ตอนที่ 202 เสียเวลาทำงาน

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ตอนที่ 202 เสียเวลาทำงาน

พูดก็พูดเถอะ เข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไมกัน?

เธอพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตอบเขาไปว่า “ไม่ได้มีความสัมพันธ์แม้แต่นิดเดียว แต่ที่ผ่านมาฉันออกไปรับหน่วนหน่วนกับหยางหยางทุกวัน มันเสียเวลาทำงาน”

“ปัญหานี้ฉันมีวิธีแก้แล้ว” แค่ไม่ใช่ถังซั่วก็พอ และก็ไม่ต้องคิดให้ผู้หญิงคนไหนมาเกาะแกะเขาอีก

“เมื่อไหร่?”

หมายถึงแก้ไขงั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่รู้?

คำตอบที่เขาตอบเธอ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

“เสี่ยวหยาง!? วันนี้นายให้เสี่ยวหยางไปดูแลลูก วันหน้าให้เสี่ยวหยางไปรับลูก?” เธอจะพูดอะไรได้ในเมื่อเขาตัดสินใจไปแล้ว เธอได้แต่เป็นเลขาที่ดีให้เขา

“ฉลาดมาก” จิ่งเป่ยเฉินบีบไปที่ติ่งหูของเธอ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น

ทันทีที่ออกจากลิฟต์ เธอเดินเว้นระยะห่างจากเขา ฉีเซิงเทียนรีบวิ่งเข้ามาหา พลางมองไปที่นิ้วมือของเธอก่อนจะพบว่าไม่ได้สวมแหวนแต่งงานเสียแล้ว

หลังจากเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้สวมมันอีก วันนี้จิ่งเป่ยเฉินรู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อยเลยไม่ได้สนใจเธอ เธอไม่ได้สวมมันจริง ๆ

ฉีเซิงเทียนเดินตามจิ่งเป่ยเฉินเข้าไปในห้อง ทันทีที่ประตูปิดเขาก็ทนไม่ไหว

“พี่เฉิน! เกิดอะไรขึ้น? เป็นพ่อเลี้ยงดูมีความสุขมากเลยเหรอ?” เมื่อคืนจู่ ๆ เขาก็ออกจากบริษัทไปเพื่อไปเลี้ยงลูกกับอันอีหานจนกลายเป็นที่จับตามองแบบนั้น!

จิ่งเป่ยเฉินหรี่่ตามอง เขาสะดุดกับคำว่าพ่อเลี้ยง เขาไม่ชอบคำนี้สักเท่าไร

เขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์ ฉีเซิงเทียนตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก็เอ่ยขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าพี่เฉินกับเด็กผู้หญิงจะดูมีความสุขกัน พูดแบบนี้ฉันก็จะเป็นคุณลุงแล้วสิ!”

“อืม” ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าเป็นคุณลุงไม่ได้

ฉีเซิงเทียนมองเขาที่นั่งอยู่ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเขา “วางมือเรื่องตระกูลฮั่วได้เลย!”

จิ่งเป่ยเฉินตอบอย่างเรียบเฉย “อืม”

แม้ปกติเขาจะดูเท่และชินกับการเย็นชาของเขา แต่วันนี้ควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาดูเย็นชาแบบนี้!

“ประธานจิ่ง ข่าวในอินเทอร์เน็ต?” เขาทำท่าวางแผนที่จะกำจัดข่าวเหล่านั้น

จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่เขา “ไม่ต้อง”

ฉีเซิงเทียนพยักหน้า ข่าวลือที่แพร่หลายล้วนกลายเป็นความจริง แผนของจิ่งเป่ยเฉินถือว่าไม่เลว

ไม่สิ มันคือเรื่องจริงสำหรับพวกเขา!

มีแค่รูปลักษณ์ภายนอกของอันอีหานที่ดูแก่ชรา ในด้านอื่น ๆ นั้นก็ไม่เป็นรองใคร การทำงานก็เยี่ยม นิสัยก็ดี มีความรับผิดชอบ

จิ่งเป่ยเฉินมองเขาที่ยังไม่ออกไป ก่อนจะกำชับว่า “เซิ่งจิ่ง จิ่งเทียน ผลิตภัณฑ์เครือเซิ่ง ศูนย์รวมใจกลางของเหล่าอัญมณีหยกต่าง ๆ ของกลุ่มเครือโอวหยางกรุ๊ปจะเหลือเพียงแค่หนึ่งเดือน เรื่องต่อสัญญาปล่อยให้เป็นหน้าที่อันอีหานจัดการ”

“เมื่อก่อนไม่ใช่ว่า……….” ฉีเซิงเทียนมองไปที่สีหน้าที่เฉยเมย ก่อนจะรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “ได้! ไม่มีปัญหา!”

บ้านพักวิลล่าโอวหยาง

เหลียวเว่ยสวมชุดกระโปรงสีแดงนั่งอยู่บนโซฟา ชาร้อน ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชืด เธอหยิบ iPad ขึ้นมาดูข่าวในอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้ดื่มชา

“จิ่งเป่ยเฉินอยู่กับอันอีหานงั้นเหรอ?”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จะเป็นไปได้ยังไง? นอกจากว่าอันอีหานก็คืออันโหรว ไม่งั้นจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง!

เธอต้องสืบให้ได้ว่าอันอีหานคิดจะทำอะไรกันแน่ โรงเรียนอนุบาลสายรุ้งงั้นเหรอ? ไปดูลูก ๆ ของเธอก็น่าจะรู้!

ทันทีที่เธอวาง iPad ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินมาจากด้านหลัง เธอหันหลังไปมองก็พบว่าเป็นเฉาลี่เฟยที่กำลังเดินเข้ามา เธอเผยรอยยิ้ม พลางลุกขึ้นจากโซฟาทันที

“คุณแม่ ทำไมมีเวลาว่างมาเยี่ยมได้คะเนี่ย?” เหลียวเว่ยมองไปที่เธอด้วยรอยยิ้ม รู้ดีว่าเมื่อเธอมาต้องไม่เกิดเรื่องดีแน่นอน

เฉาลี่เฟยมองเธอ ก่อนจะมองเข้าไปด้านใน “ลูกดูสารรูปตัวเองสิ อยู่บ้านทั้งวัน เธออยู่บ้านแบบนี้จะได้ท้องไหม? ได้บำรุงร่างกายตัวเองบ้างหรือเปล่า?”

“อยู่แล้วค่ะ ร่างกายของหนูแข็งแรงดี” แต่เขาไม่อยู่บ้านเลยสักนิด โอวหยางลี่ไม่กลับมาอีกแล้ว แม้ร่างกายเธอแข็งแรงจะมีประโยชน์อะไร

“จะดีแค่ไหนถ้าเธอท้องหลานให้ฉัน?” เฉาลี่เฟยนั่งลงที่โซฟา พลางมองไปที่แก้วชา “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ดื่มนมเยอะ ๆ”

“แม่ หนูยังไม่ได้ดื่มสักหน่อย!” เธอยิ้มและมองไปที่หน้าของเธอ ก่อนจะยื่นถ้วยชาให้เฉาลี่เฟย

“เมื่อห้าปีก่อนลูกลี่มีความทะเยอทะยาน ฉันให้เธอรีบตั้งท้องก็เพื่อตัวเธอเอง เขาจะได้ไม่ออกไปหาสาว ๆ ที่อื่น เธออยากให้เขาออกไปเที่ยวพาผู้หญิงกลับมาเยาะเย้ยเธอที่บ้านเหรอ?” เฉาลี่เฟยชอบเธอจริง ๆ ตอนแรกที่โอวหยางลี่จะแต่งงานกับอันโหรว แต่พวกเขาไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้

แล้วตอนนี้ล่ะ?

ผ่านไปห้าปีแล้ว ไม่คิดว่าเธอจะไม่ได้ใจผู้ชายคนนี้ นับประสาอะไรที่จะมีลูกให้กับครอบครัวโอวหยาง!

“ไม่ใช่แน่นอน เรื่องนี้หนูจะไปคุยกับเขาค่ะ แต่ช่วงนี้เขาดูยุ่ง ๆ นะคะ!” ยุ่งจนไม่มีเวลากลับมาบ้าน ไม่รู้ไปนอนกับสาวที่ไหน!

“เธอยังรู้จักพูดแทนเขาอยู่นะ ตัวเองแทบจะไม่มีอนาคตอยู่แล้ว ไม่รู้จักมีลูกที่แข็งแรงออกมา เธอนี่มันโง่หรือยังไงกัน?” เธอมองลูกสะใภ้อย่างไม่เข้าใจ

ความเจ็บปวดในใจของเธอที่ไม่ได้ตั้งท้องมาห้าปี แต่งงานช้ากว่าพวกเขาลูกก็คงหนีหาย แต่ว่าพวกเขา…!

แม้แต่ตั้งท้องก็ไม่มี!

เหลียวเว่ยรู้สึกไม่สบายใจ ทุกเดือนเฉาลี่เฟยจะถามเธอเรื่องท้องอยู่เสมอ บอกว่าเพื่อตัวเธอเอง แต่เธอรู้สึกว่าหากยังไม่ให้กำเนิดลูกละก็ เฉาลี่เฟยได้ให้โอวหยางลี่หย่ากับเธอแน่ ๆ

เธอไม่มีทางให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด

เธอหยิบกาน้ำชาจากมือคนรับใช้มารินให้กับเฉาลี่เฟยอย่างชาญฉลาด “คุณแม่ดื่มชาก่อนค่ะ”

“ไม่ดงไม่ดื่มทั้งนั้น ฉันนัดเล่นไพ่นกกระจอกกับคุณนายจางไว้ แวะผ่านมาเยี่ยมเฉย ๆ”เธอพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนจะมองไปที่ถ้วยชาในมือของเธอ “เอาใจลูกโอวหยางลี่หน่อย เขาไม่กลับมา เธอก็ไม่คิดหาวิธีอย่างนั้นเหรอ! แม่จะรอฟังข่าวดีนะ!”

เหลียวเว่ยพยักหน้าตอบ ความร้อนของถ้วยชาทำเอามือของเธอร้อนระอุ อยากจะโยนทิ้งเดี๋ยวนั้นเลย “ค่ะ หนูจะพยายามค่ะ”

ทันทีที่เฉาลี่เฟยเดินออกไป เธอรีบวางถ้วยชาลงอย่างรวดเร็ว มองไปที่มือที่แดงทั้งสองข้าง อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง “xx!”

จู่ ๆ เธอก็นึกถึงสายตาที่โอวหยางลี่มองอันอีหาน อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอันโหรว หากไม่รีบหาทางแก้ไข โอวหยางลี่ไม่มีทางกลับมาที่บ้านแน่ เธอเองก็คงไม่มีทางท้อง

เมื่อนึกถึงตอนนี้ เธอจึงรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวออกจากบ้าน ต้องหาความจริงให้ได้

  

……

ถนนโรงเรียนอนุบาลสายรุ้ง มีรถสปอร์ตสีแดงจอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่สีเขียวขจีที่ดูร่มรื่น

ถังซือเถียนสวมแว่นกันแดดมองไปที่ประตูทางเข้า เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาถังซั่ว

เมื่อวานนี้เธอบังเอิญเห็นข่าวฮอตของจิ่งเป่ยเฉินกับอันอีหาน เมื่อเธอดูก็รู้ว่าคือโรงเรียนอนุบาลสายรุ้ง เธอจึงรีบหาข้อมูลของอันอีหานและส่งนักข่าวไปที่บ้านของเธอทันที

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจิ่งเป่ยเฉินจะอยู่ที่บ้านของเธอด้วย และคำพูดที่บอกว่าไล่ตามจีบเธออะไรนั่น ภายใต้แสงไฟสลัว ๆ ที่ชายคาบ้าน จิ่งเป่ยเฉินยืนโอบเอวแนบชิดเธออยู่ การกระทำแบบนั้นเรียกว่าตามจีบเหรอ?