หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.416 – พุ่งเข้าปะทะ

 

กู่ฉิงซานยืนอยู่ในนรก

 

เขายังคงถือไม้เท้าแห่งการจองจำ ปากเอ่ยกล่าวอย่างแผ่วเบา “คุกล่มสลาย”

 

“เทคนิคลับแห่งไม้เท้า : คุกล่มสลาย , ราชาภูติที่กำลังถือครองไม้เท้านี้จะสามารถเข้าใจถึงเทคนิคลับนี้ได้โดยอัตโนมัติ  โดยเขาจะสามารถเปิดนรกทั้ง 18 ขุม และปลดปล่อยคนตายทั้งหมดออกมาในเวลาใดก็ได้”

 

พื้นดินเริ่มเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

โดยไม่รีรอให้มันทันได้สงบลง ดินแดนของนรกทั้ง 18 ขุมก็หายวับไป

 

เวลาไหลผ่านไปอย่างช้าๆ

 

ชั่วขณะหนึ่ง ณ บริเวณตีนเขาของภูเขาล้อมเหล็ก ก็พลันปรากฏร่างยักษ์ใหญ่ย่ำเท้าลงบนชายฝั่งของสายธารแห่งการหลงเลือน

 

ไม่มีผู้คุมวิญญาณ และไม่มีเทพวิญญาณคอยขัดขวาง เขาจึงสามารถเดินออกจากสายธารแห่งการหลงเลือนได้โดยไร้ซึ่งอุปสรรค สามารถก้าวขึ้นมาบนอาณาเขตเบื้องบนของภูเขาล้อมเหล็กได้ทีละก้าว ทีละก้าว

 

เขาโผล่ออกมาจากนรกถลกหนัง

 

โดยมีกระแสน้ำของสายธารแห่งการหลงเลือนอันอบอุ่นคอยโอบกอดเขา

 

ตามด้วยยักษ์ตนที่สองผุดขึ้นมาเหนือน้ำ

 

ต่อด้วยยักษ์ตนที่สาม

 

จากนั้นก็เป็นมนุษย์

 

อาชูร่าที่กำลังควงอาวุธในมือ

 

จ้าวอสูรคำรามก้อง

 

มนุษย์ปีศาจทะยานตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

และสุดท้าย เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างอันแปลกประหลาดจากยุคแห่งความโกลาหล

 

หลายสิบคนตายปรากฏกายยืนอยู่ในสายธาร

 

ขณะที่เบื้องหลังหลายสิบคนตาย ตลอดทั้งสายธารแห่งการหลงเลือน บัดนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยกองทัพคนตายทั้งหมดที่ผุดขึ้นมาจากในน้ำ!

 

คนตายนับล้านๆจากตลอดทั้ง 18 ขุมนรก ต่างทยอยกันปรากฏขึ้นด้วยพลังอำนาจของ ‘คุกล่มสลาย’!

 

ในนรกทะเลเลือด กู่ฉิงซานเปล่งวาจาสั้นๆออกมาอย่างแผ่วเบา

 

“บุกได้”

 

สิ้นเสียง เหล่าคนตายก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

พวกเขาย่ำฝีเท้าไปยังเบื้องหน้า พุ่งตรงไปยังวิหารแห่งวัฏจักร!

 

แต่วิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เฉดเงาหลากสีก็ซัดสาดลงมาจากฟากฟ้า ตัดผ่านฝูงคนตายที่พึ่งขึ้นฝั่ง เป่าทั้งหมดหายวับไปหลงเหลือทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่านที่ลอยฟุ้ง

 

หอกหลากสีเริ่มลงมือแล้ว!

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับทั้งสองฝ่าย นี่น่ะมันก็แค่การเริ่มต้น!

 

เหล่ากองทัพคนตายอันไร้ที่สิ้นสุดย่ำเท้าลงบนชายฝั่ง และสับฝีเท้ามุ่งตรงไปยังวิหารแห่งวัฏจักรที่ตั้งอยู่ไกลออกไป

 

วูบบบบ!

 

หอกหลากสีเปล่งประกายเฉดเงาอีกครา

 

พร้อมกับคนตายนับพันหมื่นที่ถูกสังหารเป็นเถ้าในคราเดียว!

 

แต่นั่นมันก็หาได้สำคัญไม่!!

 

เพราะทันทีที่พวกเขาถูกเป่าเป็นผงกระจายออกไป ฝูงคนตายกลุ่มใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งเดิมพริบตา

 

คนตายทั้งหมดสับตีนวิ่งอย่างบ้าคลั่งตรงไปยังวิหารแห่งวัฏจักร

 

พวกเขาหาญกล้า ไร้ซึ่งความหวาดกลัว!

 

ความเจ็บปวดจากการที่เงาหอกตัดผ่าน มิได้มีอะไรมากไปกว่าการถูกลงโทษทั่วๆไปในนรกเลย

 

สำหรับคนตายแล้ว การถูกสังหารมิได้เป็นอะไรมากไปกว่าการต้องกลับไปจมลงสู่ความหลับไหลเท่านั้น

 

ยักษ์ใหญ่ก้าวตรงไปข้างหน้า ขณะที่เฉดเงาหอกหลากสีวาบบบบ! ผ่านร่างของเขารวมไปถึงยักษ์ใหญ่นับไม่ถ้วนเบื้องหลังไป

 

ทว่าก่อนหน้านั้น ยักษ์ใหญ่ก็ได้คว้าจับเอาร่างของคนตายตัวเล็กมาไว้ในกำมือ และเหวี่ยงพวกมัน ขว้างตรงไปยังทิศทางของวิหารแห่งวัฏจักร!

 

ยักษ์หัวเราะลั่น ปากอ้าเอ่ยตะโกนว่า “ขยะเอ๊ย! นอกเหนือไปจากการสังหารข้าแล้ว ตัวเจ้ามันก็มิอาจกระทำสิ่งใดได้อีก!”

 

ราวกับเข้าใจถึงประโยคเหล่านั้นของอีกฝ่าย ประกายแสงจรัสพลันพรั่งพรูออกมาจากหอกหลากสีทันที

 

บังเกิดเส้นแสงหลากสีอันคมชัดไร้ที่สิ้นสุด สาดประกายปกคลุมไปตลอดทั้งโลกปรภพ!

 

ตลอดทั้งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หลายร้อย หลายพันล้านคนตายถูกสังหารลงในพริบตา! พื้นดินที่อัดแน่นไปด้วยกองทัพคนตายเหลือคณา บัดนี้หลงเหลือเพียงพื้นที่รกร้างว่างเปล่า!

 

กู่ฉิงซานวางมือลงบนหัวกะโหลกแหลมของไม้เท้าแห่งการจองจำ ปากเอ่ยกระซิบอย่างแผ่วเบา “จงหวนคืนมาอีกครั้ง”

 

เขาใช้ออกด้วยเทคนิคลับแห่งไม้เท้า : ต้นกำเนิดแห่งความตาย!

 

และเหล่าคนตายทั้งหมดที่พึ่งจมลงสู่การหลับไหล ก็ฟื้นตื่น คืนสติขึ้นมาทันที

 

คนตายจากนรกทั้ง 18 ขุมผุดลุกขึ้นจากนรกของตน และเริ่มมุ่งหน้าขึ้นสู่สายธารแห่งการหลงเลือนอีกครั้ง

 

รอบๆภูเขาล้อมเหล็ก ตลอดทั้งสายธารแห่งการหลงเลือนบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยทะเลกองทัพคนตายอีกครา

 

หอกหลากสีก้มลงมอง และเมื่อเห็นฉากนี้ มันก็เร่งความเร็วในการโจมตีให้ถี่ขึ้นอย่างกระทันหัน

 

เงาหอกปรากฏขึ้น จ้วงแล้ว จ้วงเล่า

 

ขณะที่คนตายก็ถูกสังหารลงเรื่อยๆ แล้วก็มีคนตายใหม่เข้ามาแทนที่ เหยียบย่ำพวกที่พึ่งถูกสังหารลง เคลื่อนที่มุ่งตรงไปข้างหน้า

 

มองจากบนท้องฟ้าในมุมสูง จะเห็นว่าฉากนี้มันราวกับฝูงมดที่ไม่ยินยอมพ่ายแพ้ ค่อยๆขยับกลุุ่มเคลื่อนเข้าไปใกล้เป้าหมายอย่างช้าๆ

 

มองมายังฉากนี้ ฉานนู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าพวกคนบาปทั้งหลาย จะทุ่มเททำงานอย่างหนักถึงเพียงนี้”

 

กู่ฉิงซานกล่าว “ไม่ว่าจะในสงครามใด กำลังรบของทหารที่ยินดีจะต่อสู้น่ะ ย่อมร้ายกาจและแตกต่างไปจากทหารที่ถูกบังคับให้ต่อสู้อยู่แล้ว”

 

“และนี่สินะ คือจุดประสงค์ที่เจ้าพยายามแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรมกับพวกเขา?”

 

กู่ฉิงซานยิ้มและพึมพำว่า “หากบังคับให้ทำงานอย่างหนักโดยไม่ได้ตอบแทนผลประโยชน์อะไรให้กับพวกเขา แล้วคนที่ได้รับงานไปจะยินดีพยายามอย่างเต็มที่ได้อย่างไร? นับประสาอะไรกับที่แห่งนี้คือนรก ที่ทุกคนน่ะ ล้วนแล้วแต่เป็นคนบาป ทั้งหมดย่อมไม่มีจิตวิญญาณอันสูงส่งที่จะยินดีเสียสละสู้พยายามอย่างหนักหรอก”

 

—-

 

ณ บริเวณตีนเขาของภูเขาล้อมเหล็ก

 

เหล่าคนตายยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก วิ่งขึ้นฝั่งราวกับคนบ้า

 

ขณะที่คนตายบางส่วนเริ่มที่จะเค้นสมอง เพื่อหาวิธีการใหม่ๆที่จะสามารถเข้าไปใกล้วิหารแห่งวัฏจักรได้มากขึ้น

 

พวกเขาไม่ได้วิ่งอย่างเร่งรีบอีกต่อไป แต่กลับเปลี่ยนทิศทางในระหว่างก้าวเดิน สลับไปมามุ่งตรงไปยังวิหารอย่างไม่รู้จบ

 

พวกเขาบ้างวิ่ง บ้างกระโดด บ้างกลิ้งหมุนไปกับพื้น บ้างย่องเดินอย่างแผ่วเบาไปข้างหน้า หมุนตัวไปมาราวกับงู หรือถลาไปข้างหน้าแบบซิกแซก

 

พวกเขาแยกย้ายไม่เกาะกลุ่มกัน บ้างบินขึ้นไปบนอากาศ และพยายามที่จะเข้าไปใกล้วิหารจากทุกทิศทาง

 

เวลานี้ ความถี่ของหอกหลากสีมิอาจตามทันเหล่าคนตายที่ดาหน้ากันมาอย่างต่อเนื่องได้อีกต่อไปแล้ว

 

แม้ว่ามันจะครอบครองพลังอำนาจที่เหนือล้ำยิ่งกว่า แต่มันก็ไม่สามารถที่จะปลดปล่อยเฉดเงาหอกออกมาได้ตลอดเวลา

 

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงาหอกเติมเต็มไปทั่วทั้งอากาศที่ว่างเปล่าตลอดเวลา

 

ใช่ จริงอยู่ที่พลังอำนาจของมันสามารถสังหารได้กระทั่งทวยเทพและอสูรกาย

 

แต่ด้วยอำนาจอันหาที่ใดเปรียบนี้ เมื่อนำมาใช้กับคนตายที่ไม่สามารถตายได้อีกแล้ว มันก็ราวกับเป็นอำนาจที่เสียของ และเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์!

 

ไม่แตกต่างไปจากการใช้ปืนใหญ่มายิงถล่มยุงที่ลอยเป็นจุดดำๆอยู่ทั่วท้องฟ้า

 

เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ

 

คนตายยินยอมมอบชีวิตของพวกเขา เพียงเพื่อที่ตนจะได้เอื้อมสัมผัสถูกวิหารแห่งวัฏจักร!

 

ขณะที่หอกหลากสีก็โจมตีใส่พวกเขาอย่างไม่ยอมพ่ายแพ้!

 

ในนรก

 

“ข้าล่ะสงสัยนักเชียว ว่าการที่หอกหลากสีมันปลดปล่อยอำนาจออกมาสังหารคนตายมากมายถึงเพียงนี้ มันจะไม่เหนื่อยบ้างหรอ?” กู่ฉิงซายเอ่ยถาม

 

ตะขอเกี่ยววิญญาณกล่าวว่า “แหล่งกำเนิดพลังของสิ่งประดิษฐ์เทวะคือแต้มพลังวิญญาณ ไม่สำคัญว่ามันจะทรงพลานุภาพเพียงใด แต่การใช้เงาหอกย่อมต้องจ่ายออกด้วยแต้มพลังวิญญารอย่างแน่นอน”

 

ดาบพิภพเอ่ยต่อด้วยว่า “ และต่อให้มันจะจ่ายออกด้วยแต้มพลังวิญญาณเพียงน้อยนิด แต่การกระทำเช่นนั้นอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็สิ้นเปลืองอยู่ดี”

 

กู่ฉิงซานที่ถือไม้เท้าแห่งการจองจำหลับตาลง เพื่อรับรู้ถึงนรก

 

หลายชั่วยามผ่านพ้นไป เวลานี้เหลือเพียงน้อยกว่า 1 ใน 1000 ของคนตายได้ถูกส่งลงมาหลับไหลอยู่ในนรก

 

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องใช้ ‘ต้นกำเนิดแห่งความตาย’ อีกต่อไปแล้ว

 

“พอได้เห็นแบบนี้ ข้าล่ะรู้สึกโล่งใจจริงๆ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

 

เหล่าคนตายก็ยังคงพุ่งทะยานไปยังวิหารอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

 

พวกเขาเริ่มโห่ร้อง และเริ่มที่จะแย่งกันกระโจนไปเบื้องหน้าเพื่อที่จะเผชิญกับความตายก่อนเป็นตนแรก

 

นอกจากนี้ เหล่าคนตายยังเริ่มแข่งขันกัน เพื่อดูว่าใครจะเป็นผู้ที่สามารถวิ่งไปได้ไกลที่สุด

 

นรกทั้งหมดเริ่มเปิดเดิมพัน และวางอัตราต่อรอง

 

เหล่าคนบาปเริ่มใช้ความตายของตนเองมาเล่นพนันเพื่อหาประโยชน์จากกันและกัน

 

พวกเขาสนุกไปกับมัน

 

และในบางครั้ง พวกเขาก็มักจะเงยหน้าขึ้นมองบุญส่วนบุคคลของตน

 

และพบว่าบุญของแต่ละคนตาย กำลังค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

 

ขณะเดียวกัน เหล่าคนตายที่ทุ่มพยายามมากที่สุด บุญของพวกเขาก็จะทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

 

ท้ายที่สุดนี้ ทั้งหมดคือการช่วยเหลือหกโลก ดังนั้นตราบใดที่พวกเขาทำงานอย่างหนัก พวกเขาก็จะได้รับบุญจำนวนมากกลับคืน

 

แถมเครื่องจักรคำนวณบุญส่วนบุคคลยังเป็นคนบอกกับพวกเขาด้วยตนเองว่า หากประสบความสำเร็จ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้บุญเป็นจำนวนมหาศาล

 

และยิ่งครอบครองบุญเยอะมากเท่าใด ยามไปเกิดใหม่ตนก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น!

 

ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในลักษณะของ โชคชะตา , สถานะ , ความมั่งคั่ง ฯลฯ ขึ้นอยู่กับจำนวนบุญ

 

คนตายนับล้านล้านคนต่างส่งเสียงเฮลั่น และรีบร้อนไปตายอย่างต่อเนื่อง

 

หอกหลากสีได้ทำการสังหารคนตายมาเป็นเวลากว่าหลายชั่วยามติดต่อกันแล้ว แต่จำนวนคนตายกลับไม่มีลดลงเลย ตรงกันข้าม มันกลับเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

มองลงมาจากมุมสูงบนท้องฟ้า จะเห็นแค่เพียงคนตายกำลังขยับกินพื้นที่เข้าไปใกล้กับบริเวณตีนเขาของภูเขาล้อมเหล็กมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ชั่วเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานก็ยืนขึ้น และเอ่ยกับไม้เท้าออกไปอย่างแผ่วเบา “ทั้งหมด .. เริ่มปะทะได้!”

 

ทันใดนั้นเสียงคำรามของคนตายนับล้านล้านก็ระเบิดดังขึ้น!

 

พวกเขาเริ่มวิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งอย่างหนัก มุ่งตรงไปยังวิหารแห่งวัฏจักร

 

—แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นว่ามีคนตายจำนวนมากคอยซ่อนตัว ซ่องสุมกำลังพลเอาไว้อย่างเงียบๆ เฝ้ารอคอยจังหวะที่เหมาะสม ขณะที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ใช้คนตายจำนวนหนึ่งเพื่อหลอกตาหอกหลากสีเท่านั้น

 

วงล้อมที่ค่อยๆเขยิบตีกรอบย่นระยะมานาน จู่ๆก็แคบลงอย่างฉับพลัน

 

คนตายสับฝีเท้าราวกับม้าป่า โดยไม่สนว่าเบื้องหน้าของพวกเขาจะเป็นเงาหอกหรือว่าพวกเดียวกัน!

ฮู้มมม!

 

หอกหลากสีเปล่งเสียงร้องฉวัดเฉวียนด้วยความโกรธ

 

แต่แล้วมันก็หยุดการโจมตี

 

แน่นอน ว่านี่มิใช่ว่ามันจะแสดงความเมตตาออกมา แต่เป็นเพราะผลกระทบจากคนตายที่รุกล้ำเข้ามานั้นเริ่มเร็วขึ้น และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็สามารถแหกด่าน ฝ่าทะลุเข้าไปในวิหารแห่งวัฏจักรได้ในที่สุด

 

บนท้องฟ้า เฉดเงาหลากสีได้หายลับไปอย่างสมบูรณ์

 

หอกไม่ยินยอมที่จะลงมือทำสิ่งที่มันทำไปก็ไร้ประโยชน์อีกต่อไป

 

มันยอมแพ้แล้ว