บทที่ 135 เรื่องวุ่นยามซื้อเหล้า

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 135 เรื่องวุ่นยามซื้อเหล้า

บัณฑิตจ้าวเองก็กล่าวยิ้ม ๆ “ข้าเองร่างกายอ่อนแอ ดื่มเหล้าไม่ได้เช่นกัน……”

จางซิ่วเอ๋อไม่คิดจะปล่อยผ่าน จึงหันไปพูดกับจางชุนเถาด้วยรอยยิ้ม “ชุนเถา เจ้าไปซื้อเหล้าที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านมาให้หน่อย”

ร้านขายของชำในหมู่บ้านเป็นร้านของแม่ม่ายหลิว

ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จางซิ่วเอ๋อไม่คิดจะไปซื้อเหล้าที่นี่หรอก

วันนี้ไม่ได้ซื้อเหล้าตั้งแต่ตอนอยู่ในเมืองเพราะนางมัวแต่อยากกลับไว ๆ

ถึงแม่ม่ายหลิวจะน่ารังเกียจ แต่แค่ซื้อเหล้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่? จะผลักไสลูกค้าหรือไร?

จางชุนเถาพยักหน้าก่อนจะออกไป

นางไม่ได้ขอเงินจางซิ่วเอ๋อ เพราะนางเองมีเงินติดตัวอยู่ไม่น้อย อย่างไรเสียตอนที่จางซิ่วเอ๋อได้เงินมาจะแบ่งให้นางด้วยส่วนหนึ่ง

เรื่องนี้จางชุนเถารู้สึกผิดมาก ๆ

นางไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พี่สาวยังให้เงินนางอีก

ตอนนี้มีเรื่องต้องใช้เงิน จางชุนเถาต้องพุ่งชนสุดตัวอยู่แล้ว

บ้านแม่ม่ายหลิวอยู่ข้าง ๆ ต้นหวายฉู่ใหญ่ ตอนจางชุนเถาไปถึงมองปราดเดียวก็เห็นแม่ม่ายหลิวที่ยืนพิงต้นหวายฉู่ให้ท่าอยู่ “เอาเหล้ามาให้ข้าไหหนึ่ง”

ตอนแรกแม่ม่ายหลิวไม่เห็นจางชุนเถา จู่ ๆ โดนจางชุนเถาเรียกจึงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกลอกตาไปมาพลางยักคิ้วหลิ่วตา…..

แม่ม่ายหลิวเป็นคนแบบนี้แหละ บริหารเสน่ห์แบบนี้จนเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

จางชุนเถาเห็นอย่างนั้นต้องสะดุ้ง นึกรังเกียจในใจ แต่นางก็ไม่ได้แสดงออกมา

แม่ม่ายหลิวเห็นว่าเป็นน้องสาวของจางซิ่วเอ๋อจึงไม่พอใจขึ้นมา แต่พอคิดได้ว่านางมาซื้อเหล้า นางก็ผลักไสลูกค้าไม่ลงจริง ๆ

แม่ม่ายหลิวพาจางชุนเถาเดินเข้าไปในลานบ้าน

ที่บอกว่าเป็นร้านขายของชำ ความจริงก็แค่ที่กักตุนของที่ใช้บ่อยไว้ในบ้าน

อย่างเช่นพวกข้าวสวย เหล้า ชา และของจำพวกลูกอมเมล็ดทานตะวัน รวม ๆ แล้วมีไม่กี่อย่าง

คนในหมู่บ้านอยู่กันอย่างประหยัด ซื้อของพวกนี้ในเมืองถูกกว่าซื้อกับแม่ม่ายหลิวเสียอีก ถ้าไม่ได้รีบใช้จริง ๆ ใครจะซื้อกับแม่ม่ายหลิว?

แน่นอนว่าแม่ม่ายหลิวใช่ว่าจะขายไม่ได้เลย

อย่างพวกผู้ชายที่เข้าออกบ้านแม่ม่ายหลิวบ่อย ๆ มักจะมาโดยอ้างว่าซื้อของ

แต่อย่างไรเสียก็เปิดร้านทำการค้าขายอยู่แล้ว แม่ม่ายหลิวไม่พลาดโอกาสหาเงินหรอก

“เหล้าไหนี้รวมไหด้วย 50 เหรียญ” แม่ม่ายหลิวบอก

จางชุนเถาพูดอย่างไม่พอใจ “ท่านป้าหลิว ทำไมเหล้าของท่านแพงกว่าปกติล่ะ? ข้าได้ยินมาว่าคนอื่นซื้อในราคา 40 เหรียญนะ?”

แม่ม่ายหลิวได้ยินแล้วหน้าเสีย นางมองค้อนจางชุนเถา

นางไม่ได้โกรธเพราะจางชุนเถารู้ว่านางขายให้คนอื่นถูกกว่า

แต่จางชุนเถาเรียกนางว่าท่านป้า!

ท่านป้าบ้านเจ้าสิ!

แม่ม่ายหลิวเห็นจางชุนเถาแล้วพลันนึกไปถึงจางซิ่วเอ๋อ สีหน้าไม่สู้ดีเข้าไปใหญ่

หรือที่ท่านหมอเมิ่งชอบจางซิ่วเอ๋อเพราะจางซิ่วเอ๋อสาวกว่าตัวเอง?

แต่สภาพผอมแห้งของจางซิ่วเอ๋อ นอกจากอายุน้อยแล้วมีอะไรดีบ้าง?

แต่อายุน้อยก็ถือเป็นข้อได้เปรียบสุด ๆ แล้ว……

แม่ม่ายหลิวโดนจางชุนเถาเรียกแบบนี้ หัวใจได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก

“ 40 เหรียญ เอาเงินมา” แม่ม่ายหลิวไม่อยากเห็นจางชุนเถาแม้แต่นาทีเดียว

จางชุนเถาไม่กล้าจ่ายด้วยตำลึงเงินแล้วให้แม่ม่ายหลิวทอน จึงล้วงออกมา 40 เหรียญและยื่นให้แม่ม่ายหลิว

แม่ม่ายหลิวยื่นเหล้าให้จางชุนเถา สีหน้าแย่ยิ่งกว่าเดิม

ตอนที่จางชุนเถาหิ้วเหล้าออกมานึกบ่นในใจ

นี่ตัวเองไปล่วงเกินอะไรแม่ม่ายหลิวเหรอ? ก็เปล่านี่? หรือว่าพี่ใหญ่ล่วงเกินไว้? แต่ถึงล่วงเกินก็ไม่กลัวหรอก กลับไปถามพี่ดีกว่า นางไม่กลัวแม่ม่ายหลิว แต่ก็ต้องรู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

รอจนจางชุนเถาไปแล้ว แม่ม่ายหลิวก็หมดอารมณ์จะไปอ่อยใครใต้ต้นหวายฉู่

นางกลับเข้าไปในบ้าน หยิบกระจกสำริดเล็กใบหนึ่งขึ้นมาส่อง

ผิวของนางขาวมาก และปกติไม่ได้ใช้แรงงาน ร่างกายจึงอวบอัดทุดสัดส่วน เรียกได้ว่านูนทั้งหน้าทั้งหลัง เป็นลักษณะที่ชายในหมู่บ้านชอบ

แม่ม่ายหลิวพิจารณาตัวเองตาเยิ้ม ยิ่งดูยิ่งพอใจ

แต่พอนึกถึงคำเรียกว่าท่านป้าที่จางชุนเถาเรียกตัวเองก็อัดอั้นตันใจ

แต่ไม่นานนักแม่ม่ายหลิวก็คิดได้อีกเรื่อง หน้าเสียลงไปทันที วางกระจกลงโต๊ะดังปัง

จางชุนเถาเอาเงินจากไหนมาซื้อเหล้า?

แม่ม่ายหลิวนึกถึงที่แม่หลินเคยบอกว่าเห็นกับตาว่าท่านหมอเมิ่งให้เงินจางซิ่วเอ๋อ

คิดมาถึงตรงนี้แม่ม่ายหลิวก็จินตนาการต่อด้วยหน้าตาเคร่งเครียด

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ได้เงินนี่มาจากไหนเลย ลำพังเด็กสาวสองคนอย่างจางซิ่วเอ๋อกับจางชุนเถาถ้าไม่มีอะไรคงไม่ดื่มเหล้าหรอก?

แถมใจกว้างซื้อไปทั้งไห!

นี่มันหมายความว่าอะไร?

หมายความว่าบ้านจางซิ่วเอ๋อมีผู้ชาย!

ตอนนี้ต้องกินเหล้ากับผู้ชายอยู่แน่ ๆ!

แต่ผู้ชายคนนั้นคือใครล่ะ?

คำตอบหนึ่งพุ่งออกมา……

แม่ม่ายหลิวเศร้าใจขึ้นมาทันที กัดฟันแน่น “นังจางซิ่วเอ๋อเดนตาย! นังแพศยา! เจ้าก็แค่สาวกว่า! กลับคิดจะเหยียบขึ้นไปบนตัวข้า! ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจ!”

จางชุนเถาซื้อเหล้ากลับมา

ท่านหมอเมิ่งเขินนิดหน่อย “ซิ่วเอ๋อ ถ้าเจ้ากระตือรือร้นขนาดนี้วันหลังข้าไม่กล้ามาแล้วนะ”

จางซิ่วเอ๋อเอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านอาพูดอะไรกัน ข้ากลัวว่าข้ายังกระตือรือร้นไม่พอแล้ววันหลังท่านจะไม่อยากมาแล้วมากกว่าเจ้าคะ”

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าท่านหมอเมิ่งจิตใจดีและมีมารยาท เป็นคนที่ควรคบหา

จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนโบราณแต่ดั้งเดิม ไม่รู้สึกว่าผู้หญิงไม่ควรเป็นเพื่อนกับผู้ชาย แต่จางซิ่วเอ๋อไม่ได้โง่ และรู้ว่าต่อให้ตัวเองไม่คิดมากก็ควรมีขอบเขต

จางซิ่วเอ๋อรินเหล้าให้ท่านหมอเมิ่ง และมองบัณฑิตจ้าว

ในตอนที่จางซิ่วเอ๋อกำลังลังเล ท่านหมอเมิ่งกล่าวขึ้น “ดื่มน้อย ๆ จำไว้ว่าอย่าโลภ มีประโยชน์ต่อร่างกาย”

ในเมื่อท่านหมอเมิ่งพูดแล้ว บัณฑิตจ้าวย่อมไม่ปฏิเสธ ส่วนจางซิ่วเอ๋อไร้ข้อกังขา จึงรินเหล้าให้บัณฑิตจ้าว

รอจนกินอิ่มกันหมด ท่านหมอเมิ่งก็จะกลับ

เขาอยู่ที่นี่ทั้งวันไม่รู้ว่ามีคนไปตามหาเขาตั้งเท่าไหร่ คนเป็นหมอมีจิตใจห่วงใยดั่งบุพการี ท่านหมอเมิ่งวางใจไม่ลงจริง ๆ

จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมาจึงไปหั่นเนื้อชิ้นดีที่มีทั้งส่วนมันและส่วนปกติของเนื้อที่บ้านให้ท่านหมอเมิ่ง

ตัวท่านหมอเมิ่งเองก็ต้องทำกับข้าวนะ

ท่านหมอเมิ่งบอกปัดไม่ได้จึงได้แต่รับเนื้อมาแล้วกลับ นึกในใจว่าหลังจากนี้ตัวเองควรดูแลสองพี่น้องจางซิ่วเอ๋อให้มาก ๆ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เป็นผู้ใหญ่อย่าถือสาหาความเด็กเลยค่ะแม่ม่ายหลิว 555

ไหหม่า(海馬)