“เขามาทำอันใด? ”
“พระชายา หัวหน้าขุนพลฮั่วบอกว่าเขาตั้งใจมาเยี่ยมพระชายา และขอบคุณท่านสำหรับการช่วยชีวิต”
ไม่จำเป็นกระมัง?
เดิมทีซูจิ่นซีก็รู้สึกว่าเรื่องการช่วยเหลือฮั่วซืออวี่นั้นทำให้นางอึดอัดเป็นอย่างมาก คงไม่มีสิ่งใดต้องขอบคุณกระมัง?
ซูจิ่นซีรู้สึกเสียใจที่เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์นี้เล็กน้อย หากให้นางเลือกอีกครั้ง นางจะไปซ่อนตัวให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน
“แม่นมฮวา เจ้าให้พ่อบ้านไปบอกเขาเถิด! บอกว่าท่านอ๋องไม่อยู่ ร่างกายของข้าก็ไม่ค่อยสบาย ไม่ขอพบก็แล้วกัน น้ำจิตน้ำใจของเขาข้ารับไว้แล้ว”
“เพคะ! ”
หลังจากนั้นไม่นานแม่นมฮวาก็กลับมาพร้อมสุราสองไห
“พระชายา ข้าน้อยได้กล่าวตามที่ท่านสั่งกับหัวหน้าขุนพลฮั่วไปแล้ว นี่เป็นสุราตู้รั่วสองไหที่หัวหน้าขุนพลฮั่วมอบให้กับท่าน เขาบอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านจะต้องรับไปเพคะ”
‘ดิ๊งด๊องดิ๊งด๊อง’
ทันใดนั้นระบบถอนพิษก็ส่งเสียงเตือนว่ามีพิษเข้าใกล้ ยิ่งไปกว่านั้นองค์ประกอบของสารพิษยังคล้ายกับที่นางตรวจพบในร่างกายของฮั่วซืออวี่และร่างกายของฮองเฮาก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
ซูจิ่นซีดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“แม่นมฮวา เจ้านำสุรานั่นมาให้ข้าหน่อย”
ซูจิ่นซีตอบสนองอย่างรวดเร็ว ใบหน้ายิ้มแย้มของแม่นมฮวาเลือนหายไป นางหยิบสุราไหนั้นไปยังด้านหน้าของซูจิ่นซีด้วยความสงสัย
ซูจิ่นซีหยิบไหสุราและตรวจสอบอย่างละเอียดหนึ่งรอบ
นางมั่นใจว่าสุรานี้มีพิษ ที่ระบบถอนพิษเตือนนางก่อนหน้านี้ไม่ผิดแน่
“แม่นมฮวา ฮั่วซืออวี่ไปไหนแล้ว? ”
“กลับไปแล้วเพคะ! ”
“เร็ว ไปเรียกเขาให้กลับมาพบข้า”
“เพคะ! ”
แม่นมฮวาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ทว่าเห็นท่าทางของซูจิ่นซีดูจริงจัง ก็รู้ว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างแน่นอน นางไม่กล้าชักช้า เร่งรีบวิ่งออกจากประตูไปตามฮั่วซืออวี่ทันที
ใช้เวลานานถึงเพียงนี้ กลับไม่พบเบาะแสอันใดที่เกี่ยวข้องกับพิษในร่างกายของฮองเฮาเลย นอกเสียจากสารพิษแบบเดียวกันในร่างกายของฮั่วซืออวี่ ทว่าในที่สุด ตอนนี้เรื่องราวต่างๆ ได้โผล่พ้นน้ำแล้ว นางจะต้องไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น
ดังนั้นภายใต้การไตร่ตรองพิจารณาอีกครั้งและอีกครั้ง ซูจิ่นซีคิดว่าเรื่องนี้ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง ระมัดระวัง และต้องระมัดระวัง นางต้องพิจารณาตัดสินอย่างสุขุมรอบคอบ อีกทั้งนางยังต้องละทิ้งความคิดเดิมแล้วสอบถามฮั่วซืออวี่โดยตรง
ฮั่วซืออวี่ที่นั่งอยู่บนรถม้าเตรียมจะเดินทางกลับ ดีใจมากเมื่อได้ยินว่าซูจิ่นซียินดีที่จะพบเขาอีกครั้ง ทว่าไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกบนใบหน้าแม้แต่น้อย เขาเดินตามแม่นมฮวาไปยังเรือนชิงโยวอย่างเงียบสงบ
ซูจิ่นซีกำลังนั่งต้มชาอยู่หน้าเรือนอวิ๋นไค ที่ดินเปล่าด้านข้างที่นางแผ้วถางไว้ได้ปลูกยาสมุนไพรแล้ว มันโตจนเกือบได้ที่แล้วด้วย ลมที่กำลังพัดมาจึงมีกลิ่นหอมของยาจางๆ
ฮั่วซืออวี่หยุดเดินกะทันหันเมื่อมองเห็นซูจิ่นซีอยู่ไกลๆ แววตาจ้องมองอย่างตกตะลึงเล็กน้อย เขามองไปยังซูจิ่นซีอย่างใจลอย
“หัวหน้าขุนพลฮั่ว เชิญ! ”
แม่นมฮวาเอ่ยเตือนด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ฮั่วซืออวี่กลับมาได้สติอีกครั้ง เขาเดินตามหลังแม่นมฮวาเข้าไปหาซูจิ่นซี
“กระหม่อมฮั่วซืออวี่คารวะพระชายา เมื่อไม่กี่วันก่อนกระหม่อมได้รับความกรุณาจากพระชายาที่ทรงเมตตายื่นมือมาช่วยเหลือถอนพิษให้ซืออวี่ บัดนี้ซืออวี่สามารถเอาชีวิตกลับคืนมาได้ วันนี้จึงตั้งใจมาขอบพระทัยพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องเล็กน้อย หัวหน้าขุนพลฮั่วอย่ากังวลจนเกินไป เชิญนั่งเถิด! ”
ซูจิ่นซีต้มชาไปด้วย พร้อมกับกล่าวเชื้อเชิญฮั่วซืออวี่ให้นั่งลง
“หัวหน้าขุนพลฮั่วร่างกายดีขึ้นมากแล้วหรือ? ”
ซูจิ่นซีรินน้ำชาส่งให้ฮั่วซืออวี่
ฮั่วซืออวี่รีบรับไว้
“เกือบหายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยพระชายาที่ทรงเป็นห่วง”
ซูจิ่นซียิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก นางรินน้ำชาให้กับตนเองหนึ่งถ้วยแล้วจิบอย่างแผ่วเบา
ชั่วขณะที่ทั้งสองไม่เอ่ยอันใด ฮั่วซืออวี่จ้องมองซูจิ่นซีแล้วเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
“แค่กแค่ก… ฮืมฮืม…”
แม่นมฮวาจงใจส่งเสียงกระแอมไอสองครั้ง นางจ้องไปที่ฮั่วซืออวี่ด้วยความโกรธ
ฮั่วซืออวี่กลับมารู้สึกตัวทันที การแสดงออกบนใบหน้าของเขาราวกับทำตัวไม่ถูก
เมื่อฮั่วซืออวี่มองเห็นสวนยาสมุนไพรเล็กๆ ด้านข้างของซูจิ่นซีจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“พระชายาทรงมีอารมณ์สุนทรีย์นะพ่ะย่ะค่ะ สถานที่เช่นนี้ในจวนของคนปกติทั่วไป น้อยมากที่จะได้พบเห็น”
ซูจิ่นซียิ้มมุมปากเล็กน้อย และเยี่ยโยวเหยาผู้น่าสงสารก็ถูกนางยกออกมาเป็นเกราะป้องกัน
“ได้รับความรักความกรุณาจากท่านอ๋องของข้าน่ะ”
ทันใดนั้นภายใต้ดวงตาของฮั่วซืออวี่ก็ปรากฎแววปวดร้าวเล็กน้อย เขาก้มศีรษะมองถ้วยน้ำชาโดยไม่พูดอันใดเป็นเวลานาน
แม่นมฮวาที่อยู่ด้านข้างมองอย่างมีความสุข นางยกยิ้มมีชัยที่มุมปาก
ซูจิ่นซีมองการแสดงออกของแม่นมฮวา พลางส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้
แม้นางจะทำอันใดไม่ถูกและรู้สึกเคืองเล็กน้อย ทว่าซูจิ่นซียังไม่ลืมจุดประสงค์ในการเรียกฮั่วซืออวี่กลับมาอีกครั้ง
ซูจิ่นซีกวักมือแล้วลวี่หลีก็ยกสุราออกมาหนึ่งไห
“หัวหน้าขุนพลฮั่ว นี่เป็นสุราที่เจ้ามอบให้ข้าเมื่อครู่ ข้าดมกลิ่นดูแล้วไม่เลวเลย ดังนั้นจึงได้ถือวิสาสะเปิดไห หัวหน้าขุนพลฮั่วไม่ถือสาใช่หรือไม่? ”
“พระชายาทรงพูดอันใดเช่นนั้นเล่าพ่ะย่ะค่ะ สุรานี้เดิมทีเป็นของที่กระหม่อมตั้งใจนำมามอบให้พระชายาอยู่แล้ว หากท่านชอบดื่มก็แสดงว่าซืออวี่เลือกของขวัญได้ดี กระหม่อมรู้สึกดีใจเสียมากกว่าพ่ะย่ะค่ะ! ”
ซูจิ่นซียิ้มอย่างอ่อนโยน นางรินสุราให้ตนเองและฮั่วซืออวี่คนละจอก
หลังจากดื่มสุราแล้ว ซูจิ่นซีก็กล่าวชม
“สมกับที่เป็นสุราชั้นดี”
ฮั่วซืออวี่ยิ้มอย่างมั่นใจ “ที่แท้พระชายาก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบดื่มสุราเหมือนกันสินะพ่ะย่ะค่ะ! ”
ซูจิ่นซียิ้มบางๆ ที่มุมปาก การที่นางไม่ได้พูดอันใดถือเป็นการบอกเป็นนัย
“สุรานี้มีชื่อว่าตู้รั่ว หากพระชายาชอบ วันหลังหม่อมฉันจะส่งมาให้อีกหลายไหเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ฮั่วซืออวี่กล่าวอย่างตื่นเต้น
“นี่…ไม่เหมาะสมกระมัง? ”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแล้วเหลือบมองด้วยหางตาอย่างมีนัยไปทางแม่นมฮวาที่อยู่ด้านข้าง
ถึงอย่างไรซูจิ่นซีก็เป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว ฮั่วซืออวี่เป็นบุรุษอกสามศอกผู้หนึ่ง ครั้งนี้เขามาที่นี่เพื่อขอบคุณก็ไม่ถือว่าเป็นอันใด หากในอนาคตมีการติดต่อกันมากขึ้น เช่นนั้นจะเกิดอันใดขึ้น?
คงทำให้เกิดข่าวลือมากมายก่ายกองอีกอย่างแน่นอน
ฮั่วซืออวี่เข้าใจสิ่งที่ซูจิ่นซีหมายถึง ใบหน้าของเขาปรากฏความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“มิเช่นนั้นเอาอย่างนี้เป็นไร หัวหน้าขุนพลฮั่วบอกสถานที่ซื้อสุรานี้กับข้า วันหลังหากข้าดื่มสุราสองไหนี้หมดแล้วจะได้ส่งคนไปซื้อ”
“บอกตามตรงพ่ะย่ะค่ะพระชายา สุราตู้รั่วนี้แม้จะหาซื้อได้ตามร้านสุรากับหอสุรา ทว่าสุราไหนี้ของข้าน้อย ใช่ว่าจะหาซื้อจากที่ใดก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ? หมายความว่าอย่างไรเล่า? ”
ในที่สุดก็ได้เวลาพูดถึงประเด็นหลัก ซูจิ่นซีเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
“พระชายาเป็นผู้ที่ชื่นชอบสุราผู้หนึ่ง ท่านคิดว่าสุราตู้รั่วนี้กับสุราตู้รั่วที่อื่นๆ มีอันใดแตกต่างกันหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”
กำลังพูดถึงช่วงจุดสำคัญ คาดไม่ถึงว่าฮั่วซืออวี่จะไม่ยอมบอกง่ายๆ
ซูจิ่นซีก็ไม่ได้รีบร้อน นางยกจอกสุราขึ้นมาและค่อยๆ ลิ้มรส
สุราที่ฮั่วซืออวี่ส่งมานั้นมีปัญหา ทว่าพิษนั้นได้ถูกซูจิ่นซีกำจัดออกไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้นางจึงดื่มได้อย่างปลอดภัย
ในสมัยปัจจุบัน ซูจิ่นซีก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการลิ้มรสสุราเช่นกัน ดังนั้นพอได้สุราสักแก้วก็จะต้องมีแก้วที่สองที่สามตามมา
“สุรานี้ ดูไม่เหมือนกับสุราตู้รั่วที่อื่นจริงๆ เมื่อเข้าปากไปแล้วมีรสหวานและเผ็ดเล็กน้อย ทั้งยังหอมมากกว่าหลายเท่า”
ฮั่วซืออวี่พยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ราวกับหาเพื่อนสนิทที่ชื่นชอบสิ่งเดียวกันพบแล้ว
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ สุรานี้ทำขึ้นเองโดยสหายของน้องสาวกระหม่อม นางมีความเข้าใจในเรื่องสุราเป็นอย่างดี วิธีการทำสุราก็เป็นสูตรลับที่สืบทอดกันภายในตระกูล ไม่ใช่ว่าจะไปหาซื้อที่ใดได้นะพ่ะย่ะค่ะ! ”
ความจริงค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในใจซูจิ่นซีรู้สึกตื่นเต้น ทว่ายังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยับยั้งไม่ให้แสดงอารมณ์บนใบหน้ามากจนเกินไป
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ! ดูเหมือนว่าสุรานี้จะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกจริงๆ ”
ในที่สุดก็พบหัวข้อพูดคุยที่ตนและซูจิ่นซีให้ความชื่นชอบ หัวหน้าขุนพลฮั่วรู้สึกว่าระหว่างตนกับซูจิ่นซีราวกับไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกันแล้ว ความสุขในใจล้วนปรากฏออกมาบนใบหน้า
“หัวหน้าขุนพลฮั่ว เจ้ารู้จักน้องสาวที่ทำสุราได้น่าทึ่งผู้นี้หรือไม่? ”
ซูจิ่นซีถามตรงๆ