เล่มที่ 4 บทที่ 104 คู่ที่ไร้ยางอาย

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

หลินเมิ้งหยาแอบร้องว่าแย่แล้วในใจ นางคุ้นเคยกับน้ำเสียงชองชายผู้นี้ยิ่งนัก คุ้นเคยเสียจนตกตะลึง

    ร่างของหูลู่หนานพลันปรากฏขึ้นที่หน้าประตูทางเข้ากระโจม

    เมื่อถูกพบเห็น สีหน้าของชายาตู๋กูเผยให้เห็นความกระวนกระวาย

    หากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป เกรงว่าไท่จื่อจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แม้แต่นางเองก็ไม่อาจรับมือได้

    “องค์ชายรองหมายความว่าอย่างไรเพคะ เซี่ยเฉินไม่เข้าใจ”

    ใบหน้ายังคงประดับไว้ซึ่งรอยยิ้ม ชายาตู๋กูส่งสัญญาณผ่านทางสายตาให้นำตัวหลินเมิ้งหยาออกไป

    “สตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ชายารองมิกลัวว่านางจะหนีไปได้ทันทีที่ออกจากกระโจมกระนั้นหรือ?”

    คิดไม่ถึงเลยว่าหูลู่หนานจะบีบแขนของหลินเมิ้งหยา

    ท่าทางของเขาไม่เหมือนคนที่กำลังเข้ามาช่วยเหลือ

    “โอ้ว? ที่แท้องค์ชายรองก็มีเรื่องค้างคาใจกับพระชายาอย่างนั้นหรือเพคะ? ในเมื่อทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เช่นนั้นนั่งลงคุยกันก่อนดีหรือไม่?”

    ชายาตู๋กูเป็นคนฉลาด เพียงมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าองค์ชายรองแห่งซีฟานมีเป้าหมายเดียวกับไท่จื่อ

    ทว่าเรื่องนี้เป็นพระประสงค์ของไท่จื่อ ส่วนจะตกลงกันอย่างไรนั้นคงต้องแล้วแต่การตักสินใจของพระองค์

    “ใช่แล้ว พวกเราเคยทำความรู้จักกันมาก่อน”

    หูลู่หนานจ้องหน้าหลินเมิ้งหยาเขม็ง มุมปากหยักยิ้มเย็นชา ราวกับมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถเอาชนะหลินเมิ้งหยาได้อย่างแน่นอน

    คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีองค์ชายรองแห่งซีฟานเข้ามาร่วมวงด้วย หลินเมิ้งหยาร้องเตือนตัวเองในใจ

    ไท่จื่อและหูลู่หนานกำลังสมคบคิดร่วมมือกัน เกรงว่าวันนี้นางจะเอาตัวรอดยากเสียแล้ว

    “เหตุใดจึงไม่ส่งเสียงแล้วเล่า? มิใช่ว่าเจ้าเก่งเรื่องต่อล้อต่อเถียงผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?”

    หูลู่หนานจ้องมองหลินเมิ้งหยา นับตั้งแต่วันที่เขาได้เจอหน้านางเป็นครั้งแรก เขารู้สึกหมดความอดทนกับนางเหลือเกิน

    ในที่สุดโอกาสก็มาถึง นางกลายเป็นลูกแกะที่กำลังรอการถูกเชือด คราวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้นางหนีไปไหนอีก

    หลินเมิ้งหยาเหลือบมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาเย็นชา เบือนหน้าไปอีกทาง ไม่ยอมเอ่ยสิ่งใด

    “ช่างเป็นสาวงามที่ใจกล้ายิ่งนัก สำหรับพวกเราชาวซีฟาน ยิ่งหญิงสาวขัดขืนมากเท่าไรก็ยิ่งมีรสชาติมากเท่านั้น หากมิใช่ว่าไท่จื่อถูกพระทัยเจ้าละก็ ข้าคงเอาเจ้ากลับไปเป็นสาวใช้ที่ซีฟานแล้ว”

    หูลู่หนานเอ่ยวาจาประสงค์ร้าย ทว่าริมฝีปากกลับหยักยิ้ม

    หลินเมิ้งหยาชำเลืองมองชายไร้ยางอายตรงหน้า ทั้งที่มีเชื้อสายกษัตริย์เช่นเดียวกับผู้เป็นพี่ แต่เหตุใดพวกเขาจึงต่างกันยิ่งนัก

    “องค์ชายรองชอบล้อเล่นหรืออย่างไร ถึงอย่างไรสตรีคนนี้ก็เป็นประชาชนของต้าจิ้น หากองค์ชายรองอยากได้สาวใช้ ท่านสามารถเลือกจากพวกสตรีที่อยู่ด้านนอกนั้นได้”

    น้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก นางคือหญิงสาวที่เขาพึงใจ เหตุใดจะปล่อยให้ถูกพาตัวไปง่ายๆ

    ร่างของไท่จื่อพลันปรากฏขึ้นในกระโจม

    หลินเมิ้งหยาลอบมองทั้งสาม สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว

    ดูเหมือนพวกเขาจะมิได้ปรองดองกันเท่าที่ควร เช่นนั้นนางมีโอกาสเอาตัวรอดแล้ว

    “ไท่จื่อมีค่าเสมือนหยก ทว่านางกลับเป็นเสมือนเครือญาติของท่าน หากพระองค์ให้นางถวายตัวรับใช้ เช่นนั้นจะไม่มีข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ กระนั้นหรือ”

    ท่าทางขององค์ชายเสมือนมิได้เกรงกลัวไท่จื่อเลยแม้แต่น้อย หลินเมิ้งหยาเริ่มวางแผนในใจ

    ทั้งสองคนมิใช่คนดี ดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงตัดสินใจดูสถานการณ์เงียบๆ

    “ตอนแรกข้าคิดว่าองค์ชายรองจะเป็นคนฉลาด แต่ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนไร้ความสามารถเท่านั้น”

    น้ำเสียงของไท่จื่อเย็นชา สีหน้าแววตาไม่พึงพอใจนัก

    วางแผนกำจัดองค์ชายตรงหน้าในใจ เกรงว่าเขาจะเก็บองค์ชายรองแห่งซีฟานเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว

    “เจ้าอย่าได้คิดที่จะกำจัดข้าเชียว พวกเราเพิ่งจะเริ่มต้นร่วมมือกันเท่านั้น หากเกิดเรื่องอะไรกับข้าขึ้นมา เช่นนั้นความร่วมมือของพวกเราก็สิ้นสุดลงมิใช่หรือ?”

    ทว่าหูลู่หนานกลับไม่สนใจ แยกเขี้ยวยิงฟัน ราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะไท่จื่อได้

    “เจ้ากำลังข่มขู่ข้า?”

    สายตาของไท่จื่อเจือไว้ซึ่งความเย็นชา

    สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกข่มขู่

    ที่ต้าจิ้นแห่งนี้ นอกจากเสด็จแม่ หาได้มีใครมีอำนาจเหนือกว่าเขาไม่ เขาคือเจ้าผู้ครองราชย์แห่งต้าจิ้นในอนาคต ส่วนองค์ชายรองแห่งซีฟานเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่เขานำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น

    “ไม่ ข้าเพียงแต่หวังว่าไท่จื่อจะไตร่ตรองดูใหม่อีกครั้ง”

    คนที่ถูกความงามของหลินเมิ้งหยาทำให้มัวเมามิใช่เพียงไท่จื่อคนเดียว

    หูลู่หนานเป็นคนทะเยอทะยาน

    เจียงซานและสาวงามล้วนเป็นเป้าหมายของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ

    “ไท่จื่อ องค์ชายรอง เหตุใดจะต้องทำให้เสียเรื่องเพียงเพราะสตรีคนเดียวกันเล่าเพคะ?”

    ชายารองตู๋กูสัมผัสได้ว่ากำลังถูกข่มขู่ เตียงของไท่จื่อมีสาวงามมากมายผลัดเปลี่ยนเวียนนอน แต่ไท่จื่อมิเคยสนใจสตรีคนไหนมาก่อน

    เกรงว่านางมิอาจเก็บสตรีคนนี้ไว้ข้างกายไท่จื่อได้อีกต่อไป หากส่งนางไปที่ซีฟาน เช่นนั้นนางก็ยังพอจะมีแก่ใจสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อนางได้

    “โอ้ว? ชายารองตู๋กูมีความเห็นเช่นไร?”

    หูลู่หนานหันหน้าไป มองดูหญิงสาวผู้เชื่อฟังสามีคนนั้น นางถึงขนาดส่งสตรีอื่นขึ้นเตียงสามีด้วยมือของนางเอง

    “ข้าเป็นเพียงสตรีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าใครก็ชอบสาวงาม แต่เพื่อสตรีเพียงคนเดียว ท่านทั้งสองกลับต้องบาดหมางกัน เกรงว่าจะไม่คุ้มเอาเสียเลย ไท่จื่อคิดเห็นเช่นไรเพคะ?”

    คำพูดของชายารองตู๋กูดึงสติของไท่จื่อกลับมา

    เมื่อครู่เขาถูกหูลู่หนานยั่วยุให้โกรธเกรี้ยว

    เมื่อหวนนึกถึงพันธสัญญาที่สร้างร่วมกันเมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการที่มีต่อหลินเมิ้งหยาลดลงค่อนข้างมาก

    แต่ถ้าถูกคนตัดหน้าไปกลางทาง เกรงว่าเขาเองก็ไม่มีหน้าที่จะเดินต่อเช่นกัน

    แม้สีหน้าเคร่งขรึม ทว่าสายตามิได้อาฆาตมาดร้ายเหมือนอย่างตอนแรก

    “พวกเจ้าวางแผนได้ดีนี่ มองข้าเป็นเพียงสิ่งของ ไม่คิดจะเอ่ยถามความเห็นจากข้าเลยหรือ?”

    หลินเมิ้งหยารู้สึกอยากหัวเราะออกมาดังๆ เหตุใดคนพวกนี้จึงคิดว่าจัดการนางได้อยู่หมัดแล้วกันนะ?

    ทั้งไท่จื่อและหูลู่หนานล้วนโง่เขลากันทั้งคู่

    เพื่อสตรีเพียงคนเดียว พวกเขากล้าทำเรื่องผิดศีลธรรม คนแบบนี้จะปล่อยให้มีอำนาจได้อย่างไร

    “ฮึ ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ เหตุใดจะต้องถามหาความเห็นจากเจ้าด้วยเล่า?”

    หูลู่หนานไม่กังวลเลยว่าสตรีผู้นี้จะหนีออกไปได้ ก่อนมาที่นี่เขาสังเกตเห็นว่ามีองครักษ์เฝ้าอยู่มากมาย อย่าว่าแต่สตรีตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวเลย แม้แต่ตนเองยังหนีออกไปได้ยาก

    “พวกท่านคนหนึ่งเป็นถึงไท่จื่อ อีกคนเป็นองค์ชายรองแห่งซีฟาน ส่วนข้าคือชายาอวี้แห่งต้าจิ้น หรือพวกเจ้าคิดว่าจะสามารถทำให้ข้าหายไปได้อย่างง่ายดาย?”

    หลินเมิ้งหยาเอ่ยเสียงนิ่งสงบ ทั้งสามคนเริ่มรู้สึกหวั่นใจ

    คนที่ได้เคยรู้จักนางมาก่อนต่างรู้ดีว่าชายาอวี้เจ้าเล่ห์มากถึงเพียงใด

    ถ้าหาก ถ้าหากสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้น…

    “อย่าเสียเวลาเปล่าเลย ข้างกายข้ามีองครักษ์ฝีมือดีคอยคุ้มกัน ที่วันนี้ข้ายอมปล่อยให้พวกเจ้าจับตัวเอาไว้ก็เพราะอยากรู้ว่าพวกเจ้ากำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่ มิเช่นนั้น เหตุใดข้าจึงไม่พาสาวใช้ตามมาด้วยเลยสักคนเดียวเล่า?”

    หลินเมิ้งหยานั่งลง ท่าทางผ่อนคลาย พวกเขาไม่เข้าใจนางเลยแม้แต่น้อย

    ชิงหูตามนางมาเงียบๆ ตั้งนานแล้ว ทว่าเขาเพียงแต่รอคำสั่งเท่านั้น ขอเพียงนางเอื้อนเอ่ย คนที่อยู่ที่นี่คงไม่มีโอกาสหายใจ

    ร่องรอยของการเย้ยหยันพลันปรากฏขึ้นในดวงตาคู่สวย ขณะเดียวกัน พวกคนที่อยู่ในกระโจมต่างตกตะลึง

    สตรีคนนี้แปลกมากจริง ๆ

    “เช่นนั้นหรือ? แล้วองครักษ์ของเจ้าอยู่ที่ไหนกันเล่า? เรียกออกมาให้พวกเรารู้จักหน่อยจะเป็นไร?”

    แม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่หูลู่หนานกลับกำมีดในมือแน่น

    ขอเพียงยอดฝีมือคนนั้นปรากฏตัวออกมา เขาพร้อมที่จะพุ่งตัวไปฆ่าทันที

    ทว่าหลินเมิ้งหยามิใช่คนโง่ สายตาดูถูกของเขาปกปิดความจริงในใจเอาไว้ไม่มิด

    “เจ้าคิดว่าเขาจะโง่ถึงขนาดออกมาแสดงตัวให้เจ้าเห็นอย่างนั้นหรือ? หากเจ้าไม่เชื่อ นอกจากองครักษ์หน้าประตูสองสามคนเหล่านั้น พวกเจ้าลองดูสิว่ายังมีคนอื่นอีกหรือไม่”

    เมื่อครู่ชิงหูปรากฏตัวให้หลินเมิ้งหยาได้เห็นในกระโจมหลังนี้ นอกจากหลินเมิ้งหยาแล้ว มิมีคนอื่นล่วงรู้ถึงการมีตัวตนของเขา

    บางครั้งสายตาสามารถหลอกลวงเราได้ น่าเสียดายที่คนทั้งสามตรงหน้าไม่รู้ถึงเหตุผลข้อนี้

    “เข้ามา! เข้ามา!”

    ไท่จื่อยังคงไม่เชื่อ แต่แม้จะเรียกคนด้านนอกถึงสองครั้ง แต่กลับไม่มีผู้ใดขานรับ

    องครักษ์ที่ยืนเฝ้าหน้าประตูทั้งสองหันไปมองรอบๆ ก่อนนั้นพวกเขาได้รับคำสั่งเหมือนกันคือคนด้านในเรียกเมื่อไหร่ จะต้องรีบเข้ามาข้างในทันที แต่เหตุใดเวลานี้จึงเหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น?

    “ไม่ต้องเรียกหรอก คนของข้าช่วยพวกเจ้ากำจัดพวกเขาไปแล้ว หากเรื่องในวันนี้ถูกแพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะยุ่งยากเสียเปล่าๆ”

    หลินเมิ้งหยาส่งเสียงนิ่งสงบ ประสาทสัมผัสการได้กลิ่นของนางดีกว่าคนอื่น

    กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในอากาศ

    ชิงหูลงมือฉับไว เขาฆ่าคนโดยไม่ทิ้งรอยเลือดออกมาให้เห็น

    ดังนั้น นางจึงเป็นเพียงคนเดียวที่ได้กลิ่นเลือดเหล่านั้น

    เกรงว่าองครักษ์เหล่านั้นคงจะหมดลมหายใจไปแล้ว

    “ไท่จื่อ พวกเราควรทำเช่นไร?”

    ชายารองตู๋กูคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไปเช่นนี้

    ตอนแรกพวกเขายังกำชัยชนะเอาไว้ในมือ ทว่าพริบตาเดียว เรื่องราวกลับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง

    ชายาอวี้น่ากลัวเหลือเกิน! แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยเห็นหญิงสาวลึกลับเช่นนางมาก่อน

    “ข้าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า เหตุเพราะข้าไม่อยากพังทลายท้องฟ้า ข้าจะทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเจ้าเองก็ควรทำเช่นนั้นเพื่อตัวของพวกเจ้าเอง”

    คนกุมอำนาจกลับกลายเป็นหลินเมิ้งหยาอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่คิดทำเรื่องน่าตื่นตระหนกใด ๆ

    ฆ่าพวกเขาตอนนี้ เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่จะมีผลตามมาในระยะยาว

    ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาล้วนมีเชื้อสายกษัตริย์ นางควรเก็บไพ่ตายเอาไว้ในมือ หลินเมิ้งหยายังมิอยากปล่อยให้ปลาตายในข้อง

    “คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะพ่ายแพ้ให้กับเจ้าอีกครั้ง”

    สีหน้าเคร่งขรึม สายตาอาฆาตจับจ้องมองทางหญิงสาวตรงหน้า เป็นเพราะนาง แผนการที่ลำบากตรากตรำวางมาตลอดสิบกว่าปีจึงถูกนางกุมเอาไว้

    เหตุใดเขาจึงมิอาจต่อกรชนะนางได้

    “เดี๋ยวเจ้าก็ชิน”

    หยักยิ้มเล็กน้อย ทว่าคำพูดเพียงสั้นๆ กลับทำให้เขาอยากฆ่านางให้ตาย