บทที่ 125 ทำไมคนมีพรสวรรค์ถึงชอบไปที่แผนกฉุกเฉิน!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

สำเร็จแล้ว!

สำเร็จแล้วจริงๆ!

เฉินชางทำได้แล้ว!

ทุกคนผ่อนคลายลง ความรู้สึกรอดชีวิตหลังประสบภัยพิบัติเช่นนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เหมือนตอนที่อยู่บริเวณหน้าผาไม่มีทางไปต่อ จู่ๆ ก็มีรถรางปรากฏ

การเย็บเส้นเลือดนั้นง่ายมาก แต่หากต้องการเย็บให้เร็วกลับเป็นเรื่องยาก! เพราะไม่เพียงแต่ต้องมีมือที่คล่องแคล่วอย่างยิ่งยวด ทั้งยังต้องเย็บเส้นเลือดให้แน่นหนาอีกด้วย!

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อพบกับกระบวนการเย็บเส้นเลือดที่ทำให้หัวหน้าแผนกทั้งหลายลำบาก ผู้ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือกลับเป็นหมอน้อยคนหนึ่ง! ทำให้พวกเขามีความรู้สึกนับหมื่นผสมปนเป และดีใจอย่างยิ่ง!

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ความปลอดภัยของชีวิตผู้ป่วยก็ถูกปกป้องไว้ได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว

เถามี่อดทอดถอนใจกล่าวออกมาไม่ได้ “ยอดเยี่ยมจริงๆ! การเย็บครั้งนี้ดีมากจริงๆ!”

เถามี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทรวงอกมาครึ่งชีวิตแล้ว ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเย็บเส้นเลือดคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เส้นเลือดบริเวณหัวใจ เขาประสบความสำเร็จทางด้านการเย็บเส้นเลือดเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมองออกว่าฝีมือของเฉินชางเมื่อครู่นี้สวยงามขนาดไหน!

เมื่อเห็นมืออันคล่องแคล่วของเฉินชาง เถามี่พลันเกิดความรู้สึกอิจฉาในใจ อาชีพอย่างศัลยแพทย์ ความพิถีพิถันถือเป็นพรสวรรค์จริงๆ

เฉินชางทอดถอนใจออกมา สำเร็จแล้ว…ตั้งสมาธิกระทั่งกลั้นลมหายใจมาเก้าสิบวินาที พยายามมาเก้าสิบวินาที สุดท้ายก็แลกมาด้วยความสำเร็จ

เฉินชางยิ้มผงกศีรษะกล่าว “โชคดีที่ไม่เป็นอะไรนะครับ!”

ทุกคนมองไปที่เฉินชางด้วยความพึงพอใจ แสดงท่าทียอมรับออกมา กระทั่งจางโหย่วฝูยังร่วมผงกศีรษะไปด้วย มองเฉินชางอย่างลึกซึ้ง

หลี่เป่าซานเป็นคนที่ดีใจที่สุด เฉินชางเป็นหมอน้อยในแผนกของตน ในสายตาของเขาก็เหมือนคนของตนเอง คนของตนเองยอดเยี่ยมจะไม่ลำพองใจได้อย่างไร?

ยังดีที่สวมหน้ากากอนามัยอยู่ มิฉะนั้นคงถูกคนอื่นพบ

หลี่เจี้ยนเหว่ยรู้สึกชื่นชมเฉินชางมาก จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “อยู่ผ่าตัดด้วยกันก่อนสิครับ ดูให้มากเรียนรู้ให้มาก การผ่าตัดแบบนี้อาจพบแค่ไม่กี่ครั้งในชั่วชีวิต หาได้ยากจริงๆ”

เฉินชางพยักหน้า ยืนอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเงียบๆ และคอยช่วยเหลือบางครั้ง

ความจริงก็เหมือนกับที่หลี่เจี้ยนเหว่ยบอก การผ่าตัดแบบนี้เป็นการฝึกฝนที่ดี เนื่องจากคุณไม่มีวันรู้เลยว่าผู้ป่วยเจออุบัติเหตุอะไรมา และตอนนี้จะทำอย่างไร

อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์?

ประสบการณ์ก็คือบทเรียนที่คนอื่นนำมาให้จากการเดินทางอ้อม

การเรียนแพทย์ย่อมต้องการประสบการณ์ แต่ว่า…ประสบการณ์นี้คุณไม่อาจออกไปสั่งสมด้วยตัวเอง จะต้องเรียนรู้เท่านั้น ทั้งยังใช้ความรู้นี้เป็นดั่งกระจกสะท้อนได้ นั่นเพราะความล้มเหลวของคุณอาจแลกมาด้วยชีวิตผู้อื่น

ตอนนี้เอง อยู่ๆ เถามี่ก็พูดขึ้นว่า “เส้นเลือดเกิดการหดเกร็ง!”

เฉินชางพลันหน้าเปลี่ยนสี เถามี่เห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ต้องเครียดไป”

กล่าวจบก็หันไปพูดกับนางพยาบาลว่า “ขอผ้าชุบน้ำเกลืออุ่นด้วยครับ”

……

“ขอปาปาวารีนไฮโดรคลอไลด์[1]สองจุดห้าเปอร์เซ็นด้วยครับ!”

ไม่กล่าวไม่ได้ว่าเถามี่เป็นหัวหน้าแผนกอาวุโสที่มีประสบการณ์สูงจริงๆ เขาหยุดอาการเส้นเลือดหดเกร็งโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่สำคัญไปได้ เฉินชางเห็นดังนั้นพลันรู้สึกหัวใจพองโตและหลงใหล

บางครั้ง การต่อสู้กับอาการป่วยก็เหมือนกับการส่งทหารออกไปสู้รบ เมื่อได้โอกาสก็ต้องจัดการให้แม่นยำ

ภาพที่เห็นเมื่อครู่นี้ก็เหมือนกับการประมือกันของยอดฝีมือ เมื่อเห็นกระบวนท่าของศัตรูก็รีบแก้ทาง ทำให้เฉินชางรู้สึกเลือดในกายพลุ่งพล่าน!

……

ยืนหยัดไปได้หลายชั่วโมง ในที่สุดการผ่าตัดก็สำเร็จ!

พยาบาลกล่าวว่า “ความดันเลือด 110/70 หัวใจเต้นห้าสิบเอ็ดครั้งต่อนาที…ผู้ป่วยปลอดภัยแล้วค่ะ!”

หลังจากกล่าวประโยคนี้จบ ทุกคนจึงพากันยิ้มออกมา

เฉินชางทอดถอนใจ เขาได้รับประโยชน์มากมายจริงๆ ฝีมือที่หัวหน้าแผนกเหล่านี้แสดงออกมาทำให้ตนต้องตื่นตะลึงจริงๆ

[ติ๊ง! ภารกิจของเถามี่สำเร็จ ได้รับรางวัล: คุณสมบัติพิเศษของทักษะการเย็บเส้นเลือด: หนาแน่น!]

เฉินชางรู้สึกยินดีโดยพลัน!

ยังดีที่ทักษะการเย็บเส้นเลือดเป็นทักษะขั้นพื้นฐาน จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาไปกับขั้นตอนการฝึกฝนในพื้นที่เสมือน

หลังจากซึมซับไปหลายวินาที เฉินชางก็รู้สึกว่าสภาวะของตนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูท่าทางต่อไปการเย็บเส้นเลือดคงเป็นทักษะที่ตนใช้แสดงความสามารถได้อีกทักษะหนึ่งแล้ว

หนาแน่นและเย็บอย่างรวดเร็ว คุณสมบัติพิเศษทั้งสองนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหลี่เป่าซาน +10]

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของหลี่เจี้ยนเหว่ย +5]

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเถามี่ +10]

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของจางโหย่วฝู +5]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นค่าความรู้สึกดีทั้งนั้น แต่ว่า…เฉินชางยังไม่เข้าใจจริงๆ ตกลงว่าค่าความรู้สึกดีพวกนี้ทำอะไรได้? จะเอาไปใช้อย่างไร?

ตอนนี้ผู้ที่มีค่าความรู้สึกดีถึงเจ็ดสิบมีอยู่สองคน คนหนึ่งก็คือจางจื้อซิน อีกคนหนึ่งก็คือเสี้ยวเถียนฮวา

เฉินชางตัดสินใจแล้วว่า…ตนจะต้องหาเวลาทดสอบดูสักหน่อยว่าค่าความรู้สึกดีนี้มันใช้อย่างไร มิฉะนั้น ได้รับค่าความรู้สึกดีมาแล้วแต่กลับไม่เห็นประโยชน์คงไม่ไหว!

……

……

เมื่อการผ่าตัดสิ้นสุดลง หลี่เจี้ยนเหว่ยก็ถอดถุงมือออก จากนั้นจึงปลดหน้ากากอนามัยมองไปยังเฉินชางแล้วผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ “เสี่ยวเฉินหรือ? ไม่เลว! เป็นคนหนุ่มอายุน้อยมากความสามารถจริงๆ มีพรสวรรค์มาก เหล่าหลี่ คุณต้องสั่งสอนให้ดีนะครับ ต้นกล้าดีๆ แบบนี้ถ้าเติบโตล่าช้าไปถือเป็นความผิดของคุณนะ!”

หลี่เป่าซานยิ้มออกมาอย่างหาได้ยาก วันนี้เฉินชางทำให้เขารู้สึกได้หน้า รอยยิ้มจึงดูภาคภูมิใจอยู่หลายส่วน “ครับ แน่นอนอยู่แล้วครับ เสี่ยวเฉินเป็นอาวุธลับของพวกผม เป็นคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะสั่งสอนออกมาได้น่ะครับ”

เถามี่มองไปที่เฉินชาง “เสี่ยวเฉิน เมื่อไหร่คุณรู้สึกว่าหัวหน้าแผนกของคุณทำให้คุณลำบากใจก็มาบอกผมนะครับ ผมจะรับคุณไว้เอง อย่าปล่อยให้แผนกฉุกเฉินทำอะไรไม่ดีกับตัวเองเป็นอันขาด โอเคไหมครับ?”

กล่าวจบเถามี่ก็ทอดถอนใจออกมาด้วยความเสียดาย “เฮ้อ…เป็นต้นกล้าที่ดีจริงๆ ทำไมถึงไปอยู่ที่แผนกฉุกเฉินได้นะ?”

หลี่เป่าซานได้ยินดังนั้นไม่เพียงแต่ไม่โกรธ กลับหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ กล่าวอย่างสบายอกสบายใจว่า “หัวหน้าแผนกเถา ไม่ลำบากให้คุณสิ้นเปลืองความคิดหรอกครับ ต่อให้ผมทำให้ตัวเองลำบากใจก็จะไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจแน่!”

ในที่สุดจางโหย่วฝูก็รู้ว่าใครคือเฉินชางแล้ว! ชื่อนี้หัวหน้าแผนกจางจำได้ขึ้นใจ!

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เหยียบหัวตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่ง จางโหย่วฝูจึงแอบทดความแค้นไว้ในใจ

ครั้งแรกตบหน้าโจวเสี่ยวตง เอาโควต้าบรรจุของโรงพยาบาลไป

ครั้งที่สองตบหน้าต้วนปัว ทำให้ตนกลายเป็นเทพโชคลาภของอีกฝ่ายไป

วันนี้เมื่อได้เห็น พบว่าเป็นคนไม่ธรรมดาจริงด้วย

โจวเสี่ยวตงและต้วนปัวพ่ายแพ้ให้เขาก็ไม่นับว่าอัปยศอะไร เพราะเจ้าหนูนี่มีความสามารถจริงๆ!

ความจริง ตอนแรกที่เขาแย่งโควตาให้โจวเสี่ยวตง ไม่ใช่ความคิดของจางโหย่วฝู แต่เป็นเลขาถานลี่กั๋วที่บอกให้เขาทำเช่นนี้ อย่างไรเสียสำหรับจางโหย่วฝูแล้ว โควตาบรรจุจะแตกต่างกับสัญญาอัตราจ้างตรงไหนล่ะ?

แต่ถานลี่กั๋วเป็นหัวหน้าของตน จะไม่ฟังได้อย่างไร?

หลังจากได้ยินว่าเฉินชางชนะโจวเสี่ยวตงและยังช่วยแผนกฉุกเฉินออกจากอันตรายมาได้ ทั้งยังคอยค้ำจุนการผ่าตัดถุงน้ำดีเคสต่างๆ จางโหย่วฝูก็อยากเห็นนานแล้วว่าเฉินชางคนนี้เป็นเทพเซียนมาจากที่ไหนกันแน่

วันนี้เมื่อได้พบหมอน้อยคนนี้ ทำให้เขารู้สึกกระตือรือร้นจริงๆ! นี่เป็นคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จางโหย่วฝูก็เริ่มใคร่ครวญ หลี่เป่าซานอายุห้าสิบห้าปีแล้ว เป็นดั่งอาทิตย์กำลังตกดิน ส่วนจางโหย่วฝูเพิ่งจะอายุสี่สิบห้า ยังมีเรี่ยวแรงกระฉับกระเฉง เส้นทางศัลยแพทย์ของเขาเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ส่วนเฉินชางคนนี้ จู่ๆ จางโหย่วฝูก็คิดว่าควรลากมาอยู่ข้างกายตนให้ได้ ทว่าไม่รีบร้อน จะต้องใจเย็นเข้าไว้ และ…อย่าได้ทำเหมือนเมื่อก่อน อย่าสร้างความประทับใจแย่ๆ ให้อีกฝ่ายก็พอแล้ว

จางโหย่วฝูขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกได้ย่อมไม่ใช่คนโง่ การชั่งน้ำหนักถึงข้อดีข้อเสียเช่นนี้เขาเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี

อีกอย่างทุกคนก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อยู่ในสังคมนิติรัฐ ยังจะมีเรื่องบุญคุณความแค้นมากมายขนาดนั้นที่ไหนกัน มีแค่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้นเอง

ทว่า…ยังมีอยู่เรื่องหนึ่งที่จางโหย่วฝูไม่เข้าใจ นั่นก็คือ…ทำไมตอนนี้ถึงได้ขาดแคลนคนมีพรสวรรค์จัง?

แผนกศัลยกรรมทั่วไปดีๆ ไม่มา วิ่งไปแผนกฉุกเฉินกันหมด!

พวกคุณมาที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปได้หรือไม่? แผนกผมให้คุณกินน้อยไป หรือให้คุณดื่มน้อยไปหรือไง?

แผนกของพวกเรามีสภาพแวดล้อมที่ดี มีเวทีที่ดี เทียบกับแผนกฉุกเฉินแล้วถือว่าห่างกันนับแสนนับหมื่นลี้ แต่คนเก่งๆ ต่างวิ่งโร่ไปที่แผนกฉุกเฉินกันหมด

ตอนแรกเฉินปิ่งเซิงก็ใช่! ตอนนี้ยังมีเฉินชางอีกคน แผนกฉุกเฉินมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยหรือ?

หรือแผนกศัลยกรรมทั่วไปของพวกเราจะต้องปรับปรุงระบบที่เน่าเฟะ?

หรือผม จางโหย่วฝู เย็นชาเกินไป ต้องทำตัวให้อ่อนโยนขึ้น?

จางโหย่วฝูขมวดคิ้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องใคร่ครวญเรื่องนี้ให้ดีๆ สักหน่อย

เขาหันไปกล่าวลาทุกคน “ผู้อำนวยการหลี่ หัวหน้าเถา หัวหน้าหลี่ ผมต้องไปแล้วครับ ในแผนกยังมีงานอีกมาก ขอตัวก่อนนะครับ”

พูดจบก็หันไปมองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน วันหน้ามาที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปบ่อยๆ สิ มาแลกเปลี่ยนความรู้กันให้มาก!”

พูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป ปล่อยให้หลี่เป่าซานตื่นตะลึง!

จางโหย่วฝูคนนี้คิดเปลี่ยนนิสัยหรือไง?

หลายวันก่อนยังจะแย่งโควตาไปจากพวกผมให้ได้ ตอนนี้ยังให้เฉินชางของพวกเราไปหาที่แผนกอีก…

ไม่ใช่สิ!

จางโหย่วฝูคนนี้ เจ้าอ้วนนี่…

จะต้องมีความแค้นในใจ ต้องมีแผนการอยู่ในใจแน่นอน!

ต้องถูกตาต้องใจเฉินชางของพวกเราแน่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลี่เป่าซานก็จับจ้องไปที่จางโหย่วฝูด้วยสีหน้าระแวง

[1] ปาปาวารีนไฮโดรคลอไลด์ (Papaverine hydrochloride) เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ที่ใช้รักษาอาการต่างๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อกระตุกหรือลดการไหลเวียนของเลือด เช่นหัวใจวาย ลิ่มเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ยาจะช่วยในการขยายหลอดเลือดและส่งเสริมการไหลเวียนที่ดีขึ้นไปและกลับจากปอดหัวใจและสมอง มักใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดดำในโรงพยาบาลเพื่อบรรเทาอาการได้ทันที มีความเสี่ยงของผลข้างเคียง แต่ปฏิกิริยามักจะไม่รุนแรง แพทย์ต้องระวังเมื่อใช้ยาเพื่อป้องกันเกินขนาดและภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย