ตอนที่ 123 : ทักษะมีดลมหายใจมังกร
หวังเย่าอาศัยช่วงที่อนาคอนดามังกรน้ำโลหิตบาดเจ็บ ให้ตือโป๊ยก่ายเคลื่อนที่ไปอีกฝั่ง ตอนที่หัวของอนาคอนดากระแทกลงกับพื้น มันก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและเปลี่ยนร่างเป็นเข็มพุ่งแทงเข้าที่ตาของอนาคอนดาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
พลังในการแทงของมันแม้แต่เหล็กก็ยังไม่อาจจะทนไหว นี่ไม่ต้องนับตาของอนาคอนดามังกรน้ำโลหิตเลย
แต่เพราะเข็มนี่เล็กเกินไป แม้ว่าจะแทงเข้าจุดสำคัญ แต่ก็ทำได้แค่ ทำให้อนาคอนดานั่นบิดตัวไปมา
ตอนนั้นการ์ฟิลด์ได้กลับมาโจมตีอีกครั้ง มันได้ใช้สกิลตบของตัวเองออกมา
ตูม !
การ์ฟิลด์ได้ขยายตัวออกไปยาวกว่า 8 เมตร ที่มันตัวเล็กก่อนหน้านี้ก็เพื่อความคล่องตัวและหลบการโจมตีของอนาคอนดา เมื่ออนาคอนดาบาดเจ็บอยู่ มันก็ไม่จำเป็นจะต้องป้องกันตัวอีกต่อไป
เล็บที่คมกริบและยาวของมันได้ระเบิดพลังออกมามากกว่าเดิมถึงสามเท่า นี่คือสกิลที่การ์ฟิลด์ไม่ได้ใช้ออกมาง่าย ๆ แต่เมื่อใช้ออกมาแล้วมันก็จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง
เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น เล็บของการ์ฟิลด์ก็แทงทะลุที่ตาของอนาคอนดาและแทงลึกเข้าไปอีก
หวังเย่าสงสัยว่าสมองของอนาคอนดาอาจจะเละไปด้วยเลยก็ได้
อนาคอนดานั้นบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด
หวังเย่ามองดูอยู่เงียบ ๆ เขาเลือกที่จะไม่โจมตีเพราะเขาไม่จำเป็นต้องลงมือ
3 นาทีต่อมาอนาคอนดาที่โดนโจมตีเข้าที่หัวก็บิดตัวอยู่สักพัก ก่อนจะแน่นิ่งไป
“เจ้าขาว อนาคอนดานี่ตายแล้ว บอกเพื่อนแกออกมาได้แล้ว” หวังเย่าได้ส่งข้อความบอกกับเจ้าขาว
“นายท่าน ท่านช่างทรงพลังจริง ๆ ขนาดสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งแบบนี้ แต่ท่านกลับฆ่าได้ ฉันล่ะอยากอยู่กับนายท่านต่อเพื่อจะได้กินของอร่อย ๆ ” เจ้าขาวประจบ
หวังเย่ามองไปที่เจ้าขาวด้วยสีหน้าหม่นหมอง “ยังไม่ต้องคิดเรื่องนี้ ไปเรียกราชาของแกมา อนาคอนดานี่ตายไปแล้ว ส่วนฉันจะพักก่อน”
“ได้ ไปกันเถอะ” เจ้าขาวได้บอกเพื่อนของมัน
….
เมื่อสั่งการเจ้าขาวเสร็จ หวังเย่าก็กลับไปที่คลังอีกครั้ง เพื่อฝึกฝนทักษะมีดลมหายใจมังกรอีกรอบ
ด้วยอัญมณีความทรงจำนี้ก็ทำให้เขาเพิ่มความแข็งแกร่งของทักษะได้อย่างมาก เขาเข้าใจทักษะนี้ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถใช้ทักษะนี้ออกมาได้อย่างง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก
ด้วยการใช้อัญมณีนี้มันจึงทำให้หวังเย่าเข้าใจทักษะนี้ลึกไปถึงแก่นกระดูก
หลังจากที่ใช้อัญมณีความทรงจำไปถึง 30 ก้อน หวังเย่าก็รู้สึกว่าความลึกลับที่เคยเจอมานั้นกลับชัดเจนขึ้น เขาเข้าใจถึงแก่นแท้ของทักษะนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
อัญมณี 30 ก้อนก็เท่ากับการฝึก 30 เดือน ทำให้ความเข้าใจในทักษะมีดลมหายใจมังกรของหวังเย่าเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
ระดับที่เพิ่มขึ้นมานี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหลายที่ พลังที่ใช้ออกมานั้นเหมือนจะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะโจมตีออกมารูปแบบใดก็ดูน่าพิศวง
ฟุ่บฟุ่บ
เขาได้แสดงทักษะออกมาอีกครั้ง ภายในระยะ 3 ฟุตรอบกายได้กลายเป็นนอาณาเขตของเขา ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวใด ๆ แม้แต่ลมที่พัดผ่านเขาไปก็ยังรับรู้ได้
พลังของมีดแต่ละเล่มนั้นเดาว่าแม้แต่สัตว์อสูรระดับราชาก็ไม่อาจจะทนรับการโจมตีนี้ได้
หวังเย่าหลับตาลงนึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ อีกครั้งเพื่อที่จะทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งขึ้น
ด้วยการรวมกันของการรับรู้และความทรงจำในกล้ามเนื้อก็ทำให้เขาสามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของทักษะมีดลมหายใจมังกรได้
…
“นายท่าน ราชามาถึงแล้ว”
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน บางทีอาจจะ 1 หรือ 2 วัน ตอนที่หวังเย่าได้ลืมตาขึ้นมา เขาก็พบว่าราชาแพรี่ด็อกได้มาที่นี่แล้ว
“แขกผู้มีเกียรติ ไม่สิ ผู้กอบกู้ชนเผ่าของพวกเรา เราขอทำความเคารพจากใจจริง” ราชาแพรี่ด็อกคุกเข่าไปกับพื้น
“ลุกขึ้นเถอะ” หวังเย่าไม่ชินกับการให้สัตว์อสูรมาทำความเคารพแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ
ราชาแพรี่ด็อกลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ฉันเห็นร่างของงูแล้ว เจ้าขาวบอกว่านายคิดจะเอาอัญมณีความทรงจำไปทั้งหมดงั้นหรือ ? ”
หวังเย่าตอบตามความจริง “อัญมณีความทรงจำนี้มีประโยชน์ต่อฉันอย่างมาก ฉันจึงอยากเอามันไปทั้งหมด แต่ฉันจะแลกของบางอย่างกับพวกนาย”
“ได้” ราชาแพรี่ด็อกตอบกลับ เขาคิดว่าอัญมณีนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากนัก แต่ถึงจะมีประโยชน์น้อย มันก็มีราคาที่ต้องแลก นอกจากนี้ อัญมณีก็อยู่กับหวังเย่าทั้งหมด พวกมันไม่อาจจะเอากลับมาได้
หวังเย่าพูดต่อ “ฉันจะไม่เอาเปรียบพวกนาย นอกจากอัญมณี 200 ก้อนแล้ว ฉันจะเอาแร่บางส่วนไปด้วย ฉันจะใช้ร่างของอนาคอนดานี่แลกเปลี่ยนกับพวกนาย นอกจากนี้แล้วฉันจะช่วยวิวัฒนาการให้พวกนายด้วย”
“วิวัฒนาการงั้นหรือ ? ” ราชาแพรี่ด็อกใจสั่นจนพูดออกมาไม่เป็นคำ “ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย วิวัฒนาการงั้นหรือ ? ”
หวังเย่าพยักหน้าอย่างมั่นใจ เขาเดินเข้าไปหาราชาและพูดขึ้น “ตอนนี้นายอยู่ระดับเงินเลเวล 40 ฉันจะช่วยนายวิวัฒนาให้ขึ้นเป็นระดับทองเลเวล 43 ฉันสามารถทำให้นายวิวัฒนาการตอนนี้ได้ด้วยซ้ำ”
“งั้นก็ดีเลย ลงมือได้เลย นายต้องให้ฉันทำอะไรไหม” ราชาเริ่มร้อนใจ
หวังเย่ายิ้มและส่ายหน้า เขามีระบบอยู่กับตัว การที่อีกฝ่ายบอกจะร่วมมือก็แค่ปล่อยให้ระบบทำงานบังคับให้แพรี่ด็อกวิวัฒนาการ
โชคดีที่ไม่ใช่การฟักไข่ เพราะการฟักไข่จำเป็นต้องใช้เลือดของหวังเย่า แต่การวิวัฒนาการนั้นสามารถใช้เลือดของสัตว์อสูรแทนได้
หวังเย่าเลือกที่จะใช้เลือด 500 มิลิลิตรจากหงอคง แล้วเปลี่ยนเลือดนี่ให้กลายเป็นพลังงานสำหรับการวิวัฒนาการ ส่วนที่เหลือเอาไว้ใช้สำหรับเพิ่มเลเวล
ไม่นานแพรี่ด็อกที่ขนาดเท่ากับเอวก็ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันโตขึ้นกว่าเดิมสองเท่า ตัวของมันเรืองแสงสีทอง จากนั้นคลื่นพลังระดับทองก็แผ่ออกมา ตัวของมันก็เปล่งแสงสีขาวกระพริบออกมาอยู่สามครั้งบ่งบอกว่าเลเวลของมันเพิ่มขึ้นมา 3 เลเวล
“ฉันช่วยนายเพิ่มเลเวลกับระดับแล้ว” ผ่านไป 3 นาที หวังเย่าก็เปิดปากพูดขึ้น
ราชาแพรี่ด็อกเบิกตากว้าง มันมองไปที่ร่างของมันที่ขยายขนาดขึ้นมา มันรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ไปทั่วตัว จนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
“เร็วจริง ๆ ฉันแทบไม่เชื่อว่านี่คือความจริง ผู้กอบกู้ นายนี่เก่งจริง ๆ ฉันยอมรับในตัวนาย ฉันอยากเป็นทาสรับใช้นาย” ราชาอุทานออกมา
หวังเย่าโบกมือให้มันหยุดพูด ก่อนจะตอบกลับว่า “ฉันคิดว่านายน่าจะพอใจแล้ว ตอนนี้ข้อตกลงของเราเสร็จสิ้นแล้ว อย่าลืมที่รับปากฉันไว้”
“แน่นอน นายสบายใจได้ ฉันจะบอกสิ่งที่เราได้สำรวจในป่านี้ทั้งหมดให้กับนาย” ราชาพูดขึ้น
หวังเย่าพยักหน้า ด้วยข้อตกลงนี้ไม่เพียงแต่การสำรวจของเขาจะไม่ล้มเหลวแล้วแต่ยังได้ข้อมูลที่ละเอียดกลับมา มันอาจจะทำให้การสำรวจของเขาย่นเวลาลงไปได้อีก