บทที่ 43 ผมเกลียดแด๊ดดี้

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เธอทำอะไรลงไป?
มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ทุกคนต่างตะลึงงัน จนกระทั่งป้าญาที่อยู่บนพื้นหยุดชักกระตุกลวง ทุกคนถึงได้เพ่งมองไปอีกครั้ง พบว่าที่คอของหล่อน มีเข็มยาวสีเงินเปล่งประกายอยู่ ทุกคนถึงได้เข้าใจขึ้นมา
พระเจ้า!
ทันทีทันใด ทุกคนก็ต้องขนลุกขนพองขึ้นมา ส่วนแป้งร่ำนั้น ตกตะลึงจนไม่มีสีสันของมนุษย์อยู่เลย ร่างกายสั่นไปทั้งตัวจนพูดอะไรไม่ออก
“เส้นหมี่ เธอทำอะไรของเธอ? เธอบ้าไปแล้วเหรอ? คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าฆ่าคนอยู่ที่นี่? สมองของเธอมีปัญหาหรือเปล่า? ห๊ะ? !!”
แสนรักได้สติกลับคืนมา ทันใดนั้น เขาจ้องมองคนรับใช้ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและตวาดออกมาอย่างโมโห จนร่างแทบจะระเบิด!
เธอบ้าไปแล้ว เธอบ้าไปแล้วจริง ๆ !
เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่? นี่คือคนทั้งคนนะ!! ไม่ใช่สัตว์ เธอฆ่าหล่อนเอาง่าย ๆ แบบนี้ สมองของเธอเลอะเลือนไปแล้วหรือยังไง? เธอเปลี่ยนเป็นอำมหิตหัวรุนแรงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
นี่เป็นครั้งแรกที่แสนรักรู้สึกโมโหจนทำอะไรไม่ถูก
แต่ผู้หญิงงคนนี้ กลับไม่ได้ลนลานใด ๆ เลยสักนิด ถูกเขาตวาดใส่ กลับยังคงมองเขาและยิ้มอย่างเย็นชา: “ทำไมเหรอ? กลัวเหรอ? กลัวก็ให้จำเอาไว้ แสนรัก ทางที่ดีคุณอย่ามาท้าทายความอดทนของฉัน!”
เธอเป็นเหมือนกับวิญญาณร้าย เธอพูดประโยคนี้ออกมาทีละคำอย่างเน้นย้ำ และก้าวเท้าเดินออกไปจากที่นี่
แสนรัก: “……”
คิวคิว: “……”
แป้งร่ำ: “……”
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ในเวลานี้ เธอก็ได้จากไปเอาเสียแบบนี้ ไม่มีใครนึกขึ้นมาได้ว่าต้องขวางเธอเอาไว้ จนกระทั่งเธอได้ออกไปจากประตูใหญ่ เงาร่างแทบจะหายไป แป้งร่ำถึงรู้สึกตัวเหมือนตื่นขึ้นมาจากฝัน
“ขวางหล่อนเอาไว้! หยุดหล่อนเอาไว้เร็ว! หล่อนข้าคนตาย จะไปปล่อยให้หล่อนไปแบบนี้ได้ยังไง? เร็วเข้า! รีบไปจับตัวหล่อนมาเร็ว!!”
หล่อนร้องตวาดออกมา ในที่สุดก็ไม่ได้รักษาท่าทางเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมเห็นแก่ส่วนรวมนั่นของหล่อนอีกต่อไป สายตาที่ทั้งอาฆาตแค้นและดุร้ายนั่น เหมือนแทบอยากจะจับตัวเส้นหมี่มาโดยเร็ว จากนั้นก็ฉีกร่างของเธอออกเป็นชิ้น ๆ
น่าเสียดาย ที่ความปรารถนานี้ของเธอต้องคว้าน้ำเหลว
เพราะว่า เส้นหมี่พึ่งจะเดินมาถึงด้านนอก ป้าญาที่นอนอยู่บนพื้นในห้องอาหาร หลังจากที่ได้ยินเพียงเสียง “อึกอัก” ในลำคอของหล่อน คาดไม่ถึงว่าเพียงไม่นานก็ได้เห็นหล่อนพ่นลมหายใจยาว ๆ ออกมา!
“แค่ก ๆ ๆ ๆ ……คุณแป้งร่ำ ในที่สุด……ฉันก็หายใจออกแล้ว……”
“……”
ภายในห้องอาหาร ในที่สุดก็ต้องตะลึงงันไปอีกครั้ง……
——
ย่านเมืองเก่า ภายในห้องเช่า
ชินจังได้รับสายโทรเข้ามาจากคิวคิวในเวลาเกือบบ่ายสี่โมง ในตอนนั้น เขากำลังนั่งดูการ์ตูนเป็นเพื่อนน้องสาวอยู่ที่ห้องรับแขก เขาไม่ชอบ แต่หม่ามี๊ได้บอกแล้วว่า ให้เขาดูแลน้องสาวดี ๆ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนอยู่ที่ข้างกายของเธอตลอดเวลา
โทรศัพท์โทรเข้ามา เขาจึงไปรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล?”
“ชินจัง ฉันถามนาย หม่ามี๊กลับมาหรือยัง?” ประโยคแรกที่คิวคิวพูดหลังจากมีคนรับโทรศัพท์ ก็คือประโยคนี้
หม่ามี๊?
ชินจังมองไปยังรอบ ๆ บ้านที่มีเพียงพี่น้องสองคน จากนั้นก็ขมาดคิ้ว: “ไม่นี่ ทำไมเหรอ? หม่ามี๊ไม่ได้อยู่กับนายแล้วเหรอ?”
สีหน้าของคิวคิวหม่นหมองลงไปกว่าเดิม
ออกมาจากตึกวังฬาหนึ่งมานานขนาดนี้ ยังไม่ทันกลับมาบ้าน ดูเหมือนว่า หม่ามี๊จะต้องไปแอบร้องไห้อยู่ที่ไหนอีกแน่เลย เมื่อก่อนตอนที่อยู่ต่างประเทศ ถ้าหากเธอได้รับความไม่เป็นธรรมมาจากด้านนอก กลัวว่าลูกสองคนจะเป็นห่วง ก็จะแอบไปอยู่ที่ไหนบางแห่งรออารมณ์สงบลงแล้วค่อยกลับมา
คิวคิวแทบอยากจะรีบบินกลับบ้านไปในทันที ไปตามหาหม่ามี๊ผู้โง่เขลากลับมา!
“ชินจัง พวกเราเปลี่ยนกลับมาเถอะ?”
“หา?” เมื่อชินจังได้ยินดังนั้น ก็ต้องตกตะลึง “เปลี่ยนกลับมา? ตอนนี้เหรอ? ไม่ใช่บอกว่า…พรุ่งนี้ค่อยเปลี่ยนไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากเรื่องเมื่อตอนเที่ยง เขาก็เริ่มอาลัยอาวรณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว อยากจะอยู่กับหม่ามี๊นาน ๆ หน่อย ไม่อยากกลับไปบ้านหลังใหญ่ที่มีแต่ความเหน็บหนาวนั่น
แต่ว่า หลังจากที่คิวคิวได้ยินเขาถามแบบนี้ ก็พลันโมโหขึ้นมาในโทรศัพท์: “ไม่ ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ชินจัง ที่บ้า ๆ นี่ของนาย ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว!!”
“ทำไมล่ะ?”
“ไม่ใช่เพราะแด๊ดดี้เน่านั่นหรอกเหรอ!! ชินจัง ฉันถามนายนะ ผู้หญิงที่ชื่อแป้งร่ำคนนั้น เป็นใครกันแน่? ทำไมหล่อนแสดงละครได้แย่แบบนั้น แด๊ดดี้ยังมองไม่เห็นอีก? กลับมาต่อว่าหม่ามี๊แทน แด๊ดดี้สมองบวมหรือยังไง? ถึงได้ไม่แยกแยะแบบนี้?!!”
“……”
ผ่านไปสักพัก ก็ได้มีความรังเกียจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของชินจัง และถึงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาอยู่ฝั่งทางนี่: “หล่อนเป็นแฟนของแด๊ดดี้”
“นายว่ายังไงนะ? แฟนงั้นเหรอ?” สีหน้าของอิคคิวดูแย่ไปใหญ่ในทันที: “ดังนั้น……มีความเป็นไปได้สูงว่าหล่อนจะเป็นแม่เลี้ยงของนายในอนาคต?!”
ชินจังส่ายหน้า: “ฉันก็ไม่รู้ ก็อาจเป็นไปได้ แต่ว่า ฉันไม่ชอบหล่อน และฉันก็ไม่อยากให้หล่อนมาเป็นแม่เลี้ยงของฉัน”
เขาแสดงท่าทีของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน
เมื่ออิคคิวได้ยิน ในที่สุดอารมณ์ก็อ่อนโยนลงมาบ้าง
“ชินจัง นายมีความคิดแบบนี้ คนที่เป็นพี่น้องรู้สึกภูมิใจจริง ๆ นายรู้ไหม? ในตอนแรก หลังจากที่ฉันได้รู้ฐานะของพวกเรา ก็คิดจะจับคู่แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ แต่วันนี้สิ่งที่ฉันได้เห็น ทำให้ฉันโมโหจนแทบระเบิด แด๊ดดี้ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ และทำให้ฉันเสียใจมาก ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายที่แย่แบบนี้มาก่อนเลย!”
ประโยคสุดท้ายของอิคคิว เขาแทบจะตะโกนออกมา และนอกจากนี้ เขาในฐานะลูกชาย ยังได้ใช้คำว่า “ผู้ชายแย่ ๆ” โดยไม่เกรงใจเลยสักนิด
เห็นได้ว่า เรื่องราวในตอนเที่ยงของวันนี้นั้นทำให้เขารู้สึกแย่!