“แกเองเหรอ?”
เฉินหลินที่จิตใจกำลังระสำระส่ายเห็นคนเดินเข้ามา สายตาจ้องไปที่อวี๋หมิงหลาง
เด็กหนุ่มบุคลิกรูปร่างหน้าตาดีคนนี้เฉินหลินจำได้เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ค่อยกล้าไปยุ่งกับเจี่ยซิ่วฟางก็เพราะอวี๋หมิงหลางส่วนหนึ่ง
หลังจากที่กระบวนการหย่าของเจี่ยซิ่วฟางกับเฉินหลินเสร็จสิ้น อวี๋หมิงหลางก็มาปรากฏตัวที่หน้าศาล ใช้มือเปล่าฟันอิฐจนหัก ข่มขู่เฉินหลินสำเร็จ
เฉินหลินรู้แค่ว่าเสี่ยวเชี่ยนมีแฟนที่เก่งกาจ แต่กลับไม่รู้ประวัติของอวี๋หมิงหลาง วินาทีที่เห็นอวี๋หมิงหลางเข้ามาในใจของเขาก็เสียววาบ
อวี๋หมิงหลางเดินเข้ามาอย่างองอาจ เขาลากเก้าอี้มานั่งประจัญหน้าเฉินหลิน แค่กวาดสายตามองไปเฉินหลินก็หวาดกลัวหัวใจเต้นแรง
ครั้งก่อนที่เจอกันอวี๋หมิงหลางไม่ได้วางมาดน่าเกรงขามขนาดนี้ คราวนี้มาเจอกันในพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ในใจของเฉินหลินมีแต่ความหวั่นใจ
อวี๋หมิงหลางไม่พูดจา แค่มองเฉินหลินด้วยสายตาเอาเรื่อง เล่นเอาเฉินหลินเหงื่อซึม
“ซิ่วฟางล่ะ? ฉันจะเจอซิ่วฟาง ไม่งั้น…เรียกเสี่ยวเชี่ยนมาก็ได้” เฉินหลินถูกอวี๋หมิงหลางจ้องจนกลัวมาก รู้สึกว่าถ้าเขาไม่พูดข่มออกไปบ้างตัวเองจะต้องตายแน่ จึงใช้โอกาสตอนที่ยังพูดได้รีบเสนอสิ่งที่ต้องการ
เขายอมเจอเจี่ยซิ่วฟางหรือไม่ก็เสี่ยวเชี่ยน ดีกว่าต้องมาเจออวี๋หมิงหลางยมทูตตัวเป็นๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปหลายครั้งแล้วในสายตาอันดุดันของอวี๋หมิงหลาง
“เสี่ยวเชี่ยน? เสี่ยวเชี่ยนคือใครกัน?” อวี๋หมิงหลางนั่งไขว่ห้างอย่างสบายๆ ท่าทางไม่รีบร้อนแต่กลับสร้างแรงกดดัน บุคลิกของเขาสร้างรังสีอำมหิตบางอย่าง โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินพ่อเฮงซวยเรียกชื่อคนรักของเขา ความเย็นชาได้แผ่ซ่านมากกว่าเดิม
“เขาเป็นลูกสาวของฉัน…เขาเป็น…” เฉินหลินพูดไม่ออก เพราะอวี๋หมิงหลางที่เมื่อครู่สีหน้าเรียบเฉยอยู่ๆก็ยิ้มออกมา
แต่รอยยิ้มนี้กลับเย็นชาและน่ากลัวกว่าตอนที่เขาไม่ยิ้ม
“ลูกสาวเหรอ?” อวี๋หมิงหลางถามประชด “ในใจของแกเคยมองว่าเขาเป็นลูกสาวด้วยเหรอ? แม้แต่เศษเสี้ยวความรักของพ่อเคยให้เขาหรือเปล่า?”
เฉินหลินตกใจจนไม่กล้าพูด ท่าทางอวี๋หมิงหลางตอนเอามือฟันอิฐเมื่อคราวก่อนยังตราตรึงอยู่ในใจเขา กลัวว่าเกิดพูดอะไรผิดไปอวี๋หมิงหลางจะเอามือฟันเขาหัวแบะ
“ถึงแม้คนที่รักลูกชายมากกว่าลูกสาวจะมีไม่น้อย แต่เรื่องต่างๆที่แกทำกับเขามันไม่ใช่แค่ความลำเอียงในการรักลูกธรรมดาๆแล้ว ฉันสงสัยจริงๆนะว่าแกเป็นพ่อเขาจริงๆหรือเปล่า เพราะจะหาพ่อที่เฮงซวยขนาดนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ สัตว์มันยังรู้จักเอ็นดูลูก แล้วแกล่ะมีไหม?”
“ฉัน ฉันเป็นพ่อแท้ๆของเขา” เฉินหลินหลบตาไม่กล้าเผชิญหน้าตอนตอบ เขากลัวว่าถ้าตัวเองไม่เน้นย้ำเรื่องนี้อวี๋หมิงหลางจะเอาเขาถึงตาย
“หึหึ ดูไม่ออกเลยจริงๆ ฉันเจอนักโทษมาก็เยอะ คนที่เลวสุดขั้วก็มีบ้าง แต่ท่าทีที่คนพวกนั้นมีต่อครอบครัวโดยเฉพาะกับลูก ยังมีความสำนึกผิดอยู่บ้าง แต่พ่ออย่างแกที่เอาใบตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยของลูกไปซ่อน คิดจะให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายแย่ๆ ตอนนี้ยังจะมาทำเรื่องแบบนี้อีก เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอเลยจริงๆ”
อวี๋หมิงหลางไม่มีความเกรงใจกับเฉินหลิน เขาเป็นคนง่ายๆกับคนที่อยู่รอบตัวเสี่ยวเชี่ยน
ใครดีกับผู้หญิงของเขา เขาก็ดีด้วย แต่ถ้าใครรังแกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี พ่อแท้ๆก็ไม่ได้
“ฉันผิดไปแล้ว ไว้ชีวิตฉันเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ”
พออยู่ต่อหน้าอวี๋หมิงหลางที่มีความน่ากลัวขนาดนี้ เฉินหลินก็ไม่เหลือแรงสู้อีกต่อไป สองขากำลังจะคุกเข่าอ้อนวอน แต่อวี๋หมิงหลางยื่นไปขวางไม่ให้เขาคุกเข่าได้
“พูดจาซะน่าสงสาร แต่เรื่องที่แกทำไม่ได้น่าสงสารเลยสักนิด ว่ามาสิจะเอายังไง?”
“เอายังไง…” เฉินหลินอึ้ง อวี๋หมิงหลางหยิบกระบองออกมาจากเอว กวัดแกว่งไปมาคล้ายกับทำไปโดยธรรมชาติ แสดงให้เฉินหลินเห็นว่าศิลปะการใช้กระบองของทหารหน่วยรบพิเศษเป็นแบบไหน
นี่ก็เป็นหนึ่งในวิชาที่ต้องฝึก อวี๋หมิงหลางสะบัดอย่างคล่องแคล่ว พอได้ยินเสียงกระบองหวดในอากาศเฉินหลินก็แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้ามันฟาดลงมาที่ตัวเขาจะรู้สึกยังไง เขาตกใจจนกัดฟันแน่น
“แกจะเอาไง ฉัน ต่อไปฉันจะไม่ไปวุ่นวายกับสองแม่ลูกนั่นอีกแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ เห็นแก่เสี่ยวเชี่ยน ฉันก็ยังรักลูกสาวอยู่นะ”
“หืม? พ่อลูกผูกพัน?” อวี๋หมิงหลางหยุดหวดกระบอง แล้วเหวี่ยงไปวางบนไหล่เฉินหลิน เขาไม่ได้ออกแรงแต่กลับทำให้เฉินหลินรู้สึกได้ถึงความน่ากลัว
“ใช่ๆๆ ฉันกับเขาผูกพันกัน ก็เขาเป็นลูกสาวฉันนี่ ฉันแคร์เขามาก เห็นแก่หน้าเขาอย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“ในเมื่อผูกพัน งั้นเขาติดหนี้ฉันสามหมื่นแกชดใช้ไหม?” อวี๋หมิงหลางจงใจถาม
“…เงิน? พวกแกเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?” เฉินหลินไม่เข้าใจสิ่งที่อวี๋หมิงหลางพูด
“เมื่อก่อนน่ะเป็นแฟน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาไปเรียนเอาเงินฉันไปสามหมื่น ในเมื่อแกบอกว่าเป็นพ่อเขางั้นก็ชดใช้แทนเขาสิ”
“แต่ฉันไม่มีเงิน…”
“พี่ชายฉันทำธุรกิจ แกไปทำงานให้เขาฟรีๆสองปีก็จะใช้หนี้ได้หมด พวกเรามีให้กินมีที่พัก แต่ไม่มีเงินให้ เป็นไง?”
“คือ…”
เฉินหลินลังเล
ถึงว่าทำไมมีคนมาเยอะแยะ ที่แท้ก็ไม่ได้มาเพราะเอาคืนให้เจี่ยซิ่วฟาง แต่ลูกสาวทุเรศไปก่อเรื่องเอาไว้ ผู้ชายคนนี้ถึงได้มาคิดบัญชีกับเขา
เฉินหลินคิดจะเล่นงานเสี่ยวเชี่ยน อวี๋หมิงหลางจึงเล่นงานกลับ
“คิดดีๆนะ ทำงานฟรีสองปี ฉันจะไม่เอาเรื่องเขาและก็ไม่เอาเรื่องแก ไม่อย่างนั้น…”
เฉินหลินไม่อยากไปทำงานฟรีสองปีตามที่อวี๋หมิงหลางว่า ถึงจะกินฟรีอยู่ฟรีก็ตาม แต่นั่นไม่เท่ากับไปติดคุกเหรอ? ไม่ให้เงินด้วย
อีกอย่าง ทำไมเขาต้องทำเพื่อเด็กไม่เอาไหนอย่างเฉินเสี่ยวเชี่ยนขนาดนั้นด้วย?
อวี๋หมิงหลางกำลังรอคำตอบจากเฉินหลิน คำตอบนี้เกี่ยวพันกับชะตาชีวิตของเฉินหลินนับจากนี้ ซึ่งก็เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะมีให้
แต่เฉินหลินไม่ได้คว้าโอกาสไว้ เขายิ้มแย้มทำท่าเหมือนประจบอวี๋หมิงหลางพลางพูด
“ฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้น รับรองแกได้เงินไม่ต้องรอถึงสองปี”
“หืม?” อวี๋หมิงหลางหรี่ตา
“ฉันมีเพื่อนเป็นหัวหน้าอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ไนท์ พาเด็กคนนั้นไป หน้าตามันดีแกก็รู้ ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็ปลดหนี้หมด”
อวี๋หมิงหลางเดือดจัดขนาดฆ่าคนได้ เฉินหลินไม่เห็นสีหน้าของอวี๋หมิงหลางกับมือของเขาที่กำหมัด ปากยังคงพูดถึงแผนแก้ปัญหาที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด
“พวกเราเอาแบบนี้ เอาเฉินเสี่ยวเชี่ยนไปส่งก่อนแล้วให้แม่มันเอาเงินมาให้ ตอนนี้แม่มันรวย ต้องยอมควักเงินเพื่อช่วยลูกสาวแน่ แต่ถึงจะไม่ยอมควักเงินก็ไม่เป็นไร เด็กคนนี้หน้าตามันสวย มีพวกเสี่ยอยากเลี้ยงดูอยู่แล้ว เงินสามหมื่นไม่เกินครึ่งเดือนก็ได้แล้ว พวกผับมันมีอ่างอบนวดด้วย ถึงตอนนั้น—”
“เพล้ง”
เฉินหลินพูดต่อไม่ได้แล้ว อวี๋หมิงหลางหวดกระบองไปฟาดกระจกแตกละเอียด
“แกมันไม่คู่ควรเป็นพ่อของเขา” อวี๋หมิงหลางทั้งโกรธทั้งรู้สึกว่าโชคดี
โชคดีที่เขาเลือกถูกที่ไม่ให้เสี่ยวเชี่ยนเข้ามา สีหน้ากับคำพูดทุเรศของเฉินหลินไม่ควรให้คนรักของเขามาเห็น ไม่อย่างนั้นหัวใจของเธอจะยิ่งเจ็บหนักกว่าเดิม
คนเลวๆแบบนี้ ให้เขาจัดการน่ะดีแล้ว