ตอนที่ 122 : อนาคอนดามังกรน้ำโลหิต

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 122 : อนาคอนดามังกรน้ำโลหิต

ต่อมา เจ้าขาวก็ได้แนะนำแร่ที่เขาไม่รู้จักรวมถึงไข่ขนาดใหญ่อีกหลายใบ ที่เจ้าขาวได้ขโมยมันออกมาจากรังของสัตว์อสูรอื่น ๆ และนำกลับมาเก็บไว้ที่รังของตัวเอง

หวังเย่าได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา มุมมองที่เขามีต่อแพรี่ด็อกก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าพวกนี้ไม่ต่างอะไรจากโจรเลย

เขาได้แร่มาหลายก้อนรวมถึงไข่ใบหนึ่งด้วย

แจ้งเตือน : ค้นพบไข่ที่มีสายเลือดของมังกรน้ำแสง หากฟักมักอาจจะได้อสูรระดับทอง

หวังเย่าเห็นคำแจ้งเตือนจากระบบก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา นี่อาจจะเป็นลูกหลานของมังกรน้ำเหมือนอนาคอนดามังกรน้ำโลหิตตัวนั้นก็ได้

“ ไม่แปลกเลยที่งูนั่นถึงได้ล่าพวกนี้ เป็นเพราะมันโดนขโมยไข่มานี่เอง“  หวังเย่ามองแพรี่ด็อกด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่ได้รู้สึกตลกเลย การโดนขโมยไข่มาแบบนี้แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ ไม่แปลกที่จะมีหายนะเกิดขึ้นกับพวกนี้

แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกมา เขาเชื่อว่าพวกแพรี่ด็อกรู้ว่าอะไรถูกรึผิด

อีกทั้งถึงแม้หวังเย่าจะไม่รู้ว่าอนาคอนดามังกรน้ำโลหิตที่อยู่ในไข่ใบนี้อยู่ระดับที่เท่าไหร่ แต่ถ้านำมันไปขายล่ะก็ คงพอทำเงินได้บ้าง

สุดท้ายเขาก็ไปยืนอยู่ที่กองหินขนาดเท่ากับกำปั้นที่เรืองแสงสีแดง หินเหล่านี้มีประมาณ 180 ก้อน มันแผ่พลังลึกลับออกมา จนหวังเย่าอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“นายท่าน นี่คืออัญมณีความทรงจำ นายท่านเอาไปได้แค่ 100 ก้อน ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องแลกเปลี่ยนกับเรา” เจ้าขาวพูดขึ้นด้วยท่าทีเคารพ

หวังเย่าพยักหน้า เขาอยากตรวจสอบดูก่อนว่ามันจะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้รึไม่  หากมันช่วยได้ เขาก็จะเอามันไปทั้งหมด

“ฉันจะลองทดสอบดูก่อน นายออกไปตรวจสอบด้านนอกเถอะ”  หวังเย่าจับหินนั่นขึ้นมาก่อนจะใช้มีดทมิฬกรีดฝ่ามือจนทำให้เลือดไหลออกมา จากนั้นเขาก็ได้ใช้อัญมณีความทรงจำวางไปที่บาดแผล ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลเข้ามาในตัว

“อัญมณีนี่จะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านความทรงจำของกล้ามเนื้อได้นาน 3 นาที”  ระบบแจ้งเตือน

หวังเย่าดึงมีดทมิฬที่เอวออกมาก่อนจะใช้ทักษะมีดลมหายใจมังกร ซึ่งทักษะการต่อสู้ขั้นที่ 4 ถูกใช้ออกมาจนครบภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที

ผ่านไป 3 นาที หวังเย่ารู้สึกปวดเนื้อปวดตัว ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายเขา เขาหลับตาลงเพื่อตรวจสอบร่างกาย ไม่นานเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา

จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะมีดลมหายใจมังกรอีกครั้ง เขาแสดงทักษะที่ดูดุดันกว่าเดิมออกมา มันพร่ามัวแต่กลับรู้สึกได้ถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น

“มันเพิ่มระดับให้กับทักษะได้”  หวังเย่าตาเป็นประกายขึ้นมา อัญมณีความทรงจำนี่น่าทึ่งจริงๆ

ก่อนหน้านี้เขาใช้เวลาเป็นเดือนในการศึกษาทักษะมีดลมหายใจมังกร และใช้เวลาเกือบปีในการฝึกฝน แต่ก็ก้าวหน้ามาแค่เล็กน้อย แต่หินนี่กลับทำให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น

ขนาดเขาใช้อัญมณีความทรงจำไปแค่ก้อนเดียวแต่ก็เทียบกับการฝึกอย่างน้อย 1 เดือน เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจราวกับมองเห็นความหวังในการก้าวหน้าของทักษะมีดลมหายใจมังกร

ถ้าเลื่อนระดับทักษะขึ้นมาได้ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้น จนสามารถขึ้นไปเป็นนักสู้ระดับ B รึอาจจะห่างจากระดับ A ไม่มากนัก

“ฉันต้องการมันทั้งหมดและจะชดเชยให้พวกนายอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ฉันจะช่วยวิวัฒนาการพวกนายด้วย”  หวังเย่าพูดขึ้น

เจ้าขาวและพวกแพรี่ด็อกได้ยินแบบนั้นก็ยินดีเป็นอย่างมาก สำหรับพวกมันแล้วบทบาทของอัญมณีความทรงจำนั้นส่งผลไม่มากนัก อย่างมากก็แค่ทำให้เชี่ยวชาญสกิลในการขุดและสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ

อย่างไรเสีย พวกแพรี่ด็อกที่เกิดใหม่ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ใช้เวลาแค่ 3-5 เดือนก็สามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านั้นได้สำเร็จ

ตอนนั้นเองเจ้าขาวก็ได้ตะโกนออกมา  “นายท่าน งูนั่นกลับมาแล้ว”

หวังเย่าพยักหน้าและเดินออกมาจากคลัง ไม่นานเขาก็พบกับงูที่แพรี่ด็อกพูดถึง ตัวของมันยาวกว่า 100 เมตร ผิวหนังของมันเป็นสีม่วง ซึ่งมันก็คืองูที่เขาเจอก่อนหน้านี้

“ฉันปล่อยแกไปแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันอีก”  หวังเย่าถอนหายใจออกมา เขาซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นทันที

เป้าหมายของเขาไม่ใช่ไล่มันออกไปรึจับมันแต่อย่างใด แต่คือต้องฆ่ามัน

ยิ่งไปกว่านั้นงูนี่ก็อยู่ระดับราชันย์และมีพลังทัดเทียมกับเสือดาวที่เขาเคยเจอมา เขาเชื่อว่าเลือดและเนื้อของมันเพียงพอที่จะใช้ในการแลกเปลี่ยนแร่และอัญมณีความทรงจำได้

“ตือโป๊ยก่าย ซุ่มรออยู่ใกล้ ๆ แล้วรอฟังคำสั่งจากฉัน ใช้ทะลุ”

“การ์ฟิลด์ ใช้สกิลสุดยอดการเปลี่ยนร่างหดขนาดตัวลงและรอโอกาสโจมตีที่ตาของมัน”

“หงอคง ทำผิวให้แข็งและเพิ่มขนาดตัวเพื่อรับมือกับมันแบบซึ่ง ๆ หน้า คอยยื้อเวลางูนั่นเพื่อเปิดโอกาสให้การ์ฟิลด์โจมตี”

หวังเย่าสั่งการอสูรทั้งสามของเขา หลังจากที่ได้รับคำตอบจากพวกมัน เขาก็คอยซุ่มต่อเพื่อรอให้งูนั่นเข้ามาติดกับดัก

10 นาทีต่อมางูนั่นก็เลื้อยเข้ามาในรัง ก่อนจะนอนนิ่งราวกับหลับไป

หวังเย่าไม่ลังเลอีกต่อไป เขากระโดดออกมาจากอุโมงค์และตกลงไปที่ตัวของงู ก่อนจะเรียกอสูรทั้งสามของเขาออกมา อสูรทั้งสามปรากฏตัวขึ้นและทำตามที่หวังเย่าได้สั่งการเอาไว้

ตือโป๊ยก่ายเปลี่ยนเป็นเงาและหลอมรวมกับเงามืดบนกำแพง ส่วนการ์ฟิลด์พุ่งไปที่หัวของงูพยายามโจมตีปิดฉาก

แต่งูนั่นไม่ได้หลับ มันตื่นขึ้นมาและตอบโต้ได้ทัน เมื่อมันเห็นการ์ฟิลด์ที่กระโดดเข้ามา มันก็อ้าปากออกมาอย่างไม่ลังเล สกิลกลืนกินของมันถูกใช้งาน พร้อมกับแรงสูบที่ดูดการ์ฟิลด์เข้าไป

การ์ฟิลด์ผงะ มันสะบัดตัวเพื่อหนีออกจากแรงสูบนั้น

อนาคอนดามังกรน้ำโลหิตได้ใช้โอกาสนี้บิดตัวเพื่อเตรียมที่จะสู้กับหงอคงที่ถือกระบองทมิฬรออยู่นานแล้ว หงอคงได้ฟาดกระบองไปที่ตัวของมัน

อนาคอนดาแสดงสายตาที่เย็นชาออกมา เมื่อไม่อาจจะหลบได้ มันก็เลือกที่จะกัดหงอคง  เนื่องจากหงอคงนั้นตัวใหญ่เกินกว่าที่มันจะกินได้ ดังนั้นมันจึงเลือกกัดหงอคงเข้าที่แขน โดยหวังว่าจะฉีกแขนให้ขาด

แต่หงอคงไม่เปิดโอกาสให้มัน กระบองนั้นฟาดใส่ที่หัวอนาคอนดาอย่างแรงจนเกิดเสียงดังก้องขึ้นราวกับเสียงกระดูกแตก

หัวของอนาคอนดามีแผลพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมา หัวของมันฟาดลงไปกับพื้น หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็โล่งอกขึ้นมาทันที

ดูเหมือนว่าอนาคอนดาตัวนี้จะประมาทพลังของหงอคงเกินไปหน่อย

กระบองทมิฬนี่หนักกว่า 4,000 กิโลกรัม เมื่อรวมกับพลังธรรมชาติของหงอคงแล้ว เดาว่าแม้แต่มังกรก็ไม่กล้าจะรับมือกับการฟาดของกระบองนี้โดยตรงได้