บทที่ 42 ไม่มีสิ่งใดน่าเศร้าไปกว่าหัวใจได้ตายไปแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

“เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่มีทางสอนเธอ! เสื้อผ้าของชินชินฉันต้องถักให้เป็นธรรมดา ทำไมฉันต้องสอนเธอด้วย?”
เส้นหมี่ถูกกระตุ้นขึ้นมาในทันที หลังที่ที่ไฟโมโหที่สุมอยู่ในอกได้ลุกขึ้นมา เธอไม่แม้แต่จะคิด ก็ปฏิเสธออกมาอย่างเฉียบขาด
เธอก็เป็นแบบนี้ เรื่องอื่น ๆ ยังพอว่า แต่ถ้าหากเกี่ยวข้องกับลูก ๆ ของเธอ เธอก็สูญเสียสติสัมปชัญญะไปได้ง่ายมาก
หลังจากที่พูดจบ ทุกคนภายในห้องอาหาร ก็มีสีหน้าแย่งลงไปมากอย่างที่คิดเอาไว้!
โดนเฉพาะแสนรัก ที่มีสีหน้าแย่เอามาก ๆ
“คุณนี่มันจริง ๆ เลย คุณแป้งร่ำก็แค่ต้องการเรียนถักนิตติ้งคุณ ทำไมคุณถึงได้ปฏิเสธเสียล่ะ? คุณชายเล็กของพวกเราไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ? จำเป็นต้องให้คุณมาใส่ใจด้วยเหรอ? คุณเข้าใจฐานะของตัวเองผิดไปหรือเปล่า?”
ป้าญา คนรับใช้ได้เอ่ยขึ้นมาก่อนแล้ว หล่อนแสดงออกด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ
แต่ความจริงแล้ว ในคำพูดของหล่อนเต็มไปด้วยความประชดประชัน เหมือนคมมีดอย่างไรอย่างนั้น
นิ้วมือที่เส้นหมี่กอดลูกชายเอาไว้นั้นซีดขาวขึ้นมา
“ป้าญา ป้าพูดอะไรของป้าน่ะ? ที่นี่ป้ามีศิษย์พูดด้วยเหรอ? คุณเส้นหมี่ยินดีถักให้ชินชิน นั่นเป็นน้ำใจของเธอ ใครอนุญาตป้าพูดให้เธอแบบนี้? ป้ารู้จักมารยาทหรือเปล่า?”
ไม่คิดไม่ฝัน หลังจากที่คนรับใช้กล่าวจบ แป้งร่ำก็ได้เอ่ยปากต่อว่าเธอขึ้นมา
เธอคุกเข่ากอดขาของผู้ชายอยู่บนพื้น ใบหน้าเล็ก ๆ ขาวเหมือนผิวเด็กที่งดงาม น้ำตายังไม่ทันจะแห้ง แต่ทว่า เธอก็ได้เริ่มต่อว่าคนรับใช้คนนั้นขึ้นมาอย่างเข้มงวด
ท่าทางแบบนั้น เหมือนว่าทำไปเพื่อปกป้องเส้นหมี่
ปกป้องเธอ?
เส้นหมี่หัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครั้ง จ้องมองท่าทางแสร้งทำเป็นซื่อของผู้หญิงคนนั้น รู้สึกเพียงว่าขยะแขยงเป็นที่สุด
ทว่า กลับได้ผลกับผู้ชายคนนั้นมาก หลังจากที่เขาได้เห็นแป้งร่ำที่อยู่ข้างเท้าของเขาทั้งมีคุณธรรมและเห็นแก่ส่วนรวม ไฟที่สุมอยู่ในอกแต่เดิม ก็ได้สลายหายไป
“ผู้หญิงแบบนี้คุณไม่ต้องไปช่วยหล่อนหรอก คุณอยากจะทำดีกับลูกชายของผม ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำได้”
แป้งร่ำพลันเงยหน้าขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ: “รักคะ คุณพูดจริงเหรอคะ? งั้นคุณ……ยกโทษให้ฉันแล้วใช่ไหมคะ? รักคะ ฉัน……ฉันดีใจมากจริง ๆ ……”
หล่อนดีอกดีใจจนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ เป็นความจริง เพราะหล่อนได้ชนะแล้ว
เส้นหมี่ตัวสั่นไปทั้งตัว!
เพราะความโมโห ยังมีความผิดหวังและความโศกเศร้าที่มากมายมหาศาล เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ผู้ชายคนนี้จะตาบอดจนถึงขั้นนี้ เขาไม่เห็นเหรอว่ายัยดอกทองนั่นกำลังแสดงละครอยู่?
หรือเป็นเพราะว่า เขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด?
หล่อนเป็นผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าหล่อนจะทำอะไร หรือทำความผิดอะไร เขาก็ให้อภัยได้หมด ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น เหมือนกับในตอนนั้นที่เธอตั้งท้องแปดเดือน เขายังไม่สนใจการเป็นตายของพวกเธอแม่ลูก เหยียบร่างของพวกเขาเพื่อส่งเสริมความรักอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของเขา!
เส้นหมี่ออกแรงกอดร่างเล็ก ๆ ของลูกชายเอาไว้ และหลับตาที่เปียกชื้นและแดงก่ำเอาไว้แน่น
“คุณน้า?”
คิวคิวที่อยู่ในอ้อมแขนสัมผัสได้ ทันทีทันใด เขาก็ยื่นมือเล็ก ๆ ออกมา และออกแรงกอดหม่ามี๊เอาไว้
ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจ ที่แท้หม่ามี๊ถูกรังแกแบบนี้นี่เอง แด๊ดดี้ที่ไม่มีตาคนนี้ ไม่ควรที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจอะไรจริง ๆ หม่ามี๊ทำถูกแล้วที่ไปจาก แด๊ดดี้ในตอนนั้น เขาเองก็โชคดีมาก ที่หลายปีมานี้ได้อยู่กับหม่ามี๊
“คุณน้า อย่าเสียใจไปเลยนะครับ”
“อืม น้าไม่เสียใจชินชิน หนูวางใจเถอะ น้าจะไม่ให้หนูถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียว ต่อให้ต้องแลกกับชีวิตของน้า น้าก็จะปกป้องหนูให้ได้ ได้ยินหรือยัง?”
เส้นหมี่มองใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกชายที่อยู่ในอ้อมกอด และเช็ดเอาหยดน้ำตาที่ห้อยอยู่หางตาออกไปอย่างรวดเร็ว เธอปลอบโยนเขา
คิวคิวไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ แต่ว่า แสนรักที่อยู่อีกด้านได้สัมผัสถึงความผิดปกติแล้ว ดังนั้นดวงตาที่แหลมคมทั้งสองของเขาจึงได้กวาดมาทางนี้: “เส้นหมี่ เธอคิดจะทำอะไร?”
เส้นหมี่รู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดน่าเศร้าไปกว่าหัวใจได้ตายไปแล้วจึงได้สงบลง: “ฉันคิดจะทำอะไร ประธานแสนรักไม่รู้เหรอ? ในเมื่อคุณไม่ใส่ใจแม้แต่ความปลอดภัยของชีวิตลูก งั้นหลังจากนี้ ก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย นับจากนี้เป็นต้นไป จุดมุ่งหมายเดียวของฉันในชีวิตนี้ ก็คือทำให้คุณสูญเสียคุณสมบัติในการเป็นพ่อของเขาไป!”
“แค่อาศัยเธอน่ะเหรอ?”
“ใช่ แค่อาศัยฉัน ในเมื่อฉันสามารถคลานออกมาจากหลุมฝังศพได้ เช่นนั้นฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำอะไรที่บ้าคลั่งไปกว่านี้ อย่าลืมไปล่ะ กระต่ายเมื่อถูกบีบจนถึงทางตันก็ยังกัดคนได้ แสนรัก คุณพิจารณาดูเองแล้วกัน”
ไม่กี่คำสุดท้ายนั้น ถือว่าน่ากลัวเอามากแล้ว
เพราะว่า เมื่อแสนรักมองไปจากทางนี้ เขาก็ได้พบว่าในดวงตาแดงก่ำของผู้หญิงคนนี้ ปะปนไปด้วยความอาฆาตแค้น และความอาฆาตแค้นนั้น ไม่ต้องสงสัยใด ๆ เลย ถ้าหากตอนนี้เอามีดให้เธอสักเล่ม เธอก็จะใช้มันเข่นฆ่าทุกคนที่ขวางทางเธอในทันที!
เธอบ้าไปแล้วจริง ๆ !!
ในที่สุดแสนรักก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่: “เธอบ้าไปแล้วหรือไง?”
“บ้าหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ว่า ถ้าครั้งนี้ฉันมาแล้วเห็นว่ามีบาดแผลบนร่างของเด็กละก็ ฉันจะทำให้ชาตินี้หล่อนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก!”
เส้นหมี่พูดจบ จู่ ๆ เธอก็ดึงคนรับใช้ป้าญาที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอ ยกมือขึ้นแล้วแทงเข้าไปที่ลำคอของหล่อนอย่างเต็มแรง!
ทันใดนั้น ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องดังไปทั่วห้องอาหาร ป้าญา ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ เลยสักนิด หล่อนกุมลำคอของตัวเองและล้มลงไป ทำให้ผู้คนที่อยู่ในห้องครัวเห็นแล้วต้องเบิกตาอ้าปากค้างเหมือนโดนฟ้าผ่า!