บทที่ 134 ถูกโบย

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 134

ถูกโบย

จงซู่เฟิงก็ได้ส่ายหัว แล้วกล่าวด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณแม่นางที่เป็นห่วง แต่ซู่เฟิงนั้นหาได้ติดขัดอะไรไม่”

ในเวลานี้ฮ่องเต้เจียงนั้นได้อารมณ์ดีอย่างสุดๆ เขาได้ถกแขนเสื้ออย่างภูมิใจแล้วกล่าว “หลินซีเหยียน ผลออกมาแล้วนะ เจ้าจะยอมรับการลงโทษแต่โดยดีหรือยัง?”

อาการดั้งเดิมที่ไม่สามารถรอช้าได้นั้นในเวลานี้กลับหายไปอย่างหมดจด หลินซีเหยียนอยากที่จะส่ายหัวแต่ก็ไม่อาจนึกออกได้ว่าทางสมาคมแพทย์หลวงนั้นใช้วิธีอะไร นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจับชีพจรของจงซู่เฟิง

และพบชีพจรแข็งแรงดี และจงซู่เฟิงนั้นหายดีเป็นปกติแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วหลินซีเหยียนก็มีแต่ต้องยอมรับโทษจากฮ่องเต้แล้ว

“หมอหลวงในพระราชวังมีความสามารถฟื้นคืนชีวิตผู้คนเช่นนี้ด้วย หลินซีเหยียนรู้สึกศรัทธายิ่งนัก” หลินซีเหยียนนั้นหาได้กลัวเพราะโทษโบย 40 ทีไม่ จึงได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเช่นปกติ

เป็นบรรยากาศเยือกเย็นเฉกเช่นเดียวกับเจียงหวายเย่ ทำให้ฮ่องเต้เจียงคิ้วขมวดอย่างรังเกียจ เขานั้นรู้สึกรังเกียจความรู้สึกเช่นนี้ราวกับว่าต่อให้ท้องฟ้าถล่มก็ไม่อาจทำให้นางสั่นคลอนได้

เมื่อคิดเช่นนี้ฮ่องเต้เจียงก็ได้สะบัดมือของเขา เขาอยากที่จะเห็นว่าหลินซีเหยียนนั้นจะยังคงทำสีหน้าเช่นนั้นไว้ได้หลังจากที่โดนโบยหรือไม่ “ใครก็ได้ พานางไปโบย”

แล้วเหล่าองครักษ์ที่ยืนรออยู่นานแล้วก็ได้เข้ามาและจะคว้าแขนที่เรียวบางของหลินซีเหยียน แต่นางก็ได้ถอยฉากออกมาแล้วกล่าว “ไม่ต้องแตะต้องข้า ข้าไปเองได้”

“หยุดก่อน” เจียงหวายเย่กล่าวแล้วจากนั้นก็ได้จ้องไปที่ฮ่องเต้เจียงด้วยสายตาที่หนาวเหน็บ “มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ กับการที่ฮ่องเต้ทำกับหญิงสาวที่อ่อนแอเช่นนี้?”

จงซู่เฟิงก็ไม่อาจรับได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลยเป็นเพียงจอกแหนในลำคลองเท่านั้น แต่เขาก็ยินดีที่จะพังเป็นชิ้นๆแทนที่จะยืนดู หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาที่เหมือนกับดอกล่าเหมยที่เบ่งบานท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บต้องร่วงโรยไปเช่นนั้น

“ขอฮ่องเต้เมตตาด้วย!” เจียงซิงชูก็ได้ก้มหัวและกล่าว

ฮ่องเต้เจียงก็ได้หรี่สายตาลงแล้วจ้องมองไปที่ หลินซีเหยียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากผิวพรรณที่ดีแล้ว เขาก็ไม่เห็นอะไรอย่างอื่นที่ดีสำหรับหญิงสาวคนนี้ที่สามารถดึงดูดให้ผู้คนมากมายออกมาปกป้องนางได้เช่นนี้

“ถ้าหากว่าทำผิด ก็ย่อมต้องโดนลงโทษ ไม่อย่างนั้นจะเอากฎของรัฐเจียงของข้าไปไว้ที่ไหน? แล้วต่อจากนี้ข้าจะไปลงโทษใครได้? แล้วจะยังมีความยำเกรงกันอยู่อีกไหม?” ฮ่องเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขามและไร้ซึ่งความลังเล

ในขณะที่เจียงหวายเย่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หลินซีเหยียนก็ได้กล่าว “ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องแล้ว พวกท่านไม่จำเป็นต้องขอความเมตตาให้ข้า ก็แค่โบย 40 ครั้งเท่านั้น? ข้ายินดีรับโทษนี้เอง”

หลังจากที่กล่าวจบหลินซีเหยียนก็ได้เดินออกไป แม้ว่าใบหน้าของนางนั้นจะดูเที่ยงธรรม แต่ในใจนั้นกำลังก่นด่าฮ่องเต้เจียงให้ไม่ตายดีในใจ ถ้าฮ่องเต้เจียงเป็นโรคร้ายขึ้นมาเมื่อไรนะ อย่าได้หวังให้ข้าเมตตารักษาเขาเลย

ดวงตาสีดำของฮ่องเต้เจียงก็ได้จับจ้องไปที่เจียงหวายเย่ เขารู้แล้วว่าองค์ชายเย่นั้นความเสน่หากับแม่นางหลินคนนี้ บางทีเขาอาจจะนำมาใช้งานดีๆได้

“ถ้าหญิงสาวตระกูลหลินคนนี้สามารถรอดจากการโบย 40 ครั้งไปได้ แล้วข้าจะละทิ้งโทษอื่นๆของนางให้ก็ได้” มีแววตาประชดประชันปรากฏในดวงตาฮ่องเต้เจียง แล้วกล่าวราวกับซื้อถูกขายแพง

แล้วหลินซีเหยียนก็ได้เดินมาถึงประตูอู่ นางนั้นรู้สึกอยากที่จะก่นด่าฮ่องเต้เจียงทั้ง 18 รุ่นขึ้นมาทันทีหลังจากที่เห็นไม้โบย ไม้โบยนั้นเรียกว่าไม้กระดานยังไม่ได้เลย มันมีความหนาและกว้างอย่างมากจนสามารถนำไปใช้เป็นเสาได้เลย

นี่เราจะทนได้ถึง 40 ครั้งจริงๆเหรอ?

ไม่ใช่เพียงแค่หลินซีเหยียนคนเดียวที่กังวลเรื่องนี้ เจียงหวายเย่ที่รู้เรื่องนี้ก็ได้จับจ้องไปที่ฮ่องเต้เจียงที่กำลังจะลงโทษหลินซีเหยียนราวกับกำลังเตือนเขา

การโบย 40 ครั้งนั้นหลินซีเหยียนย่อมทนไม่ได้แน่นอน เจียงหวายเย่จึงได้เผยรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมา “หลินซีเหยียนเคยดูแลเปิ่นหวางในยามที่นางเป็นว่าที่พระชายา เอาเป็นว่า เปิ่นหวางจะรับการโบย 40 ครั้งแทนนางเองว่ายังไง?”

มีหรือที่ฮ่องเต้เจียงจะยอมพลาดโอกาสที่จะได้ทำร้ายองค์ชายเย่จนสาหัสได้? เขาได้เก็บซ่อนความดีใจเอาไว้ในใจ แล้วก็พูดพึมพำราวกับไม่เห็นด้วย “ไม่ได้หรอกองค์ชายเย่ร่างกายของท่านอ่อนแอและมีค่ามากมายนัก จะให้ไปรับโทษแทนนางได้อย่างไร?”

“ไม่เป็นไร เปิ่นหวางสามารถทนไหว” เจียงหวายเย่ได้หลับตาลงเพื่อปิดซ่อนแววตาอยากฆ่าในดวงตาของเขา

“หากท่านพี่ทำไม่ได้ ก็ให้เป็นองค์ชายเองเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” เจียงซิงชูที่อยู่ในพระราชวังตั้งแต่ยังเด็ก ก็รู้ดีว่าการโบย 40 ครั้งนั้นหมายถึงอะไร เจียงหวายเย่เองก็ร่างกายไม่ค่อยดี ถ้าเขาต้องรับโทษนี้เข้าไปก็ไม่ต่างอะไรไปจากไปประตูผีหนึ่งรอบเลย!

“ซิงชู เจ้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหลินซีเหยียนด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะรับโทษแทนนางเลย” ฮ่องเต้เจียงนั้นกำลังรอดูเจียงหวายเย่ทำเรื่องโง่ๆออกมาเอง มีหรือที่เขาจะปล่อยให้คนอื่นมาแทนที่เจียงหวายเย่ได้?

เจียงหวายเย่ก็ได้จ้องไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม มีหรือที่เขานั้นจะไม่รู้ว่าฮ่องเต้เจียงนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงได้กล่าวโดยไร้ซึ่งความลังเล “ไม่เป็นไรองค์ชายสิบสี่”

“ถ้าหากองค์ชายเย่ยืนยันจะเอาเช่นนี้จริงๆ ข้าก็จะสนองให้องค์ชายเย่เอง” แล้วที่มุมปากของฮ่องเต้เจียงก็ได้ยิ้มไม่หยุด เขาก็ได้ปรบมือแล้วกล่าวไปที่ทหารองครักษ์ที่วิ่งเข้ามาหา “ไปหาหลินซีเหยียนแล้วยกเลิกการลงโทษนาง องค์ชายรัตติกาลจะรับโทษแทนนางเอง และเพราะองค์ชายรัตติกาลนั้นเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ จะเป็นการไม่ดีที่จะให้คนอื่นเห็นเขาโดนลงโทษ ให้ทำการลงโทษในท้องพระโรงนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ” แล้วเหล่าองครักษ์ก็ได้ทำตามคำสั่ง

แล้วคนอื่นๆก็ได้นำม้านั่งลงโทษมา แล้วเจียงซิงชูก็ได้ไปที่รถเข็นเพื่อช่วยประคองเจียงหวายเย่ ฮ่องเต้เจียงนั้นก็ได้เฝ้ารอดูความอัปยศนี้ต่อสายตาผู้คนทั้งหมดและรอคอยอย่างตื่นเต้น

เจียงหวายเย่ก็ได้ยื่นแขนออกเพื่อหยุดเจียงซิงชู แล้วเขาก็ได้ยื่นมือออกไปเข็นรถเข็นแล้วหันไปหาม้านั่งลงโทษเอง ภาพเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ชื่อเสียงขององค์ชายเย่ดีขึ้น แต่ยังเป็นการตบหน้าฮ่องเต้เจียงอีกด้วย

ถึงขาของเจียงหวายเย่นั้นจะพิการ แต่ความเข้มแข็งภายในใจยังคงอยู่ดี ทำให้คนอื่นๆต่างก็แอบนับถือเจียงหวายเย่

“ลงโทษได้” ฮ่องเต้เจียงก็ได้มองไปที่ดวงตาที่ประชดประชันของเจียงหวายเย่ด้วยสายตา แล้วออกคำสั่งด้วยความโกรธ

ที่ประตูอู่ หลินซีเหยียนที่รับโทษไปแล้ว 5 ไม้นั้นก็ได้มีสีหน้าซีดเผือด นางนั้นรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆทหารองครักษ์ก็ได้หยุดการลงโทษนาง หรือว่าฮ่องเต้เจียงจะใจดียกโทษให้นาง? คำตอบนั้นจะต้องไม่ใช่แน่ๆ

จะต้องเป็นเจียงหวายเย่แน่ๆ เขาใช้วิธีการอะไรกันแน่?

โดยไม่สนอาการเจ็บปวดที่หลังและก้น หลินซีเหยียนที่ยังยืนตัวตรงได้ก็ได้กลับเขาไปในท้องพระโรงอย่างช้าๆ แต่ภาพข้างในนั้นทำให้นัยน์ตาของนางนั้นเล็กลงทันที เจียงหวายเย่ที่พาดอยู่ที่ม้านั่ง และเสื้อสีจันทร์เสี้ยวที่มีเลือดซึมออกมา ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาโดนลงโทษมาได้สักพักแล้ว

แต่ทำไมเจียงหวายเย่ถึงได้โดนโบยได้ล่ะ? หรือว่าเป็นเพราะนาง?

ในเวลานี้หลินซีเหยียนได้โกรธขึ้นมาจริงๆ ในตอนที่นางโดยโบยนั้นนางก็โกรธอย่างสุดๆอยู่แล้ว แต่ในเวลานี้มันต่างออกไปนางโกรธเสียจนดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน

“หยุดก่อน ข้าหลินซีเหยียนทำผิดเองคนเดียว ทำไมท่านถึงต้องลงโทษเขาด้วย?” หลินซีเหยียนรีบเข้ามาแล้วเข้าไปหาเจียงหวายเย่

ร่างกายของเจียงหวายเย่นั้นยังคงแข็งแรงอยู่มาก ถึงแม้ว่าเขาจะรับถูกโบยมาไม่ต่ำกว่า 30 ไม้แล้ว เขาก็ยังคงยิ้มได้อยู่

“เจียงหวายเย่ท่านอยากตายมากรึยังไง? นี่เป็นเรื่องของข้า ทำไมท่านต้องเข้ามายุ่งด้วย!” หลินซีเหยียนกัดฟันแน่นแล้วจ้องไปที่เจียงหวายเย่ ในใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความโกรธ

หลังจากที่โบยครบ 40 ไม้แล้ว เจียงหวายเย่ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งอยู่ แต่หากเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วริมฝีปากของเขาก็ได้ซีดเผือดและเสื้อผ้าของเขาก็ได้กลายเป็นสีแดง