ตอนที่ 237 งานเลี้ยงแตงดิน / ตอนที่ 238 ค้าขาย

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 237 งานเลี้ยงแตงดิน

เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง ตัวสูงกว่าเตาไฟที่นี่แค่ไม่เท่าไร นางจะทำอาหารอะไรได้ แล้วนางมีความสามารถอะไร เถ้าแก่เฉินถึงให้นางมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างห้องครัวด้านหลังร้านอาหารเช่นนี้

“เด็กคนนี้ทำอาหารอะไรได้กัน แต่ขอเพียงอย่าทำลายชื่อเสียงร้านสือเค่อของพวกเราก็พอ”

“ข้าคิดว่านางแค่นำแตงดินมาเท่านั้น แต่กลับหั่นแตงดินว้หลายรูปแบบ หรือนางต้องการใช้แตงดินจัดงานเลี้ยง”

“เมื่อก่อนร้านของเราก็เคยมีแตงดินเช่นกัน แต่ก็แค่นึ่งหรือผัดอยู่สองชนิดเท่านั้น หรือว่านางยังทำอาหารชนิดอื่นได้อีก

ไม่นานนัก ข้อถกเถียงของพวกเขาก็ค่อยๆ หมดลง เพราะมีกลิ่นหอมชวนหลงใหลลอยออกมาจากในห้องครัวเป็นระลอกๆ เข้ามาแทนที่

“นี่คือกลิ่นอะไร” พ่อครัวใหญ่ตัวอวบอ้วนถาม

“ไม่รู้สิ แต่ว่าหอมนัก เป็นกลิ่นของแตงดินหรือ ตอนที่พวกเราทำแตงดินก่อนหน้านี้ เหตุใดถึงไม่มีกลิ่นเช่นนี้กัน”

แต่ไหนแต่ไรไป๋จื่อล้วนทำงานอย่างราบรื่น เพราะมีการคิดคำนวณอยู่ในสมองอย่างมีแบบแผน เรื่องการวางแผนจัดการเวลาก็ถือเป็นความเชี่ยวชาญของนาง ทำให้นางสามารถใช้สามเตา จัดการหม้อและกระทะรวมสามใบในเวลาเดียวกันได้ และไม่มีความผิดพลาดเลยแม้สักนิด

มันฝรั่งเส้นผัดจำเป็นต้องใช้ความเร็ว มันฝรั่งต้มเนื้อวัวจำเป็นต้องตุ๋นอย่างช้าๆ ส่วนมันฝรั่งพริกเกลือจะต้องต้มมันฝรั่งให้สุกก่อน นางจึงนำมันฝรั่งและเนื้อวัวลงหม้อตุ๋นก่อน แล้วค่อยนำหม้ออีกใบขึ้นมาต้มมันฝรั่ง ก่อนจะนำกระทะขึ้นมาผัดเส้นมันฝรั่ง

เมื่อผัดเส้นมันฝรั่งเรียบร้อย มันฝรั่งต้มก็สุกพอดี หลังจากบี้ชิ้นมันฝรั่งเล็กน้อยแล้ว นางถึงใส่มันลงในหม้อ เติมเครื่องปรุงและผัดอีกเล็กน้อย ครั้นผัดมันฝรั่งพริกเกลือเสร็จ คนในห้องครัวต่างล้อมกันเข้ามา เดิมทีอาหารทุกอย่างมีปริมาณไม่มาก นางจึงไม่กล้าให้ทุกคนชิม เพราะเมื่อชิมแล้วอาจจะไม่มีอะไรเหลือเลยก็เป็นได้

นางรีบให้คนนำอาหารสองจานนี้ไปให้พวกเถ้าแก่เฉินก่อน ส่วนตัวนางตีไข่ไก่สองฟอง จากนั้นใช้มันฝรั่งที่เหลือจากการทำมันฝรั่งพริกเกลือ นำมาบดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วผสมเข้ากับวัตถุดิบปรุงรสที่หั่นไว้เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อปั้นมันเป็นก้อนกลม หลังจากชุบไข่ไก่แล้วก็นำลงทอด สุดท้ายเมื่อทอดจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง นางถึงตักทั้งหมดขึ้นมา ขณะนี้ในห้องครัวมีแต่กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่ว ใครได้กลิ่นเข้าก็น้ำลายสอทั้งสิ้น

นางยิ้มกล่าว “วันนี้ข้านำแตงดินมาไม่มาก ไม่อาจเชิญให้พวกท่านกินด้วยได้ ทว่าวิธีการทำอาหารพวกนี้เรียบง่ายนัก พวกท่านอาจจะทำเป็นแล้วก็ได้ จะทำกินกันเองก็ได้นะเจ้าคะ”

สีหน้าของพ่อครัวหลายคนดูไม่ค่อยพอใจนัก เพราะปกติเวลาที่พวกเขาคิดค้นอาหารใหม่ออกมาได้ ก็ไม่เห็นจะมีใครล้อมเข้ามาน้ำลายสอเช่นนี้มาก่อน

ขณะนี้มันฝรั่งต้มเนื้อที่อยู่ในหม้ออีกใบหนึ่งสุกแล้ว หลังตักขึ้นจากหม้อ ไป๋จื่อก็ให้คนนำไปให้เถ้าแก่เฉินพร้อมๆ กับแผ่นแป้งมันฝรั่ง

ไป๋จื่อวักน้ำสะอาดมาล้างหน้า ครั้นเก็บกวาดทุกอย่างจนสะอาดแล้วถึงจะไปยังห้องรับรอง

ทันทีที่นางเปิดประตูห้องรับรอง ก็เห็นจินเสี่ยวอันคว้าแผ่นแป้งมันฝรั่งชิ้นสุดท้ายในจานไว้ในมือ ส่วนเมิ่งหนานกำลังจะแย่งมันมา ทว่าก็แย่งมาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

ครั้นเห็นไป๋จื่อเข้ามา เมิ่งหนานก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “จื่อยาโถว เจ้าทำอาหารได้หลายชนิดเช่นนี้ เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่เคยทำให้พวกข้ากินบ้างเล่า”

ไป๋จื่อกล่าวยิ้มๆ “พูดเหมือนกับว่าข้าทำอาหารให้พวกท่านกินซ้ำๆ อย่างไรอย่างนั้น อาหารชนิดใดที่ข้าทำไม่ได้แปลกใหม่สำหรับพวกท่านบ้าง ข้าไม่ได้ทำอาหารให้พวกท่านกินซ้ำๆ ถึงร้อยครั้งเสียหน่อย หรือพวกท่านอยากจะกินเช่นนั้น”

เถ้าแก่เฉินยังไม่ทันได้เช็ดคราบน้ำมันบนริมฝีปาก เขาก็รีบผุดลุกขึ้นถลันมาถึงเบื้องหน้าของไป๋จื่อ ร่างกายอวบอ้วนดูคล่องแคล่วอย่างคาดไม่ถึง เด็กสาวเห็นแล้วรู้สึกผิดคาดจริงๆ

“แม่นางไป๋ เล่าเรื่องอาหารสี่อย่างที่เจ้าเพิ่งทำให้ข้าฟังได้หรือไม่ ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าแตงดินธรรมดาเช่นนี้ จะสามารถรังสรรค์อาหารเลิศรสออกมาได้มากมาย อาหารสี่อย่างนี้ล้วนทำจากแตงดิน ทว่ารสชาติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”

มันฝรั่งเส้นผัดเป็นอาหารที่เรียกน้ำย่อยได้ดี ส่วนมันฝรั่งพริกเกลือ เด็กสาวหั่นชิ้นมันฝรั่งได้พอดีคำนัก เขาไม่เคยกินอาหารเหล่านี้มาก่อน และพวกมันรสชาติดีเสียจนเขาอยากจะคว้าจานมาเลียสักรอบหนึ่ง

……….

ตอนที่ 238 ค้าขาย

แป้งมันฝรั่งหอมๆ นั่นสุกได้ที่ ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม เมื่อกินเข้าไปแล้วมีกลิ่นหอมอบอวลอยู่เต็มปาก

มันฝรั่งต้มเนื้อวัวเหมาะกับคนที่รักการกินเนื้อเป็นอย่างยิ่ง มันฝรั่งชิ้นหนึ่ง เนื้อวัวอีกชิ้นหนึ่ง ช่างน่าพออกพอใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว

อาหารทุกอย่างล้วนมีรสชาติเฉพาะตัว ใช้วัตถุดิบหลักเดียวกัน แต่กลับสร้างรสชาติออกมาได้มากมายเช่นนี้ ฝีมือของไป๋จื่อไม่ใช่สิ่งที่พ่อครัวในร้านสือเค่อจะเทียบได้เลย

“แม่นางไป๋ เจ้าอยู่ที่ร้านสือเค่อของพวกข้าเถอะ ข้าจะจ้างเจ้าเป็นแม่ครัวใหญ่ เจ้ากำหนดค่าจ้างรายเดือนได้ตามใจชอบเลย เป็นอย่างไร”

ไป๋จื่อส่ายหน้า “เกรงว่าจะไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าชอบทำอาหาร แต่ไม่ชอบทำอาการให้คนที่ไม่รู้จัก ท่านเป็นสหายของใต้เท้าเมิ่ง ก็ถือว่าเป็นสหายของข้าด้วย ข้าจึงยินดีทำอาหารให้ท่านกิน ที่ข้ามาในวันนี้ หลักๆ ก็เพราะอยากทำการค้าขายกับท่าน หวังว่าหลังจากท่านกินอาหารสองสามอย่างของข้าแล้ว ท่านจะยินดีซื้อแตงดินของข้า ส่วนวิธีการทำอาหารสี่อย่างนี้ ข้าจะสอนให้พ่อครัวใหญ่ของร้านสือเค่อโดยที่ไม่คิดเงินเจ้าค่ะ”

เถ้าแก่เฉินหันไปมองเมิ่งหนาน ฝ่ายเมิ่งหนานพยักหน้าให้เขา “แม้จื่อยาโถวจะชอบทำอาหาร แต่ไม่ชอบการเป็นแม่ครัว เจ้าก็ฟังนางเถิด”

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่เถ้าแก่เฉินก็ยังยินดีนัก เพราะในร้านอาหารของเขาไม่มีรายการอาหารใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจของแขกได้นานแล้ว และเมื่อพิจารณาจากประสบการณ์การค้าขายอาหารมาหลายปีของเขา เมื่อขายอาหารสี่อย่างนี้แล้ว จะต้องได้รับคำชมจากลูกค้าอย่างแน่นอน เขาแทบจะจินตนาการการตอบรับอย่างล้นหลามที่จะมาถึงในทันทีได้เลยทีเดียว

เขากล่าวว่า “แตงดินของเจ้าชั่งละเท่าไร”

“พูดตามตรงนะเจ้าคะ ข้าก็ไม่รู้ว่าชั่งหนึ่งราคาเท่าไร เพราะข้าไม่เคยขายพวกมันมาก่อน แตงดินเหล่านี้ข้าปลูกเองกับมือ เถ้าแก่เฉินกำหนดราคาได้เลยเจ้าค่ะ อ้างอิงตามราคาในตลาดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องให้ราคาสูงเพราะข้าเป็นสหายของพี่เมิ่ง สหายส่วนสหาย การค้าขายก็ส่วนการค้าขายนะเจ้าคะ” ไป๋จื่อกล่าว

เถ้าแก่เฉินพยักหน้าหงึกหงัก “ตกลง แม่นางไป๋ช่างเป็นคนเปิดเผยเสียจริง เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ทุกสามวันข้าจะส่งคนไปรับแตงดินที่หมู่บ้านหวงถัว ครั้งละหนึ่งร้อยชั่งเป็นอย่างไร”

ไป๋จื่อคิดถึงการจัดวางที่นั่งในร้านขณะขึ้นมายังชั้นบน ถึงแม้ที่นี่จะมีลูกค้าเข้ามาจับจองที่นั่งกันจนเต็มร้าน ทว่าก็ไม่จำเป็นต้องใช้มันฝรั่งมากขนาดนั้นกระมัง

“ครั้งละหนึ่งร้อยชั่ง ไม่ถือว่าเยอะเกินไปหรือเจ้าคะ แตงดินไม่อาจเก็บไว้ในห้องครัวนานจนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดหน่ออ่อนได้ง่าย เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่อาจกินได้แล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าใช้จนหมดนั่นแหละ” เถ้าแก่เฉินกล่าว

เมิ่งหนานพูดต่อ “จื่อยาโถว เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก เถ้าแก่เฉินไม่ได้ทำร้านอาหารในเมืองชิงหยวนแห่งเดียว ร้านอาหารมากกว่าครึ่งของเมืองชิงหยวนล้วนเป็นเขาที่จัดการทั้งนั้น”

ไป๋จื่อพลันตาเป็นประกาย “เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปหาร้านอื่นแล้วรึ”

เถ้าแก่เฉินยิ้มกล่าว “แน่นอนว่าไม่ต้องแล้ว แม้แตงดินที่ต้องการในตอนนี้จะยังไม่นับว่ามาก นั่นเป็นเพราะอาหารจานใหม่ยังไม่ได้วางขายอย่างเป็นทางการ วันหนึ่งต้องใช้เท่าไร ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจนัก ถึงตอนนั้นหากขายดีแล้ว ใช้แตงดินได้มาก ย่อมต้องเพิ่มปริมาณขึ้นอีก เช่นนั้นข้าเกรงว่าแตงดินหนึ่งหมู่ของเจ้าก็คงจะไม่พอแล้ว”

เด็กสาวยิ้มสดใสยิ่งกว่าเดิม ประเสริฐนัก ประหยัดเวลานางไปไม่น้อยเลย นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “เถ้าแก่เฉิน เมื่ออาหารสี่อย่างนี้มีชื่อเสียงขึ้นในเมืองชิงหยวนแล้ว ท่านจะขายในจำนวนจำกัดก็ได้ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอาการด้วย ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจได้มาโดยง่าย ยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ง่ายเช่นกัน ถึงตอนนั้นแล้ว ยังต้องกลัวเงินมองไม่ไหลมาเทมาอีกหรือเจ้าคะ”

“เช่นนั้นก็ดียิ่ง เอาล่ะ ตกลงตามนี้” เถ้าแก่เฉินยิ้มไม่หุบ

หลังจากคุยกันอีกพักหนึ่ง ไป๋จื่อก็ไปยังห้องครัว สอนวิธีการทำอาหารสี่อย่างให้พ่อครัวของร้านสือเค่อฟังอย่างละเอียด เมื่อพ่อครัวใช้มันฝรั่งที่นางนำมา ทำอาหารที่มีรสชาติคล้ายคลึงกันอย่างยิ่งออกมาได้แล้ว นางถึงจะบอกลาเถ้าแก่เฉิน