ตอนที่ 159 ไม่ถึงมาตรฐาน / ตอนที่ 160 หาทางรักษาไปด้วยกัน

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 159 ไม่ถึงมาตรฐาน

 

 

เผยอวี่ถังเดินวุ่นวายไปทั่วอย่างอารมณ์ดี ท่าทางเขาดูเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจว่าจะสามารถบดขยี้ทีมของซ่งเย่าหนานได้อย่างแน่นอน

 

 

“พี่เยียน ทำไมมาเร็วจัง”

 

 

เผยอวี่ถังตกใจเมื่อเห็นหลินเยียนกำลังเดินเข้ามาหา เขารีบลุกขึ้นพร้อมขวดน้ำสำหรับเธอ

 

 

เขาไม่ได้ให้โอกาสหลินเยียนได้ทักทายอะไร เพราะเขาเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก ความตื่นเต้นแล่นไปทั่วร่างเมื่อเขาพูดว่า “โอ้ จริงสิ พี่เยียน! ขอผมแนะนำพี่ให้คนอื่นรู้จักหน่อยนะ!”

 

 

เผยอวี่ถังพยักพเยิดไปทางหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่ง “พี่เยียน รู้จักพวกเขารึเปล่า”

 

 

หลินเยียนกวาดตามองใบหน้าของพวกเขาทีละคน แล้วส่ายหน้า “ไม่รู้จักหรอก…”

 

 

เธอไม่คิดว่าเธอเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน

 

 

ชายหนุ่มที่ใส่ชุดนักแข่งผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองหลินเยียนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ดูเหมือนจะกำลังนอนพัก

 

 

“อะไรกัน…พี่เยียน นี่พี่พูดจริงรึเปล่า ทักษะของพี่ดีมาก! สำหรับผมแล้วพี่คือมืออาชีพ คือนักแข่งตัวจริง แล้วพี่จะไม่รู้จักสมาชิกทีมซีเอ็ชวันได้ยังไงกัน” เผยอวี่ถังดูจะมองหลินเยียนด้วยความประหลาดใจ เหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก

 

 

ซีเอ็ชวันคือทีมนักแข่งระดับท็อปของประเทศ พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติมากมาย เพราะแบบนี้ ใครที่ชอบกีฬาแข่งรถต่างก็รู้จักพวกเขากันทั้งนั้น

 

 

เผยอวี่ถังไม่อยากเชื่อว่าหลินเยียนที่เป็นนักแข่งรถฝีมือเยี่ยมขนาดนี้ จะไม่รู้จักซีเอ็ชวัน

 

 

“พี่เยียน…พี่นี่เสียเปล่าที่เป็นนักแข่งรถจริงๆ” เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยสายตาดูหมิ่น

 

 

“หือ” หลินเยียนทำหน้างงเมื่อถามว่า “เธอหมายความว่ายังไง”

 

 

เธอไปเป็นนักแข่งรถอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วก็อยู่ในทีมระดับสุดยอดของโลกมาโดยตลอด เพราะแบบนี้เธอถึงไม่คุ้นหน้าทีมแข่งรถแค่ระดับในประเทศ

 

 

“พี่เยียน นักแข่งรถที่ไหนก็รู้จักซีเอ็ชวันกับสมาชิกในทีมกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพี่ เขาเข้าร่วมการแข่งขันนานาชาติในระดับที่สามเชียวนะ ทำไมพี่ถึงไม่รู้ล่ะเนี่ย” เผยอวี่ถังถามอย่างหงุดหงิด

 

 

“การแข่งขันนานาชาติในระดับที่สามเหรอ”

 

 

หลินเยียนยืนนิ่งคิดเมื่อได้ยินสิ่งที่เผยอวี่ถังพูด

 

 

การแข่งขับระดับนานาชาติแบ่งออกเป็นสามระดับด้วยกัน

 

 

การแข่งขันระดับท็อปสุดและดีที่สุดคือระดับหนึ่ง ส่วนการแข่งขันอื่นๆ จะถูกจัดประเภทอยู่ในระดับที่สองและสาม

 

 

เมื่อหลินเยียนก้าวเข้าสู่การเป็นนักแข่งอาชีพ เธอก็ถูกจัดประเภทเข้าไว้ในการแข่งขันระดับสองแล้ว

 

 

เพราะอย่างนี้ เธอก็เลยไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักสำหรับนักแข่งระดับสาม ความจริงก็คือ…พวกเขาเป็นพวกยังไม่ถึงมาตรฐานนั่นเอง

 

 

แม้แต่นักแข่งฝึกหัดของเธอและนักแข่งฝึกหัดของพวกนักแข่งฝึกหัดอีกที ก็ยังไม่มีใครอยู่ในการแข่งขันระดับสามด้วยซ้ำ

 

 

“ขอโทษที ฉันไม่ค่อยรู้จักน่ะ…” หลินเยียนหัวเราะเบาๆ

 

 

“ช่างเถอะ” เผยอวี่ถังโบกมือตัดบทพลางยิ้ม ก่อนที่จะขยับเข้ามาหาหลินเยียนแล้วอยู่ๆ ก็พูดขึ้นว่า “พี่เยียน เดี๋ยวผมจะแนะนำพวกเขาให้พี่รู้จักนะ!”

 

 

เผยอวี่ถังชี้ไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งและบอกว่า “พี่เยียน นั่นคือกัปตันทีมซีเอ็ชวัน ก็อดซี!”

 

 

“หวัดดี ก็อดซี” หลินเยียนพยักหน้าทักทาย

 

 

ชายหนุ่มตวัดสายตามองเธอ ก่อนจะหลับตาลงโดยไม่พูดอะไร

 

 

“ส่วนนี่คือพี่คิว แล้วนั่นก็มู่มู่”

 

 

เผยอวี่ถังแนะนำพวกเขา

 

 

หลินเยียนผงกหัวเป็นเชิงทักทาย นอกจากมู่มู่ที่ยิ้มตอบเธอแล้ว นักแข่งที่เหลือก็เพียงแต่เหลือบมองหลินเยียน

 

 

เธอไม่ได้แต่งหน้ามา จึงดูไม่เหมือนในภาพถ่าย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครจำตัวจริงของเธอได้

 

 

 

 

 

ตอนที่ 160 หาทางรักษาไปด้วยกัน

 

 

“พวกนายยังไม่รู้จักพี่เยียน ทำไมเราไม่หาเวลาว่างๆ กันล่ะ แล้วฉันจะพาพี่เยียนไปแสดงทักษะการขับรถแข่งให้ดูกัน ถ้าพวกนายได้เห็นฝีมือการขับรถของพี่เขาละก็ จะต้องเปลี่ยนความคิดแน่!” เผยอวี่ถังรีบอธิบาย

 

 

อันที่จริงนักแข่งรถผู้หญิงมักจะถูกมองข้ามและดูถูกอยู่บ่อยๆ

 

 

หากมองดูวงการรถแข่งให้รอบด้าน ก็จะเห็นว่านักแข่งที่เป็นผู้หญิงนั้นมีน้อยกว่าเพศตรงข้ามมาก

 

 

การแข่งรถไม่ใช่การขับรถ การแข่งรถต้องอาศัยนักแข่งที่ตื่นตัวแต่ก็สงบจิตใจได้ในทุกสถานการณ์ เพื่อเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

 

 

อีกอย่าง การฝึกฝนอย่างเข้มงวดไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับทุกคน นักแข่งจะต้องเป็นคนมุ่งมั่น ทำงานหนัก เพราะนี่เป็นอาชีพที่ยากลำบาก ต่อให้มีผู้หญิงที่สามารถอดทนกับสิ่งเหล่านี้ได้ แต่ความสามารถและผลงานของพวกเธอก็มักเทียบไม่ได้เลยกับนักแข่งผู้ชาย

 

 

นอกจากนั้นแล้ว อุบัติเหตุร้ายแรงก็เกิดขึ้นได้นับครั้งไม่ถ้วน

 

 

และเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น มันก็มักจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เสียด้วย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตอนซ้อมหรือตอนแข่ง

 

 

ด้วยเหตุนี้ ในทีมแข่งรถระดับชาติ พวกเขาจึงไม่ค่อยมีนักแข่งรถผู้หญิงที่มีฝีมือโดดเด่นให้เห็นนัก

 

 

“เผยอวี่ถัง ลืมไปได้เลย” ก็อดซีที่ไม่แม้แต่จะเหลือบมองหลินเยียนพูดกับเผยอวี่ถัง “ฉันไม่สนใจอะไรเธอสักนิด ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถอะไรด้วย ปล่อยให้เธออยู่ของเธอสบายๆ แล้วก็นั่งดูอยู่ข้างสนามก็พอแล้ว”

 

 

“แต่ว่า…” เผยอวี่ถังพูดอะไรไม่ถูก เขารู้สึกว่าหลินเยียนมีพรสวรรค์จริงๆ และถ้าจะต้องปล่อยเธอไปก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย

 

 

“เผยอวี่ถัง เธอไม่เคยได้ยินกระทั่งชื่อซีเอ็ชวันด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะไปรู้จักการแข่งรถได้ยังไง ถามเธอซิว่ารู้จักการแข่งรถนานาชาติระดับสามหรือเปล่า เคยดูกับเขารึเปล่าน่ะ ถ้าเคย ก็ไม่มีทางที่เธอจะไม่เคยได้ยินชื่อพวกเราแน่ การแข่งคราวที่แล้วเราติดหนึ่งในท็อปสิบหกทีม เรื่องนี้เธอรู้รึเปล่าล่ะ” สมาชิกซีเอ็ชวันคนหนึ่งมองสำรวจหลินเยียนด้วยสายตาดูแคลนและแสยะยิ้มใส่เธอ

 

 

“เป็นผู้หญิงก็สนใจแค่ทำตัวให้น่ารักก็พอแล้ว จะมาสนใจเรื่องแข่งรถทำไมกัน เธอไม่คิดเหรอว่าผู้หญิงกับรถแข่งมันเป็นเรื่องคนละโลกกันน่ะ อย่าลำบากเลย การแข่งรถมันน่ากลัว ไม่ควรจะมีใครต้องขายหน้าเพราะเรื่องนี้” สมาชิกของซีเอ็ชวันอีกคนยิ้มเยาะ

 

 

สายตาของหลินเยียนตวัดไปที่พวกเขา ในขณะที่เธอนึกสงสัยอยู่ลึกๆ ในใจ นี่พวกเขารู้สึกไม่พอใจผู้หญิงงั้นเหรอ ทำไมถึงต้องดูถูกผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ

 

 

เผยอวี่ถังถอนหายใจอย่างหมดหวังเมื่อเห็นท่าทีไม่แยแสของก็อดซี ดูเหมือนจะไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว

 

 

“ฉันมีเด็กฝึกหัดอยู่สองสามคนที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมเพื่อช่วยงานเด็กฝึกหัดของฉัน ถ้าเธออยากทำงานนี้ ฉันจะบอกเด็กฝึกหัดของฉันให้ช่วยรับเธอไว้ให้” อยู่ๆ ก็อดซีก็พูดขึ้น

 

 

“ฟังดูดีนี่! ได้เห็นเด็กฝึกหัดของเด็กฝึกหัดของก็อดซีคงจะยอดเยี่ยมมาก!” เผยอวี่ถังรีบพยักหน้า

 

 

เขาเหลือบมองหลินเยียน “พี่เยียน พี่คิดว่าไง”

 

 

“ฉันไม่สนใจน่ะ ฉันไม่ได้อยากจะหาคนเป็นโค้ช…” หลินเยียนตอบ

 

 

สมาชิกของซีเอ็ชวันโพล่งขึ้นมาก่อนที่เผยอวี่ถังจะทันพูดอะไร “นี่เธอเหวี่ยงใส่เพราะก็อดซีบอกว่าเขาจะไม่ลงมาสอนเธอด้วยตัวเองงั้นเหรอ เธอเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงคิดว่าตัวเองคู่ควรจะเป็นเด็กฝึกหัดของก็อดซีน่ะ”

 

 

หลินเยียนนิ่งอึ้ง…

 

 

พวกนักแข่งรถระดับประเทศที่เผยอวี่ถังแนะนำให้เธอรู้จักนี่…สมองพวกเขาผิดปกติกันหรือไงนะ

 

 

เธอเพี้ยนไปแล้วส่วนพวกเขาก็หลงผิดงั้นเหรอ

 

 

เธอควรจะแนะนำจิตแพทย์ให้พวกเขาเพื่อที่จะได้ไปหาทางรักษาด้วยกันดีไหมนะ