บทที่ 68 กระต่าย(2)

แดนนิรมิตเทพ

บทที่ 68 กระต่าย(2)
เฉินโม่พึ่งเดินตามอานเข่อเยว่จะประตูไป ก็ได้ยินเสียงบ่นเสียงหนึ่ง: “เยว่เยว่ เธอไปหยิบเสื้อตัวเดียวใช้เวลานานขนาดนี้เลยเหรอ? พอที่จะให้ฉันเปลี่ยนทั้งชุดแล้ว”
หยางเชี่ยนเชี่ยนมองเห็นเฉิมโม่ ถามด้วยความแปลกใจ: “เขาเป็นใคร?”
“ลูกของเพื่อนพ่อฉัน มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนตี้ยี”
อานเข่อเยว่สีหน้าตึงเครียด เดิมทีสามารถไปเล่นกับเพื่อนได้เต็มที่ ตอนนี้กลับมีแมลงที่ตามติดอย่างเฉินโม่เพิ่มมา เธอดีใจขึ้นมาไม่ได้จริงๆ
หยางเชี่ยนเชี่ยนสังเกตเฉินโม่อย่างละเอียด พบว่าเฉินโม่จากหัวจรดเท้า ใส่แต่ของข้างถนน ถึงแม้หน้าตาสะอาดใช้ได้ แต่ก็ไม่ถือว่าหล่อ เป็นพวกที่ทิ้งเข้าไปในฝูงชน แล้วจะไม่มีทางหาเจออีกแบบนั้นเลย
ทันใดนั้น สายตาที่หยางเชี่ยนเชี่ยนมองไปที่เฉินโม่ ก็มีความดูถูกปนอยู่
เฉินโม่มองเห็นหยางเชี่ยนเชี่ยนและมู่หรงยานเอ๋อร์ ก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าสองคนนี้คือใคร ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของอานเข่อเยว่
หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นลูกเศรษฐีในอุดมคติ ขาวรวยสวย ใช้รูจมูกมองคน เป็นแฟนกับจางเสี่ยนที่เป็นหัวหน้าทีมบาสเกตบอลของทีมโรงเรียน ชาติก่อนได้ข่าวว่าเฉินโม่ตามจีบอานเข่อเยว่ มักจะเอาเฉินโม่ไปเทียบกับจางเสี่ยนอยู่บ่อยๆ คอยลำบากเฉินโม่อยู่เรื่อย
มู่หรงยานเอ๋อร์กลับตรงกันข้าม แม้ว่าภายนอกดูเย็นชา แต่ในใจกลับมีจิตใจที่ดี อีกทั้งยังคอยช่วยเฉินโม่แก้วิกฤตอยู่บ่อยๆ ในโรงเรียน มู่หรงยานเอ๋อร์ก็เหมือนกับอานเข่อเยว่ ก็เป็นดาวของโรงเรียนตี้ยี ถูกผู้ชายมากมายตามจีบ
แต่ได้ยินมาว่าเบื้องหลังของมู่หรงยานเอ๋อร์มีความลึกลับอยู่บ้าง ขนาดที่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคนในวงการมาเฟีย แต่ก็แค่เคยได้ยิน ไม่มีใครเคยเห็น
ส่วนเรื่องหลังเรียนจบไป เฉินโม่ก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของมู่หรงยานเอ๋อร์อีกเลย
อานเข่อเยว่ที่พึ่งออกประตู ก็ถูกหยางเชี่ยนเชี่ยนและมู่หรงยานเอ๋อร์สองคนดึงไปเดินข้างหน้า พูดซุบซิบขึ้นมา ทิ้งเฉินโม่อยู่ข้างหลังคนเดียว
เฉินโม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็แค่เดินตามหลังอยู่ห่างๆ ถ้าอานเข่อเยว่ทิ้งเขาไว้ เขากลับดีใจที่มีเวลาว่าง แค่กลับไปอธิบายให้กับอานโส่วอี่สักคำ ก็สามารถไปทำเรื่องของตัวเองแล้ว
หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดเสียงเบาว่า: “เยว่เยว่ เธอจะพาเขามาด้วยทำไม?”
อานเข่อเยว่ขมวดคิ้ว พูดด้วยความโมโห: “เธอคิดว่าฉันอยากจะพาเขามาเหรอ เป็นแม่ฉันต่างหากที่ยังไงก็ต้องให้เขาตามฉันมา ไม่งั้นก็ไม่ให้ฉันออกมา ถึงขั้นที่ว่า อยากจะสงเคราะห์พวกเรามาโดยตลอด!”
ทันใดนั้นหยางเชี่ยนเชี่ยนก็พูดด้วยความตกใจ: “อะไรนะ? หรือว่าไอ่คนที่หน้าตาธรรมดาคนนั้น มีเงินมีอำนาจมากเหรอ?”
อานเข่อเยว่รู้ว่าเฉินโม่เป็นลูกชายของหลี่ซู่เฟินเจ้าของเหม่ยหวา กรุ๊ป อยากจะบอกให้หยางเชี่ยนเชี่ยน แต่นึกถึงคำพูดที่แม่พูดสั่งไว้ ห้ามเปิดเผยตัวตนของเฉินโม่
จึงบอกไปว่า: “ไม่มีเงิน และก็ไม่มีอำนาจด้วย เป็นลูกชายของสารวัตรกำนันของตำบลหนึ่งในอำเภอเฟิ่งซาน”
“ฮึ ลูกชายของสารวัตรกำนันคนหนึ่ง ยังกล้ามาตามจีบดาวโรงเรียนของพวกเรา เทียบกับเจิ้งหยวนฮ่าวแล้วเขายังห่างออกไปเป็นแสนโลเลย แม้กระทั่งจางเสี่ยนของฉันยังแกร่งกว่าเขาหลายสิบเท่า! เยว่เยว่เธออย่าโมโหไป เดี๋ยวฉันช่วยเธอสั่งสอนมันเอง ให้มันรู้ว่ากระต่ายที่อยากหมายจันทร์นั้น เป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนหันหัวกลับไปแล้วมองไปที่เฉินโม่ที่เดินตามหลังอยู่ห่างๆหนึ่งที ด้วยสีหน้าที่ดูถูก
ที่จริงอานเข่อเยว่อยากจะห้ามหยางเชี่ยนเชี่ยนอย่าลำบากเฉินโม่เลย แต่ไม่ได้พูดออกไป เธอรู้สึกโมโหกับท่าทีที่อวดเก่งของเฉินโม่ตอนอยู่ในบ้านเมื่อกี้ ให้หยางเชี่ยนเชี่ยนสั่งสอนเฉินโม่สักหน่อยก็ดี
ส่วนมู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง เหลือบตาขาวใส่หยางเชี่ยนเชี่ยนไปหนึ่งที พูดด้วยรอยยิ้ม: “เชี่ยนเชี่ยน ในตาเธอมีแต่เรื่องผลประโยชน์จริงๆเลย!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยอารมณ์ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ผิด: “ไม่ใช่ว่าฉันเห็นแก่ประโยชน์ แต่นี่เป็นความจริงของสังคมนี้ ไม่มีเงินไม่มีอำนาจ ผู้หญิงคนไหนจะยอมแต่งงานกับมัน! ถึงแม้แต่งงานกับมันไป อนาคตก็ต้องลำบากไปทั้งชีวิต!”
มู่หรงยานเอ๋อร์ถอนหายใจไปหนึ่งที ไม่พูดอะไร เธอเข้าใจ ที่หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด!
หยางเชี่ยนเชี่ยนลากมือของอานเข่อเยว่แล้วเร่งฝีเท้า: “ไปเถอะ พวกเราขึ้นรถก่อน ฉันบอกให้กับพวกจางเสี่ยนเขาก่อน แสดงอำนาจให้กับไอ่หมอนั้นดูก่อน! ดูสิว่ามันยังกล้าหมายจันทร์อยู่รึเปล่า!”
บทที่ 67 กระต่าย(1)

บทที่ 69 แสดงอำนาจ(1)