หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.411 – เฝ้ารอคอยกว่า 10000 ปี

 

ชายชุดดำที่ชื่อหลานถอนหายใจ “เป็นชิงหยินเองที่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีร่างเงาของเทพที่แท้จริงเก็บรักษาเอาไว้ นั่นคือสาเหตุที่เธอต้องจบลงแบบนั้น”

 

“ตั้งแต่เมื่อ 10000 ปีก่อนเชียวหรือ … ท่านควรจะช่วยเธอ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ข้ากำลังทำอยู่ แต่มันยังไม่ประสบความสำเร็จ”

 

สีหน้าของหลานแลดูเศร้าสร้อย

 

“ไพ่ขอความช่วยเหลือทั้งสามนี้ ล้วนมาพร้อมกับปัญหาของชิงหยินที่จะต้องแก้ไข”

 

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?”

 

“เพราะเธอเชื่อว่ามีเพียงการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เท่านั้น จึงจะมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตเธอได้”

 

กู่ฉิงซานขบคิดและกล่าวว่า “แต่มันก็ตั้ง 10000 ปีมาแล้ว ท่านน่าจะแก้ไขปัญหาของไพ่ทั้งสามนี้ได้ตั้งนานแล้วสิ”

 

“หากให้ข้าเป็นผู้แก้ไขมันด้วยตัวเองน่ะ มันก็จะไร้ประโยชน์”

 

“ทำไมกัน? ท่านมิใช่ผู้ใช้ไพ่หรอกหรือ?”

 

“เรื่องมันยาวน่ะ”

 

“และหูข้าจะเป็นเกียรติอย่างยิ่งหากได้รับฟัง”

 

หลานชี้แจงอย่างจริงจัง “ก็โลกของพวกเจ้าน่ะ มันเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งในหกวิถีแห่งสังสารวัฏ”

 

“ในทุกๆโครงสร้างของโลกทั้งหมด ในแต่ละหกโลก … ล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์ พวกมันล้วนอยู่ภายใต้ทัณฑ์โกลาหล แต่ก็มีความมั่นคง มีเสถียรภาพเป็นอย่างมาก”

 

“สรุปง่ายๆว่าทั้งหกโลกของพวกเจ้าน่ะได้ก่อร่างห่วงโซ่ที่สมบูรณ์แบบขึ้น พร้อมกับอุปสรรคกีดขวางทางธรรมชาติที่ทรงพลังที่สุดและนั่นคือการปกป้องจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์”

 

“แล้วเจ้าสิ่งนี้มีผลกระทบต่อการที่ท่านจะช่วยชีวิตคนอย่างไร?”

 

“ก็ข้าน่ะเป็นคนจากภายนอกโลกทั้งหกอย่างไรเล่า ดังนั้น พริบตาที่ข้าออกไปปรากฏตัวขึ้นในอาณาจักรสววรค์ เหล่าผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพก็จะรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของข้าทันที”

 

“พวกมันจะใช้จิตวิญญาณของชิงหยินข่มขู่ข้าให้ทำสิ่งต่างๆแก่พวกมัน ขณะที่ชิงหยินจะไม่ถูกช่วยเหลือ”

 

“ท่านไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างงั้นหรือ?”

 

“หากต่อสู้ตรงๆกับผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพข้าเองก็ไม่แน่ใจถึงผลลัพธ์หเมือนกัน นับประสาอะไรกับการที่พวกมันมีจิตวิญญาณของชิงหยินอยู่ในมือ”

 

“มีจิตวิญญาณอยู่ในมือ? ท่านกำลังจะกล่าวว่าจิตวิญญาณของนางยังไม่ดับสูญ?”

 

“ใช่ พวกมันไม่กล้าที่จะจัดการกับจิตวิญญาณของนาง เพราะหากทำเช่นนั้น ชิงหยินจะต้องพังทลายและเกิดการระเบิดแผดเผาทำลายล้างขึ้นอย่างแน่นอน”

 

“ที่ว่านั่นหมายความว่ายังไง?”

 

“ก็ชิงหยินน่ะเป็นผู้ใช้ไพ่ที่ทรงพลานุภาพ ไม่เพียงจะทรงพลังมหาศาลในก่อนที่นางจะตาย แต่นางจะร้ายกาจยิ่งกว่าเมื่อยามที่นางสิ้นใจลง – นางได้เปิดจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อสร้างคำสั่งพิเศษบางอย่างขึ้นมา”

 

“และเหล่าเทพสวรรค์ก็หวาดกลัวสถานการณ์ที่ว่านั่น พวกเขาจึงทำได้เพียงผนึกเธอเท่านั้น”

 

“กล่าวคือ นางได้สร้างสถานการณ์ที่ส่งผลให้ไม่มีใครสามารถทำลายได้ให้กับตนเอง”

 

ชายชุดดำถอนหายใจ “ข้าได้คำนวณสถานกาณ์ทั้งหมดนี้มาแล้วเป็นสิบๆล้านครั้ง แต่ก็ยังไม่ค้นพบวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์นี้เลย”

 

กู่ฉิงซานยิ้มและกล่าวว่า “ข้าต้องขออภัยจริงๆ ยังมีหลายอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ – ที่ท่านเรียกว่าผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพนั้นมันคือสิ่งใดกัน?”

 

“ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพก็คือลูกหลานของเทพวิญญาณ”

 

“เนิ่นนานมาแล้ว เทพวิญญาณทั้งหมดไม่ตายจากก็หายสาบสูญไป หลงเหลือเพียงลูกหลานของพวกเขาที่ยังมีชีวิตอยู่”

 

“ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพเหล่านี้จะเป็นมืออาชีพตั้งแต่กำเนิด เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้เติบใหญ่ สกิลเทวะก็จะถูกปลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพยังมีสิ่งประดิษฐ์เทวะและความมั่งคั่งมากมายที่เทพวิญญาณได้เหลือทิ้งเอาไว้ให้พวกเขา”

 

“นั่นฟังดูยากที่จะรับมือจริงๆ”

 

“ใช่ พวกเขาน่าสะพรึงกลัวยิ่ง กระทั่งผู้ใช้ไพ่อย่างชิงหยิน ที่มีความรู้ความเข้าใจในสกิลเทวะอย่างถ่องแท้ ก็ยังต้องติดอยู่ภายใต้ ‘ตัดขาดเวลา’ ที่เทพวิญญาณจากยุคโบราณได้เหลือทิ้งเอาไว้”

 

กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “เช่นนั้น นับตั้งแต่เมื่อหมื่นปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าผู้ที่คอยควบคุมปรภพก็คือผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ? กระทั่งอาณาจักรสวรรค์ ก็ยังเป็นผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพที่กำลังปกครองอยู่ ใช่หรือไม่?”

 

“ใช่”

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ “ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพทรงพลังยิ่ง หากต้องการจะช่วยเหลือจิตวิญญาณออกจากเงื้อมมือของพวกเขา มันย่อมเป็นเรื่องยากอย่างแท้จริง”

 

“ใช่ ดังนั้นทุกอย่างที่ข้าพอจะทำได้ในแต่ละวันก็คือเฝ้ารอให้คำพยากรณ์แง้มข้อมูลบางอย่างออกมา เปิดเผยมันแก่ข้า” หลานถอนหายใจออกมา

 

“ข้าขอเดาว่า–ท่านคงต้องการให้ข้าทำอะไรบางอย่างสินะ?” กู่ฉิงซานกล่าว

 

ชายชุดดำยิ้ม

 

เขาเปิดขวดสุราด้วยตนเอง และเติมมันให้แก่กู่ฉิงซาน

 

“ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพมีความระแวดระวังผู้คนจากโลกภายนอกมาก แต่พวกเขากลับเลิ่นล่อต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวลภายในหกโลก”

 

“จิตวิญญาณของชิงหยินถูกผนึกโดยพวกเขาไว้ในอาณาจักรสวรรค์ และมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือนางได้”

 

“หากอิงตามที่ท่านอธิบายถึงผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ ความแข็งแกร่งของข้านับว่าน้อยยิ่ง คงมิแกร่งพอที่จะทำภารกิจนี้ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

 

ชายชุดดำ “เจ้ามิต้องทำสิ่งใดเป็นพิเศษเลย ข้าก็แค่มาแจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อให้เจ้าทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“ท่านกำลังหมายถึงอะไร?”

 

“ข้าได้ใช้ไพ่พยากรณ์เพื่อพยากรณ์หาวิธีแก้ไขปัญหานี้มาเนิ่นนานแล้วตั้งแต่เมื่อ 9500 ปีก่อน มันบอกข้าว่าจนกระทั่งถึงขณะนี้ โอกาสที่จะช่วยเหลือชิงหยินได้น่ะ มีน้อยนิดยิ่ง”

 

เขาหยิบเอาไพ่ทั้งหมดที่ตนมีออกมาวางเรียงๆกันบนโต๊ะบาร์

 

มีทั้งสิ้น 54 ไพ่

 

ขณะที่ด้านหลังของไพ่เหล่านี้ มีลวดลายและรูปแบบพื้นหลังที่สม่ำเสมอกัน

 

มันคือรูปของแสงศักดิ์สิทธิ์ที่หมุนวนรอบทูตสวรรค์ที่กำลังปิดตาลงและประกบสองมือสวดอ้อนวอนอธิษฐาน

 

“ไพ่สำรับนี้ ถูกสร้างขึ้นตามความปรารถนาของผู้ใช้ไพ่”

 

“สำรับไพ่ของข้าน่ะค่อนข้างพิเศษ ข้าไม่สามารถยกเลิกหรือจัดเรียงมันใหม่ได้ ข้าเลยจำต้องแบ่งจิตวิญญาณออกมา เพื่อที่จะใช้จิตวิญญาณที่สองที่แบ่งออก สร้างสำรับไพ่ใหม่”

 

“มันฟังดูยากเย็นจัง”

 

“และข้าก็ริเริ่มทำมันมาตั้งแต่เมื่อ 9000 ปีก่อน ช่วงเวลาที่ยาวนานนั้น ข้าค่อยๆสร้างสำรับไพ่ใหม่ขึ้นมาทีละน้อย ทีละน้อย”

 

ชายชุดดำชี้ไปที่ไพ่และกล่าวว่า “ชุดไพ่เหล่านี้ ทั้งหมดถูกใช้เพื่อช่วยเหลือชิงหยิน”

 

กู่ฉิซานมองไปที่ไพ่ทูตสวรรค์ทั้ง 54 ใบ แล้วเอ่ยถาม “ไพ่เหล่านี้ ทั้งหมดจะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือนางงั้นหรอ?”

 

“ใช่ มันคือ 36 ไพ่ไถ่บาป , 16 ไพ่ต่อสู้  , หนึ่งไพ่พยากรณ์ และหนึ่งไพ่ระบุตำแหน่งมิติและเวลา”

 

“แยกวิญญาณ … ” กู่ฉิงซานงึมงำ ลังเลที่จะกล่าว “การกระทำเช่นนั้น ดูเหมือนจะเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทานทนไหว แถมยังส่งผลกระทบต่อกฏเกณฑ์แห่งจิตวิญญาณอีกด้วย”

 

“ใช่ นับตั้งแต่ 9000 ปีก่อน ข้าก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดโดยอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณทุกวี่วัน”

 

ทว่าภายในแววตาของหลานกลับเผยให้เห็นถึงความมั่นคงและแน่วแน่ “แต่ยังไงก็ตาม ข้าก็จะต้องช่วยนางให้จงได้!”

 

กู่ฉิงซานขบคิดอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะยกแก้วขึ้น

 

“แยกจิตวิญญาณ และเฝ้ารอมายาวนานกว่า 10000 ปี ข้าชื่นชมในตัวท่านอย่างแท้จริง” เขากล่าว

 

หลานเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาก็ยกแก้วขึ้น

 

ทั้งสองชนแก้วกัน

 

“ส่วนข้า หากจะให้กล่าวถึงความปรารถนา ก็คงจะไม่พ้นการกลายเป็นราชาภูติและช่วยเหลือโลกมนุษย์” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“และข้าก็เห็นด้วยกับสิ่งนั้น หลังจากที่เจ้าออกจากห้องลับนี้ เจ้าก็จงไปทำในสิ่งที่เจ้าต้องการจะทำเถอะ”

 

“แล้วเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือของท่านล่ะ?”

 

“อาณาจักรสววรค์มีกฏเกณฑ์หลากประเภทที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งอยู่ ข้าจะต้องหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เฝ้ารอจนกระทั่งโอกาสเล็กๆน้อยๆที่กำลังจะปรากฏขึ้นในเร็วๆนี้”

 

“ที่กำลังจะบอกก็คือ ให้ข้าออกไปทำหน้าที่ของตนเองเสียสินะ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ใช่ ตามคำพยากรณ์ได้แสดงให้เห็นว่าเจ้าจะนำโอกาสนั่นมาให้แก่ข้า – และข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อเฝ้ารอช่วงเวลานั้น”

 

“ท่านจะสามารถหาข้าเจอได้ตลอดเวลาหรือไม่?”

 

หลานจั่วไพ่สามใบออกจากอ้อมแขนของเขาและวางมันลงบนโต๊ะ

 

ไพ่นายพลภูติ , ไพ่กษัตริย์อาชูร่า , ไพ่ไม้เท้าแห่งการจองจำ

 

“นายพลภูติยินดีที่จะต่อสู้ , กษัตริย์อาชูร่ามีคำมั่นสัญญาเดิมแห่งกองทัพพันธมิตร ส่วนไม้เท้าแห่งการจองจำก็เช่นเดียวกัน แม้จิตอาร์ติแฟคของมันจะตายไปแล้ว แต่ชิงหยินก็ได้เปลี่ยนพลังในการควบคุมมันให้อยู่ในรูปแบบของไพ่”

 

“จงรับไพ่ขอความช่วยเหลือทั้งสามใบนี้ไปซะ และจงรับรู้ไว้ด้วยว่า ไพ่สองใบแรก กำลังเฝ้ารอคอยโอกาสสำแดงเดชของตนเองอยู่”

 

“ยังไงก็ตาม ไพ่ไม้เท้าแห่งการจองจำใบนี้ คือรางวัลแด่เจ้า”

 

หลานได้เคาะเบาๆลงบนไม้เท้าแห่งการจองจำ

 

ไพ่ได้กลายเป็นจุดแสงสว่างไสว และกระจายเข้าไปในร่างกายของกู่ฉิงซาน

 

“รางวัลของเจ้าได้ถูกมอบให้ล่วงหน้าแล้ว นับจากนี้ไป ไม้เท้าแห่งการจองจำจะเป็นของเจ้า”

 

“ข้าพอใจกับรางวัลนี้เป็นอย่างยิ่ง” กู่ฉิงซานพยักหน้าและกล่าว

 

“ยังไงก็ตาม คนที่พ่ายแพ้การแข่งขันท้าทายในครั้งนี้ จะถูกลบความทรงจำในความฝันของข้า ฉะนั้น เจ้าจะต้องต่อสู้กับพวกเขาเพื่อปกปิดการพบปะกันระหว่างข้ากับเจ้า”

 

“ก็ถ้าขอแบบนั้นมา ย่อมจะจัดให้”

 

กู่ฉิงซานหงายคอไปข้างหลัง กระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวจนหมด

 

“ขอบคุณสำหรับสุราดี” เขากล่าว

 

“ด้วยความยินดี และขอให้เจ้าโชคดี” หลานตอบกลับ

 

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง และข้าก็หวังว่าท่านกับข้าจะโชคดีเช่นกัน”

 

กู่ฉิงซานวางแก้วเหล้าลง ผุดลุกขึ้น และก้าวเดินออกจากบาร์ไป