ตอนที่ 163 เธอรู้จริงๆ / ตอนที่ 164 โชคดีนะไอ้หนู

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 163 เธอรู้จริงๆ

 

 

หลินเยียนที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบปล่อยมือของเธอทันทีและจ้องหน้าเผยอวี่ถังที่กำลังเหงื่อแตก ทำไมตาบ๊องนี่จะต้องโผล่มาข้างหลังให้เธอตกใจด้วยนะ

 

 

“พี่เยียน นี่พี่ทำอะไรน่ะ โกรธอะไรผมรึเปล่า ทำไมถึงได้โหดนัก หรือว่ากินผักโขมเหมือนป๊อปอาย ทำไมแข็งแรงอย่างงี้” เผยอวี่ถังค่อยๆ ดึงแขนออกอย่างระมัดระวัง มันเกือบโดนหลินเยียนบิดจนหักไปซะแล้ว

 

 

หลินเยียนพูดไม่ออก…

 

 

ตาจอมป่วนนี่ย่องมาข้างหลัง เอาแขนมาวางบนไหล่เธอเอง แล้วยังมีหน้าพูดว่าเป็นความผิดของเธออีก

 

 

“ถ้าฉันโหดจริง ป่านนี้เธอเสียแขนไปแล้วละ” หลินเยียนยิ้มอย่างอารมณ์ดีให้เขา

 

 

“พี่เยียน พี่อาจจะแข็งแรงก็จริง แต่ที่พูดนั่นมันก็ออกจะเกินไปหน่อยรึเปล่า นี่พี่คิดว่าแขนผมทำจากพลาสติกรึไง ถึงจะได้ดึงหลุดง่ายๆ อย่างนั้น” เผยอวี่ถังทั้งหัวเสียทั้งไม่พอใจ “พี่เยียน นี่ยังโชคดีนะที่เป็นพี่น่ะ ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงจะอัดเละจนไม่เหลือสภาพไปแล้ว!”

 

 

หลินเยียนตวัดสายตามองเผยอวี่ถังที่กำลังฮึดฮัด เมื่อกี้เขายังกรีดร้องคร่ำครวญเพราะความเจ็บอยู่เลย

 

 

หลินเยียนกำลังจะตอบ ตอนที่สายตาของเผยอวี่ถังมองเลยเธอออกไปไกล แล้วแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

 

 

“ไอ้หมอนั่นมาถึงเร็วจริงแฮะ” เผยอวี่ถังพูดเสียงเย็น

 

 

หลินเยียนหันไปมองดูบุคคลที่เผยอวี่ถังกำลังจดจ้อง

 

 

คู่ปรับของเขานั่นเอง ซ่งเย่าหนาน พร้อมทีมงานที่ตามมาเป็นพรวนข้างหลัง

 

 

ซ่งเย่าหนานและคนอื่นๆ กำลังยิ้มแย้มพูดคุยกับนักแข่งต่างชาติที่สวมเครื่องแบบสีฟ้า

 

 

ที่ด้านหลังเสื้อเชิ้ตของเขาเป็นรูปเสือชีตาร์

 

 

หลินเยียนกำลังมองดูรูปเสือชีตาร์ และรู้สึกว่าชุดเครื่องแบบนี้ช่างคุ้นตา เหมือนเธอจะเคยเห็นมาก่อน เผยอวี่ถังค่อยๆ สะกิดหลินเยียนอย่างระมัดระวัง

 

 

“อะไร” เธอหันกลับมามองเขา

 

 

เผยอวี่ถังถอยหลังไปสองสามก้าวเมื่อหลินเยียนหันมา

 

 

“พี่เยียนกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบผมล่ะ” เขาถาม

 

 

ต้องขอบคุณปฏิกิริยาตอบโต้ของหลินเยียนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนนี้เผยอวี่ถังเริ่มมีอาการผวา เขากลัวว่าถ้าเขาไปเผลอทำทะเล้นใส่เธอโดยไม่ระวังอีก เธออาจจะทำลายแขนเขาทิ้งถาวรได้

 

 

“ไม่มีอะไร ฉันแค่กำลังดูซ่งเย่าหนานกับทีมของเขาน่ะ” หลินเยียนยิ้มตอบ

 

 

“ใช่ พี่เยียน นึกไม่ถึงเลยว่าซ่งเย่าหนานรับนักแข่งต่างชาติมาเข้าทีมด้วย” เมื่อรู้สึกได้ว่าไม่มีอันตราย เผยอวี่ถังจึงขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น

 

 

สายตาของหลินเยียนกวาดมองไปที่นักแข่ง เห็นได้ชัดว่า…พวกเขามาจากต่างประเทศ

 

 

“พี่เยียน พี่รู้จักทีมนั้นหรือเปล่า ผมไม่เชื่อหรอกว่าซ่งเย่าหนานจะชนะ ต่อให้มีนักแข่งต่างชาติในทีมก็เถอะ ทางฝั่งเรามีทีมซีเอ็ชวัน แล้วพวกเขาก็เป็นทีมระดับท็อปของประเทศ อีกอย่าง ก็อดซีก็อยู่คุมทีมเองด้วย!” เผยอวี่ถังพูดไม่หยุด

 

 

“อืมมม…ดูเหมือนว่า…” หลินเยียนนิ่งคิด

 

 

ก่อนที่หลินเยียนจะทันได้พูดอะไร เผยอวี่ถังก็ส่ายหน้า “พี่เยียน ถึงแม้ว่าฝีมือขับรถแข่งของพี่จะดี แต่พี่ก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับทีมแข่งรถเท่าไหร่ พี่ไม่รู้จักกระทั่งซีเอ็ชวันกับก็อดซี! แล้วพี่จะไปรู้จักทีมพวกนั้นได้ยังไง”

 

 

ถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ตรงกันข้าม เธอรู้เยอะเชียวละ

 

 

เครื่องแบบสีฟ้ากับรูปเสือชีตาร์นั่นเป็นของทีมแข่งรถจากต่างประเทศที่ชื่อสปีด

 

 

กัปตันทีมนี้เคยได้แชมป์ในการแข่งขันระดับสามในสนามแข่งนานาชาติมานับครั้งไม่ถ้วน เขายังพยายามที่จะขึ้นไปแข่งในระดับสองด้วย ตอนที่หลินเยียนอยู่ต่างประเทศ เด็กฝึกหัดของเธอยังเคยลงแข่งในสนามเดียวกับเขา และชวนหลินเยียนไปดูในฐานะแขกวีไอพีของเขา

 

 

 

 

 

ตอนที่ 164 โชคดีนะไอ้หนู

 

 

ในตอนนั้น เด็กฝึกหัดของหลินเยียนได้พบกับกัปตันทีมสปีด

 

 

หลินเยียนยังจำได้ว่านายกัปตันนั่นยโสแค่ไหน เขาพยายามยั่วยุแล้วก็ทำให้เด็กฝึกหัดของเธอต้องขายหน้าหลายครั้ง แต่พอเริ่มการแข่งขัน เด็กฝึกหัดของเธอก็กัปตันนั่นซะราบคาบ

 

 

เรื่องที่คู่ควรแก่การจดจำก็คือ เด็กฝึกหัดของหลินเยียนสามารถบดขยี้กัปตันนั่นได้ตั้งแต่ต้น เขาไปรอกัปตันนั่นที่เส้นชัยอยู่ตั้งสองนาทีครึ่งแน่ะ…

 

 

เด็กฝึกหัดของหลินเยียนดังเป็นพลุในชั่วข้ามคืน และได้ตำแหน่งชนะเลิศของการแข่งขันนานาชาติระดับสองในปีนั้น เขายังกลายเป็นนักแข่งระดับต้นๆ ในทันทีและมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะประมาทนายกัปตันนี่ได้ เขาอยู่ตำแหน่งที่แปดในการแข่งขันนานาชาติระดับสอง ส่วนซีเอ็ชวันที่เผยอวี่ถังเชิญมานั่น ยังไม่ได้อยู่ในลีคระดับเดียวกับทีมสปีดด้วยซ้ำ

 

 

สปีดเป็นทีมลำดับแปดในการแข่งขันนานาชาติระดับสอง

 

 

พูดอีกอย่างก็คือ ซีเอ็ชวันเป็นทีมลำดับสิบหกของการแข่งขันนานาชาติระดับสาม

 

 

ถ้าดูจากความจริงข้อนี้ แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่ซีเอ็ชวันจะชนะได้เลย

 

 

ความแตกต่างระหว่างการแข่งขันนานาชาติระดับสองกับระดับสามมันมากเกินไป หรือพูดง่ายๆ ก็คือ นี่เป็นการแข่งกันระหว่างเด็กประถมกับเด็กมหาวิทยาลัย

 

 

หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถังเงียบๆ ความเห็นอกเห็นใจแสดงออกมาในสายตาเธอโดยไม่รู้ตัวเมื่อเธอพูดอยู่ในใจว่า “โชคดีนะไอ้หนู”

 

 

“พี่เยียน ดูซ่งเย่าหนานสิ! กล้าดียังไงถึงได้จ้างนักแข่งต่างชาติน่ะ นี่มันคิดว่าพวกนั้นเก่งนักหรือไง คิดว่าถ้าเอานักแข่งต่างชาติมาช่วยแล้วจะทำให้มันชนะการแข่งครั้งนี้เหรอ”

 

 

“คุณชายสามอยากจะลอง…พนันดูไหมล่ะคะ” หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถัง

 

 

“ได้เลย!” เผยอวี่ถังทำเสียงเย็นก่อนจะพูดต่อว่า “พี่เยียน ทีมที่แพ้จะต้องยุบทีมแข่งรถแล้วก็ออกจากวงการไป แล้วก็จะต้องคลานลอดหว่างขาคนชนะด้วย”

 

 

หลินเยียนคิดเงียบๆ ในใจ ‘ฉันขอให้เธอโชคดีนะ’

 

 

“พี่เยียน ทำไมมองหน้าผมแบบนั้น นี่พี่พยายามจะบอกอะไร นี่พี่ไม่เชื่อฝีมือของซีเอ็ชวันเหรอ” เผยอวี่ถังไม่พอใจกับท่าทีของหลินเยียน

 

 

ขณะที่มองดูเผยอวี่ถัง ความคิดของหลินเยียนก็เริ่มวิ่งวนไม่เป็นสุข เธอจะพูดถึงเรื่องนี้ยังไงดีนะ

 

 

ทำไมเผยอวี่ถังถึงได้โง่วางเดิมพันแบบนั้นนะ เขาควรจะตรวจสอบแล้วก็ทำความเข้าใจประวัติของคู่แข่งให้ดีเสียก่อนไม่ใช่เหรอ แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรไปสู้ แซดเอชวันไม่มีทางชนะสปีดได้ ต่อให้เอาชีวิตเป็นเดิมพันก็เถอะ

 

 

“คุณชายสาม คิดว่ายังมีทางอื่นอีกไหมคะ” หลินเยียนถามเผยอวี่ถัง

 

 

“พี่หมายความว่ายังไง” เผยอวี่ถังทำหน้าสับสน

 

 

หลินเยียนแนะว่า “ก็ยกตัวอย่างเช่นยอมแพ้ หรือไม่ก็เปลี่ยนเดิมพัน…”

 

 

“ยอมแพ้เหรอ” เผยอวี่ถังช็อกสนิทเมื่อได้ยินหลินเยียนบอกอย่างนั้น แล้วเขาก็ทำหน้าเหยียดหยามและตอบว่า “พี่เยียน นี่พี่ล้อเล่นรึเปล่า ทำไมผมจะต้องยอมให้คนอย่างซ่งเย่าหนานชนะด้วย แล้วก็ไม่มีทางหรอกที่ผมจะเปลี่ยนเดิมพัน!”

 

 

หลินเยียนคิดเงียบๆ ในใจ ‘ฉันขอให้เธอโชคดีนะ’

 

 

“รอดูเถอะพี่เยียน คราวนี้ผมจะทำให้แน่ใจว่าซ่งเย่าหนานจะต้องชดใช้ให้ทุกอย่างที่มันเคยทำไว้ กล้าดียังไงมาดูถูกผม คิดง่ายเกินไปหน่อยละ!” เผยอวี่ถังยิ้มเยาะๆ กับตัวเอง

 

 

“แล้วถ้าฉันบอกเธอว่าซ่งเย่าหนานจ้างทีมสปีดมาล่ะ” หลินเยียนถาม

 

 

“สปีดเหรอ” เผยอวี่ถังนิ่งคิด ท่าทางเหมือนว่าไม่เคยได้ยินชื่อทีมนี้มาก่อน

 

 

หลินเยียนถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “พวกเขาลงแข่งในการแข่งขันนานาชาติระดับที่สอง แล้วก็ได้ตำแหน่งที่แปด” หลินเยียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเตือนเขา