ตอนที่ 171 เธอเหมาะสมแล้วเหรอ / ตอนที่ 172 ถึงเวลาอย่ามาขอร้องฉันละกัน

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 171 เธอเหมาะสมแล้วเหรอ

 

 

“เธอไม่ใช่นักแข่งมือสมัครเล่นด้วยซ้ำ กล้าฝันจะเอาชนะทีมสปีดงั้นเหรอ”

 

 

นักแข่งทีมซีเอ็ชวันคนหนึ่งขมวดคิ้วมองหลินเยียนด้วยความไม่พอใจ ความชิงชังฉายชัดบนใบหน้าของเขา เธอกำลังพูดเพ้อฝันอะไรให้ทุกคนดีใจงั้นเหรอ

 

 

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย!

 

 

“เธอเหมาะสมที่จะมาเป็นคู่แข่งกับเราแล้วเหรอ” สมาชิกคนหนึ่งของสปีดมองหลินเยียนอย่างดูถูก

 

 

หลินเยียนหัวเราะเบาๆ ขณะมองไปที่ซ่งเย่าหนาน “พวกคุณกลัวเหรอ ถ้างั้น…ก็ถือว่าซีเอ็ชวันและสปีดเสมอกันแล้วกัน ต่างคนต่างแยกย้ายและไม่มีใครต้องแพ้ คิดว่าไง”

 

 

เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบสวยที่สุด หลินเยียนพยายามหลีกเลี่ยงเพื่อให้ไม่ต้องแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม

 

 

“สาวน้อย เธอช่างน่ารักน่าชังเสียจริง” ซ่งเย่าหนานเบ้ปากขณะมองไปที่หลินเยียน “ได้ ฉันจะยอมให้เธอทำพวกเราเสียเวลา คงเป็นเกียรติเป็นศรีไปตลอดชีวิตที่มีโอกาสได้แข่งกับสปีด คืนนี้เธอตกเป็นของฉันแน่ ฉันจะช่วยให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง…แต่คืนนี้เธอต้องพยายามทำให้ฉันพอใจนะเพื่อไม่ให้ความพยายามของฉันสูญเปล่า”

 

 

ซ่งเย่าหนานพูดจบก็หันไปคุยกับทีมสปีด “ตามกฎ เธอพูดถูก ผมขอรบกวนเวลาพวกคุณที่นี่เพิ่มอีกสักสองสามนาทีได้ไหม”

 

 

“งั้นก็ได้”

 

 

ลูกทีมสปีดยอมตกลงแบบเสียไม่ได้ตอนที่ซ่งเย่าหนานบอก

 

 

“มาตรฐานของนักแข่งและทีมบ้านคุณช่างห่วยแตกบรม ขนาดผู้ชมก็หน้าไม่อาย…วงการแข่งรถประเทศนี้ด้อยมาตรฐานเสียจริง” สมาชิกคนหนึ่งของสปีดพูดอย่างเหยียดหยามก่อนจะเดินตรงไปยังรถแข่ง

 

 

“คุณมีชุดฟอร์มของทีมเหลือไหม” หลินเยียนถามก็อดซี

 

 

“พี่เยียน จะเอาชุดทีมไปทำอะไร ใส่นี่แล้วกัน! มานี่ ผมจะไปกับพี่!” เผยอวี่ถังเอาศอกดันหลินเยียนเบาๆ และยกนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างให้เธออย่างชมเชย

 

 

เผยอวี่ถังคิดไปเองว่าหลินเยียนตั้งใจหลอกซ่งเย่าหนานและทุกคนที่เหลือเพื่อให้พวกเขาไม่ทันระวังตัว จากนั้นเมื่อพวกเขาขึ้นรถ เธอก็จะขับหนีไปและชิ่งออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

“เธอมีคุณสมบัติพอที่จะใส่ชุดฟอร์มของซีเอ็ชวันเหรอ” ใครบางคนถามเธอด้วยท่าทีดูถูก

 

 

“อย่าใจร้ายไปหน่อยเลย” มู่มู่ส่ายหัวเป็นเชิงปรามคนพูด

 

 

“มู่มู่ เอาชุดฟอร์มกับหมวกให้เธอ” ก็อดซีพูดขึ้น

 

 

มู่มู่วิ่งไปเอาชุดฟอร์มของทีมมาให้หลินเยียน

 

 

หลินเยียนสวมทับเสื้อของเธอและรับหมวกมา

 

 

“ใช้รถฉันสิ แรงสุดแล้ว” ก็อดซีบอกหลินเยียนก่อนจะกล่าวต่อว่า “อย่าฝืนลิมิตตัวเอง ไม่งั้นเธออาจตายได้”

 

 

“ขอบคุณ”

 

 

หลินเยียนโบกมือลาแล้วเดินตรงไปยังสนามแข่ง

 

 

“พี่เยียน! รอผมด้วย!” เผยอวี่ถังรีบวิ่งจ้ำอ้าวตามหลังเธอไป

 

 

ลูกทีมสปีดทุกคนนั่งประจำการอยู่ที่รถ เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน

 

 

หลินเยียนในทางกลับกันยังคงพยายามเลือกรถของทีมซีเอ็ชวันสักคัน

 

 

“พี่เยียน รีบๆ เข้าไปในรถเถอะ เราต้องเผ่นแล้ว…” เผยอวี่ถังกระซิบข้างหูหลินเยียน

 

 

“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว” หลินเยียนแหว

 

 

เผยอวี่ถังอึ้งทำตัวไม่ถูก…

 

 

“คันนี้ละ” หลังจากที่เลือกอยู่หลายนาที หลินเยียนก็เลือกรถของมู่มู่

 

 

ลูกทีมซีเอ็ชวันขมวดคิ้วด้วยความฉงน

 

 

“สมองของผู้หญิงคนนี้ได้รับการกระทบกระเทือนมาหรือเปล่า รถของมู่มู่ถือว่าดีพอใช้ ปัญหาหลักๆ ของรถคันนี้อยู่ที่ยาง มันไม่มีแรงยึดเกาะถนนมากพอ เพราะฉะนั้นรถอาจหลุดโค้งได้ง่ายๆ”

 

 

“ใครจะไปสนละ นายยังหวังว่าเธอจะเอาชนะสปีดได้เหรอ” ใครบางคนพูดเย้ยๆ อย่างเย็นชา “สำหรับฉันถ้าเป็นเธอไม่ว่ารถคันไหนก็ไม่ต่างกันหรอก”

 

 

 

 

ตอนที่ 172 ถึงเวลาอย่ามาขอร้องฉันละกัน

 

 

หลินเยียนเลือกรถ เปิดประตู และเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ

 

 

เผยอวี่ถังมุดเข้าไปนั่งข้างเธอทันที

 

 

“เธอทำอะไรน่ะ” หลินเยียนมองเผยอวี่ถังด้วยความสับสน

 

 

เผยอวี่ถังรัดเข็มขัดอย่างรวดเร็วและตอบเธอว่า “เราจะหนีไปด้วยกันแน่นอน พี่เยียนพี่จะไม่พาผมไปด้วยหรือไง”

 

 

เขาดูงุนงงสับสนมากกว่าหลินเยียนเสียอีก ดูจากท่าทางของเธอแล้ว ดูเธอไม่เต็มใจพาเขาไปด้วยเลย เธอไม่ได้ตั้งใจหนีไปกับเขาหรือไง

 

 

หลินเยียนเหลือบมองเจ้าตัวแสบ เขาคิดอะไรป่าเถื่อนแบบนี้ได้ยังไง เธอพูดว่าจะหนีไปกับเขาเมื่อไหร่กัน เธอไม่ได้พูดอะไรทำนองนี้สักคำ เขาได้ความคิดแบบนี้มาจากไหนกันเนี่ย

 

 

“ลงไป” หลินเยียนจ้องเผยอวี่ถังเขม็งและชูกำปั้นขึ้น

 

 

“ไม่ลง!” เผยอวี่ถังส่ายหัวยืนกรานหนักแน่น “พี่เยียน พี่ทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะ! เราต้องหนีไปด้วยกันสิ!”

 

 

“จะลงหรือไม่ลง” มุมปากของหลินเยียนกระตุกขณะที่ถามเผยอวี่ถังอย่าเอาเรื่อง

 

 

“ไม่ลง! ให้ตายผมก็ไม่มีวันลง!” เผยอวี่ถังตอบอย่างไม่ลังเล

 

 

“ได้ เธอเลือกเองนะ ถึงเวลาอย่ามาขอร้องฉันแล้วกัน” หลินเยียนเตือนเขาพร้อมหยักไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ

 

 

เธอบอกให้เขาลงไปแล้วนะ แต่เขาดื้อไม่ยอมฟังเธอเอง เพราะงั้นนี้ถือว่าไม่ใช่ความผิดเธอ

 

 

นักบอกทางมากประสบการณ์ที่ผ่านการอบรมแบบพิเศษมาแล้วส่วนใหญ่ยังไม่แม้แต่จะกล้านั่งรถเธอเลย

 

 

หลินเยียนเลิกสนใจเผยอวี่ถังและเริ่มทดสอบคลัตช์ จากนั้นเธอก็หันไปดูคันเร่งและเบรก

 

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา สัญญาณเริ่มการแข่งขันก็เริ่มขึ้น

 

 

เมื่อได้ยินสัญญาณ นักแข่งทีมสปีดก็ติดเครื่องยนต์เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

 

 

พริบตาเดียวรถทุกคันก็พุ่งเหินทะยานออกไปด้วยความเร็วแสงและหายลับไปไปไม่กี่วินาทีต่อมา

 

 

หลินเยียนยังคงพยายามทำความคุ้นเคยกับรถและปัดฝุ่นที่พวงมาลัยรถออก

 

 

“พี่เยียน ทำอะไรของพี่น่ะ เราจะหนีหรือไม่หนีกันแน่” เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยความสับสน

 

 

“เธอมาเร่งฉันทำไม ฉันยังไม่ได้แพ้ หนีตอนแพ้ก็ยังไม่สาย” หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถัง

 

 

เผยอวี่ถังผงะด้วยความตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่หลินเยียนพูด คิดทบทวนอยู่นาน…คำพูดของเธอก็มีเหตุผลแฮะ เธอยังไม่ได้แพ้ แล้วทำไมพวกเขาต้องหนี ถ้าหลินเยียนแพ้ขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นพวกเขาก็ค่อยเผ่นและให้ไอ้ซ่งเย่าหนานมันเจ็บใจเล่น

 

 

“แต่…แม้ว่าพี่จะอยากแข่ง…พี่เยียน พี่สตาร์ตรถได้หรือยัง พี่แทบไม่เห็นฝุ่นพวกนั้นแล้วนะ!” เผยอวี่ถังโพล่งออกมาอย่างร้อนรน

 

 

หลินเยียนไม่ตอบ เธอเพียงแค่โยนโทรศัพท์ของเธอไปให้เผยอวี่ถัง

 

 

เผยอวี่ถังรับมือเธอของเธอด้วยสัญชาตญาณ ท่าทางงงๆ เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่นะ

 

 

“พี่เยียน ผมมีโทรศัพท์แล้ว ผมไม่ต้องการโทรศัพท์ของพี่” เผยอวี่ถังมองหลินเยียน

 

 

“คิดมากไปไหม เปิดเพลงจังหวะมันๆ ตื่นเต้นๆ ให้ที ฉันต้องการเพลงที่ฟังแล้วปลุกเร้าความตื่นเต้นได้ทันที ไม่งั้นฉันไม่มีอารมณ์แข่ง” หลินเยียนบอกอย่างรำคาญ

 

 

แข่งกับพวกสปีดที่อยู่แค่ระดับสอง…ช่างน่าเบื่อหน่าย เธอแค่รู้สึกไม่ค่อยเร้าใจเท่าไหร่ก็เท่านั้น

 

 

 

 

นอกสนามแข่ง ลูกทีมซีเอ็ชวันมองไปยังรถคันส้มที่ยังไม่ไหวติงแล้วได้แต่ส่ายหัว

 

 

“เราทำอะไรลงไป ทำไมเราถึงยอมปล่อยให้ยัยโง่นั่นใส่ชุดฟอร์มและเอารถของเราไปใช้ นั่นเธอกำลังนั่งรอบทลงโทษอยู่หรือไง” ลูกทีมซีเอ็ชวันคนหนึ่งพูดเย้ยเสียงดัง