ตอนที่ 107 : ผลกำไรครั้งใหญ่
เมื่อยืนอยู่ที่ปากภูเขา หวังเย่าก็มองลงไปยังหุบเขาด้านล่าง อันที่จริงมันอาจจะเรียกว่าหุบเขาไม่ได้ มันควรเรียกว่าปล่องภูเขาไฟ
ในปล่องนี้มีควันจำนวนมากลอยออกมาพร้อมกับลาวานับไม่ถ้วนที่ก่อตัวเป็นบึง
หวังเย่าได้ทำการเดินทางลงไป เล็บที่มือเขางอกออกมาเพื่อที่จะเกาะกำแพงได้ ในตอนที่กระโดดลงมานั้น เขาได้ใช้เล็บของเขาจิกไปที่กำแพงจนทิ้งรอยลึกเอาไว้
เขาตกลงมาหลายร้อยเมตร เขาใช้มือของเขาในการประคองความเร็ว เขาต้องประคองตัวเองจนมั่นคง ก่อนที่จะทำการกระโดดอีกครั้ง
หลังจากที่ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง หวังเย่าก็ตกลงมาหลายพันกิโลเมตร จากนั้นเขาก็เดินไปยังทางเดินที่ทำด้วยหิน ซึ่งทอดยาวเข้าไปในบึงลาวา
อุณหภูมิที่นี่สูงอย่างมาก หวังเย่ารู้สึกราวกับว่าได้เข้าห้องอบซาวน่า เขาแทบจะโดนต้ม เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะใช้สกิลคิงคองของหงอคง ทำให้ผิวของเขานั้นแข็งขึ้นมาซึ่งทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็พบกับรูขนาดใหญ่อยู่ตรงกันข้าม เดาว่านั่นคงเป็นที่อยู่ของมังกร
แม้ว่ามังกรจะว่ายในลาวาได้ราวกับปลาว่ายในน้ำ แต่มังกรน่ะโลภมากและมักจะเก็บสมบัติดี ๆ เอาไว้ มันมักจะเก็บสมบัติมา แต่บึงลาวานี้ไม่เหมาะที่จะเก็บสมบัติเหล่านั้น
หลังจากที่วิเคราะห์ดูแล้ว หวังเย่าก็ได้กระโดดไปตามหินก่อนจะมาถึงฝั่งตรงกันข้ามได้ในพริบตา และเข้าไปในถ้ำนั้น
ถ้ำนี้ใหญ่โตอย่างมาก เพราะรูปร่างของมังกรมีขนาดใหญ่ จึงเป็นธรรมดาที่ถ้ำของมันจะใหญ่ไปด้วย หวังเย่าไม่คิดสงสัยว่าหากมังกรเพลิงต้องการจะขุดรูขึ้นมาจริง ๆ มันอาจจะขุดทะลุภูเขาได้
เมื่อเดินเข้ามาในถ้ำเขาก็ไม่พบอะไร เมื่อเดินมาได้ 2 นาที ในที่สุดเขาก็มาถึงส่วนลึกของรังมัน
“ไม่มีเวลาแล้ว ทันทีที่การต่อสู้จบลง มังกรนั่นจะกลับมา”
หวังเย่าเคลื่อนที่ได้เร็วก็จริง แต่ถ้ำนี้มีขนาดใหญ่เพียงพอที่มังกรจะมานอนตรงไหนก็ได้
“ข่าวลือเป็นจริง บอกได้ว่ามังกรนี่รวยจริง ๆ ” สุดท้ายหวังเย่าก็พบกองเงินกองทองนับไม่ถ้วนในรังของมัน
แต่หวังเย่าไม่ได้สนใจของพวกนั้น เมื่อมิตินี้เชื่อมต่อกับโลก งั้นทองก็ไม่ได้มีค่าอะไร
ยังไงซะการปรากฏตัวของสัตว์อสูรและมิติภายนอกนั้นก็ทำให้โลกเปลี่ยนไป มูลค่าของทองคำและของอื่น ๆ นั้นได้หมดค่าลง
สำหรับที่ว่าทำไมถึงมีทองคำและเงินมากมายที่นี่นั้น มันก็เข้าใจไม่ยาก เพราะมังกรชอบของที่เป็นประกาย
ในที่ที่มืดมิดนั้นมีต้นไม้และดอกไม้เติบโตขึ้นมาอยู่หลายร้อยต้น ซึ่งมีคลื่นพลังของมังกรเพลิงอยู่ หากมนุษย์กินมัน ก็สามารถทำให้เลือดลมนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้นเป็นร้อยเท่า แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของหวังเย่า เขายังคงตามหาดอกไม้โลหิตมังกรเพลิงต่อไป
“เจอแล้ว”
เขาพบกับดอกไม้โลหิตมังกรเพลิง การเติบโตของมันน่าทึ่ง คลื่นพลังนั้นเข้มข้นและดูงดงาม ส่วนด้านในดอกไม้เต็มไปด้วยไฟ
หวังเย่าเก็บดอกไม้โลหิตมังกรเพลิงมา 3 ดอกโดยไม่ลังเล เขาเก็บมันเข้าไปในกระเป๋ามิติรวมถึงพวกหญ้ามังกรด้วย
เขาใช้เวลากว่า 1 นาทีกับการเก็บของพวกนี้
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จ หวังเย่าก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ของสิ่งนี้สามารถทำให้ก็อบลินเงาของฟ่านฉิงเหมยพัฒนาขึ้นมาได้ เธอต้องดีใจอย่างมากแน่
หวังเย่าได้ไปที่มุมถ้ำซึ่งที่นั่นมีแร่รูปร่างประหลาดอยู่ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่แร่เหล่านี้กลับแผ่คลื่นพลังที่โดดเด่นออกมา มันน่าจะเป็นของมีค่า ไม่งั้นแล้วคงไม่ถูกมังกรเก็บมาที่นี่แน่
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาได้ทำการเก็บแร่พวกนั้นทันที
“ไม่มีซากกระดูกสัตว์อสูรที่นี่ มันน่าจะถูกโยนลงไปในลาวาละลายไปแล้ว”
รังมังกรนี้กลับสะอาดมาก มันทำให้หวังเย่ารู้สึกแปลกใจ
“นี่…” ตอนที่เขาไปยังกำแพงด้านหนึ่งเขาก็ตาเป็นประกายขึ้น มันมีไข่มังกรอยู่ที่นั่น
การที่มีไข่มังกรงั้นก็หมายความว่าหวังเย่าสามารถฟักมังกรออกมาได้ มังกรเพลิงนั่นเป็นถึงสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่หวังเย่ากำลังจะเก็บไข่นั้น เขาก็พบแอ่งน้ำเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลนัก น้ำในแอ่งเดือดพล่าน เดาว่าคงมีความร้อนสูงกว่า 100 องศาแน่
นี่มันอะไร ?
หวังเย่าสงสัยและรู้สึกว่าน้ำในบ่อนั่นร้อนกว่า 300 องศา มันเรียกว่าน้ำไม่ได้แล้วแต่เป็นนม
“ช่างเถอะ เก็บมันไปทั้งหมดนี่แหละ” หวังเย่ารีบเอาขวดออกมาจากกระเป๋ามิติและทำการเก็บน้ำในบ่อทันที
แต่น้ำในบ่อราวกับถูกเติมขึ้นมาใหม่ ดูหมือนว่าก้นบ่อนั้นจะมีสิ่งที่สามารถผลิตนมออกมาได้อย่างต่อเนื่องอย่างช้า ๆ หากต้องเติมบ่อให้เต็มคงกินเวลาเป็นปี
รังมังกรนี้มีขนาดใหญ่ มันกว้างกว่า 1 ไมล์ หวังเย่าเพิ่งจะสำรวจแค่พื้นที่เล็ก ๆ เอง
ตอนนั้นเขาเงยหน้าขึ้นและพบกับหินจันทราก้อนใหญ่ เขาตะลึง หินจันทรานี่ดูโดดเด่น มันเป็นวงกลมเหมือนกับลูกบอล
“น่าจะยังทัน” หวังเย่ารีบเก็บหินนั่นเข้าไปในกระเป๋ามิติทันที
ตอนนั้นเขารู้สึกว่าเขามีกระเป๋ามิติไม่ใหญ่พอ ตอนนี้ในกระเป๋ามิติของเขาเหลือพื้นที่แค่ 1 ใน 5 เท่านั้น
ตอนนั้นตือโป๊ยก่ายก็ส่งข้อความมาบอกว่าพบบางอย่าง หวังเย่ารีบวิ่งไปหามันทันที
“คิดไม่ถึงเลย..” เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง นี่มันราวกับความฝัน
“หินกฎ นี่มันหินกฎนี่” หวังเย่าพึมพำ
สิ่งที่เรียกว่าหินกฎนั้นมีพลังของกฎโลกอยู่ หากสิ่งมีชีวิตมองดูมันก็เป็นไปได้ที่จะทำความเข้าใจกฎของโลกได้
ยกตัวอย่างเช่นทักษะพายุสังหารของเฉี่ยนเจินเฉียน เขาไม่ได้สร้างมันเองทั้งหมดแต่ทำความเข้าใจจากกฎที่เขียนไว้บนหินกฎ
ไม่งั้นแล้วมนุษย์จะสร้างทักษะที่ทรงพลังแบบนั้นขึ้นมาได้ยังไง ?
อันที่จริงแล้วทักษะต่อสู้ระดับสูงแทบทั้งหมดนั้นก็พัฒนาและขัดเกลามาจากหินกฎจนกลายมาเป็นทักษะต่อสู้ที่แท้จริง
การทำสมาธิเองก็เช่นกัน ทักษะต่อสู้นั้นเพื่อฝึกฝนร่างกาย ส่วนทักษะสมาธิมีเพื่อฝึกฝนวิญญาณ
หวังเย่ามองไปที่หินกฎที่ใหญ่พอ ๆ กับประตูวัด 2 บาน ตัวหนังสือด้านบนนั้นดูสมจริงราวกับมีตัวตน กฎนี้เป็นกฎระดับสูง แค่มองก็ทำให้รับรู้ถึงความร้อนจากไฟได้