ตอนที่ 255 สาวสังคม คุณมู่ / ตอนที่ 256 คนสวยสั่งเยอะ

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 255 สาวสังคม คุณมู่

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวเพิ่งเรียบเรียงข้อมูลเสร็จ กำลังจะส่งไป แต่ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากข้างหลังเสียก่อน ทำเอาเธอตกใจจนโทรศัพท์มือถือร่วง!

 

 

ล่ามสาวหันไปมอง เห็นเหนียนเสี่ยวมู่ที่เดิมทีควรจะหลับสนิทไปแล้ว ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

 

หลังจากดึงสติกลับมาได้ และคิดจะเก็บโทรศัพท์มือถือของตนเอง เหนียนเสี่ยวมู่กลับมือไวกว่า และเก็บโทรศัพท์มือถือจากบนพื้นมาให้เธอแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กวาดสายตามองเนื้อหาในข้อความบนหน้าจอครั้งหนึ่ง

 

 

แต่ยังไม่ทันอ่านจบ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็ยื่นมือมาฉวยโทรศัพท์มือถือของตนเองกลับไปด้วยความร้อนใจ

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ทำไมคุณตื่นแล้วล่ะคะ ไม่ได้บอกว่าจะนอนหรอกเหรอ…”

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวพูดพลางเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋าของตนเองอย่างเนียนๆ

 

 

ท่าทางไม่มั่นใจ อยากจะปกปิด แต่ยิ่งเปิดเผย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยืนตัวตรง สายตามองผ่านใบหน้าของอีกฝ่าย สองมือของเธอล้วงกระเป๋า มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

 

 

“ล่ามหวางรีบร้อนส่งข่าวให้ผู้จัดการเหวินขนาดนี้ คงไม่คิดจะรายงานพฤติกรรมของฉันใช่ไหมคะ”

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวเป็นคนที่ระแวดระวังมาก การกระทำเมื่อครู่ก็ว่องไวมากเช่นกัน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองเห็นเนื้อหาในข้อความไม่ชัดเจน แต่กลับมองเห็นว่าผู้รับข้อความก็คือเหวินหย่าไต้

 

 

เธอไม่ได้ซักถามเรื่องบอกเวลาผิดพลาด หนึ่งเพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น สองคือกลัวว่าหวางเมี่ยวเมี่ยวจะเข้าใจผิด

 

 

ถึงอย่างไรก็มีความเป็นไปได้ที่จะแปลและพูดออกมาผิดพลาด

 

 

อีกฝ่ายก็แค่บอกเวลาจากสิบโมงเป็นสิบเอ็ดโมงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

 

 

แต่ดูจากตอนนี้แล้ว หวางเมี่ยวเมี่ยวคนนี้เหมือนจะแปลกๆ ไปบ้าง…

 

 

“คุณพูดมั่วอะไรคะเนี่ย ทำไมฉันต้องรายงานพฤติกรรมของคุณด้วย ในเมื่อทุกอย่างปกติดี อีกอย่างตอนนี้คุณทำแบบนี้ ฉันยังต้องรายงานความประพฤติอีกเหรอคะ คุณต้องถูกไล่ออกโดยที่ฉันไม่ต้องพูดอะไรอยู่แล้ว” หวางเมี่ยวเมี่ยวพูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากในกระเป๋า

 

 

จากนั้นก็ยื่นไปตรงหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ “คุณดูให้ชัดๆ เลยค่ะ ฉันแค่รายงานผู้จัดการเหวินตามปกติ ไม่ได้ตั้งใจกล่าวหาคุณเลย”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กวาดสายตามองบนหน้าจอของเธอ

 

 

ข้างบนเป็นเพียงรายงานการทำงานตามปกติ ข้อความนั้นบอกเหวินหย่าไต้ว่า พวกเธอกำลังคิดวิธีโน้มน้าวมิสเตอร์ลอมบาร์ดีให้ทำงานร่วมกันต่อไป

 

 

“ฉันคิดมากไปเอง” เหนียนเสี่ยวมู่หลุบตาลง ก่อนจะเอ่ยปากเสียงเรียบ

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น หวางเมี่ยวเมี่ยวก็เก็บโทรศัพท์มือถือของตนเองกลับมา แล้วอ้าปากอีกครั้ง “ผู้จัดการเหวินทำงานนี้อย่างเต็มที่ ถ้างานนี้พังไปจริงๆ ก็ไม่มีใครรับผิดชอบได้ทั้งนั้น ที่คุณควรจะคิดที่สุดในตอนนี้ คือจะกอบกู้งานนี้กลับมายังไง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณมีกะใจนอนหลับอีก”

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวพูดถึงตรงนี้ ก็มองเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยความสงสัยอีกครั้งหนึ่ง

 

 

เธอเดาไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเหนียนเสี่ยวมู่อยากจะทำอะไร

 

 

หรือเมื่อครู่ แค่หยั่งเชิงเธอเท่านั้น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สงสัยเธอเหรอ

 

 

แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมเหนียนเสี่ยวมู่ถึงไม่ถามเรื่องที่เธอบอกเวลาผิดล่ะ กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

 

 

ล่ามสาวงุนงงไปโดยสิ้นเชิง

 

 

แต่พอนึกได้ว่าตอนนั้นมีเพียงเธอกับเหนียนเสี่ยวมู่ ไม่มีบุคคลที่สามได้ยินคำพูดของเธอ เธอก็วางใจลงได้

 

 

ไม่มีหลักฐาน แถมยังทำงานพัง ไม่มีใครเชื่อเหนียนเสี่ยวมู่หรอก

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์!

 

 

“กี่โมงแล้ว” อยู่ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ถามขึ้นมา

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวตอบตามสัญชาตญาณ “สิบเอ็ดโมงครึ่ง”

 

 

ตั้งแต่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีและทีมมาถึงเมืองเอช ก็ผ่านมาชั่วโมงครึ่งพอดี

 

 

แต่พวกเธอไม่ได้เจอกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเลย แล้วจะเจรจาอะไรได้

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ต่อไปจะทำอะไรคะ” หวางเมี่ยวเมี่ยวมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่เดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะตามอีกฝ่ายเข้าไป

 

 

แต่กลับเห็นเหนียนเสี่ยวมู่หยิบเสื้อนอก และฉีกยิ้มให้เธอเท่านั้น

 

 

“ไม่นอนแล้ว ฉันหิวนิดหน่อย ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกัน!”

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยว “…” !!

 

 

 

 

ตอนที่ 256 คนสวยสั่งเยอะ

 

 

พอมาถึงโรงแรมก็นอน พอตื่นนอนก็จะกิน

 

 

มันต่างอะไรกับการพักร้อนเนี่ย

 

 

เธอดูไม่ออกเลยสักนิด ว่าเหนียนเสี่ยวมู่กำลังเครียดและกังวลใจ เพราะอีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจงานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเอาเสียเลย

 

 

ลูกตาของหวางเมี่ยวเมี่ยวหดตัว ไม่สนใจว่าเหนียนเสี่ยวมู่มีเจตนาอะไรถึงทำอย่างนี้

 

 

ถ้าหลังจากนี้เจรจาไม่สำเร็จ เรื่องพวกนี้ก็เพียงพอจะทำให้เหนียนเสี่ยวมู่อยู่ในบริษัทตระกูลอวี๋ต่อไปไม่ได้!

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น หวางเมี่ยวเมี่ยวก็ไม่ร้อนใจอีก

 

 

เธอออกจากห้องไปกับเหนียนเสี่ยวมู่ และเข้าไปในร้านอาหารของโรงแรม

 

 

ครั้นเห็นเหนียนเสี่ยวมู่เลือกร้านอาหารจีน หวางเมี่ยวเมี่ยวก็หัวเราะอยู่ในใจ

 

 

ดูท่าทางเธอจะไม่หวังเรื่องงานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีแล้วจริงๆ ถึงได้ตั้งใจทำพังไม่มีชิ้นดี

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดีเป็นคนอิตาลี ถ้าพวกเธอไปร้านอาหารตะวันตก ก็อาจจะมีโอกาสได้เจอกันอยู่

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่มาร้านอาหารจีน ดูท่าทางจะสนใจแค่ว่าตนเองจะกินอิ่มหรือไม่ แต่ลืมว่าตนเองมาทำอะไร!

 

 

“ล่ามหวาง ตะลึงอะไรอยู่คะ นั่งลงเร็ว ฉันได้ยินว่าร้านอาหารจีนในโรงแรมนี้ทำอาหารได้สุดยอดมาก ได้ลองขิมพอดีเลย!” เมื่อพูดถึงของกิน สายตาของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เป็นประกายขึ้นมาตามธรรมชาติ

 

 

ระยิบระยับราวกับดวงตาบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

 

เต็มไปด้วยประกายที่น่าหลงใหล

 

 

ทำเอาหวางเมี่ยวเมี่ยวที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ก็อิจฉาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

แต่พอคิดให้ดีๆ เหนียนเสี่ยวมู่ทำงานพังใกล้จะซวยแล้ว เธอจึงใจเย็นลง และยื่นมือไปลากเก้าอี้มานั่งลงตรงข้ามกับอีกฝ่าย

 

 

“ฉันคิดว่าสั่งอะไรก็ดีไปหมดเลย สั่งให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วยดีกว่า” เหนียนเสี่ยวมู่พลิกเมนูอาหารดูอย่างตั้งใจก่อนรอบหนึ่ง แล้วสั่งใส่กล่องไปหลายเมนูทีเดียว

 

 

จากนั้นถึงจะมองมายังหวางเมี่ยวเมี่ยว “ล่ามหวาง คุณชอบกินอะไรคะ”

 

 

“…ได้หมดเลยค่ะ ตอนนี้ฉันค่อนข้างกังวลเรื่องงานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน พวกเราควรจะไปหามิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ใช่เหรอ” หวางเมี่ยวเมี่ยวรู้สึกดีใจ แต่ปากกลับพูดเหมือนเป็นห่วงแทนเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

จึงโน้มน้าวเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ตลอด

 

 

“คนทำงานไม่ได้ถ้าปล่อยให้ท้องว่าง ถ้าไม่ได้กินข้าวสักมื้อจะว้าวุ่น กินอื่มแล้วถึงจะมีแรงทำงาน” เหนียนเสี่ยวมู่พูด และสั่งอาหารขึ้นชื่อมาเต็มโต๊ะ

 

 

ขณะที่หวางเมี่ยวเมี่ยวตกใจจนอ้าปากค้าง เหนียนเสี่ยวมู่ก็ปิดเมนูอาหารอย่างสบายใจ ก่อนจะหันหน้าไปมองหน้าประตูร้านอาหาร

 

 

จากนั้นก็ก้มหน้ามองเวลาครั้งหนึ่ง

 

 

เกือบจะเที่ยงแล้ว

 

 

นั่งทั้งเครื่องบินและรถมาตลอดทาง มิสเตอร์ลอมบาร์ดีและทีมควรจะทั้งหิวทั้งเหนื่อย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อ่านข้อมูลของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีแล้ว และตรวจสอบความชอบส่วนตัวของเขาแล้วเช่นกัน เธอรู้ว่าถึงแม้เขาจะเป็นคนอิตาลี แต่กลับชอบกินอาหารจีนมาก

 

 

ทุกครั้งที่เขาไปทำงานที่ต่างประเทศ เขาจะต้องหาร้านอาหารจีนมาแก้อยากทุกครั้งไป

 

 

ร้านอาหารจีนในโรงแรมชั้นนำ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกขแงเขา

 

 

ความคิดของเหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งผ่านหัวไป ตรงประตูร้านอาหารก็มีเงาร่างคนต่างชาติปรากฏขึ้นหลายคน จำนวนคนไม่นับว่ามาก มีเพียงห้าคนเท่านั้น

 

 

จำนวนคนเท่ากับที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีและทีมแจ้งไว้พอดี

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตาลง สายตามองทอดไปยังคนที่อยู่ข้างหน้าสุด

 

 

เขาคนนั้นคล้ายกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีในรูปถ่ายอยู่เก้าส่วน เธอจึงยกยิ้มอย่างมั่นใจ “เขามาแล้ว!”

 

 

“…”

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวหันหลังให้ประตูร้าน จึงมองไม่เห็นว่า มิสเตอร์ลอมบาร์ดีที่เธอมั่นใจว่าไม่มีทางปรากฏตัวที่นี่ กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูในตอนนี้

 

 

หลังจากได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่พูด ล่ามสาวก็หันกลับไปมอง และตกตะลึงไปในทันที

 

 

เธอไม่กล้าเชื่อ ว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะโชคดีขนาดนี้!

 

 

ครั้นได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่บอกให้เธอไปเป็นล่าม เธอพลันกำผ้ากันเปื้อนจนแน่นทั้งสองมือ นัยน์ตาดูมืดมน นั่งไม่ติดที่แล้ว