บทที่ 99 ข้าพเจ้าปิดปากดั่งขวด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 99 ข้าพเจ้าปิดปากดั่งขวด
ต้องบอกว่า เจ้าเด็กฉินอวิ๋นตี๋นี่ทำให้เสิ่นเทียนสนใจ

โดยเฉพาะวงรัศมีสีแดงวงใหญ่ขอบทองนั่น ปรากฏภาพโชคลิขิตเลือนราง ต้องไม่ธรรมดาแน่

ตอนนี้บนหัวเสิ่นเทียนยังมีเพียงวงรัศมีสีเขียวอ่อนๆ แต่ต้องรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ความรู้สึกปลอดภัยต่ำยิ่ง

ดังนั้นตอนนี้สำหรับเสิ่นเทียนแล้ว การเพิ่มโชควาสนาให้เป็นสีเขียวกว่าเดิมให้เร็วที่สุดเป็นเรื่องสำคัญมาก และเจ้าฉินอวิ๋นตี๋นี่ก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเขามากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

……

ความคิดในใจเสิ่นเทียนไม่มั่นคง ตอนนี้เรือเหาะเทพสวรรค์เข้ามาในโลกเล็กแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการแล้ว ทันใดนั้นมีพลังวิญญาณมหาศาลถาโถมเข้ามา ความรู้สึกนี้ทำให้คนลุ่มหลงอย่างยิ่ง

ก่อนจะเห็นโลกเล็กแห่งนี้กว้างใหญ่ยิ่ง ยอดเขาวิญญาณแต่ละลูกสูงเสียดเมฆ

ระหว่างยอดเขาวิญญาณมีแม่น้ำเล็กไหลหลายสาย ฐานบัวและจอกแหนลอยอยู่บนแม่น้ำ มีลูกปลากระโดดขึ้นบางครั้ง

นั่นคือปลาวิญญาณที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลี้ยงไว้ มีสายเลือดปลามังกรเจือจาง ถือว่าเป็นหนึ่งในปลาสวยงามระดับสุดยอดของแดนบูรพา

ลูกปลานั้นเดิมทีคึกคักมีความสุขอยู่ในแม่น้ำ จู่ๆ ก็ชำเลืองตามองเห็นร่างคนหนึ่งบนเรือ ปลาวิญญาณนั้นปราดเปรียวขึ้นมาทันที มันมุดเข้าไปในแม่น้ำ ไม่กล้าโผล่หัวมาอีก

เรือเหาะแล่นผ่านหมู่ยอดเขาวิญญาณ ก่อนจะเห็นแสงทองลอยขึ้นบนยอดเขาวิญญาณ ยอดเขาวิญญาณบางลูกมีกระเรียนเซียนบินขึ้น บางยอดเขาวิญญาณมีปราณกระบี่ตัดสลับกัน

แต่ทุกยอดเขาจะแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณเปี่ยมล้น ดอกไม้มหัศจรรย์พืชประหลาดมากมายหลากหลายจนชมไม่รู้จบ

แต่เมื่อเรือเหาะแล่นผ่านยอดเขาวิญญาณแต่ละลูก บนยอดเขาวิญญาณทุกลูกจะมีค่ายกลคุ้มกันภูเขาโผล่มา สายฟ้าสีสันต่างๆ ส่งเสียงดังซ่าๆ บนผิวนอกค่ายกล ดูยิ่งใหญ่อลังการ

ส่วนกระเรียนเซียนที่เพิ่งบินขึ้นบนยอดเขาวิญญาณก็บินลงทันที

ดำมุดเข้าไปในค่ายกลคุ้มกันภูเขา

…….

จางอวิ๋นซียืนอยู่บนหัวเรือ แนะนำชื่อยอดเขาวิญญาณพวกนี้ให้ทุกคนฟัง

“ในโลกเล็กเทพสวรรค์ของเรามียอดเขาวิญญาณทั้งหมดสามสิบหกลูก มีเหมืองแร่ทุกลูก ในยอดเขาวิญญาณสามสิบหกลูกมียอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หนึ่งลูก ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์หนึ่งลูกและยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์หนึ่งลูก

นอกจากนี้ยังมียอดเขาคุมเหมืองแร่อีกแปดลูก บนยอดเขาคุมเหมืองแร่ทุกลูกจะมีผู้แข็งแกร่งระดับหลอมรวมเทพหนึ่งท่านรับศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้

ยอดเขาวิญญาณสิบเอ็ดลูกนี้จะต้องเป็นศิษย์ฝ่ายในเท่านั้นถึงจะไปเยือนได้ แต่นอกจากนี้ยังมียอดเขาวิญญาณอีกยี่สิบสี่ลูก”

สยงเหมิ่งอึ้งไปเล็กน้อย “ไม่ ไม่ใช่สิ! ข้าคำนวณก่อน สามสิบหกลบสิบเอ็ด ยังมีอีกยี่สิบห้าลูก!”

จางอวิ๋นซีพูดด้วยความจนปัญญา “มีเขาวิญญาณลูกหนึ่งถูกปิดผนึกฟื้นฟูเพราะเสียพลังงานเหมืองแร่มากไป ส่วนยอดเขาวิญญาณอีกยี่สิบสี่ลูกเป็นที่พำนักฝึกบำเพ็ญของผู้อาวุโสสูงสุดบางส่วนของฝ่ายเรา

แม้พวกเจ้าจะเป็นศิษย์ฝ่ายในก็ห้ามเข้าไปรบกวนโดยพลการเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎของสำนัก เข้าใจหรือไม่”

ทุกคนพยักหน้าซื่อๆ ตอนนี้เองเรือเหาะเทพสวรรค์ค่อยๆ ลงจอดบนที่กว้างโล่งบนเส้นที่ขีดไว้แล้ว

ศิษย์เครื่องแบบแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หลายคนฝืนใจมายืนรับเรือเหาะอยู่ข้างๆ

นักพรตชราเอ่ยอย่างเย็นชา “ครั้งนี้ข้าขับเรือเหาะกลับมาแล้ว ตรวจรับด้วย!”

เอ่ยจบ นักพรตชราก็กระโดดลงจากเรือเหาะ “เสิ่นเทียน อาจารย์ลุงจะพาเจ้าไปพบเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์”

เสิ่นเทียนมองจางอวิ๋นซี เห็นนางเองก็พยักหน้าจึงตามหลังนักพรตชราไปเงียบๆ

……

นักพรตชรากับเสิ่นเทียนเพิ่งเดินมาได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงศิษย์ที่มาตรวจรับเรือเหาะร้องตกใจ

จางอวิ๋นซีถอนหายใจ มองคลังศิลาวิญญาณของเรือเหาะก่อนจะแอบคิดในใจว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ ด้วย คลังศิลาวิญญาณที่ตอนแรกบรรจุศิลาวิญญาณไว้เต็มหายเกลี้ยง

“ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนบินเราเคยตรวจแล้วจริงๆ นะขอรับ”

เห็นศิษย์ที่มาตรวจรับอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาแล้ว จางอวิ๋นซีก็ถอนหายใจ “ข้าเข้าใจ รบกวนศิษย์น้องทุกท่านเติมคลังศิลาวิญญาณให้เต็มอีกที ข้าจะอธิบายกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เอง”

เอ่ยจบ จางอวิ๋นซีก็กลายเป็นแสงสีเงินบินไปยังยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

เมื่อเห็นนักพรตชรากับจางอวิ๋นซีตามกันไปแล้ว พวกเถ้าแก่ซ่งมองหน้ากัน แล้วพวกข้าจะไปที่ใดต่อ!

ตอนนี้เองมีบุรุษชุดคลุมดำแบกกระบี่ยาวเดินออกมาจากกลุ่มคน “ทุกท่านคงจะเป็นหน่ออ่อนเซียน! ข้าคือหลี่อวิ๋นเฟิงศิษย์สูงสุดของยอดเขาโอฬาร บิดานามหลี่ชิงเหอ ฉายาเจ้ากระบี่สารทวสันต์ เมื่อครู่ศิษย์พี่หญิงอวิ๋นซีส่งกระแสจิตมากำชับแล้วว่าให้ข้าจัดหาที่พักให้ทุกท่าน”

บุรุษชุดคลุมดำยิ้มอ่อนโยน “ทุกท่านตามข้ามาเถอะ!”

…….

ขณะเอ่ยอยู่นั้น หลี่อวิ๋นเฟิงพาพวกกุ้ยกงกงมุ่งหน้าไปยังที่พักของลูกศิษย์ฝ่ายใน

เดินไปพลางปากยังแนะนำความสัมพันธ์ระหว่างยอดเขาใหญ่ต่างๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดูเป็นมิตรมาก

“ทุกท่านดู ยอดเขาวิญญาณสีแดงดั่งเปลวไฟที่ปลูกต้นเฟิงวิญญาณไว้เต็มไปหมดนั่นก็คือยอดเขาบัวแดงของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวแดง

ทุกท่านดูนั่นอีก ยอดเขาที่เปล่งแสงสีทองทั้งลูกเหมือนกับภูเขาทองคำทางตะวันตก นั่นคือยอดเขาบัวทองคำของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ

แล้วยังมียอดเขาวิญญาณนั้นทางเหนือ มันถูกหิมะปกคลุมทั้งปีเหมือนภูเขาหิมะ นั่นคือยอดเขาบัวขาวของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว

ในเก้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ของฝ่ายเรา อาจารย์อาบัวขาวอารมณ์ดีที่สุด ปกติจะบรรยายให้ลูกศิษย์ฟังบ่อยๆ อาจารย์อาบัวแดงอารมณ์ฉุนเฉียว ห้ามล่วงเกินเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเกรงว่าคงลงโทษไม่เบาแน่นอน

และต้องระวังอาจารย์อาหญิงบัวทองคำ นางฝึกฝนวิชามหาเสน่ห์ลึกล้ำเป็นพิเศษ ห้ามมองตรงๆ เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นหากพวกเจ้าเกิดสติปัญญาลุ่มหลง จะขายหน้าต่อหน้าทุกคนกัน อย่าหาว่าศิษย์พี่ไม่เตือนทุกคนก็แล้วกัน!”

ต้องบอกว่าแม้หลี่อวิ๋นเฟิงจะเป็นศิษย์สูงสุดในหนึ่งยอดเขาแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่กลับเป็นคนเข้าถึงค่อนข้างง่าย

ทุกคนรู้สึกถึงความอบอุ่น เวลานี้ก็นึกถึงคำพูดที่นักพรตชราเคยพูดอย่างจริงใจไว้

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นครอบครัวใหญ่ที่รักใคร่กลมเกลียวกัน พี่รักน้อง น้องเคารพพี่

ระหว่างพูดคุยกันนั้น ทุกคนก็มาถึงที่พักศิษย์ฝ่ายใน ก่อนจะแยกย้ายกันจัดแจง

หลี่อวิ๋นเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “สรุปจากนี้หากทุกคนไม่เข้าใจอะไรก็มาหาข้าที่ยอดเขาโอฬารได้ตลอด อย่างอื่นไม่ว่า แต่ศิษย์พี่รู้ทุกเรื่องของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์”

…….

เมื่อสัมผัสได้ถึงความจริงใจของหลี่อวิ๋นเฟิงแล้ว สยงเหมิ่งซึ้งใจจนกระบอกตาร้อนผ่าว “ศิษย์พี่ท่านดีจริงๆ จากนี้หากศิษย์พี่มีอะไรจะใช้ข้า ก็บอกมาได้เลย”

หลี่อวิ๋นเฟิงยิ้มแล้ว “อ้อ ศิษย์น้องท่านนี้พูดจริงรึ”

สยงเหมิ่งตบๆ หน้าอก “ข้าไม่โกหกอยู่แล้ว”

หลี่อวิ๋นเฟิงกระแอมไอเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นศิษย์พี่ก็มีเรื่องอะไรนิดหน่อยจริงๆ หวังว่าศิษย์น้องจะช่วยได้”

หลี่อวิ๋นเฟิงจ้องทุกคนด้วยประกายแววตาแปลกๆ “แซ่หลี่ได้ยินมาว่าเหมือนจะเจอบุตรศักดิ์สิทธิ์จากข้างนอกแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วรึ ได้ยินท่านพ่อบอกว่าเป็นสหายที่ชื่อว่าเสิ่นเทียนหาจี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์มาคืนแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ มีบุญคุณยิ่งใหญ่กับฝ่ายเราเลย

ดังนั้นตามบัญญัติบรรพบุรุษแล้วเขาจึงได้รับฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ทั้งยังได้ตบแต่งศิษย์พี่หญิงอวิ๋นซีเป็นภรรยาอีก”

กุ้ยกงกงมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อย อดเกิดความระแวดระวังขึ้นในใจมิได้ “ศิษย์พี่อยากรู้เรื่องพวกนี้ไปเพื่อเหตุใดกัน”

หลี่อวิ๋นเฟิงรีบยิ้ม “ทุกท่านไม่ต้องกังวล แซ่หลี่ไม่ได้มีเจตนาร้าย แค่แปลกใจเฉยๆ เท่านั้น ศิษย์พี่เสิ่นเทียนหาจี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์กลับมาได้อย่างไร เขาอายุเท่าไร พัฒนากับศิษย์พี่หญิงไปถึงขั้นใดแล้ว

แซ่หลี่ได้รับขนานนามว่าผู้รอบรู้เทพสวรรค์ รู้ความลับสุดยอดทุกอย่างของฝ่ายเรา แต่ปิดปากดั่งขวดมาตลอด ขอให้ทุกคนไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่บอกบุคคลที่สามเป็นอันขาด”

ใบหน้าหลี่อวิ๋นเฟิงเต็มไปด้วยความกระหาย “ดังนั้น บอกศิษย์พี่มาเถอะ!”

……………………………..….