ถ้าให้อวี๋หมิงหลางบรรยายความรู้สึกถึงสงครามอันเร่าร้อนที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เขาจะขอพูดถึงตัวเองแบบนี้ โลกนี้ย่อมมีความยุติธรรม ทำอะไรไปย่อมได้ผลตอบแทน พูดได้ไม่สู้ทำให้ได้ ถ้าจะทำก็ทำให้ดีที่สุด มีความสุขจังโว้ย
ไม่รู้ว่าราชินีของเขาทำไมอยู่ๆก็เมตตาประทานพรแบบนี้ เขาอ้อนวอนมาตั้งแต่เช้าถูกเธอด่าไปไม่รู้กี่รอบจนมาตอนนี้ที่เธอพุ่งเข้ามากอดเองแล้วก็ขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน ระหว่างนั้นฮอร์โมนในร่างกายทำอะไรไปบ้างเขาไม่รู้ แต่เขารู้แค่ว่าราชินีต้องการเขา เขาก็จะรับใช้ให้ถึงที่สุด
ถ้าไม่ติดว่าต้องเลี้ยงข้าวตอนเย็นเขาก็ไม่อยากจะลุกขึ้น จะใช้โอกาสที่ลูกเชี่ยนกำลังอารมณ์ดีได้ที่จัดหนักจนถึงเช้าไปเลย
ตอนเย็นเสี่ยวเชี่ยนอยากเลี้ยงข้าวสองพ่อลูกตระกูลเลี่ยว ถึงแม้พ่อเลี่ยวจะบาดเจ็บแค่เล็กน้อย แต่เขาก็เสนอตัวเข้าช่วยในตอนที่เจี่ยซิ่วฟางกำลังต้องการความช่วยเหลือที่สุด ถึงจะไม่ได้เป็นฮีโร่ช่วยจนสำเร็จ แต่น้ำใจที่หาได้ยากแบบนี้ก็ควรจะขอบคุณ เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเจี่ยซิ่วฟางยังคงหวาดกลัว เลยจะถือโอกาสนี้เลี้ยงปลอบขวัญแม่ไปด้วย
สถานที่กินเลือกเป็นที่โรงแรมของพี่ชายอวี๋หมิงหลาง สองพ่อลูกมากันแล้ว
เลี่ยวฟู่กุ้ยเลิกงานแล้วถึงได้รู้ว่าพ่อถูกทำร้าย เดิมพ่อเลี่ยวไม่อยากมาเพราะเขาช่วยไม่สำเร็จก็รู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว แล้วจะมีหน้ามาให้เสี่ยวเชี่ยนเลี้ยงข้าวได้อย่างไร แต่ความรู้สึกลึกๆก็อยากใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดเจี่ยซิ่วฟาง ดังนั้นจึงพาลูกชายมาด้วย
เลี้ยงเสี่ยวเฉียงน้อยให้อิ่มแล้วนั้นก็มีข้อดีอยู่ เพราะตอนเย็นอวี๋หมิงหลางไว้หน้าเสี่ยวเชี่ยนมากๆ
เจี่ยซิ่วฟางสังเกตเห็นว่างานเลี้ยงปลอบขวัญนี้ว่าที่ลูกเขยทำได้ดีมาก คอยดูแลแขกทั้งสองคนแทนพวกเธอตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะกับพ่อเลี่ยวที่พอจะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานให้คุยอยู่บ้าง บรรยากาศจึงดูไม่อึดอัด
ปริญญาโทใบที่สองของอวี๋หมิงหลางเป็นด้านกฎหมาย จึงพูดคุยภาษาเดียวกันกับพ่อเลี่ยว เป็นครั้งแรกที่เจี่ยซิ่วฟางได้รู้ว่าคนทำงานในศาลก็แบ่งเป็นหลายขั้น ที่แท้เพื่อนบ้านที่เคยถกกับเธอเรื่องซื้อหัวไชเท้าที่ไหนถูกกว่าเป็นคนที่เก่งมาก
ในทางกลับกันเจ้าภาพเฉินเสี่ยวเชี่ยนที่ควรจะพูดคุยกับแขกกลับนิ่งเงียบตลอดงาน นั่งหาวไปหลายรอบ คนอื่นพูดกันเรื่องประเด็นร้อนอะไรก็ถามคำตอบคำ คล้ายกับคนยังไม่ตื่นดี
เจี่ยซิ่วฟางไม่แน่ใจว่าลูกสาวไม่พอใจในตัวพ่อเลี่ยวหรือว่าไม่สบายกันแน่ จึงฉวยโอกาสตอนที่อวี๋หมิงหลางออกไปเข้าห้องน้ำกับพ่อเลี่ยวถามเสี่ยวเชี่ยน
“เชี่ยนเอ๋อเป็นอะไรไป?”
ยังจะเป็นอะไรได้ ก็ถูกอวี๋หมิงหลางสูบพลังไปหมดน่ะสิ ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนอยากหาร้านนวด บรรเทาอาการเจ็บปวด
แต่พอนึกได้ว่าบนตัวเธอมีแต่รอยจูบของหมาทหารก็เลยต้องล้มเลิกความคิดไป
“เปล่า ไม่สบายนิดหน่อย”
“น้องเสี่ยวเชี่ยน เดี๋ยวพี่ขอน้ำอุ่นให้ ไม่สบายก็อย่าดื่มน้ำผลไม้เย็นๆเลย” เลี่ยวฟู่กุ้ยพูดอย่างใส่ใจ
“ขอบคุณแต่ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนตอบอย่างมีมารยาท ตอนนี้เธอไม่ได้อคติกับเลี่ยวฟู่กุ้ยเท่าไรแล้ว
พ่อของเขาต้องมาซวยไปด้วยเพราะช่วยแม่เธอ ยังคิดว่าเขาจะดึงความคิดของท่านผู้นำมาแสดงความเห็นเสียอีก แต่ปรากฏว่าเขากลับแสดงความเป็นห่วงต้าหลงกับแม่เธอว่าขวัญเสียหรือเปล่า ตอนที่เธอกับอวี๋หมิงหลางไปถึงเห็นเขากำลังเล่นเกมกระบะทรายกับน้องชายเธออยู่
คะแนนความดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
มองดูผิวเผินเหมือนเล่นเกมธรรมดา แต่เสี่ยวเชี่ยนเป็นจิตแพทย์ เกมแบบนี้ใช้ในงานรักษาสภาพจิตใจที่มีความผิดปกติ สามารถรักษาและวินิจฉัยโรคทางจิตเวชได้หลายโรค เลี่ยวฟู่กุ้ยกำลังใช้วิธีพิเศษวินิจฉัยว่าเจี่ยซิ่วฟางกับต้าหลงขวัญเสียหรือเปล่า
อาจเพราะคำนึงถึงว่าต้าหลงเป็นเด็ก ค่อนข้างเห็นแก่หน้าตัวเอง ถ้าถามว่าตกใจหรือเปล่าจะต้องตอบว่าไม่อย่างแน่นอน การใช้กระบะทรายทดสอบเหมาะสมที่สุด คำนึงถึงสภาพจิตใจของเด็กวัยรุ่น และก็สามารถเข้าใจได้ว่ามีบาดแผลหลงเหลือในจิตใจของเขาหรือเปล่า
พอเสี่ยวเชี่ยนเห็นแบบนั้นความโกรธเกลียดที่มีต่อเลี่ยวฟู่กุ้ยเมื่อชาติก่อนก็หายไปเกินครึ่ง แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะอารมณ์ดีหลังจากได้ผ่านศึกบนเตียง เธอพบว่าในหลายชั่วโมงหลังจากที่ได้ออกศึกกับอวี๋หมิงหลางเธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เป็นการยืนยันทางอ้อมเกี่ยวกับเรื่องบนเตียง ใช่ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เลี่ยวฟู่กุ้ยถูกเสี่ยวเชี่ยนปฏิเสธก็รู้สึกอาย เสี่ยวเชี่ยนเห็นเขาทำหน้าเครียดจึงยิ้มออกมา
“ฉันดื่มน้ำเย็นเพราะคอไม่ค่อยโอเคเท่าไร ไม่ใช่เพราะไม่อยากรับน้ำใจ อย่าเครียดไปเลยนะคะ”
เป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มให้เลี่ยวฟู่กุ้ย พอยิ้มไปแบบนั้นเลี่ยวฟู่กุ้ยก็หน้าร้อนผ่าว ใบหน้าออกอาการแดงเล็กน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
อวี๋หมิงหลางยกจานผลไม้เข้ามาพอเห็นภาพนั้นเซ้นส์ของมือสไนเปอร์ก็ทำงานทันที เขาเอาจานผลไม้ที่ตั้งใจเตรียมมาให้เสี่ยวเชี่ยนดันไปที่ข้างหน้าเธอ แล้วคุยเล่นกับเลี่ยวฟู่กุ้ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แตงโมเย็นฉ่ำพอกินลงไปแล้วก็ช่วยให้คอที่ระคายเล็กน้อยอาการดีขึ้นมาก เสี่ยวเชี่ยนกินแตงโมพลางมองอวี๋หมิงหลางกับเลี่ยวฟู่กุ้ยคุยกัน เธอพบว่าอีคิวของตาทหารทึ่มของเธอจะเปลี่ยนไปแค่กับเฉพาะบุคคล
อย่างน้อยพออยู่กับคนนอกก็อีคิวสูง คุยเก่ง
“พอเสร็จเรื่องเสียวเหม่ยก็เหนื่อยมากกลับไปนอนได้สักพักเพิ่งตื่นมา ผู้หญิงคนนี้มีนิสัยประหลาดนิดหน่อยชอบกินของเย็นตอนเพิ่งตื่น เมื่อก่อนชอบตื่นมากลางดึกแอบไปกินน้ำเย็นในตู้เย็น ผมเคยถามแม่ดู แม่บอกว่ากินได้ไม่เป็นไรแต่อย่าให้เย็นมาก ไม่อย่างนั้นไม่ดีต่อร่างกาย”
คำพูดนี้ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร ดูใส่ใจ แต่รายละเอียดน่ากลัวมาก
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มแหยๆพลางมองเขาที่แสร้งทำเป็นคนดี นี่คิดจะแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของต่อหน้าเลี่ยวฟู่กุ้ยสินะ?
เลี่ยวฟู่กุ้ยเองก็เป็นถึงดอกเตอร์ ไอคิวย่อมไม่ต่ำ ฟังออกในความหมายลึกๆที่แฝงอยู่ในคำพูดของอวี๋หมิงหลาง พวกเขาเป็นคู่หมั้นกันพูดแบบนี้ก็แสดงว่าอยู่ด้วยกันนานแล้ว เขาจึงก้มหน้าดื่มชาเพื่อปกปิดความตื่นตระหนกที่ถูกอวี๋หมิงหลางมองออก
เจี่ยซิ่วฟางไม่ได้คิดลึกอะไร เธอกำลังนั่งนึกอยู่ว่าลูกสาวมีนิสัยประหลาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
อวี๋หมิงหลางพูดถูกครึ่งไม่ถูกครึ่ง
เสี่ยวเชี่ยนมีนิสัยชอบกินน้ำเย็นของเย็นก็จริง แต่ไม่ใช่ตื่นนอนมากลางดึกแล้วกิน หลังเสร็จกิจต่างหาก
ก่อนหน้านี้อวี๋หมิงหลางไม่เคยสังเกต แต่ครั้งนี้ในที่สุดทั้งสองคนก็ได้อยู่ด้วยกันข้ามคืน ครั้งแรกเสี่ยวเชี่ยนเอาผ้าปูที่นอนห่อตัวแล้วลงไปหาน้ำดื่มในตู้เย็นที่อวี๋หมิงหลางแช่ไว้นานมากแล้ว อวี๋หมิงหลางยังคิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอถีบเขาลงจากเตียงให้ไปหยิบน้ำเย็นมา แต่ในบ้านไม่มีน้ำแล้วเขาจึงใส่เสื้อผ้าออกไปซื้อน้ำเย็นให้เธอ พอดื่มเสร็จเธอก็นอนหลับสบาย เขาคิดว่าในที่สุดตัวเองก็ค้นพบนิสัยประหลาดของเธอแล้ว หลังจากเสร็จกิจเธอชอบที่จะดื่มน้ำเย็นหรือกินแตงโมเย็นๆ—เรื่องแตงโมนี่เขาใช้ความเป็นชายคิดเอาเอง
“พี่หลาง ทำไมพี่เรียกพี่ผมว่าเสียวเหม่ยล่ะ?” เฉินจื่อหลงถามในสิ่งที่เขาอยากถามมานานแล้ว เลี่ยวฟู่กุ้ยมองน้องต้าหลงอย่างขอบคุณ น้องคนนี้นี่ดีจริงๆ ช่วยชีวิตได้ทัน เขากำลังอายอยู่พอดี
“ชื่อเล่นแบบเฉพาะไง ก็เหมือนกับที่พี่หยุนฉางมีชื่อว่าฟู่กุ้ย ใช่ไหมพี่ฟู่กุ้ย?”
ฟู่กุ้ยหัวใจสลาย ฮือๆ ทำไมแม้แต่อวี๋หมิงหลางก็เป็นท่าไม้ตายฟู่กุ้ยห้าครั้งติดล่ะ?
อวี๋หมิงหลางยังไม่ทันจะได้เอาจริงก็ชนะศัตรูหัวใจอย่างง่ายดาย เขายิ้มอย่างมีชัยจนในที่สุดก็ปล่อยฟู่กุ้ยที่น่าสงสารไปแล้วตั้งใจดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแขก เรื่องบางเรื่องยังไม่ทันเริ่มก็สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งมันก็เป็นบทสรุปที่ดีที่สุด