บทที่ 92 คุ้นหู

ถวนถวนมองไปที่ลูกหมาพันธุ์ชเนาเซอร์ด้วยสายตารักใคร่จริงจัง ในเมื่อเธอได้รับอนุญาตจากพ่อของเธอแล้ว เธอจึงมุ่งมั่นว่าจะเอาลูกหมาตัวนี้ให้ได้

“โอเค งั้นพ่อจะซื้อมันเดี๋ยวนี้!”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า เขาเองก็พึงพอใจกับลูกหมาที่น่ารักตัวนี้เช่นกัน

“ฮ่าฮ่า สาวน้อย หนูนี่ช่างมีสายตาที่เฉียบแหลมจริง ๆ ลูกหมาตัวนี้มีลักษณะที่ดีและ…”

หลังจากฟังคำเยินยอและอธิบายเกี่ยวกับหมาพันธุ์ชเนาเซอร์ไปได้สักพัก อวี้ฮ่าวหรานก็จ่ายเงินค่าลูกหมาและพาทั้งถวนถวนและลูกหมากลับคอนโด

ในระหว่างทางกลับบ้าน ถวนถวนหัวเราะมีความสุขไปตลอดทาง เด็กน้อยอุ้มลูกหมาตัวนั้นไม่ยอมปล่อยมันลงเลยแม้แต่วินาทีเดียว

“ถวนถวน ถ้าลูกชอบมันมากถ้างั้นลูกก็ตั้งชื่อให้มันสิ” อวี้ฮ่าวหรานยิ้มและเอ่ยขึ้น

“ชื่อ?” ถวนถวนอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งด้วยแววตาเป็นประกาย

“พ่อจ๋า ถ้างั้นหนูจะตั้งชื่อให้มันว่า ลูกกวาด!”

“อืม เป็นชื่อที่ดี” อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะ

“ฮี่ฮี่ เจ้าลูกกวาด เจ้าลูกกวาด ถวนถวนจะพาแกกลับบ้านนะ!”

ถวนถวนตะโกนเรียกชื่อลูกหมาเสียงดังลั่นรถด้วยสีหน้าร่าเริง เธอเอาหน้าซุกไซร้มันอย่างทะนุถนอม

แต่แล้วในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เหตุการณ์ไม่คาดฝันกลับบังเกิดขึ้น

‘โครม!!’

จู่ ๆ รถ BMW ฝ่าไฟแดงตรงสี่แยกที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังขับรถผ่านพอดี และรถ BMW คันนั้นพุ่งเข้าชนส่วนหน้ารถของอวี้ฮ่าวหรานเต็ม ๆ ซึ่งนับว่าโชคดีที่มันไม่ได้กระทบกระเทือนกับห้องโดยสารมากนัก

อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วจ้องไปที่รถฝั่งตรงข้ามทันทีด้วยความโกรธเคือง เพราะฝั่งตรงข้ามฝ่าไฟแดงมาชนรถของเขาซึ่งลูกของเขากำลังนั่งอยู่ในรถ!

บนโลกนี้ใครเจ็บใครตายก็ได้แต่ต้องไม่ใช่คนในครอบครัวของเขา!

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร คนขับรถ BMW กลับทำสิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากได้สติ คนขับรถ BMW เปิดประตูรถของตัวเองออกมาอย่างรุนแรง เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอายุราว 30 กว่า ๆ ซึ่งแต่งตัววับ ๆ แวม ๆ แถมยังแต่งหน้าหนาเตอะ

เมื่อลงมาจากรถได้ เธอรีบเดินมาตบฝากระโปรงรถของอวี้ฮ่าวหรานด้วยความฉุนเฉียวทันที

“ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่แกขับรถภาษาบ้าอะไรถึงขับมาชนรถของฉันแบบนี้! แกรู้ไหมว่ารถของฉันราคาเท่าไหร่ นี่ BMW series7 ตัวใหม่ล่าสุดเชียวนะ! แกรับผิดชอบไหวงั้นเหรอ?”

คำพูดของหญิงวัยกลางคนมันรุนแรงแถมยังไร้เหตุผลจนบรรดาผู้คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ขมวดคิ้ว

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจด้วยหงุดหงิด จากนั้นเขาหันไปดูลูกสาวของเขาซึ่งกำลังร้องไห้เพราะความตกใจกลัวอยู่ข้าง ๆ

“ฮือ… พ่อจ๋า…. ฮือ…”

“ไหนเป็นยังไงบ้าง ลูกเจ็บตรงไหนบอกพ่อมา”

เมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ อวี้ฮ่าวหรานจึงใช้เนตรเทวะตรวจสอบร่างกายของถวนถวนทันที ซึ่งเขาก็พบว่าเธอไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรนอกจากรอยฟกช้ำเล็กน้อยจากการโดนเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งเด็กรัด

“พ่อจ๋า หนูไม่เจ็บ แต่ลูกกวาดมันร้องใหญ่เลย มันกำลังเจ็บอยู่แน่ ๆ!” ถวนถวนร้องไห้พร้อมกับประคองลูกหมาเอาไว้ในอ้อมแขน “เมื่อกี้หนูอุ้มมันอยู่ ล.. แล้ว.. มันถูกตัวหนูทับ… ฮือ…”

อวี้ฮ่าวหรานพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมถวนถวนถึงบาดเจ็บแค่เล็กน้อย ที่แท้นอกจากเข็มขัดนิรภัยจากคาร์ซีทแล้ว ยังมีตัวของลูกหมารองรับแรงกระแทกอีกนั่นเอง!

เจ้าลูกหมาสร้างผลงานช่วยลูกสาวของเขาเอาไว้สินะ?

อวี้ฮ่าวหรานใช้เนตรเทวะส่องดูลูกหมาเป็นอันดับต่อไปซึ่งเขาก็เห็นว่ามันมีอาการบาดเจ็บแค่ที่เดียวซึ่งก็คือกระดูกขาหลังขวาของมันแตก

แต่ด้วยเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของลูกหมา มันทำให้ถวนถวนร้องไห้โฮออกมาด้วยความสงสาร ซึ่งอวี้ฮ่าวหรานก็ปลอบลูกสาวของเขาพลางลูบหัวไปด้วย “ไม่เป็นไร ๆ โอ๋ ๆ พ่อดูแล้วเจ้าลูกกวาดมันไม่เป็นอะไรมาก เอาไว้หลังจากนี้เดี๋ยวจะช่วยรักษามันให้นะอย่าร้องนะลูกพ่อ…”

ที่ด้านนอกรถ ผู้หญิงคู่กรณีก็ยังคงตะโกนโหวกเหวกต่อไปไม่มีท่าทีจะสงบลงเลย

“เฮ้ นี่แกคิดจะไม่สนใจฉันไปถึงไหน! แกชนรถของฉันนะ ลงมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้!”

ผู้หญิงวัยกลางคนตะโกนโวยวายพร้อมกับเคาะกระจกรถของอวี้ฮ่าวหรานเสียงดัง

เมื่อแน่ใจแล้วว่าลูกสาวของเขาไม่เป็นอะไร อวี้ฮ่าวหรานจึงหันความสนใจไปที่หญิงวัยกลางคนที่กำลังโวยวายเหมือนคนบ้าอยู่นอกรถ เขาเปิดประตูรถลงไปประจันหน้ากับหล่อน

แต่แล้วในทันทีที่เขาลงจากรถไป กลิ่นน้ำหอมอันรุนแรงจนทำให้ฉุนจมูกก็ทำให้อวี้ฮ่าวหรานถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นเขาถึงเริ่มเถียงกับฝั่งตรงข้าม

“เฮ้! นี่คุณเป็นคนฝ่าไฟแดงมาชนรถผมก่อนนะ คุณตาบอดรึไง? คุณมาหาว่าผมชนคุณแบบนี้คุณบ้ารึเปล่า? เอาเป็นว่าคุณรออยู่ตรงนี้ ผมจะเรียกตำรวจมาตัดสิน!”

เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานหันกลับไปหยิบโทรศัพท์ของเขาที่อยู่ด้านในรถเพื่อที่จะใช้มันโทรออกหาตำรวจ

แต่ในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินเสียงซุบซิบจากผู้คนที่มุงดูอยู่

“เฮ้ ฉันจำผู้หญิงคนนั้นได้! นั่นมันเมียของคนใหญ่คนโตในแก็งค์มังกรครามนี่นา?”

“อะไรนะ? แก็งค์มังกรครามงั้นเหรอ! พระเจ้าช่วยพวกเรารีบไปหลบในรถก่อนดีกว่า ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่!”

“มิน่าล่ะทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงโอหังนัก ที่แท้ก็มีพวกแก็งค์หนุนหลัง เฮ้อ… ไอ้หนุ่มคนนั้นช่างซวยจริง ๆ”

“…”

ถึงแม้ว่าซุบซิบพวกนั้นจะเบาเป็นอย่างมากแต่ อวี้ฮ่าวหราน ก็ยังได้ยินพวกมันอย่างชัดเจนราวกับว่าไปเงี่ยหูฟังข้าง ๆ

คิ้วของเขาเลิกขึ้นทันที ดูเหมือนว่าปัญหาครั้งนี้คงไม่จบง่าย ๆ ด้วยตำรวจซะแล้ว

ทางด้านของหญิงวัยกลางคน เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหรานว่าจะเรียกตำรวจมา เธอก็อึ้งไปครู่หนึ่งแต่จากนั้นสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นจองหองเหมือนเดิม

“แล้วไง? ต่อให้ฉันขับรถมาชนแกแล้วยังไง? คิดหวังพึ่งตำรวจงั้นเหรอ? ฉันบอกเอาไว้เลยว่าฉันไม่ใช่คนธรรมดา พวกตำรวจทำอะไรคนอย่างฉันไม่ได้หรอก!”

แต่ก่อนที่เขาจะหันไปเถียงอีกรอบ ถวนถวนก็ร้องไห้โฮดังกว่าเดิมจนอวี้ฮ่าวหรานต้องหันไปดูและปลอบอีกครั้ง “โอ๋ ๆ ถวนถวนหยุดร้องก่อนนะลูก เอาไว้เดี๋ยวจบเรื่องเมื่อไหร่พ่อจะรักษาเจ้าลูกกวาดให้นะพ่อสัญญา ลูกเชื่อพ่อใช่ไหมไหนหยุดร้องไห้แล้วตอบพ่อมาก่อน…”

อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้ของอวี้ฮ่าวหรานมันยิ่งไปจุดไฟโทสะของหญิงวัยกลางคนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเธอรู้สึกว่าฝั่งตรงข้ามไม่สนใจเธอเลย!

เธอเดินเข้ามาประชิดตัวเขาแล้วกระชากเสื้ออย่างรุนแรงพร้อมกับตวาดใส่

“เฮ้! ไอ้คนชั้นต่ำแกกล้าดียังถึงไม่สนใจฉัน!? ฉันบอกเอาไว้เลย ไม่ว่ายังไงวันนี้แกต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฉัน! ฮึ่ม! ลูกสาวแกน่ารักดีนี่นา ระวังเอาไว้เถอะถ้าแกไม่ชดใช้ให้ฉัน ฉันจะทำลายใบหน้าสวย ๆ ของลูกแก…”

“เพี้ยะ!!”

ยังไม่ทันพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานพลันหันตัวกลับมาตบหญิงวัยกลางคนอย่างแรงจนร่างกระเด็นไปไกล 3 เมตร พร้อมกับฟันที่หลุดกระเด็นออกจากปากไป 6-7 ซี่

อวี้ฮ่าวหรานถึงจุดเดือดภายในชั่วพริบตา!

นังผู้หญิงคนนี้ขู่ทำร้ายลูกสาวของเขางั้นเหรอ!

รนหาที่ตาย!

ด้วยความเดือดดาล อวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัวตามเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนแล้วคว้าคอขึ้นมา

ในทางกลับกัน หญิงวัยกลางคนกลับไม่กลัวเลยสักนิดแถมเธอยังตวาดขึ้นเสียงดังอีกว่า

“น.. นี่แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ? แกตายแน่! แกตายแน่! หลังจากนี้ผัวของฉันจะมาเอาชีวิตแกแน่!”

อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาโยนร่างของหญิงวัยกลางคนลงไปที่พื้นเหมือนโยนขยะแล้วพูดว่า “รีบไปโทรเรียกให้มาไว ๆ ฉันจะได้จัดการกับพวกแกให้หมดในทีเดียว ในเมื่อแกบังอาจขู่ครอบครัวของฉัน ฉันจะทำให้รู้ว่านรกมันเป็นยังไง!”

หญิงวัยกลางคนอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอไม่เคยเจอใครที่กล้าดีขนาดนี้มาก่อน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ไอ้คนคนนี้กล้าตบเธอ แต่มันยังท้าให้เธอเรียกผัวของเธอมาอีก!

จากนั้นเธอรีบตะเกียกตะกายกลับไปที่รถของตัวเองเพื่อหยิบโทรศัพท์และโทรออกทันที

“เฉินซิว! ฉันโดนผู้ชายตบอยู่กลางถนน! คุณคิดจะดูดำดูดีฉันบ้างไหม?”

“หะ? ใครกันที่บังอาจตบเธอ? บอกมาว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนฉันจะไปทันที!”

อวี้ฮ่าวหรานที่กำลังยืนฟังบทสนทนาอยู่นั้น เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทำไมเสียงของคนที่อยู่ปลายสายมันฟังดูคุ้นหู?

มันไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?