเห็นของตนเอง แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจอักษรภาษาอังกฤษของสมัยใหม่ ทว่าก็มองไปทางซูจิ่นซีแล้วพยักหน้าพร้อมกันด้วยใบหน้างงงวย
ซูจิ่นซีส่ายหัวด้วยความรู้สึกจำนนใจ
นางหาแท่งไม้นำมาเขียนหมายเลขของพวกเขาลงบนพื้น และชี้ไปที่ตัวอักษรสองตัวที่อยู่ข้างหน้าหมายเลข “สัญลักษณ์นี้ออกเสียงว่า ‘J’ และสัญลักษณ์นี้ออกเสียงว่า ‘X’ พวกเจ้าออกเสียงตามข้านะ”
ซูจิ่นซีสอนพวกเขาอ่านอยู่สองครั้ง ในช่วงเริ่มต้น เหล่าทหารลับออกเสียงได้ค่อนข้างลิ้นพันกันมาก ทว่าเมื่อฝึกอ่านไปแล้วสองครั้งจึงออกเสียงได้อย่างถูกต้อง
ซูจิ่นซีชื่นชมพวกเขาอยู่ภายในใจ ทหารลับทั้งสี่นายนี้คู่ควรที่จะอยู่ใต้บังคับบัญชาของเยี่ยโยวเหยาเสียจริง แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาลงมือทำสิ่งใดแล้วผลลัพธ์ก็จะมีประสิทธิภาพมาก
“เวลานี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าติดตามคุณหนูใหญ่ฮั่วอวี้เจียวแห่งสกุลฮั่ว ดูว่าในแต่ละวันนางไปที่ใด โดยเฉพาะร้านสุรา หอสุรา หรือว่านางได้ไปพบเจอกับคนที่ทำหน้าที่กลั่นสุราอันใดทำนองนี้ ก็ให้รีบกลับมารายงานข้าทันที”
“น้อมรับคำสั่ง! ”
“ดีมาก ไปเถิด! ”
สิ้นเสียงของซูจิ่นซี ทหารลับทั้งสี่นายต่างก็สลายตัวออกไปในทันที แม้แต่ซูจิ่นซีก็มองไม่ทันว่าพวกเขาออกไปทางใด
ผ่านไปสองสามวัน ทางฝั่งฮั่วอวี้เจียวล้วนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เหล่าทหารลับกลับมารายงานซูจิ่นซีทุกวันว่า ในแต่ละวันหากฮั่วอวี้เจียวไม่นัดพวกสตรีชนชั้นสูงในเมืองตี้จิงไปดีดพิณ เล่นหมากรุก นางก็จะอยู่แต่ในจวนไม่ออกไปที่ใดเลย เมื่อเห็นว่าเหลือเวลาเพียงสิบกว่าวันก่อนจะถึงระยะเวลาที่ฮ่องเต้กำหนดไว้ ภายในใจของซูจิ่นซีก็รู้สึกกระวนกระวายยิ่งนัก
ตั้งแต่ที่ซูจิ่นซีทราบว่าบนร่างกายของฮองเฮา ฮั่วซืออวี่ และเยี่ยโยวเหยาต่างมีพิษอยู่ในเส้นเลือดเหมือนกัน ซูจิ่นซีก็วางเป้าหมายไปที่ฮั่วซืออวี่ทางเดียว ทว่าจนถึงตอนนี้กลับไม่ได้ผลลัพธ์อันใดเลยแม้แต่น้อย นางจึงเริ่มสงสัยว่าตนเองมาผิดทางแล้วหรือไม่
เมื่อนึกได้ว่าเฉินไท่เฟยยังถูกฮ่องเต้คุมขังไว้ในวังหลวง และซูจิ่นซีกับฮั่วอวี้เจียวยังได้พนันกันในเรื่องนี้อีกด้วย ทันใดนั้น ภายในศีรษะของซูจิ่นซีก็เต็มไปด้วยหนทางชั่วร้าย
เยี่ยโยวเหยายังไม่กลับมา
ซูจิ่นซีนั่งลงบนหน้าต่างชั้นสองของเรือนอวิ๋นไค นางมองออกไปยังตำหนักฝูอวิ๋นที่อยู่ตรงข้ามอย่างเงียบงัน
สองสามวันมานี้ อย่าว่าแต่เวลากลางวันเลย แม้แต่เวลากลางคืน เยี่ยโยวเหยาก็ไม่เคยกลับมา
ไม่รู้ด้วยเหตุใด ช่วงนี้ซูจิ่นซีนึกอยากเจอเขาเป็นพิเศษ คิดถึงเป็นพิเศษ
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ! ”
ทันทีที่ได้ยินเสียง ซูจิ่นซีก็ตกใจจนแทบกระเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้
นางหันกลับไปโดยพลัน กลายเป็น JX2
“JX2 เหตุใดเจ้าจึงมาปรากฏตัวอย่างไม่มีสุ้มเสียงแม้แต่น้อย ข้าตกใจหมด! ”
ซูจิ่นซีทาบมือบนหน้าอกที่เต้นอย่างรุนแรงจากการถูกทำให้ตกใจ
JX2 รู้สึกผิดเล็กน้อย
“มีเรื่องอันใดหรือ? ”
“ข้าน้อยสะกดรอยตามคุณหนูใหญ่ตระกูลฮั่วไปยังร้านค้าแห่งหนึ่งที่อยู่นอกเมืองสิบลี้ ร้านค้าแห่งนั้นดูมีความน่าสงสัย ด้านในเป็นโรงกลั่นสุราพ่ะย่ะค่ะ”
ในที่สุดปลาน้อยก็ปรากฏตัวจนได้
“พาข้าไป! ”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ซูจิ่นซีก็มาถึงร้านค้าที่ JX2 บอกไว้
ร้านค้าอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองตี้จิง ตัวร้านไม่ได้ถูกปิดบังซ่อนเร้นมากนัก นางจึงสามารถตามหาได้โดยง่าย
“ผู้น้อยคำนับพระชายา! ”
JX1 JX3 JX4 ปรากฏตัวพร้อมกัน ต่างโค้งคำนับซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีพยักหน้า “สถานการณ์ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง? ”
“ข้าน้อยเข้าไปสำรวจได้เกือบสองยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เพียงแต่ร้านค้านี้ค่อนข้างแปลก แม้ว่าด้านในจะมีการติดตั้งอุปกรณ์กลั่นสุราขนาดเล็กไว้ ทว่าข้าน้อยได้ทำการสอบถามผู้คนโดยรอบ ดูเหมือนว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่จะไม่ได้อาศัยอยู่เป็นประจำพ่ะย่ะค่ะ”
แสดงว่าร้านค้านี้ต้องมีปัญหาแน่นอน เมื่อตอนที่ซูจิ่นซีมาถึง ระบบถอนพิษได้ทำการเตือนแล้วว่ามีสารพิษ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นชนิดที่นางกำลังตามหาอยู่พอดี ภายในใจของซูจิ่นซีจึงแอบตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
“พาข้าขึ้นไปดูหน่อย”
ซูจิ่นซีชี้ไปที่ข้างต้นไม้ใหญ่
JX2 แสดงวิชาตัวเบา พาซูจิ่นซีขึ้นไปบนต้นไม้
เมื่อได้มองดู ซูจิ่นซีก็ต้องตกใจอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่าบุคคลด้านในจะเป็นซิ่งหลิวหลีที่อยู่กับฮั่วอวี้เจียว
พยายามค้นหาแทบตายแต่ไม่เจอ พอยุติการค้นหากลับได้มาโดยง่ายอย่างคาดไม่ถึง
“ผู้ใดกัน? ”
ซูจิ่นซีไม่รู้วรยุทธ ดังนั้นลมปราณของนางจึงขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ คาดไม่ถึงว่าจะถูกซิ่งหลิวหลีพบเข้าแล้ว
JX1 JX3 JX4 กระโดดเข้าไปในร้านค้า และต่อสู้กับซิ่งหลิวหลีทันที
JX2 นำซูจิ่นซีลงมาจากต้นไม้
ดวงตาของซูจิ่นซีหรี่ลง เหมือนเสือดาวที่พ้นช่วงจำศีลกำลังจ้องมองเหยื่อที่เฝ้ารอมาเป็นเวลานาน
“ซิ่งหลิวหลี ข้าต้องการดูให้ชัดเสียหน่อยว่าศักดิ์ศรีของเจ้าอยู่ที่ใด เจ้าคอยแต่จะขัดขวางข้าอยู่เรื่อย อย่าให้นางหนีไปได้”
ซูจิ่นซีออกคำสั่งอย่างเย็นชา JX2 ตอบรับ จากนั้นจึงกระโดดเข้าไปในร้านค้าและเข้าต่อสู้ในระยะประชิด
แม้วรยุทธการต่อสู้ของซิ่งหลิวหลีจะไม่ได้แย่ ทว่าเมื่อต้องต่อสู้สี่รุมหนึ่ง นางจึงเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ซูจิ่นซีถีบประตูใหญ่ของร้านค้า และเดินเข้าไปด้วยท่าทางหยิ่งผยองวางมาด
“ซิ่งหลิวหลี โลกนี้ช่างกลมเสียเหลือเกิน พวกเราพบกันอีกแล้ว”