ตอนที่ 261

คำพูดของจ้าวหลานสะกิดเส้นประสาทของหลิวซื่อและหญิงชราเข้าให้แล้ว เมื่อเห็นบุรุษแปลกหน้าผู้นั้นคุ้มกันจ้าวหลานจากไป พวกนางก็ถลันเข้าไปหาเสียเลย ทว่าก็ล้มลงกับพื้นตรงที่ห่างจากจ้าวหลานเพียงสองก้าวเท่านั้น

หญิงชรากึ่งล้มอยู่บนพื้น นางเริ่มร้องห่มร้องไห้ คว้าเศษดิน เล่นละครยกใหญ่ทีเดียว

“โอ๊ย…ทุกคนมาดูเร็ว ลูกสะใภ้ตีแม่สามี แม้แต่สวรรค์ก็ทนเห็นไม่ได้ ขาของข้า แขนของข้า เอวแก่ๆ ของข้า จ้าวหลาน…เจ้าใจดำเหลือเกิน ข้าอายุปูนนี้ เหมือนมีดินฝังกลบร่างข้าครึ่งหนึ่งแล้ว ไม่นานก็น่าจะลงโลงแล้ว เจ้าร้อนใจอยากเห็นข้าตายไปโดยเร็วใช่หรือไม่ ทุกคนมาดูเร็ว ลูกสะใภ้จะตีแม่สามีตายอยู่แล้ว…”

อาอู่เบิกตาโพลง ยายเฒ่าผู้นี้ช่างเล่นละครเก่งเสียจริง สร้างข่าวลือเช่นนี้ก็ได้ด้วย? พวกเขายังไม่ได้แตะต้องพวกนางเลยแม้แต่ปลายเล็บ

หลิวซื่อยื่นคอยาวมองไปโดยรอบ แม้พวกคนงานบนที่ดินสร้างบ้านจะชำเลืองมองมาทางนี้ แต่กลับไม่มีใครเดินมาเลยสักคน ทั้งหมดต่างยืนมองพวกนางอยู่ไกลๆ ราวกับกำลังดูละครก็ไม่ปาน

หวังพึ่งพาคนเหล่านี้คงจะเป็นไปไม่ได้ หลิวซื่อกล่าวกับหญิงชราว่า “ท่านแม่ ท่านรั้งพวกเขาไว้ อย่าให้พวกเขาไปไหน ข้าจะไปตามท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาตัดสิน ท่านถูกนางตีจนบาดเจ็บแล้ว นางยังคิดจะไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือ อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”

หญิงชรามองสะใภ้ใหญ่ด้วยความชื่นชม นางนับว่าเริ่มฉลาดขึ้นมาแล้ว

หลิวซื่อลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะรีบร้อนไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน

ฝ่ายหญิงชราโผไปข้างหน้า กอดหมับเข้าที่ขาของจ้าวหลาน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้นางไปโดยเด็ดขาด

อยากจะ ‘ยืม’ เงินจากจ้าวหลาน ดูท่าทางจะเป็นไปไม่ได้ แต่นางไม่มีทางกลับไปมือเปล่า เจ้าใหญ่ต้องได้รับการรักษา และนางจะไม่แตะต้องเงินในหีบของตนเองแน่นอน

อาอู่อยากจะดึงหญิงชราออกไป แต่จ้าวหลานรีบห้ามไว้ “เจ้าอย่าได้แตะต้องนาง ยืนอยู่ห่างๆ หน่อยเป็นดีที่สุด วันนี้ข้าอยากดูสักหน่อย ว่าวิธีนี้ที่นางใช้จะหลอกเอาเงินจากข้าได้หรือไม่”

ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วรีบถอยห่างออกไปหลายก้าว

เวลานี้นายช่างซ่งยกถ้วยเปล่าเข้ามาหาอาอู่ เขาถามเสียงเบา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

อาอู่ยิ้มเกร็งพลางส่ายหน้า “หลอกเอาเงินน่ะสิ ข้ากับท่านน้าหลานไม่ได้แตะต้องนางแม้แต่ชายเสื้อ นางล้มลงไปต่อหน้าพวกข้าเอง ทั้งยังเอาแต่พูดว่าพวกข้าตีนาง ต้องการจะไปเรียกท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาตัดสินอีก พวกนางยังมีเหตุผลอยู่บ้างหรือไม่”

นายช่างซ่งวางถ้วยลงในถัง ก่อนจะยิ้มพร้อมตบไหล่ของอาอู่ “วางใจเถอะ พวกข้าหลายคนล้วนจับตามองอยู่ จะปล่อยให้นางทำตามใจชอบได้อย่างไร” เขาขยิบตาให้อาอู่ด้วย

อาอู่ก็รู้กัน เข้าใจความหมายของนายช่างซ่งในทันที เขาวางใจลงได้บ้างแล้ว

ไม่นานนัก หลิวซื่อก็พาท่านหัวหน้าหมู่บ้านมา

ยังไม่ทันเข้ามาใกล้ หลิวซื่อก็ส่งสัญญาณให้หญิงชราแต่ไกล “ท่านแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ อดทนอีกหน่อยนะเจ้าคะ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว”

หญิงชราได้ยินเสียงของหลิวซื่อ นางก็รีบปล่อยมือที่กอดจ้าวหลานไว้ กลับคืนสู่สภาพมือคว้าดิน กึ่งนอนอยู่บนพื้นเช่นก่อนหน้านี้ ปากเริ่มส่งเสียงร้องโอดโอยออกมาอีกครั้ง

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านมาถึง เขาเห็นหญิงชราสกุลไป๋นอนอยู่บนพื้น ไปจนถึงจ้าวหลานที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหญิงชรา

สีหน้าของจ้าวหลานดูไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะในใจของน่ารู้สึกรำคาญใจเสียเต็มประดา อยากจะเตะยายเฒ่าผู้นี้สักสองสามครั้ง รับข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งมอบเงินให้นางอีกสองสามตำลึงให้รู้แล้วรู้รอด

นางสูดหายใจเข้าปอดลึก ไม่ได้ จะให้พวกนางสมใจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพวกนางอาจจะใช้วิธีการนี้ขูดรีดเงินกลับไปอีกไม่รู้กี่หน

หัวหน้าหมู่บ้านมุ่นคิ้วถาม “แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดถึงมีสภาพเช่นนี้ไปได้”

หญิงชราชิงฟ้องทั้งน้ำตาก่อน “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านยังไม่รู้ว่าจ้าวหลานชั่วร้ายเพียงใด เจ้าใหญ่ของข้าได้รับบาดเจ็บ ข้าและสะใภ้ใหญ่มาขอยืมเงินจากนางเล็กน้อย เพื่อไปเชิญหมอมารักษาเจ้าใหญ่ นางไม่ให้ข้ายืมก็ช่างเถอะ แต่ยังตีคนเช่นนี้ ดูสิว่านางตีข้าจนมีสภาพเป็นเช่นไร ข้าแทบจะลุกไม่ขึ้นอยู่แล้ว”

……….

ตอนที่ 262

หญิงชราดูเหมือนเหมือนคนที่ได้รับบาดเจ็บทางกาย รวมถึงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ อีกอย่าง คนนิสัยเช่นจ้าวหลานจะตีคนได้หรือ

ครั้งนั้นที่จื่อยาโถวถูกหญิงชราและหลิวซื่อตีจนตายทั้งเป็น นางก็เพียงแค่ตบหน้าของหลิวซื่อครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนี้นางกับไป๋จื่อมีชีวิตที่ดีแล้ว ยังจะไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงชราอีกหรือ พูดอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อเอาเสียเลย

หัวหน้าหมู่บ้านถามจ้าวหลาน “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

จ้าวหลานถอนใจเสียงหนึ่ง “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าไม่ได้แตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ นางอยากจะหลอกเอาเงินจากข้า ท่านอย่าได้ติดกับนางนะเจ้าคะ”

หลิวซื่อพูดเสียงแหลมในทันที “เจ้าบอกว่าใครหลอกเอาเงิน เจ้าน่ะทำเป็นพูดดี แต่ตนเองตีผู้อื่นแท้ๆ เป็นอะไรไป กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับหรือ”

จ้าวหลานอยากจะโต้แย้ง ทว่าหัวหน้าหมู่บ้านกลับบอกให้นางอย่าเพิ่งพูด ก่อนที่เขาจะกล่าวกับหลิวซื่อว่า “เจ้ายืนอยู่ห่างๆ ก่อน ข้าจะถามเอง”

“ท่านจะถามก็ถามสิ เหตุใดต้องให้ข้าไปอยู่ไกลๆ ด้วย” หลิวซื่อไม่ยอม

หัวหน้าหมู่บ้านมุ่นคิ้ว กล่าวเสียงแข็ง “ข้าให้เจ้าไปยืนไกลๆ ก็ไปเถอะ ไหนเลยจะต้องพูดมากเช่นนี้ หากไม่อยากฟังที่ข้าจะพูด เช่นนั้นข้าก็จะไปแล้ว”

คนที่ช่วยพวกนางได้ในขณะนี้มีเพียงหัวหน้าหมู่บ้าน หลิวซื่อไม่กล้าผิดใจกับเขา จึงทำได้เพียงถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ไปยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของรถเข็น

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเห็นหลิวซื่อเดินไปแล้ว คราวนี้เขาถึงจะนั่งยองลงตรงหน้าของหญิงชรา “เจ้าบอกว่าจ้าวหลานตีเจ้า เช่นนั้นเจ้าบอกมาหน่อยสิ ว่าจ้าวหลานตีเจ้าที่ตรงไหน และเจ้าบาดเจ็บที่ตรงไหน”

หญิงชราชี้ที่แขนของตนเอง “นางหยิกแขนของข้าก่อน จากนั้นก็ผลักข้าให้ล้มลงกับพื้น ล้มจนเอวและขาของข้าแทบจะแยกออกจากกันอยู่แล้ว แต่นั่นยังไม่หมดนะ นางยังใช้เท้าเตะขาอีกสองสามครั้ง ข้าเจ็บปวดไปหมดแล้ว หากท่านมาช้ากว่านี้ ข้าคงจนทนไม่ไหวแล้วกระมัง”

หัวหน้าหมู่บ้านพิจารณาเสื้อผ้าของนาง พลางพูดว่า “เจ้าบอกว่าจ้าวหลานเตะเจ้า? เตะที่ตรงไหน เหตุใดบนเสื้อผ้าของเจ้าจึงแทบไม่มีรอยดินอยู่เลยเล่า”

“มีสิๆ จะไม่มีได้อย่างไร แต่ข้าเป็นคนรักสะอาดมาก เมื่อครู่จึงปัดทิ้งไปหมดแล้ว” หญิงชรารีบกล่าว

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้า แล้วหันไปมองอาอู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของหลิวซื่อระหว่างทางมาที่นี่ได้ เหมือนนางจะพูดว่าอาอู่ก็ลงไม้ลงมือด้วยเช่นกัน

เขาถามอีก “มีเพียงจ้าวหลานตีเจ้ารึ ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่”

หญิงชราส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว มีแต่จ้าวหลานที่ตีข้า ไม่มีคนอื่นอีก หากมีคนอื่นเอง ข้าจะยังรักษาชีวิตแก่ๆ ของข้าไว้ได้อยู่หรือ?”

หัวหน้าหมู่บ้านมีแผนในใจแล้ว เขาผุดลุกขึ้น แล้วเดินไปถึงเบื้องหน้าของหลิวซื่อ ถามนางว่า “ไหนเจ้าพูดสิ ว่าจ้าวหลานตีแม่สามีของเจ้าอย่างไร”

“จะตีอย่างไรได้อีก นางก็พุ่งเข้ามาทั้งตบและเตะ โชคดีที่ข้าวิ่งเร็ว ไม่เช่นนั้นข้าก็อาจจะไม่ได้มายืนพูดอยู่ตรงนี้กับท่านเช่นกัน” หลิวซื่อกล่าว

“ใช้วิธีตบและเตะอย่างไร เจ้าพูดมาให้ละเอียดหน่อย” หัวหน้าหมู่บ้านถาม

หลิวซื่อคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านกำลังยืนยันสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากพูดทุกอย่างให้ดูร้ายแรงขึ้นมาหน่อย จะต้องได้ค่าชดเชยเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

“โอ๊ย จ้าวหลานผู้นี้ช่างโหดร้ายจริงๆ เมื่อนางเห็นพวกข้า ก็หยิบก้อนอิฐขึ้นจากพื้น พวกข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ นางก็ใช้ก้อนอิฐตีพวกข้าแล้ว ข้าวิ่งเร็ว จึงไม่ถูกนางตี แต่ถึงอย่างไรแม่สามีของข้าก็อายุมากแล้ว วิ่งไม่ไหว จึงถูกนางทุบเข้าที่กลางหลัง ท่านแม่ล้มลงในทันที แต่นั่นยังไม่จบ จ้าวหลานหยิบก้อนอิฐขึ้นคิดจะทุบตีอีก ทว่าโชคดีที่ข้าเข้าไปแย่งก้อนอิฐจากมือนางในทันท่วงที ไม่เช่นนั้นไหนเลยตอนนี้แม่สามีของข้าจะยังมีชีวิตอยู่”

หลิวซื่อยิ่งพูดก็ยิ่งใส่อารมณ์ นางพูดต่ออีกว่า “ข้าแย่งก้อนอิฐของนางมาแล้ว นางก็ยังไม่ยอมหยุด เหยียดขาไปเตะศีรษะแม่สามีของข้าเสียสองครั้ง จนกระทั่งท่านแม่สลบไปถึงจะยอมเลิกรา”