บทที่ 127 เข้าไปใกล้

ไหปีศาจ

บทที่ 127 เข้าไปใกล้

“นั่นมัน … ” หยู่เฮาตกตะลึง

กลุ่มแสงขนาดเล็ก กำลังลอยขึ้นสู่อากาศเหมือนกับฟองสบู่

ภูตทะเลทรายปกป้องมันไว้ข้างหลังของมัน โดยไม่ขยับเขยื้อน

ลั่วอู๋ใช้ไหปีศาจเพื่อตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มแสงขนาดเล็กและเขาก็พูดขึ้น “ทะเลทรายได้ถือกำเนิดมาเป็นเวลานานกว่าร้อยปี ก่อนที่ภูตทะเลทรายจะถือกำเนิดขึ้น ใครจะคิดว่าเรานั้นจะโชคดีมากพอที่จะเป็นสักขีพยานของกระบวนการถือกำเนิดของภูตทะเลทรายกัน”

เผ่าพันธุ์: ภูตทะเลทราย (ไม่ปรากฏ)

ระดับ: ทอง

มิติ: ระดับทองแดง มิติ 1

ทักษะ: สู่ธาตุ (ระดับ S)

พื้นเพ: สิ่งมีชีวิตที่เกิดในทะเลทราย มีความสามารถในการควบคุมทั้งผืนทรายและดิน

หยู่เฮาพึมพำ “นั่นมันภูตทะเลทรายที่เพิ่งเกิดงั้นหรือ?”

“ใช่แล้วล่ะ เพราะว่ามันเห็นว่าพวกเราเข้ามา มันจึงเลือกที่จะไม่ไปหนีไหน แต่จะอยู่เพื่อปกป้องสิ่งนั้นไว้” ลั่วอู๋พูดอย่างช้า ๆ

เพื่อปกป้องภูตทะเลทรายที่เพิ่งเกิดไว้ ภูตทะเลทรายตัวนี้จึงเลือกที่จะอยู่กับที่ไม่ไปไหน

มิฉะนั้น ด้วยความสามารถของมัน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกจับ

“หืม …”

ภูตทะเลทรายนั่งลงช้า ๆ

ดูเหมือนว่ามันกำลังเหนื่อย ผืนทรายเสียดสีกัน ที่ฟังดูคลุมเครือ ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังระบายอารมณ์อยู่

“เช่นเดียวกับ … ”

ฝูงชนประหลาดใจ

มันกำลังพูด

“มันกำลังทำเสียง โดยการถูทรายเพื่อเลียนแบบภาษามนุษย์” ลั่วอู๋อธิบาย

สัตว์วิญญาณระดับทองนั้น มีภูมิปัญญาระดับสูงอยู่แล้ว

คำพูดของมนุษย์โดยทั่วไปแล้ว มันสามารถเข้าใจได้

อันที่จริง มีสัตว์วิญญาณบางตัวที่สามารถส่งเสียงด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง เพื่อพูดคุยกับมนุษย์ โดยไม่จำเป็นต้องทำพันธสัญญากัน

เขาไม่คิดว่าภูตทะเลทรายตัวนี้จะทำได้

ลั่วอู๋ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่า มันต้องการเพื่อน”

มันรู้สึกเบื่อ

ตั้งแต่เกิดมันก็อยู่เพียงตัวคนเดียว

เพราะว่าในทะเลทรายจะมีภูตทะเลทรายถือกำเนิดขึ้นในทุก ๆ ร้อยปี

แต่มนุษย์กับเข้ามาอาศัยอยู่ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่แห่งนี้ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่จะทรงพลังที่สุด มันก็ไม่สามารถออกไปในทะเลทรายแห่งนี้ได้ เพราะมันได้รับการปกป้องจากทะเลทราย

แต่ความเหงาไม่ได้ทำลายพลังภายนอก

มันค่อย ๆ ไต่ขึ้นตามร่างกาย เจาะผ่านรูขุมขนเข้าไปยังเส้นเลือดและไขกระดูก เพื่อกัดกร่อนทุกสิ่ง

มันต้องการหาสหาย

รสชาติของความเหงานั้นยากลำบาก

มันบินขึ้นไปทั่วท้องฟ้าท่ามกลางผืนทราย เพื่อตามหามัน

10 ปี, 20 ปี, 30 ปี

เวลาผ่านไป

มันก็ไม่พบ

มันพยายามเป็นมิตรกับสัตว์วิญญาณสายพันธุ์อื่นตลอดทาง แต่ก็ล้มเหลวโดยไม่มีข้อยกเว้น ราวกับว่าเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไม่สามารถเป็นมิตรกันได้

มันเหนื่อยมาก ในที่สุดมันจึงกลับไปยังจุดเริ่มต้น นั่นคือที่ที่มันเกิดมา ในขณะนั้นมันรู้สึกประหลาดใจ หลังพบว่ามีชีวิตขนาดเล็ก กำลังถือกำเนิดขึ้นมา

ดังนั้น มันจึงกลายเป็นผู้พิทักษ์ที่แห่งนี้

ปกป้องชีวิตขนาดเล็กนี้เอาไว้

ขณะนั้น กลุ่มของแสงดูเหมือนจะเริ่มฟักตัว แสงสีเหลืองอร่าม ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นและสบายอย่างหาที่เปรียบมิได้

ภูตทะเลทรายมองไปยังแสง และก็แสดงความสุขออกมา

ฝูงชนมองไปที่มัน

ฉูจงฉวนนั้นตื่นเต้นมาก เขาภาวนาอยู่ในใจตลอดเวลาว่า ได้โปรดเถอะ ช่วยออกมาเป็นสัตว์วิญญาณรูปร่างมนุษย์ที

ในที่สุด แสงก็แตกออกเหมือนกับเปลือกไข่ที่กำลังฟักตัว

แสงเปล่งเป็นสีเขียว

มันเป็นใบกระบองเพชรอ่อน, ดั่งดอกบัวที่พันห่อกันเหนียวแน่น ใบกระบองเพชรนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลมขนาดเล็ก

จากนั้น ใบกระบองเพชรก็เปิดออกเล็กน้อย แสดงรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา

มันเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือ ที่กำลังมองโลกใหม่ด้วยความสงสัย

ฉูจงฉวนหายใจเข้าลึก ๆ

มันเป็นตามที่หวัง

นั่นคือภูตทะเลทรายที่เขาเห็นจากหนังสือโบราณ แต่เธอยังเด็กมากและต้องใช้เวลานานในการเติบโต

อย่างไรก็ตามภูตทะเลทรายแสดงความรู้สึกผิดหวังอย่างมาก มันนั่งนิ่งราวกับหัวใจจะแตกสลาย

ทำไมถึงต้องเป็นมนุษย์

ทำไมถึงไม่เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกับมัน

หยู่เฮาเดินเข้ามาและเกาหัว “เฮ้! ถ้าเจ้าต้องการเพื่อนฝูง เจ้าก็ตามข้ามาสิ”

ภูตทะเลทรายมองไปที่จุดเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเขา

ทรายเสียดสีกัน จนเกิดเสียง “ไม่!”

“ทำไมล่ะ?” หยู่เฮางงงวย

“ข้ากับเจ้านั้น ไม่เหมือนกัน”

หยู่เฮายิ้มกว้าง และตบไปที่ขาของภูตทะเลทราย “แน่นอนว่าเราแตกต่างกัน ถ้าข้าไม่มีขวาน ข้าก็เอาชนะเจ้าไม่ได้ แต่มันจะหยุดลงถ้าเราเป็นพันธมิตรกัน”

ภูตทะเลทรายกำลังพ่ายแพ้

มันไม่เหมือนกับการเป็นสหาย

นั่นคือข้อสรุป ที่มันค้นหาสหายมานานนับหลายปี

มันรู้สึกแย่

มันพยายามเป็นเพื่อนกับสัตว์วิญญาณตัวอื่น ๆ แต่ลึกเข้าไปในป่าหวงชา นั่นเป็นสถานที่แห่งคำสาป สัตว์วิญญาณส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่กันอย่างไม่ปกติ

ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์วิญญาณที่มีฝูงของตัวเอง มันก็ไม่เปิดกว้าง นับประสาอะไรกับต่างเผ่าพันธุ์

มันจึงสร้างความเข้าใจ

พวกที่แตกต่างกัน ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้

หยู่เฮาชี้ไปที่เสือดาวหินของเขาและพูดว่า “เจ้านั่นก็แตกต่างกับข้า แต่เราก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

ร่างกายของเสือดาวหิน ที่ดูเหมือนว่าถูกทำมาจากหิน มันเหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อ แต่มันยังคงสัมผัสหยู่เฮาได้อย่างใกล้ชิด

ภูตทะเลทรายเงียบด้วยความลังเล

“ไม่ต้องคิดมาก” หยู่เฮาตบหน้าอกของเขา “มากับข้าซะ สัตว์วิญญาณตัวใหม่ของเผ่าเรานั้นสูงและแข็งแกร่งเช่นเดียวกับเจ้า พวกมันเป็นมิตร เจ้าสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ มันดีกว่าอยู่ที่สถานที่แห่งนี้มาก ต่อให้เรายังไม่ทำพันธสัญญากัน ข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมเผ่าของเราก็ได้นะ? ถ้าเกิดว่าข้าโกหก ข้าจะยอมถูกสับออกเป็นสองท่อนด้วยขวานฟ้า”

หยู่เฮาสาบานกับภูตทราย

ทั้งคู่หยุดอยู่เป็นระยะเวลานาน

“ได้…”

ภูตทะเลทรายตอบตกลง

ทุกคนตกตะลึง

ไม่คิดว่าหยู่เฮาผู้ที่เคยต่อสู้กับมันมาก่อนอย่างดุเดือดไม่ยอมแพ้กัน จะมาตกลงกันง่ายๆด้วยการพูดคุยอย่างสันติ

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พลังวิญญาณคนนี้ค่อนข้างสอดคล้องกับมัน เขาเผยให้เห็นถึงความบ้าบิ่นและไร้เหตุผล

ในอีกด้านหนึ่ง วิธีการของฉูจงฉวนนั้นกลับไม่เหมือนกัน

ฉูจงฉวนจ้องมองไปที่ภูตตัวเล็กด้วยความรักและพูดเบา ๆ “สวัสดีเจ้าหนู”

ดวงตาของภูตทะเลทรายตัวเล็กนั้นเป็นสีดำ เธอค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจากใบกระบองเพชร เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย

เพียงแค่มองเห็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ แต่ให้เธอก็รู้สึกถึงความใกล้ชิดโดยสัญชาตญาณ

เธอกำลังอยากรู้อยากเห็น

“ปิ๊ง ๆ!” ภูตทะเลทรายตัวเล็กทำเสียงแปลก ๆ

ฉูจงฉวนค่อย ๆ อุ้มเธอขึ้น หนามบนใบกระบองเพชรแทงเข้าไปที่มือของเขา มีเลือดไหลออกมาอย่างช้า ๆ แต่ฉูจงฉวนกลับไม่รู้สึกตัว

“มากับข้าเถอะ เจ้าหญิงตัวน้อย” ฉูจงฉวนยิ้มด้วยความอ่อนโยน

ภูตทะเลทรายตัวน้อย ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ จนทำให้เธอเริ่มใจอ่อนลง

ขณะเดียวกัน เธอยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังถูกหนามแทงด้วยหนามของเธอเอง เธอดึงหนามกลับด้วยความตื่นตระหนก และมองคนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง

ดวงตาของฉูจงฉวนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

ภูตทะเลทรายตัวเล็กพยักหน้าโดยไม่ตั้งใจ