บทที่ 54 เผยกล (2)
“เหล่าจิน ?” เฮ่อเหลียนเวยสะดุ้งตกใจ อดร้องเสียงดังขึ้นมาไม่ได้
เหล่าจินยืนนิ่ง ไม่สนใจเขา ยังคงมองไปด้านหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
เฮ่อเหลียนเวยทั้งตกใจทั้งโกรธ หันไปมองซูเฉิน “เจ้าทำอะไรเขา ?”
ซูเฉินหัวเราะ “ไม่มีอะไรมาก วิชามายาง่าย ๆ เท่านั้น อย่างท่านว่าไว้ สองต่อหนึ่งข้าไม่มั่นใจว่าจะชนะ รับมือไปทีละคนจะดีกว่า !”
ซูเฉินพูดจบก็วาดมือ ส่งระเบิดเหยี่ยวเพลิงลูกหนึ่งให้ทะยานออกไป
“บัดซบ !” เฮ่อเหลียนเวยปล่อยหมัดออกไป รูปร่างออกมาเป็นพยัคฆ์ปีกทองกระโจนจ้วงเข้าใส่ระเบิดเหยี่ยวเพลิง ยามปะทะก็แตกกระจายออก เหลือเพียงคลื่นพลังเร่งรุดเข้าหาซูเฉิน
โจมตีครั้งเดียวก็สามารถทำลายการโจมตีที่ชายหนุ่มภูมิใจลงได้ หากนับกันเรื่องพลังเพียงอย่างเดียว อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งกว่าหลี่เยวนัก
หากแต่ซูเฉินไม่คิดทะเลาะวิวาทกับเขา
เขาเปิดใช้วิชาหอคอยพิสุทธิ์เคลื่อนกาย หลบหมัดนั้นไปได้สบาย ๆ
ยามจะโต้กลับไปนั่นเอง สะเด็ดเพลิงจากระเบิดเหยี่ยวเพลิงที่สลายไปแล้วก็กระเด็นไปโดนร่างเหล่าจิน
เหล่าจินสะดุ้งเฮือกก่อนฟื้นคืนสติ พลันร้องขึ้น “เกิดอะไรขึ้น ?”
“เหล่าจิน ตื่นแล้วหรือ ?” เฮ่อเหลียนเวยดีใจนัก ในที่สุดก็เข้าใจ “แสดงว่าภาพมายาไม่อาจทำอันตรายใดได้ หากถูกพลังโจมตีเข้าหน่อยก็ฟื้นขึ้นมาได้แล้ว”
“แล้วอย่างไร ?” ซูเฉินยังหัวเราะเย็นชา นัยน์ตาเป็นประกายประหลาดยามจ้องมองไปยังเหล่าจินอีกครา
เหล่าจินจิตใจสะท้าน ตกหลุมพรางวิชาอีกครั้ง ยืนนิ่งไปอีกหน
การที่อีกฝ่ายหลุดจากภาพมายาเพราะถูกโจมตีกับการที่หลุดออกมาเองได้นั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่เกิดวิชาตีกลับต่อผู้ใช้วิชา ไม่เช่นนั้นหากเขาถูกวิชาตีกลับทุกครั้งที่โจมตีอีกฝ่าย วิชาสรรพสิ่งลวงตาก็นับว่าไร้ประโยชน์แล้ว
เฮ่อเหลียนเวยเห็นเหล่าจินชะงักไปอีกครั้งก็หัวเราะ ปล่อยหมัดหนึ่งออกมา
ผัวะ !
เหล่าจินถูกหมัดนั้นซัดจนหลุดออกมา
แต่เห็นได้ชัดว่ายังไม่หลุดจากภาพมายาเต็มร้อย เมื่อเห็นว่าเฮ่อเหลียนเวยโจมตีตน ก็ร้องขึ้นด้วยความไม่พอใจ “เฮ่อเหลียนเวย เจ้าโง่ ต่อยข้าทำไมเล่า ?”
เฮ่อเหลียนเวยหัวเราะหึ “นี่ข้าช่วยท่านอยู่นะ”
แต่ไม่นานก็เห็นเหล่าจินแข็งข้างไปกับตาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าถูกวิชาลวงตาของซูเฉินเข้าอีกครั้งแล้ว
ไอ้บัดซบซูเฉินนั่น ! ไม่คิดเก็บพลังงานจิตเลยหรือไร กลับใช้วิชามายาคุมเหล่าจินครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้
“เวรเอ๊ย !” เฮ่อเหลียนเวยทำได้ต่างหมัดเพื่อปลุกเหล่าจินอีกครั้ง
แม้คนที่ตกอยู่ในวิชาสรรพสิ่งลวงตาจะตื่นขึ้นยามถูกโจมตี แต่หากโจมตีเบาไปก็ไม่อาจตื่นขึ้นได้ ต้องตีให้ถึงจุด และต้องบาดเจ็บถึงขั้นจึงจะทำให้หลุดจากภาพมายาได้ ส่วนจะเป็นจุดไหนนั้นขึ้นอยู่กับระดับของวิชาสรรพสิ่งลวงตา
ดังนั้น หมัดของเฮ่อเหลียนเวยจะเบาไปไม่ได้ หมัดปะทะร่างเหล่าจิน แม้จะสามารถปลุกคนขึ้นมาได้ แต่ความเจ็บปวดก็แล่นสูงกระทั่งต้องกัดฟัน ร้องตะโกนเสียงเกรี้ยว “ยังจะซัดพลังใส่ข้าอีก !?”
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ครั้งแรกที่เฮ่อเหลียนเวยโจมตีมาเขายังไม่ใส่ใจได้ แต่ถูกตีติดต่อกันไม่หยุดเช่นนี้เลยหรือ ? ดังนั้นเขาจึงส่งหมัดเข้าปะทะร่างเฮ่อเหลียนเวยเป็นการตอบแทน
“เฮ้ย ! นี่ข้ากำลังพยายามช่วยอยู่นะ !” เฮ่อเหลียนเวยร้องลั่น กำลังจะหลบหมัด แต่ก็พบว่ามันเร็วมาก ไม่อาจเห็นทิศหมัดได้ ไม่นานหมัดก็กระแทกใบหน้า ส่งร่างเขากระเด็นไป
“เหล่าจิน บัดซบเอ๊ย ท่านเสียสติไปแล้วหรือ ? นี่ท่านต่อยข้าจริงหรือ ?” เฮ่อเหลียนเวยตะโกนลั่น
เขามองเหล่าจิน เห็นว่านัยน์ตาอีกฝ่ายกลายเป็นกระหายเลือด กลิ่นอายที่กำจายทั้งประหลาดทั้งคล้ายปีศาจ
“นี่มัน……” เฮ่อเหลียนเวยตกตะลึงไป เขาหันกลับไป เห็นซูเฉินกำลังพึมพำอะไรบางอย่าง ใบหน้าก้มต่ำราวกับกำลังสวดคาถาบางอย่างอยู่ ร่างกายเปล่งแสงประหลาดออกมา
“เจ้าควบคุมเขาอยู่หรือ ?” เฮ่อเหลียนเวยเข้าใจในที่สุด
“ข้าจะฆ่าเจ้า !” เหล่าจินตะโกนขึ้นก่อนจะพุ่งเข้ามาส่งหมัดเข้าใส่อีกครั้ง
เฮ่อเหลียนเวยเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนยกมือขึ้นสกัดฝ่ามือแยกเมฆาของเหล่าจิน จากนั้นส่งหนึ่งฝ่ามือไปทางซูเฉินที่อยู่ไม่ไกลนัก
เป็นตอนนั้นเองที่เขาพลันเข้าใจ จะช่วยเหล่าจินได้ มีแต่ต้องสังหารซูเฉิน
ตู้ม !
หลังจากเกิดเสียงปะทะกันดังลั่น ทั่วทั้งร่างซูเฉินก็พลันมีแสงสีดำหุ้มไว้ สกัดกั้นการโจมตีของเฮ่อเหลียนเวยไว้ได้
“นั้นมันวิชาบัวมืดของเหล่าจินนี่ ?” เฮ่อเหลียนเวยชะงัก
แล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าเหล่าจินต้องทำการปกป้องซูเฉินเป็นแน่
บัดซบ !
อย่างไรก็ต้องสังหารซูเฉินให้ได้ !!!
เฮ่อเหลียนเวยขู่คำรามอยู่ในใจ ภาพพยัคฆ์ปีกทองปรากฏที่เบื้องหลังอีกครา เผยกลิ่นอายสูงส่งน่าเกรงขาม
จากนั้นกรงเล็บพยัคฆ์ก็ตวัดเข้าใส่ชายหนุ่ม
พริบตานั้นเอง วิชาบัวมืดที่หุ้มร่างซูเฉินไว้ก็บานออกเรื่อย ๆ หมอกดำแผ่กำจายออกคล้ายกลีบดอก มันพลันพาร่างซูเฉินลอยขึ้น หยุดการโจมตีของพยัคฆ์ไว้ได้
ตู้ม !
คนทั้งสองเริ่มซัดพลังใส่กันอีกครั้ง กลีบดอกบัวไหวไปมา กรงเล็บพยัคฆ์กวาดผ่านอากาศ
“เหล่าจิน !” เฮ่อเหลียนเวยตะโกนพร้อมปล่อยกรงเล็บพยัคฆ์ไฟออกมา 18 ครั้ง
เหล่าจินเปิดใช้ท่าดอกบัว วิชาบัวมืดยังคงมีหมอกดำหมุนเวียน คอยปัดป้องทำลายกรงเล็บพยัคฆ์จนสลายไป ภาพมายาหายไปในที่สุด กลับคืนสู่พลังต้นกำเนิด
เฮ่อเหลียนเวยโกรธเกรี้ยวนัก “เหล่าจิน ท่านตกหลุมพรางมันแล้ว ! ตื่นขึ้นสิ !”
“เจ้าพูดอะไรของเจ้า ? เจ้าต่างหากที่ตกหลุมพรางมัน ! รีบตื่นขึ้นเดี๋ยวนี้ !” เหล่าจินร้องตะโกนโกรธ เปิดใช้สายเลือดอสูรแยกเมฆามืด วิชาบัวมืดเคลื่อนไหวไปมาดุดัน กดข่มพลังเฮ่อเหลียนเวยเอาไว้เสียอยู่หมัด
“บัดซบ บัดซบ บัดซบเอ๊ย ! ข้าจะทำให้ท่านเข้าใจได้อย่างไร ?” เฮ่อเหลียนเวยยิ่งสู้ยิ่งเกรี้ยวกราด ไม่ใส่ใจจะกล่าวคำ มุ่งโจมตีใส่ซูเฉินเพียงอย่างเดียว
สังหารซูเฉินได้เมื่อไร เหล่าจินย่อมตื่นขึ้นจากมายาเอง
เขาลงมือดุดัน เปิดใช้สายเลือดพยัคฆ์ปีกทองจนสุด ปีกที่กลางหลังของมันกระพือแรง เกิดเป็นคลื่นลมบ้าคลั่งพร้อมสายฟ้าฟาด ส่งผลให้มีเสียงฟ้าคำรามดังลั่นอยู่เหนือท้องฟ้า หมัดดั่งเหล็กถูกส่งออกไปเคล้าเสียงฟ้าคำราม ปล่อยคลื่นพลังและเปลวเพลิงรุนแรง
เหล่าจินเองก็โกรธเกรี้ยวนัก
วิชาบัวมืดยังขยายตัวออกต่อไป กลีบบัวทั้งหลายเปลี่ยนสลับที่จนกลายเป็นปากที่มีเขียวคมขนาดใหญ่สีทะมึน มันเขมือบพยัคฆ์ปีกทองเข้าไป
ปากเขี้ยวแหลมนั่นขยายออกเรื่อย ๆ จนกระทั้งสามารถเขมือบพยัคฆ์ปีกทองเข้าไปได้ทั้งตัว
“ยังไม่ตื่นอีกหรือ ?” เหล่าจินคำรามโกรธและกังวลท่ามกลางกระแสพลังงานสีมืด
เมื่อได้ยินเสียงเป็นกังวลของเหล่าจิน เฮ่อเหลียนเวยก็ใจสะท้าน เหตุใดจึงไม่เหมือนกับเสียงคนที่ถูกคุมจิตอยู่เลยเล่า ?
หรือ…… หรือจะเป็นข้าที่กำลังถูกซูเฉินควบคุมอยู่ ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
เฮ่อเหลียนเวยเริ่มนึกย้อนไปถึงบทสนทนาระหว่างเขากับซูเฉินเมื่อก่อนหน้านี้
เมื่อซูเฉินก้มหน้ามองเขา ก็รู้สึกราวกับว่าในตาของอีกฝ่ายมีประกายประหลาดเจืออยู่
หรือเขาจะถูกควบคุมไว้ตั้งแต่ตอนนั้นกัน ?
ไม่ใช่เหล่าจินหรอกที่ถูกควบคุม
แต่เป็นเขา !
คนที่ถูกหลอกคือเหล่าจินต่างหาก !
และเป็นข้าที่เข้าโจมตีเหล่าจินก่อนอยู่เรื่อย !
ในใจเฮ่อเหลียนเวยเต็มไปด้วยความเกลียดความโกรธ
จากนั้นภาพตรงหน้าพลันหมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซูเฉินที่เขากำลังพุ่งเข้าใส่ไม่ใช่ซูเฉินอีกต่อไป กลายเป็นเหล่าจิน !
ไม่แปลกที่อีกฝ่ายใช้วิชาบัวมืดได้ดีเช่นนี้……
“เหล่าจิน……” เฮ่อเหลียนเวยทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง มุมปากมีเลือดไหลนองออกมา
“เฮ่อเหลียนเวย ในที่สุดก็ตื่นแล้วหรือ ?” เหล่าจินถามแล้วลูบอกตนเอง
แม้ต่อสู้กันมาจะทำให้เฮ่อเหลียนเวยบาดเจ็บไปบ้าง แต่บาดแผลบนร่างตนเองก็ไม่ได้น้อยไปกว่ากันเท่าไร
“เจ้าตื่นมาก็ดีแล้ว อย่าได้ถูกลวงไปอีกเล่า”
จากนั้นเขาก็เดินไปกอดเฮ่อเหลียนเวย
เฮ่อเหลียนเวย หมายจะเปิดปากพูด
พรวด !
ความเจ็บปวดพลันเสียดแทงเข้าร่างเข้ามาที่อก
เขาก้มหน้าลง พบว่าหมัดของเหล่าจินฝังเข้าไปในอกเขา
นี่มัน…… เกิดอะไรขึ้น ?
เขาเงยหน้ามองเหล่าจินด้วยความไม่เข้าใจและตกใจนัก ทว่ากลับเห็นเพียงสายตาไร้อารมณ์และใบหน้าเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายเพียงเท่านั้น
ซูเฉิน !
เหล่าจินเป็นเพียงมายาที่ซูเฉินสร้างขึ้นมาเท่านั้น !
เฮ่อเหลียนเวยทั้งตกตะลึงทั้งโกรธแค้น
“อ๊ากกก !” เฮ่อเหลียนเวยใช้กำลังเฮือกสุดท้ายตะโกนลั่นแล้วรวมพลังทั้งหมดไว้ด้วยกัน แสงสีดองพลันระเบิดออกมา