บทที่ 123 ราชาสวรรค์

หลังจากพูดจบ มนุษย์กลายพันธุ์ก็ได้ชี้ไปที่กำไลสื่อสารของเขาที่อยู่บนข้อมือ

“อ้อเนี่ยเหรอ” เฉินเฉียงพูดพลางถอดถอนหายใจ “เฮ้ออออ ก็อย่างที่เจ้าว่าไปก่อนหน้านี้ การศึกกับพวกมนุษย์นั้นช่างน่าอดสูจริงจัง เช่นเดียวกับเจ้า ข้าเองก็โดนบังคับให้ถอยร่นกลับมา ตัวบอกตำแหน่งของข้าโดนพวกมันทำลายไปแล้ว”

“เฮ้อออออ เป็นโชคไม่ดีของข้าเลยจริงๆ ไม่งั้นป่านนี้ข้าคงไม่หลงอยู่ที่นี่”

“เป็นเช่นนั้น แต่ท่านไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด” หลังจากพูดจบ มนุษย์กลายพันธุ์ ได้ชี้ไปที่จุดเล็กๆที่กะพริบอยู่บนเครื่องบอกตำแหน่งของตนและพูดออกมา “นี่คือเกาะเทียนลี่ อีกไม่นานพวกเราก็จะถึง เมื่อกลับไปถึงที่นั่น ท่านเพียงเอ่ยขอกับราชาสวรรค์ให้เตรียมเครื่องบอกตำแหน่งเครื่องใหม่ให้ท่านก็พอ”

“อืม ขอบคุณที่แนะนำ” เฉินเฉียงกล่าวขอบคุณพลางใช้มือแตะไปยังไหล่ของมนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ข้างๆเขา

“ด้วยความยินดี เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้นายท่าน” มนุษย์กลายพันธุ์ได้หันมาให้เฉินเฉียงก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

เป็นตอนนี้ที่มนุษย์กลายพันธุ์ได้เห็นหน้าที่แข็งค้างของเฉินเฉียง นี่ทำให้เขารีบถามออกมา “นายท่าน ท่านเป็นอะไรรึเปล่า”

“อ้ะ ฮี่ฮี่ฮี่ ไม่เป็นอะไร ข้าสบายดี”

เฉินเฉียงได้กลับฟื้นคืนสติหลังจากตกตะลึงจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ เขาไม่คิดว่าระบบย่อยสลายซากศพของเขานั้นจะมาทำงานเอาตอนนี้

นี่หมายความว่าสิ่งที่บินเคียงคู่กับเขาในตอนนี้เป็นเพียงแค่ซากศพเท่านั้น

ไม่แปลกใจเลยจริงที่ก่อนหน้านี้ มนุษย์กลายพันธุ์บอกว่าตนเองเป็นเพียงนักรบซากศพ ความจริงแล้วความหมายของมนุษย์กลายพันธุ์ก็ตรงตัว

ในขณะเดียวกัน เฉินเฉียงก็ได้ดูดซับทักษะจากซากศพเดินได้ผู้นี้ เปลี่ยนรูปลักษณ์

“เอ้อ ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรกัน ” เฉินเฉียงถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร

“ฮะ”

มนุษย์กลายพันธุ์ได้มองไปที่เฉินเฉียงพลางนึ่งคิดไปเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมา “ตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้ามีชื่อว่าหลูชาน หลังจากข้าตายไปแล้ว เหลือเพียงแค่โค้ดเนมเท่านั้น กองกำลังพันหน้าหมายเลข 41”

“เรียนนายท่าน นับแต่ข้าเข้าร่วมกองกำลังพันหน้า ไม่เคยมีผู้ใดถามชื่อข้าเลยสักครั้ง”

หลังจากพูดจบ หลูชานแสดงท่าทางออกมาราวกับกำลังดีใจ

“ก็จริง เอ้อ หลูชาน ข้าขอเป็นเจ้านะ”

“อะ” หลูชานได้หันมามองเฉินเฉียงด้วยความสับสน และในตอนนี้เขาเห็นเฉินเฉียงมีรูปลักษณ์ไม่ได้ต่างไปจากเขาแม้แต่น้อย

“ไอ๊หยา…นายท่าน ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่าท่านเองก็มาจากกองกำลังพันหน้า ข้าต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท ข้าไม่คิดเลยจริงๆว่านอกจากข้าแล้วยังมีคนอื่นรอดอยู่อีก นี่มันช่างยอดเยี่ยมนัก”

“ช่ายยยย ยอดเยี่ยมมากมายเลยทีเดียว และในเมื่อข้าเองในตอนนี้กลายเป็นเจ้า เจ้าก็คงไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสิเนอะ”

ทันทีที่สิ้นเสียง เฉินเฉียงได้ทำการหมุนตัวสะบั้นดาบลงไปยังปีกทั้งสี่ข้าง ตามไปด้วยการลงดาบที่เคลือบพลังงานภายในเอาไว้อีกสี่ครั้ง ทำให้นอกจากปีกแล้ว ก่อนที่หลูชานจะได้ตั้งตัว ร่างกายของเขาก็ได้กลายเป็นชิ้นๆ

เมื่อซากล่างของหลูชานเริ่มที่จะร่วงหล่น เฉินเฉียงก็ได้คว้าจับไปที่ตัวบอกตำแหน่งของหลูชาน ก่อนที่จะนำมาใส่ข้อมือของตน

หลังจากลองจิ้มเล่นดูอยู่ที่กลางท้องฟ้าพักหนึ่ง เฉินเฉียงก็ต้องประหลาดใจไม่น้อยเมื่อพบว่าตัวบอกตำแหน่งของมนุษย์กลายพันธุ์นั้นยังดีกว่าของผอ.เฉียนที่ขายให้เขาซะอีก

แถมหลูชานนั้นยังเป็นเพียงนักรับกลายพันธุ์ระดับเหนือมนุษย์ขั้นกลางเพียงเท่านั้น

และด้วยตัวบอกตำแหน่งนี้ เฉินเฉียงก็จะรู้ทางกลับบ้านได้ไม่ยากเย็น

เท่าที่ดูจากตัวบอกตำแหน่งในกำไลข้อมือนี้แล้ว หากเขาต้องการจะกลับไปยังที่ราบภาคกลางตรงอ่าวจันทร์เสียว เขาต้องใช้เวลาบินไปเพียงไม่ถึงเดือน

ในตอนนี้เมื่อได้เห็นป้ายบอกทางกลับบ้านแล้ว แต่ให้จากมานานถึงครึ่งปี เขาก็ยังคิดจะกลับไปอยู่ดี

เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงเตรียมที่จะกลับบ้าน

“เฟี้ยวว…”

ในขณะที่เฉินเฉียงกำลังจะเตรียมกลับที่ราบภาคกลางนั้น เสียงเสียดแหลมก็ได้ดังเข้าหูเขามาแต่ไกล เมื่อเขาดูใกล้ๆก็เห็นว่าเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ระดับนายพลทักษะพิเศษสิบกว่าคนพุ่งตรงมาที่เขาด้วยความเร็วสูง

ดูเหมือนว่าในตอนนี้สำหรับเขาแล้วคงจะช้าเกินที่จะหนี แต่ให้เขาดำดิ่งลงไปใต้ทะเลตอนนี้ก็ไม่น่าจะหลบพ้นการติดตามของพวกมันอย่างแน่นอน ใครจะไปรู้ พวกมนุษย์กลายพันธุ์เองก็อาจจะมีพวกที่ควบคุมน้ำได้แบบเขาด้วยเหมือนกัน

เพียงไม่ถึงสิบวินาทีดี มนุษย์กลายพันธุ์ระดับนายพลทักษะพิเศษก็ได้มาอยู่ตรงหน้าของเฉินเฉียง

“หึ นี่เจ้ามาจากกองกำลังไหน ทำไมเจ้าไม่รีบกลับไปที่เกาะเทียนลี่ล่ะ”

ผู้นำของกลุ่มนายพลทักษะพิเศษเหล่านี้ก็ได้ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

เฉินเฉียงเองที่ในตอนนี้อยู่ในรูปโฉมของหลูชานก็ได้ตอบออกมาด้วยท่าทีเกรงกลัว “นายท่าน ข้า สี่สิบเอ็ด จากการกำลังพันหน้า ข้าหลบหนีมาจากฮัวจ้งและวางแผนที่จะกลับไปรายงานผลการรบกับท่านราชาสวรรค์”

“กองกำลังพันหน้าเหรอ แล้วกัปตันของเจ้าล่ะ ทำไมเจ้าถึงมาคนเดียว”

“เรียนนายท่าน กองกำลังพันหน้าของข้าตายหมดแล้ว เหลือข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”

“อ้อ งั้นก็หมายความว่าการศึกจบแล้วสินะ….”

นายพลทักษะพิเศษได้ขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดออกมา “เอาล่ะ งั้นเจ้ากลับไปกับข้าในตอนนี้แล้วค่อยไปรายงานกับราชาสวรรค์ด้วยตัวเอง”

ภายใต้การจ้องมองโดยเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ที่นี่ ถึงแม้หัวหน้ากลุ่มเท่านั้นที่มีระดับนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงเท่านั้น แต่หากต้องสู้กันล่ะก็ยังไงซะเขาก็ยากที่จะชนะได้ เฉินเฉียงจึงไม่มีทางเลือกและทำได้เพียงบินตามไปที่เกาะเทียนลี่เพียงเท่านั้น

เกาะเทียนลี่แห่งนี้มีขนาดพื้นที่เป็นทรงกลมอยู่ที่ประมาณยี่สิบตารางกิโลเมตร และแบ่งออกเป็นส่วนๆนับสิบส่วน

เฉินเฉียงได้ตามมนุษย์กลายพันธุ์ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มไปยังใจกลางเกาะ ภายในตึกสูงหลังหนึ่ง

ทั่วทั้งตึกสูงนี้ทำจากวัสดุพิเศษที่ทำจากธาตุไฟ มันดูราวกับมีพลังอย่างน่าประหลาด เมื่อเทียบกับตึกจอมพลเหมันต์จันทราแล้วตึกนี้น่าดูแล้วน่าดึงดูดกว่าอย่างน่าเหลือเชื่อ

ในส่วนลึกของตึกนั้น เฉินเฉียงเห็นร่างสีดำที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเก้าอี้ที่มีหน้ากว้าง ร่างนี้มีหมอกดำปกคลุมอยู่ทั่วตัว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า จะเรียกว่ามีชั้นหมอกดำปกคลุมเลยก็ว่าได้ นี่ทำให้เขาเองไม่อาจที่จะเห็นหน้าของคนคนนี้ได้แม้แต่น้อย

ผู้นำกลุ่มนายพลทักษะพิเศษได้เดินนำเฉินเฉียงเข้าไปห่างจากร่างสีดำนี้ประมาณสักสิบกว่าเมตร และนายพลทักษะพิเศษคนนี้ก็ได้พูดออกมาด้วยความเคารพ “ขอรายงานท่านราชาสวรรค์ ในระหว่างที่ข้ากำลังลาดตระเวนอยู่ที่ด้านนอกเกาะเทียนลี่ ข้าได้พบกับคนของกองกำลังพันหน้าที่ถูกส่งไปสู้รบที่ตึกจอมพลฮัวจ้ง เจ้านี่พูดออกมาว่ามีเรื่องสำคัญต้องรายงาน ข้าจึงนำมันมาพบท่านด้วยตัวเอง”

“โอ้” ร่างสีดำได้ส่งเสียงต่ำออกมา “เจ้าเป็นสมาชิกกองกำลังพันหน้าสินะ แล้วผลการรบล่ะ”

เฉินเฉียงได้ทำการสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความเคารพ “รายงานท่านราชาสวรรค์ สถานการณ์ที่ตึกจอมพลฮัวจ้งนั้นเลวร้ายมาก กองกำลังพันหน้านอกจากข้าแล้วล้วนตกตาย ตัวข้าที่หลุดรอดออกมาได้จึงมาที่นี่เพื่อร้องขอการช่วยเหลือ ได้โปรด ส่งกองกำลังไปสนับสนุนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”

“นี่เจ้ากล้าดียังไง การจะส่งกำลังสนับสนุนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านราชาสวรรค์ ทหารชั้นต่ำอย่างเจ้ามีสิทธิอะไรมาตัดสินเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เมื่อได้ยินสิ่งที่นายพลทักษะพิเศษผู้นี้ตะคอกออกมานั้นทำให้เฉินเฉียงมีใบหน้าที่โง่งมในทันที นี่เขาพูดอะไรผิดไปกันเนี่ย

ในขณะที่เฉินเฉียงเองกำลังจะเริ่มเสียอาการอยู่นั้น ร่างสีดำในชุดเสื้อคลุมสีดำสนิทได้ยกมือห้ามปรามก่อนที่จะพูดออกมา “ไม่เป็นไร ในเมื่อสถานการณ์ที่ฮัวจ้งนั้นไม่ดีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องส่งใครไปเพิ่ม ยิ่งไปกว่านั้น เจ้า ในฐานะกองกำลังพันหน้าที่เหลือรอด ข้า ราชาผู้นี้มีบางสิ่งที่จะคุยกับเจ้า ตามข้ามา”

หลังจากพูดจบ ราชาสวรรค์ก็ได้ยกมือขึ้นเรียกเขาให้ตามไป เฉินเฉียงในตอนนี้ได้แต่ตัวให้กล้าเข้าไว้และตามไปแต่โดยดี

ในห้องข้อมูลที่ด้านหลังตึก ราชาสวรรค์ได้หยิบหนังสือเล็กๆจากชั้นหนังสือออกมา “มานี่ รับสิ่งนี้ไปและจดจำรายละเอียดข้างในให้ดี แล้วข้าจะบอกในสิ่งที่เจ้าต้องทำให้ฟัง”