ตอนที่ 161 คราวหน้าขโมยมาอีกนะ / ตอนที่ 162 หนีเสือปะจระเข้

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 161 คราวหน้าขโมยมาอีกนะ

 

 

“เผยอวี่ถัง บอกเพื่อนนายให้รู้จักเจียมตัวแล้วก็อย่าหวังอะไรเกินจริงแบบนั้นหน่อยนะ”

 

 

ก็อดซีลุกขึ้นช้าๆ และมองหน้าเผยอวี่ถัง “ฉันว่าพวกนั้นก็ไม่อยากได้เธอเหมือนกันนั่นแหละ ฉันจะไปดูสนามก่อน ไปละ”

 

 

ก็อดซีเดินออกไปพร้อมกับสมาชิกในทีม

 

 

“เฮ้ อย่าไปใส่ใจคำพูดของพวกนั้นเลยนะ ถ้าสนใจเรื่องแข่งรถจริงๆ ละก็ ผมจะช่วยสอนตอนที่ผมว่างก็ได้”

 

 

มู่มู่เดินเข้ามาหาหลินเยียนพร้อมรอยยิ้ม “อันที่จริงพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคายหรอก แต่พวกเขาแค่พูดตรงๆ เท่านั้น เพราะกีฬาแข่งรถมันไม่เหมาะสำหรับคนทั่วไป มันอันตรายมากน่ะ แต่ถึงอย่างนั้นข้อเสนอของผมก็ยังอยู่นะ ถ้าคุณสนใจแล้วก็มุ่งมั่นจริงๆ ผมพอจะช่วยได้”

 

 

“เอาไว้เดี๋ยวค่อยมาแลกเบอร์กัน ตอนนี้ผมต้องไปก่อนแล้ว” มู่มู่พยักหน้าให้เผยอวี่ถังก่อนจะเดินออกไป

 

 

เมื่อนักแข่งทั้งทีมเดินไปหมดแล้ว เผยอวี่ถังก็เหลือบมองหลินเยียนและร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “พี่เยียน มีความหวังรำไรอีกครั้งแล้ว! พี่นี่โชคดีชะมัด ถึงก็อดซีจะเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่มู่มู่เองก็ฝีมือไม่เลวเหมือนกัน!”

 

 

“เขาเป็นคนดีทีเดียว” หลินเยียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

 

 

“เป็นคนดีเหรอ ขอโทษทีนะพี่เยียน พี่ควรจะสนใจเรื่องการแข่งรถมากกว่ามั้ย เรื่องเทคนิคอะไรแบบนั้น!” เผยอวี่ถังพูดอย่างไม่แน่ใจ

 

 

หลินเยียนหันมาหาเผยอวี่ถัง “แล้วโปสเตอร์ฉบับพิเศษของฉันอยู่ไหน”

 

 

“พี่เยียน พี่นี่จริงๆ เลยนะ พี่ยังจะมาร้องหาโปสเตอร์อยู่อีกทั้งที่เหตุการณ์เมื่อกี้มันน่าตื่นเต้นกว่าตั้งเยอะ” เผยอวี่ถังล้วงโปสเตอร์แผ่นใหญ่ออกมาจากกระเป๋าส่งให้หลินเยียน

 

 

เขาไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ นี่เป็นโปสเตอร์ฉบับพิเศษมีลายเซ็นของเผยหนานซวี่จริงๆ ด้วย

 

 

ดวงตาของหลินเยียนเป็นประกายเหมือนดวงดาว โปสเตอร์ฉบับพิเศษนี้เป็นของหายากจริงๆ แม้แต่พวกนักแสดงหญิงดังๆ ยังยากที่จะได้มาครอบครอง

 

 

“เธอมีแค่แผ่นเดียวเองเหรอ” หลินเยียนม้วนโปสเตอร์อย่างระมัดระวังและหันไปหาเผยอวี่ถัง

 

 

“ผมขโมยมาได้แผ่นเดียว ถ้าพี่อยากได้อีก คราวหน้าผมจะขโมยมาให้อีก” เผยอวี่ถังตอบ

 

 

“คุณชายสามคะ เผยหนานซวี่เป็นพี่ชายแท้ๆของนาย แล้วทำไมเธอถึงเรียกว่าเป็นการขโมยล่ะ กลับไปเอามาเพิ่มอีก” หลินเยียนช่วยแก้คำพูดให้

 

 

“มันก็ไม่ต่างจากขโมยหรอก…” เผยอวี่ถังเอียงคอเมื่อนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

 

 

“โอ้ จริงสิ พี่เยียน! พี่ต้องมากับผมตอนที่การแข่งขันจะเริ่มนะ พี่จะได้เรียนรู้จากพวกนักแข่งทีมซีเอ็ชวัน แล้วก็จะได้ดูเวลาที่พวกเขาแข่งด้วย!”

 

 

หลินเยียนพูดไม่ออก…

 

 

จะให้เธอเรียนรู้จากอะไรแบบนี้เนี่ยนะ ถ้ามันได้ผลจริงละก็ เธอข้ามไปดูการแข่งระดับนานาชาติในโทรทัศน์เลยไม่ง่ายกว่าเหรอ

 

 

“พี่เยียน นี่ยังพอมีเวลาเหลือ ผมจะออกไปดูหน่อย พี่เดินเล่นไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมจะกลับมาหาพี่อีกที” เผยอวี่ถังบอก ก่อนจะหมุนตัวและเดินหายไป

 

 

หลินเยียนไม่ได้อ้อยอิ่งต่อ เธอรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที

 

 

ทันทีที่ออกมาจากห้องนั้น เธอก็เดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง

 

 

“เดินมองทางด้วยสิ” เขาตะคอกด้วยเสียงโกรธจัด

 

 

“ฉันขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ” หลินเยียนถาม

 

 

“คุณเองเหรอ” เว่ยสวีเฟิงเงยหน้า ท่าทางช็อกทีเดียวเมื่อเห็นเธอ

 

 

เขาพูดอะไรไม่ออก

 

 

หลินเยียนไม่รู้มาก่อนว่าเว่ยสวีเฟิงจะมาที่นี่ ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้…

 

 

“นี่คุณสะกดรอยตามผมหรือไง” เขานิ่วหน้ามองเธอด้วยสายตาคมกริบ

 

 

หลินเยียนอึ้ง…

 

 

หนุ่มน้อยเอ๊ย จะหลงตัวเองมากไปหน่อยละมั้ง

 

 

 

 

 

ตอนที่ 162 หนีเสือปะจระเข้

 

 

หลินเยียนยังอึ้งอยู่ “ฉันจะไปสะกดรอยตามคุณทำไม”

 

 

“ผมนึกแล้ว!” เว่ยสวีเฟิงจ้องหน้าหลินเยียน ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มเยือกเย็น “นี่หลินเยียน ผมจะบอกอะไรให้อย่างนะ ต่อให้คุณหัดขับรถแข่งให้เป็นตอนนี้ แต่คุณก็ยังเป็นแค่คุณอยู่ดี ไม่มีทางกลายเป็นเยวาไปได้!”

 

 

หลินเยียนพูดไม่ออก…

 

 

ฉันจะทำอย่างนั้นไปทำไม ก็ฉันคือหล่อนนี่นา!

 

 

“หลินเยียน อย่าคิดว่าการที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง แล้วจะทำให้คุณกลายเป็นเธอได้นะ ต่อให้คุณจะหน้าตาเหมือนเธอขนาดไหนก็เถอะ ทำแบบนี้จะยิ่งทำให้คนพากันเกลียดคุณมากขึ้นไปอีก เข้าใจรึเปล่า” สายตาของเว่ยสวีเฟิงจ้องเขม็ง “อย่าพยายามทำตัวเป็นเยวา คุณไม่มีค่าพอ แล้วก็ไม่มีวันมีค่าพอด้วย!”

 

 

โทรศัพท์ของเว่ยสวีเฟิงดังขึ้น ช่วยหลินเยียนไว้ไม่ให้โดนด่าต่อ

 

 

“พ่อเหรอครับ…อะไรนะ ตอนนี้เลยเหรอ” ท่าทางเขาดูหงุดหงิด “วันนี้ผมอยู่ที่สนามแข่งรถ…”

 

 

“งั้นก็ได้ ผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ” เขาวางสาย ท่าทางหัวเสีย “ให้ตายสิ! นี่หมายความว่าผมจะได้ดูการแข่งขันรอบคัดออกของตระกูลเฮ่อในอีกไม่กี่วันสินะ…”

 

 

เขาเหลือบมองหลินเยียน ท่าทางโมโห “จำใส่ใจไว้ด้วยว่า เทพธิดาของผมมีแต่เยวาเท่านั้น คุณไม่มีทางเป็นเธอได้ในชั่วชีวิตนี้ จงเป็นตัวเอง แล้วก็อย่าบังอาจทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่นเยวาอีก ไม่อย่างงั้น ผมจะทำให้คุณต้องเสียใจกับเรื่องนี้”

 

 

 

 

เว่ยสวีเฟิงหมุนตัวแล้วเดินปึงปังออกไปก่อนที่หลินเยียนจะทันได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

 

 

เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเว่ยสวีเฟิงจะให้ความสนใจกับวงการรถแข่งแบบนี้ เธอไม่คิดจริงๆ ว่าจะได้เจอเขาที่นี่

 

 

เมื่อได้เห็นแบบนี้ก็เข้าใจได้ว่า ถ้าเว่ยสวีเฟิงไม่ได้ชื่นชอบการแข่งรถมากขนาดนี้ เขาก็คงไม่ได้รู้จักกับเยวา

 

 

เดี๋ยวก่อนนะ การแข่งขันอะไรที่เว่ยสวีเฟิงพูดถึงระหว่างที่เขาพูดโทรศัพท์เมื่อกี้

 

 

นี่เขาพูดถึงตระกูลเฮ่องั้นเหรอ

 

 

หลินเยียนยืนคิดอยู่ตรงนั้น การแข่งขันนั้นดูเหมือนว่าจะจัดขึ้นในเมือง ทีมของตระกูลเฮ่องั้นรึ ทีมรถแข่งของปู่เธอก็จะไปร่วมการแข่งขันรอบคัดออกที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี่เหมือนกัน

 

 

ถ้าเดาไม่ผิด เธอคงจะได้พบกับเว่ยสวีเฟิงที่นั่นอีกครั้งสินะ

 

 

หลินเยียนเริ่มครุ่นคิดแล้วว่าเธอจะต้องทำอะไรซักอย่าง เขาอาจจะกล่าวหาเธอว่าพยายามสวมรอยเป็นเยวาและหาโอกาสที่จะเข้าใกล้เขา

 

 

แต่ถ้าหลินเยียนลงแข่งในสนามนั้นด้วยจริงๆ เว่ยสวีเฟิงก็อาจจะจำเยวาได้…

 

 

นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ

 

 

หลินเยียนเดินไปที่สนามแข่ง พยายามสำรวจดูรอบๆ

 

 

เธอต้องยอมรับว่าทั้งเผยอวี่ถังและซ่งเย่าหนานเลือกสนามแข่งได้ดี ที่นี่เหมาะสำหรับงานแข่งรถสเกลใหญ่

 

 

หลินเยียนเคยได้เห็นและลองวิเคราะห์รถแข่งที่พวกเขาใช้ก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้ทั้งเผยอวี่ถังและซ่งเย่าหนานนับว่าลงทุนกับรถที่ใช้แข่งมากทีเดียว ทำให้ศักยภาพของรถที่ใช้ไม่หนีกันเท่าไหร่

 

 

ถ้าเป็นแบบนี้ การจะชนะก็ขึ้นอยู่กับทักษะของนักแข่งล้วนๆ เลยทีเดียว ระหว่างการแข่งขัน นักแข่งจะต้องบันทึกรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่จะกำหนดว่าใครคือผู้ชนะ

 

 

“พี่เยียน!” เผยอวี่ถังโผล่มาทางด้านหลังหลินเยียน วางมือลงบนไหล่เธอ

 

 

ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง หลินเยียนคว้าแขนของเขาเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณทันที

 

 

“โอ๊ย…! พี่เยียน…ปล่อยนะ! แขนผมหักแล้ว!” เผยอวี่ถังร้องลั่นด้วยความเจ็บ