ตอนที่ 76 เรื่องสกปรก
บรรดาบ่าวรับใช้จึงจำยอมเข้าไปตรวจค้นอีกครา เมื่อเห็นว่าพวกเขามิอาจตรวจค้นสิ่งที่ต้องการออกมาได้ แม่นมหวังของหลี่ซื่อจึงเดินเข้าไปในเรือนพร้อมส่งสายตากับแม่นางจ้าว
แม่นมจ้าวทำท่าชี้มือบอกทิศทาง แม่นมหวังจึงเดินเข้าไปในห้องนอนของอันหลิงเกอได้อย่างถูกทิศทาง
นางมิได้เหมือนบ่าวรับใช้พวกนั้นที่เหลือบตามองทีหนึ่งอย่างไร้ความละเอียดแล้วถอยออกไป แต่นางค้นหาอย่างถี่ถ้วนกระทั่งบนเตียงนอนก็มิเว้น
แม่นมหวังลูบคลำไปทั่วเตียง เมื่อมาถึงบริเวณหมอนนางก็ลูบเจอของบางอย่าง แววตาของนางปรากฏแววเจ้าเล่ห์แล้วรีบยกหมอนออกทันทีจึงพบกับสิ่งที่ตามหา
นางรีบหยิบสิ่งนั้นออกมาหาหลี่ซื่อพร้อมเอ่ยรายงาน
“มิพบโจรในเรือนคุณหนูใหญ่แต่พบสิ่งนี้เจ้าค่ะ” แม่นมหวังถือตุ๊กตาผ้าไว้ในมือแล้วเดินไปยืนข้างกายของหลี่ซื่อ
หลี่ซื่อแสร้งทำท่าทีสงสัยออกมา “ข้าให้พวกเจ้าไปจับโจรแล้วเจ้าเอาตุ๊กตาผ้ามาทำไมเล่า ? นี่เป็นของคุณหนูใหญ่ เจ้ายังมิรีบคืนให้นางอีก”
“คืนมิได้เป็นอันขาดเจ้าค่ะ ! ” แม่นมหวังกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านมิเคยเห็นตุ๊กตาผ้าประเภทนี้มาก่อนจึงมิทราบที่มาที่ไปย่อมมิแปลก ทว่าตุ๊กตาผ้านี้จักส่งคืนมิได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ ! ”
แววตาของนางฉายแววจริงจัง ในคำพูดนั้นแฝงความหมายลึกลับ ส่งผลให้บรรดาคนรับใช้ที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่เอียงหูฟัง
เพื่อคลายความสงสัยของผู้คน นางจึงพลิกตุ๊กตาในมือกลับไปอีกด้าน เผยให้เห็นเข็มน่ากลัวที่ปักอยู่บนตุ๊กตาตัวนั้น
“นี่มิใช่ของข้า” อันหลิงเกอปฏิเสธออกมาพร้อมแววตานิ่งเฉยมิตกตะลึงแต่อย่างใด
หลี่ซื่อหัวเราะเยาะอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังแสร้งทำเคร่งเครียด “เกอเอ๋ออย่ากล่าวล้อเล่นเยี่ยงนี้เลย ตุ๊กตาตัวนี้ถูกค้นพบในห้องของเจ้า ถ้ามิใช่ของเจ้าจักเป็นของข้าหรือ ? ทั้งที่เจ้าก็รู้ว่าอดีตฮ่องเต้มิโปรดเรื่องพวกนี้จนมีพระราชโองการห้ามใช้มนต์ดำในแผ่นดิน เหตุใดยังมีตุ๊กตามนต์ดำอยู่ในห้องของเจ้า ? ”
เมื่อนึกย้อนไปถึงสาเหตุของเรื่องนี้คือมีนางสนมที่ฮองเต้ราชวงศ์ก่อนโปรดปรานที่สุดเกิดความสิ้นชีพเพราะคาถามนต์ดำ เล่าลือกันว่าก่อนจักสิ้นลมช่างน่ากลัวยิ่งนัก เป็นเหตุให้ฮ่องเต้องค์ก่อนกริ้วมากจึงออกพระราชโองการห้ามให้แผ่นดินต้าโจวใช้คาถามนต์ดำเหล่านี้ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษประหารเพียงสถานเดียว
ทว่าตอนนี้ตุ๊กตามนต์ดำมาปรากฏในเรือนของอันหลิงเกอ ทั้งยังถูกค้นพบต่อหน้าผู้คนมากมายเยี่ยงนี้ นางคงหลบหนีมิพ้นแน่
ภายในใจของหลี่ซื่อรู้สึกสาแก่ใจยิ่งนัก แต่ใบหน้ายังแสร้งทำเศร้าหมองแล้วกล่าวว่า
“โธ่..เกอเอ๋ออายุยังน้อยจึงมิรู้ความ แต่ข้าก็มิอาจปกป้องได้ ! เรื่องนี้สำคัญมากและข้าจำต้องมอบเรื่องนี้ให้ท่านแม่เป็นผู้จัดการ”
อันหลิงเกอเงยหน้าขึ้น แววตานิ่งเฉยจ้องไปทางหลี่ซื่อแล้วเอ่ยปฏิเสธออกไปอีกครา “ข้าบอกไปแล้วว่าสิ่งนี้มิใช่ของข้า อี๋เหนียงจักยัดเหยียดใส่ร้ายข้าได้อย่างไร ? ”
“เกอเอ๋อ ในเมื่อเจ้าทำผิดก็ต้องรับโทษ มิใช่หลบเลี่ยงอยู่เช่นนี้” หลี่ซื่อกล่าวโดยมิฟังคำปฏิเสธของอันหลิงเกอแม้แต่น้อย “เจ้ามิต้องกังวลไปหรอก ข้าจักมิรายงานเรื่องนี้ให้ทางการ เกอเอ๋อมิต้องกลัวว่าจักถูกประหาร”
อันหลิงเกอกำลังจักอธิบายแต่ยังมิทันได้พูด หลี่ซื่อก็พูดแทรกเสียก่อน “เกอเอ๋อ เจ้าตามข้าไปที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าเถิด จักได้มิกล่าวหาว่าข้าใส่ร้ายเจ้าอีก” น้ำเสียงที่กล่าวออกมานั้นแสนอ่อนโยน ทว่าพฤติกรรมสุดจักตรงกันข้าม
ใบหน้าของอันหลิงเกอซีดเผือดเล็กน้อยราวกับมีความกลัวในบางอย่าง ทว่านางก็ยอมเดินตามหลี่ซื่อไปยังเรือนฮูหยินผู้เฒ่าแต่โดยดี
ฮูหยินผู้เฒ่าเพิ่งจักพักผ่อนได้เพียงครึ่งชั่วยามก็โดนหลี่ซื่อทำให้ตื่น เป็นเหตุให้นางขมวดคิ้วแสดงความมิพอใจ “เจ้ามีเรื่องอันใดอีกเล่า ? ”
เนื่องด้วยเรื่องที่หลี่ซื่อหลอกล่ออันหลิงเฉว่นั้นทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเกลียดชังนางมากขึ้นไปอีก พอได้เห็นหน้าหลี่ซื่อก็ยิ่งรู้สึกมิชอบใจเพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายชอบก่อเรื่องไปทั่ว
หลี่ซื่อรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิชอบตน ทว่าตอนนี้นางมิควรสนใจสิ่งนี้จึงยื่นตุ๊กตาผ้าไปตรงหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าแล้วถามอย่างใสซื่อ “ท่านแม่ได้โปรดดูของสิ่งนี้ก่อนเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่ามองตุ๊กตาที่อยู่เบื้องหน้าอย่างละเอียด พลันใบหน้าของนางก็แปรเปลี่ยน “เจ้าเอาสิ่งนี้มาจากที่ใด ? รีบนำไปเผาทิ้ง”
ฮูหยินผู้เฒ่าอายุมากแล้วย่อมเคยอยู่ในสมัยของฮ่องเต้พระองค์ก่อน นางจึงรู้จักสิ่งของมนต์ดำเหล่านี้เป็นอย่างดี
ในอดีตสิ่งเหล่านี้คร่าชีวิตผู้คนมากเพียงใด เหตุใดนางจักจำมิได้และอดีตฮ่องเต้ก็ชิงชังคาถามนต์ดำมากจนมีพระราชโองการห้ามมิให้ของพวกนี้ปรากฏบนแผ่นดินต้าโจวเด็ดขาด
พอหลี่ซื่อนำตุ๊กตามนต์ดำตัวนี้มาวางตรงหน้าก็เป็นเหตุให้ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกตื่นตกใจยิ่งนัก
“ที่ข้ามาหาท่านแม่เพราะอยากคุยเรื่องนี้กับท่านเจ้าค่ะ”
“ตุ๊กตาตัวนี้ถูกค้นเจอที่เรือนของเกอเอ๋อ ข้ามิกล้าพูดมากจึงนำมาให้ท่านจัดการเจ้าค่ะ”
จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฮูหยินผู้เฒ่าฟังว่านางได้รับรายงานจากบ่าวเรื่องโจรบุกรุกแล้ววิ่งจับโจรไปถึงเรือนฉีอู๋จนเข้าไปตรวจค้นเจอตุ๊กตามนต์ดำตัวนี้
นางเปิดผืนผ้าที่ติดอยู่ด้านหลังตุ๊กตาออก
“ดูจากวันตกฟากก็คล้ายกับเป็นของฮูหยินผู้เฒ่า ฉะนั้นข้าจึงพาเกอเอ๋อมาอธิบายต่อท่านแม่เจ้าค่ะ”
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่ามิสู้ดีนัก นอกจากเจอตุ๊กตามนต์ดำในจวนก็ยังมีเวลาตกฟากของนางอีกด้วย
คิดทำร้ายนางโดยวิธีนี้เชียวหรือ ?
ฮูหยินผู้เฒ่ายื่นมือไปหยิบตุ๊กตามนต์ดำจากหลี่ซื่อ จากนั้นดวงตาแหลมคมก็หันไปทางอันหลิงเกอแล้วเอ่ยถาม “เกอเอ๋อ บอกย่ามาว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ”
แม้ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่ามิสู้ดี แต่ก็มิได้ปักใจเชื่อว่าเป็นความผิดของอันหลิงเกอ
อันหลิงเกอนิ่งมองตุ๊กตามนต์ดำแล้วปฏิเสธออกไปว่า “เรียนท่านย่า เกอเอ๋อก็มิทราบว่าเหตุใดสิ่งนี้จึงปรากฏขึ้นในห้องของตน แต่วันนี้อี๋เหนียงให้คนมาตรวจค้นเรือน มิรู้ว่าค้นตุ๊กตามนต์ดำนี้จากที่ใดก็รีบบอกว่าเกอเอ๋อซ่อนไว้ในห้องนอน ท่านย่าโปรดให้ความเป็นธรรมต่อหลานด้วยเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วแล้วไตร่ตรองตามคำกล่าวของอันหลิงเกอที่ว่าหลี่ซื่อสั่งคนบุกค้นเรือนฉีอู๋แล้วพบตุ๊กตามนต์ดำตัวนี้ในเรือน มันช่างบังเอิญเกินไปหรือไม่
หลี่ซื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วด้วยความสงสัยจึงรีบเอ่ย “เกอเอ๋อปฏิเสธว่าตุ๊กตามนต์ดำตัวนี้มิใช่ของตน หรือจักบอกว่าข้านำตุ๊กตาตัวนี้ไปซ่อนในห้องเจ้า? แม่นมหวังค้นเจอมันที่ใต้หมอนของเกอเอ๋อ หากมีผู้อื่นนำไปวาง แล้วเหตุใดเกอเอ๋อจึงมิเห็นมันมาก่อน ? ”
หลี่ซื่อต้องการให้อันหลิงเกอตกอยู่ในสภาวะจนมุมคิดอันใดมิออก ทว่าอันหลิงเกอมิกลัวเลยสักนิด อีกทั้งยังสบสู้แววตาร้ายกาจของหลี่ซื่ออย่างแน่นแน่ นางพูดโต้แย้งชัดถ้อยชัดคำ “เรือนของข้ามิค่อยสะอาด อี๋เหนียงย่อมรู้ดีอยู่แล้ว หากฉวยโอกาสตอนที่ข้าออกนอกเรือนแล้วมีคนนำสิ่งนี้ไปซ่อนไว้ใต้หมอนก็ใช่ว่าเป็นไปมิได้”
เมื่อกล่าวจบอันหลิงเกอก็หันไปทางฮูหยินผู้เฒ่าแล้วกล่าวเสริม “วันนี้หลานไปเยี่ยมน้องหญิงรอง ใช้เวลามิถึง 1 เค่อก็กลับเรือน ตอนถึงเรือนก็เห็นอี๋เหนียงให้บ่าวมาตรวจค้นเรือน ท่านย่าคิดว่ามิบังเอิญไปหน่อยหรือเจ้าคะ ? ”