เล่ม 2 ตอนที่ 136 ขอสัมผัส

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

คำพูดของฉู่หลิวเยว่ทำให้กู้หมิงจูรู้สึกไม่ปลอดภัยและนางก็พูดตะกุกตะกักว่า

“ฉู่หลิวเยว่ เจ้าจะทำอะไรกันแน่ ข้าจะบอกให้ ข้าเป็นถึงคุณหนูรองตระกูลกู้ หากเจ้าทำแตะต้องข้าจริงๆ ตระกูลกู้ไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!”

ฉู่หลิวเยว่คร้านจะใส่ใจนาง

“ทำให้นางหุบปากซะ”

กู้หมิงเฟิงมองหาวัสดุรอบๆ ก่อนจะฉีกแขนเสื้อของกู้หมิงจูออกมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะยัดปากนางเอาไว้

เมื่อแขนของกู้หมิงจู้โผล่ออกมาข้างนอกครึ่งหนึ่ง นางก็รู้สึกอับอายและโกรธแค้น นางส่งเสียงอื้ออึงหลายครั้ง แต่ก็พูดไม่ได้

กู้หมิงเฟิงปรายตามองนาง

กู้หมิงจูนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกเขาตบหน้าเมื่อครู่นี้ก็หุบปากโดยไม่รู้ตัว นางก็ไม่กล้าโวยวายอีก

กู้หมิงเฟิงในยามนี้ดูมืดมนและอำมหิตมาก นางรู้สึกว่าถ้าเขานึกรำคาญขึ้นมาคงจะฆ่านางตายจริงๆ!

กู้หมิงจูยังคงรักชีวิตของตนเอง หลังจากรู้สึกหวาดผวา นางก็หุบปากแนบสนิททันที

ฉู่หลิวเยว่บดหยวนตันของหมีแผงคอทองคำให้เป็นผง เพิ่มสมุนไพรอีกสองชนิดที่นางพกติดตัวไปไว้บำรุงเลือดลมปราณมาผสมกันเพื่อใช้รักษามู่หงอวี๋

เมื่อเห็นดังนั้น เฉินหู่จึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า

“ฉู่หลิวเยว่ ทำไมเจ้าถึงได้สองมาตรฐานเช่นนี้ ให้ข้ากลืนหยวนตันเข้าไปสดๆ ส่วนหงอวี๋เจ้ากลับบดให้อย่างละเอียด เจ้าอย่าทำกับข้าเยี่ยงนี้เพราะเห็นว่าข้าเป็นผู้ชายหยาบกร้านซิ!”

มู่หงอวี๋รู้สึกว่าฟื้นตัวขึ้นมากและอารมณ์ดีขึ้น ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าด้วยความชอบใจ

“เฉินหู่ เจ้ายังรู้ตัวว่าเป็นผู้ชายด้วยหรือ ทำไมถึงขี้อิจฉาขนาดนี้ แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่ดีกับข้าที่สุด ส่วนพวกเจ้าต่อแถวข้างหลังนู่น! เจ้าน่าเอ็นดูเหมือนข้าที่ใดกัน!”

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนขำออกมา

ฉู่หลิวเยว่กล่าว

“อาชาขี้เถาเป็นสัตว์อสูรระดับสาม หากรับหยวนตันเข้าไปโดยตรงไม่เป็นปัญหา ส่วนหมีแผงคอทองคำนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง หงอวี๋ได้รับบาดเจ็บ ร่างกายอ่อนแรง หากใช้หยวนตันนี้โดยตรงก็จะมีผลเสียมากกว่าประโยชน์”

นางเอาผงหยวนตันที่เหลืออยู่ใส่ไว้ในมือของมู่หงอวี๋ และกำชับอย่างจริงจัง

“ที่เหลือเจ้าแบ่งใช้สองครั้งทุกๆ สี่ชั่วยาม อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าจะได้ดีขึ้น”

“จริงหรือ ดีจริงเชียว!”

มู่หงอวี๋เก็บมันเอาไว้ด้วยความดีใจ เมื่อคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ นางก็รู้สึกสะท้อนใจ

“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าข้าจะสามารถใช้หยวนตันหมีแผงคอทองคำบดเป็นผงมารักษาอาการบาดเจ็บได้ ที่สำคัญข้ายังมีส่วนช่วยในการสังหารอีกด้วย!”

หลิวเยว่บอกแล้วว่าพวกเราเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน และชัยชนะนี้เป็นของพวกเขาทั้งสี่คน!

แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ผลของการต่อสู้ด้วยกันเช่นนี้ก็ทำให้พวกเขาสามารถพูดออกไปเชิดหน้าชูตาได้

ปีที่แล้วหรงจิ้นล่าสัตว์อสูรระดับสี่ได้ ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดได้ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเทียบกับพวกเขาก็แค่แข็งแกร่งกว่า!

หรือแม้แต่ในสายตาของคนทั้งสำนัก คราวนี้พวกเขาก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดได้เช่นกัน

“เฮ้อ น่าเสียดายที่หมีแผงคอทองคำนั้นตายแล้ว ไม่อย่างนั้น หากล่ามันได้ก็คงจะดีมาก” เฉินหู่จิ๊ปาก “นั่นเป็นสัตว์อสูรระดับสี่เชียวนะ!”

ฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มมุมปาก

“หมีตัวนั้นเป็นหมีตัวเมียที่ถูกทำให้เกรี้ยวกราด ไม่มีทางทำให้เชื่องได้แน่นอน การเก็บมันไว้ใกล้ตัว รั้งแต่จะเป็นหายนะ”

เฉินหู่หัวเราะแหะๆ

“ข้าแค่จะบอกว่า! ในสถานการณ์นั้น ถ้ามันไม่ตายพวกเราก็ตายดังนั้นแน่นอนว่ามันต้องตาย!”

มู่หงอวี๋พิงกับลำต้นของต้นไม้ด้วยไหล่ข้างที่ไม่บาดเจ็บและอดเห็นด้วยไม่ได้

“จริงด้วย สัตว์อสูรระดับสี่ไม่ได้หากันง่ายๆ…ตอนนี้พวกเราหลายคนได้รับบาดเจ็บ ต่อไปถ้าคิดจะรับมือกับสัตว์อสูรระดับนี้ก็คงเป็นการยากแล้วล่ะ”

ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะเจอสักตัว แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาต้องมาตกอยู่ในอันตรายเพราะกู้หมิงจูคนเดียว

ยังโชคดีที่ฉู่หลิวเยว่และกู้หมิงเฟิงไม่บาดเจ็บอะไรมาก แต่อาการของนางกับเฉินหู่นั้นถือว่าสาหัสเอาเรื่อง

เกรงว่าการล่าสัตว์ในบรรพตวั่นลิงคราวนี้คงไม่ได้เก็บเกี่ยวอะไรไปมาก

“เฮ้อ ตอนแรกข้าอยากจะล่าสัตว์อสูรระดับสี่สักตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความหวังแล้ว…”

ฉับพลันนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เขกหน้าผากนางเบาๆ

“ผู้ใดบอกว่าไม่มีความหวังล่ะ”

ดวงตากลมโตของมู่หงอวี๋เบิกกว้าง

“หรือว่า…เจ้าจะช่วยข้าล่าสัตว์อสูร”

รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่ดูมีเลศนัยมากขึ้น

“เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากเช่นนั้น วิธีนั้นจะสำเร็จหรือ”

“อยู่ข้างในนี้นี่แหละ”

กู้หมิงจูยืนอยู่ที่ทางเข้าถ้ำและพูดอย่างไม่เต็มใจ

“เจ้าเดินนำสิ”

ฉู่หลิวเยว่กล่าว

กู้หมิงจูระงับความโกรธ หันหลังกลับและเดินเข้าไปข้างใน

ฉู่หลิวเยว่และพรรคพวกของนางติดตามอย่างใกล้ชิด

กู้หมิงจูถูกมัดอย่างแน่นหนา พวกเขาก็ไม่ได้กลัวว่านางจะตุกติกหรือวิ่งหนีไปอย่างกะทันหันแต่อย่างใด

ภายนอกถ้ำนี้ดูไม่ใหญ่นักแต่ข้างในกว้างมาก พวกเขาเดินไปได้สักพักก็ถึงด้านในสุด

ฉู่หลิวเยว่เห็นรังเป็นโพรงทันที

“นั่นคือที่ที่ลูกหมีแผงคอทองคำอาศัยอยู่”

กู้หมิงจูพูดอย่างไม่เต็มใจ นางหงุดหงิดรำคาญจะตายอยู่แล้ว!

ตอนแรกคิดว่าสามารถหารอยรั่วได้ แต่ใครจะไปรู้ว่านำหายนะมาสู่ตัวเอง สุดท้ายยังเดือดร้อนฉู่หลิวเยว่อีก

เมื่อวานนี้นางถูกมัดไว้และไม่สามารถนอนหรือนั่งได้ นางแค่ยืนอยู่ที่นั่นทั้งคืนจนเมื่อยขบไปทั้งตัว

อย่างไรก็ตามฉู่หลิวเยว่ไม่เพียงปล่อยนางไป แต่ขอให้นางบอกว่าพบหมีแผงคอทองคำจากที่ไหนมาก่อน

นางถูกบีบบังคับอย่างช่วยไม่ได้ จึงทำได้เพียงพาพวกเขามาที่นี่

ดูเหมือนว่าจะได้ยินการเคลื่อนไหวบางอย่าง และทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาในรัง ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังพลิกไปมา

จากนั้นก็มีหัวกลมก็โผล่ออกมา

“เป็นลูกหมีจริงๆ ด้วย!”

มู่หงอวี๋อุทานเสียงเบา

ลูกหมีแผงคอทองคำนั้นมีความยาวเพียงหนึ่งศอกของผู้ใหญ่ ขนบนตัวของมันยังคงเป็นสีเทาอ่อน และมีวงแหวนสีเข้มกว่าเล็กน้อยรอบคอของมัน

เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งแรกคลอดได้ไม่นาน โดยธรรมชาติเมื่อโตขึ้น ขนของมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีทองบริเวณแผงคอ

มันกะพริบตามองฉู่หลิวเยว่และกลุ่มของนางอย่างสงสัย มันเกาหูของกลมดิกของมันและดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

สุดท้ายสายตาของมันก็มาหยุดอยู่ที่มู่หงอวี๋…จากนั้นมันก็อ้าแขนออกกว้าง

มู่หงอวี๋เบิกตาโต

“มัน มัน..มันหมายความว่าอย่างไร จะ จะ จะให้ข้าอุ้มหรือ”

ฉู่หลิวเยว่ฉุกคิดครู่หนึ่ง

“อาจเป็นเพราะกินหยวนตันของแม่มันเข้าไป มันจึงรู้สึกถึงกลิ่นที่คุ้นเคย ดังนั้นมันจึงอยากเข้าใกล้เจ้าไงล่ะ”

“จริงหรือ”

มู่หงอวี๋แทบไม่อยากเชื่อ

ในขณะที่กำลังพูดกันนั้น เมื่อเจ้าลูกหมีเห็นว่านานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ มันจึงกลิ้งออกมาเอง เดินต้วมเตี้ยมๆ ปีนขึ้นไปเกาะขามู่หงอวี๋แล้วกอดขาแน่น

มู่หงอวี๋ใจละลายทันที จากนั้นนางก็รีบอุ้มลูกหมีตัวน้อยขึ้นมา

เมื่อลูกหมีแผงคอทองคำพึงพอใจแล้วเอนตัวพิงไหล่ของนางพร้อมกับถูไถอย่างรักใคร่

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มและพูดติดตลก

“มันยังเล็กเกินไปที่จะอยู่ที่นี่ลำพัง เจ้าพามันไปด้วยดีกว่า”

มู่หงอวี๋รู้สึกประหลาดใจและดีใจไปพร้อมกัน

“ได้จริงๆ หรือ”

“ที่นี่ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับเจ้าแล้ว”

แน่นอนว่ามู่หงอวี๋ไม่ปฏิเสธ

นี่คือลูกของสัตว์อสูรระดับสี่ นิสัยเชื่องเลี้ยงง่ายทั้งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการล่าสัตว์อสูร ที่สำคัญลูกหมีแผงคอทองคำตัวนี้ใกล้ชิดกับนาง และนางเองก็ชอบมันมากจริงๆ

“เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!”

มู่หงอวี๋กอดลูกหมีแผงคอทองคำอย่างทะนุถนอมและบีบหูของมันเล่นเบาๆ

ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกจั๊กจี้ที่แก้ม เมื่อก้มหน้ามองก็เห็นเพียงพอนโลหิตตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าโผล่หัวออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และดูเหมือนมันกำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่

เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่แน่นิ่งไม่ไหวติง มันจึงกระดิกหูแหลมทั้งสองข้างของมัน

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นสูง

นี่มัน…

ขอสัมผัสอย่างนั้นหรือ!