บทที่ 105 คิดให้ปลอดภัย ส่งให้แดนศักดิ์สิทธิ์

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 105 คิดให้ปลอดภัย ส่งให้แดนศักดิ์สิทธิ์
แดนบูรพา ภูเขาด้านหลังแดนเทวาดาวประกายพรึก

ใต้ธารน้ำตกไหลเชี่ยวจากจุดสูงสามพันฉื่อ เสียงดังสนั่นหูราวกับสายฟ้า

ทว่าตรงก้นน้ำตกกลับมีบุรุษยืนอยู่สองคน กำลังกวัดแกว่งกระบี่ยาวในมือฟันน้ำตก

บนพื้นกว้างข้างน้ำตกมีบุรุษวัยกลางคนสองคนยืนอยู่คนละฝั่ง คนหนึ่งสวมชุดคลุมสีม่วง แบกกระบี่หนัก

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีสีหน้าอ้อนวอน “ศิษย์พี่ ท่านฝึกข้ามาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วนะ”

เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์เอ่ยอย่างเฉยชา “ทว่าความอดทนของศิษย์น้องยังคงเลอะๆ เลือนๆ อยู่เช่นนั้น!”

เอ่ยจบ เขาก็มองน้ำตกข้างๆ “ออกแรงให้ข้าอีกหน่อย! ผู้ใช้กระบี่ คมกริบสะเทือนฟ้าดิน ฝึกฝนไปอย่างโชกโชน ต้องแข็ง ต้องเร็ว!

เสิ่นเอ้า ในเมื่อเจ้าเข้าแดนเทวาดาวประกายพรึก ก็จะทำให้ฝ่ายเราขายหน้าไม่ได้ หนึ่งเดือนจากนี้จะเป็นการประลองย่อยฝึกซ้อมร่วมสงครามบรรพกาลของสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่กับหกแดนเทวา

การฝึกซ้อมครั้งนี้อยู่รอบนอกสนามรบบรรพกาลใกล้ๆ อาณาจักรต้าเหยียน ระดับแก่นพลังทองเข้าร่วมไม่ได้ เพื่อให้เจ้าโดดเด่นในการฝึกซ้อม หนึ่งเดือนนี้ข้าจะฝึกเจ้าแทนอาจารย์เจ้า ข้าจะถ่ายทอดวิชากระบี่ให้เจ้า

หนึ่งเดือนจากนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่อ่อนแอเช่นนี้จนทำให้ฝ่ายเราขายขี้หน้า ถ้าไม่อย่างนั้น!”

หลี่ชางหลันไม่ได้เอ่ยคำพูดที่เหลือ แต่เสิ่นเอ้าใต้น้ำตกอยากจะร้องไห้แล้ว

สวรรค์! ข้าไม่มีความแค้นอะไรกับท่าน ไฉนต้องทำเช่นนี้!

แล้วก็การฝึกพิเศษหนึ่งเดือน

เจ้าเคยเห็นคนที่เพิ่งทะลวงระดับสร้างฐานคนไหนฝึกพิเศษหนึ่งเดือนแล้วรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วบ้าง

แล้วก็จะให้ข้าร่วมการฝึกซ้อมร่วมของสองแดนศักดิ์สิทธิ์กับหกแดนเทวา เกรงว่าคงจะมีแต่คนที่มีพลังบำเพ็ญสูงกว่าข้าทั้งนั้น!

เสิ่นเอ้ากวัดแกว่งกระบี่ฟันน้ำตกอย่างลำบากไปพลาง พูดแขวะอย่างบ้าคลั่งในใจไปพลาง จิตใจจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมีลูกพี่อยู่ข้างๆ และยังอนาถากว่าตนนั้น

เสิ่นเอ้าคงรู้สึกว่าชีวิตตนไร้ความหวังใดๆ ไม่มีความหมายใดๆ เลย

รอเดี๋ยว สองแดนศักดิ์สิทธิ์นั่นคงไม่มีแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หรอกนะ!

พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เสิ่นเอ้าก็ตระหนกยิ่งกว่าเดิม

อย่านะ!

น้องสิบสาม เขามีพิษภัย!

……

ดินแดนบูรพา แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก

กลิ่นหอมดอกไม้เสียงนกร้องดังในโลกเล็กแห่งนี้ ดอกต้นท้อเบ่งบานไปทั่วทุกแห่งหน

ตรงกลางโลกเล็กแห่งนี้เป็นยอดเขามหึมายิ่งลูกหนึ่ง ดินแดนแห่งความงดงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายเซียน ตรงกลางยอดเขาวิญญาณ กลางน้ำแร่ชะล้างเซียน หมอกวิญญาณแผ่คลุม

ผู้หญิงร่างระหงคนหนึ่งเดินออกมาเนิบๆ สวมชุดกระโปรงยาวสีมรกต พลังวิญญาณวนเวียนรอบกาย เหมือนเซียนเดินออกมาจากภาพวาด

ตรงปากทางเข้าน้ำแร่มีศิษย์สตรีหลายคนรออยู่ ทุกคนล้วนมีใบหน้าค่อนข้างงดงาม

“ศิษย์พี่หญิงหลิงเอ๋อร์ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กำชับมาว่าให้ท่านไปพบนางที่ยอดเขาพริ้มเพรา บอกว่ามีข่าวเกี่ยวกับเสิ่นเทียนจะแจ้งศิษย์พี่หญิง”

ผู้หญิงพยักหน้าเล็กน้อย นัยน์ตาเป็นประกายวูบไหว

นางก้าวเดินช้าๆ พลังวิญญาณแผ่กระจายใต้เท้า เกิดคลื่นกระเพื่อม

ศิษย์สตรีพวกนั้นมองนางค่อยๆ เดินไปไกลด้วยแววตาชื่นชมอย่างยิ่ง

ผู้สืบทอดผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่หาเจอจากข้างนอกมีกายวิญญาณแก่นสวรรค์ประทานที่หาได้ยาก

ดูท่าการคัดเลือกสตรีศักดิ์สิทธิ์ในรอบร้อยปีนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ขึ้นแน่!

……

แดนบูรพา ทางชานเมืองตะวันออกเมืองเทพสวรรค์ กลางบ้านหลังหนึ่ง

บึ้ม!

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ควันดำลอยโชยมา

มีร่างคนดำเมี่ยมทั้งตัวเดินออกมากลางควันดำปี๋

ตรงเอวเขาหนีบบอลเหล็กสีเงินพวงหนึ่ง ตรงบ่ายังแบกไม้เหล็กสีดำ

สิ่งที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ รูปร่างไม้เหล็กสีดำนั้นเหมือนปืนลูกซองในพับจีอย่างยิ่ง

“สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว!”

ฉินอวิ๋นตี๋ใช้มือดำเมี่ยมเช็ดหน้าดำเมี่ยม ทั้งหน้าเลยดำยิ่งกว่าเดิม

“ศิษย์พี่ ข้าค้นพบแล้วว่าหากผสมต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยางและพลังวิญญาณในอัตราส่วนสี่สองหนึ่งแล้ว จะมีอานุภาพรุนแรงที่สุด!

นอกจากนี้ ‘อัสนีหยินหยางเจาะเกราะ’ กับ ‘ปืนหยินหยางพิฆาตอสูร’ ที่ศิษย์พี่บอก ข้าก็ทำได้หมดแล้ว ศิษย์พี่ท่านลองดูอานุภาพของพวกมันหน่อยว่าเป็นอย่างไร ท่านพอใจหรือไม่”

เร็วขนาดนี้เลยรึ

เสิ่นเทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นี่เพิ่งวันเดียวเอง ก็สร้างระเบิดมือกระจายกับปืนลูกซองได้แล้วหรือ

ศิษย์น้องอวิ๋นตี๋ สมกับเป็นเจ้าจริงๆ!

เสิ่นเทียนรับลูกบอลเหล็กสีเงินมาลูกหนึ่ง ก่อนออกแรงที่มือขวาปามันไปไกลร้อยเมตร

บึ้ม!

อัสนีเทพระเบิดกลางอากาศ ไข่มุกเหล็กวิญญาณสีเงินพุ่งออกไปราวกับดาวตก

เพียงชั่วพริบตาเดียว บนพื้นเหมือนถูกไถผ่านไป ปรากฏหลุมลึกนับไม่ถ้วน

……

เห็นผลลัพธ์นี้แล้ว เสิ่นเทียนยังแอบอึ้งอยู่ในใจ

ไม่นึกเลยว่าไฮโดรเจน ออกซิเจนและพลังวิญญาณรวมกันแล้วจะมีอานุภาพแกร่งเช่นนี้

ตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบายไปก่อนหน้านี้ สายฟ้าลูกแบบนี้สามารถทำอันตรายจุดสูงสุดระดับสร้างฐานได้เลย แน่นอน เงื่อนไขคือจุดสูงสุดระดับสร้างฐานจะต้องยืนโง่ให้เจ้าระเบิด ความเป็นไปได้นี้ไม่มาก

แต่ถ้าใช้คู่กับค่ายกลพันธนาการ ค่ายกลสังหาร กับดักหรือกับระเบิดนั่นพูดยากแล้ว

ลองปืนสีดำใหญ่นี่อีกว่าใช้ดีหรือไม่

เสิ่นเทียนลูบท่อนเหล็กสีดำที่ฉินอวิ๋นตี๋ส่งมา แววตาเร่าร้อนและเฝ้ารอคอย

ผู้ชายส่วนใหญ่จะสนใจการยิงปืนโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะยิงอะไรก็ตาม

เสิ่นเทียนก็เช่นกัน

เขารับท่อนเหล็กสีดำมา ก่อนจะยัดยันต์อัสนีกับไข่มุกเหล็กวิญญาณเข้าไปตามวิธีการที่ฉินอวิ๋นตี๋สาธิต จากนั้นเล็งปืนลูกซองแบบง่ายๆ ใส่หินยักษ์กลางลานบ้าน ก่อนเหนี่ยวไกปืนช้าๆ

ผิวนอกปืนลูกซองขยับประกายตราเวทลี้ลับ นั่นคือตราเวทป้องกันลำกล้องระเบิดสำหรับกระบอกปืนทองคำวิญญาณ

ปัง!

ยันต์อัสนีระเบิดออก ไข่มุกเหล็กวิญญาณยิงออกจากกระบอกปืน ทำให้หินยักษ์นั้นเป็นรูในพริบตา

เมื่อฝุ่นละอองกระจายไปแล้ว ก็พบว่าหินยักษ์นั้นถูกยิงแหลกเป็นเศษกระจาย

ไข่มุกเหล็กวิญญาณแข็งๆ ยิงลงพื้นฝังลึกลงไป

……

“เนื่องจากวัสดุจำกัด กระบอกปืนของปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเลยรับแรงระเบิดสูงเกินไปไม่ได้ อานุภาพเลยมีจำกัด”

ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย “ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรที่ทำขึ้นจากทองคำวิญญาณธรรมดาทั้งหมดแบบนี้มีอานุภาพสังหารต่อผู้แข็งแกร่งระดับสร้างฐานตอนกลางค่อนข้างมากเลย

แน่นอน ถ้าใช้กระบอกปืนที่ทำจากวัสดุทองคำวิญญาณที่แกร่งกว่าได้ ข้ามั่นใจว่าจะสร้างอาวุธสังหารที่แกร่งกว่านี้ได้! เพียงแต่ทองคำวิญญาณในระดับที่แข็งแกร่งราคาสูงไป แค่กๆ เกรงว่าศิษย์น้องคงซื้อไม่ไหว”

เมื่อได้ฟังฉินอวิ๋นตี๋อธิบายด้วยความอึดอัดใจแล้ว เสิ่นเทียนก็แสดงออกว่าเข้าใจทุกอย่าง

จะทำการวิจัยน่ะ จะไม่ใช้เงินได้อย่างไร

แต่การวิจัยอาวุธยุทโธปกรณ์ระดับสูงแบบนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุนเลย!

ตอนนี้ยันต์อัสนีที่ทำอันตรายผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานได้ในตลาด ปกติมีราคาสิบศิลาวิญญาณขึ้นไป

ถ้าเป็นยันต์อัสนีที่ทำอันตรายระดับสร้างฐานตอนกลางหรือตอนปลาย จะขายได้ราคาห้าสิบถึงหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ

อัสนีเทพหยินหยางธรรมดาที่ฉินอวิ๋นตี๋สร้างถือว่าใช้พลังวิญญาณและกระดาษยันต์เป็นต้นทุน อย่างมากสุดก็ไม่เกินสองศิลาวิญญาณ

แม้จะเป็นอัสนีเจาะเกราะหยินหยางที่ใส่ทองคำวิญญาณระดับต่ำเข้าไป ต้นทุนหนึ่งลูกก็จะไม่เกินห้าศิลาวิญญาณ

แค่เอาออกไปขายก็ได้กำไรยี่สิบเท่าขึ้นไปแล้ว สร้างกำไรได้ทุกวินาทีเลย!

…..

รอเดี๋ยว!

เสิ่นเทียนกำลังคำนวณกำไรว่าได้มากเท่าไร!

ทันใดนั้นหัวใจเขาก็บีบรัดตัว รู้สึกว่าตนมองข้ามสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งไป

เงินนี่มีประโยชน์จริงๆ แต่ถ้าเจ้ามีศักยภาพไม่พอ เงินมากไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดี

เสิ่นเทียนจำได้ว่าในประวัติศาสตร์เมื่อภพก่อนก็มีลูกพี่แซ่เสิ่นอยู่คนเหมือนกันที่ทำให้จักรพรรดิอิจฉาตาร้อนเพราะมีความมั่งคั่งเทียบเท่ากับอาณาจักร

ปรากฏว่าจักรพรรดิหาเหตุผลมากักขังเขาและริบทรัพย์ สมบัติในตระกูลถูกยึดเข้าหลวงหมด

ตอนนี้เสิ่นเทียนอยู่ในโลกบำเพ็ญเซียนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จิตใจคนโหดร้าย!

ตนอยู่เพียงระดับหลอมปราณตัวจ้อย เหนือหัวมีวงรัศมีสีเขียวเล็กๆ

จะไปกล้าแข่งธุรกิจกับเถ้าแก่ใหญ่พวกนั้นได้อย่างไร

ซี้ด~ ไม่เหมาะสม อันตรายเกินไป!

ทำอย่างไรดี!

……..

เสิ่นเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ขบคิดอย่างหนักครึ่งชั่วโมง

ในที่สุดเขาก็หยัดกายขึ้นเนิบๆ ‘คิดให้ปลอดภัย ส่งให้แดนศักดิ์สิทธิ์!’

จะว่าไปข้ากับฉินอวิ๋นตี๋ก็เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์กับศิษย์สายตรงแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นหัวใจสำคัญของแดน!

ตอนนี้ค้นพบกรรมสิทธิ์ที่มีค่าเช่นนี้แล้วส่งมอบให้แดนศักดิ์สิทธิ์ แดนศักดิ์สิทธิ์ทำกำไรแล้วจะไม่แบ่งให้เราหน่อยหรือ

ต่อให้ถึงตอนนั้นมีคนจากขุมอำนาจอื่นอิจฉาตาร้อน มาวางแผนการร้ายจริงๆ

นั่นก็เป็นเรื่องของแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกผู้อาวุโสจะต้องออกหน้าจัดการแน่

อืม ตัดสินใจแบบนี้แหละ

แบ่งเงินให้อาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ จ่ายค่าคุ้มครองไป

พิงหลังต้นไม้ใหญ่ตากลมเย็นสบายดี!

…………………………