เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองพ่อเลี่ยว แววตาแอบได้ใจเล็กๆ คุยกับคนฉลาดก็ย่อมเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แบบนี้ค่อยตกลงกันง่ายหน่อย
“คุณอาคะ ในเมื่อคุณอาดูออกงั้นหนูก็จะไม่เกรงใจแล้วนะคะ หนูยอมรับว่าคุณอาเป็นคนดี แต่หนูไม่อยากให้แม่ต้องอยู่ท่ามกลางปัจจัยที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตทุกวัน อีกอย่างการกระทำของคุณอาในวันนี้ทำให้หนูตัดสินใจลบภาพความรู้สึกแรกที่มีต่อคุณอาทิ้ง คุณอาไม่ได้ดูอ่อนโยนเหมือนที่แสดงออกเลยค่ะ”
พ่อเลี่ยวขำกับคำพูดของเสี่ยวเชี่ยน “ต้องเป็นคนจริง ถึงจะมีจิตใจที่ดี ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังนะ”
เสี่ยวเชี่ยนอยากจะเหอๆออกมา…
จริงกับผีสิ นี่มันหมาจิ้งจอกในคราบลูกแกะชัดๆ มีแต่แผนเจ้าเล่ห์
“เกี่ยวกับเรื่องที่หนูเป็นกังวล ฉันรับรองว่ามันจะไม่เกิดขึ้น ตอนนี้บ้านที่ฉันอยู่เป็นบ้านที่ได้รับการจัดสรรก่อนหน้านี้ หมู่บ้านเก่าแก่ความปลอดภัยก็เลยหละหลวม ฉันเตรียมจะย้ายไปอยู่หมู่บ้านแบบปิด ต่อไปคนนอกก็เข้ามาวุ่นวายไม่ได้แล้วล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนเลิ่กคิ้ว “คงไม่ได้จะย้ายไปแถวบ้านใหม่ของพวกเราหรอกนะคะ?”
ตอนนี้เจี่ยซิ่วฟางอยู่บ้านเช่า บ้านที่ได้จากการถูกเวนคืนต้องรออีกครึ่งปีถึงจะย้ายเข้าได้
พ่อเลี่ยวยิ้ม “ถูกต้อง อยู่ใกล้กันจะได้ดูแลกันง่ายหน่อย”
ความหมายคือ เขาเตรียมจะทำสงครามอย่างยาวนาน
“เฮอะๆ…เป็นหัวหน้าก็หน้าหนาแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?”
แบบนี้เรียกว่าอะไรนะ ตามตื๊อ?
ตาแก่นี่หัวดื้อจริง ถึงกับซื้อบ้านให้อยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มีต่อเจี่ยซิ่วฟาง
“ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะวิ่งหาความสุขนะ”
“ขอถามได้ไหมคะว่าชอบแม่หนูตรงไหน?”
“ฉันชื่นชมในความรักของแม่ที่เขามีต่อลูกอย่างทุ่มหมดตัว และก็ชื่นชมในความเป็นคนซื่อของเขา เลี้ยงดูเด็กแบบหนูออกมาได้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา อย่างน้อยในสายตาฉันเขาก็ไม่ธรรมดา”
เสี่ยวเชี่ยนอยากจับผิดความจอมปลอมในดวงตาของเขา แต่จากประสบการณ์แพทย์คลินิกหลายปีของเธอ ตาแก่คนนี้พูดออกมาอย่างจริงใจ
มีคนเปรียบความรักของคนสูงวัยไว้ว่า เหมือนไฟไหม้บ้าน ตอนไม่ไหม้ยังไม่เท่าไร แต่พอไหม้ขึ้นมาก็ลุกลามเอาไม่อยู่
“งั้นก็ขอให้คุณอาดีต่อผู้หญิงที่คุณอามองว่าไม่ธรรมดาคนนี้ให้มากๆ ถ้าหนูเห็นว่าคุณอากล้าทำให้แม่หนูเสียใจ คุณอาเคยเจอคู่หมั้นหนูนี่คะ เขาทำงานอะไรคุณอาก็รู้ เขาใช้มือเดียวฟันอิฐหักได้ ฟันหัวคนยิ่งเรื่องเล็ก คิดเอาเองนะคะ—ฝากจ่ายเงินด้วยนะคะ แล้วก็ฝากบอกแม่ด้วยว่าหนูกลับมหาลัยแล้ว”
เสี่ยวเชี่ยนยืนขึ้น ครั้งนี้เธอจะไปจริงๆแล้ว
“ไม่กลับไปดูแม่หน่อยเหรอ?”
“ตอนนี้เขาน่าจะอยากเจอคุณอามากกว่า ขอย้ำอีกครั้ง ถ้าคุณอากล้ารังแกแม่หนู—”
“ตระกูลอวี๋จะไม่ปล่อยฉันไป เข้าใจแล้วเด็กน้อย ทำไมอยู่ๆก็ยอมรับเรื่องฉันกับแม่หนูล่ะ?”
“หนูก็แค่ไม่คัดค้าน อนาคตเป็นไงก็ต้องดูที่ตัวคุณอาแล้วนะคะ ถ้าเขาไม่ชอบคุณอาก็อย่ามาโทษหนูก็แล้วกัน หนูไม่สนับสนุนแต่ก็ไม่คัดค้าน”
พ่อเลี่ยวเจอคนมาก็ไม่น้อย เขาดูออกว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นเด็กที่ค่อนข้างมีความพิเศษ ไม่ลึกลับซับซ้อนแต่ก็เดาทางยาก ดูสุขุมแตกต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน
เสี่ยวเชี่ยนสืบเรื่องพ่อเลี่ยวอย่างละเอียด พ่อเลี่ยวเองก็พอจะรู้เกี่ยวกับเสี่ยวเชี่ยนอยู่บ้าง หลังจากที่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนคัดค้านเขาก็ได้ไปสืบหาข้อมูลของเสี่ยวเชี่ยน แล้วก็ต้องพบว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา
เป็นสะใภ้คนเล็กของตระกูลอวี๋ ซึ่งตระกูลนี้ไม่ใช่ตระกูลธรรมดา การที่เธอทำให้คนบ้านนี้ยอมรับได้ก็แสดงว่ามีความสุขุมรอบคอบมากพอ แต่อย่าว่าแต่จะเป็นสะใภ้ของพลตรีอวี๋เลย ต่อให้มียศสูงกว่านี้ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เขาตามจีบเจี่ยซิ่วฟาง อีกไม่กี่ปีพ่อเลี่ยวก็เกษียณแล้ว ไม่ได้ลุ่มหลงในอำนาจยศถาบรรดาศักดิ์เท่าไร ต่อให้ครอบครัวที่เสี่ยวเชี่ยนไปดองด้วยจะแข็งกว่านี้เขาก็ไม่ได้อยากจะปีนป่าย
“แต่ก่อนหน้านี้หนูแสดงออกว่าไม่คิดจะให้แม้แต่โอกาส ทำไมอยู่ๆก็เปลี่ยนใจล่ะ?” พ่อเลี่ยวถาม
“เพราะแม่เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจหนู หนูอยากให้เขามีความสุข ใครทำให้เขาเสียใจหนูก็จะเอาถึงตาย ง่ายๆแค่นี้แหละค่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้เก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองต่อหน้าพ่อเลี่ยว คำพูดน่าเกลียดเธอหยิบขึ้นมาพูดก่อน
สำหรับเธอครอบครัวเป็นสิ่งที่อยู่สูงห้ามแตะต้อง เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายในใจเธอ ใครกล้าแตะคนนั้นมันต้องตาย ครอบครัวลุงรองคือตัวอย่างที่ดีที่สุด
เสี่ยวเชี่ยนทิ้งคำพูดร้ายๆไว้ให้พ่อเลี่ยวแล้วเดินจากไป สำหรับพ่อเลี่ยวคำพูดโหดๆของเสี่ยวเชี่ยนไม่เพียงแต่จะไม่สร้างความรังเกียจ กลับแสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้มีแม่อยู่ในใจเสมอ ไม่เสียทีที่เจี่ยซิ่วฟางทุ่มความรักให้หมดใจ
“เด็กคนนี้ใส่ใจมากจริงๆ มีลูกสาวมันดีแบบนี้นี่เอง ซิ่วฟางเลี้ยงเขามาได้ดีทีเดียว” พ่อเลี่ยวพูดพึมพาพลางมองเสี่ยวเชี่ยน
ทันใดนั้นก็คิดได้ว่าสิ่งที่เด็กคนนี้ทำก่อนหน้านี้อันที่จริงเพราะอยากเห็นความสามารถของเขาในการปกป้องแม่เธอ แล้วก็ลองใจเขาด้วย
ถ้าเขาทำไม่ได้อย่างที่เธอหวัง ไม่มีท่าทียอมให้เธอขณะคุย เขาคงไม่ได้แตะแม้แต่ชายเสื้อของเจี่ยซิ่วฟาง
สวรรค์เองก็ช่วยเขา ทำให้เขาได้มาดูแลเจี่ยซิ่วฟางขณะป่วย เสี่ยวเชี่ยนพอเห็นเรื่องพวกนี้ถึงได้ยอมลดระดับความยากในการทดสอบเขา
ไม่อย่างนั้นถ้าไม่มีเรื่องพวกนี้ไม่แน่เธออาจจะคิดแผนอะไรมาทดสอบเขาอีก ถ้าเขาไม่ผ่านก็คงไม่ได้เจอเจี่ยซิ่วฟางไปตลอดชีวิต
แต่เธอก็ไม่ใช่เด็กที่หัวแข็ง หลังจากที่เห็นความจริงใจของเขา บอกให้เขารู้ว่าเบื้องหลังของเจี่ยซิ่วฟางมีใครหนุนอยู่ จากนั้นก็ยอมวางมือ
ช่างเป็นเด็กที่ใส่ใจ มีความฉลาด ไหวพริบดีจริงๆ ปกป้องแม่ตัวเองได้อย่างไม่มีที่ติ อีกทั้งยังไม่ขัดขวางความสุขของแม่ เจี่ยซิ่วฟางมีลูกสาวแบบนี้นับเป็นบุญของเธอจริงๆ
พอคิดว่าเด็กดีแบบนี้อีกหน่อยอาจได้มาเป็นลูกสาวของตัวเอง พ่อเลี่ยวก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เสี่ยวเชี่ยนพอออกจากร้านกาแฟก็ยังไม่กลับมหาวิทยาลัย เธอไปยังตึกขายอุปกรณ์ไอที จ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ถึงแม้ในสายตาของคนที่รู้เรื่องพวกนี้มาก่อนอย่างเธอ เครื่องคอมแบบนี้ไม่ได้เรื่องเป็นอย่างมาก แต่มันก็ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
เธอเอาคอมกลับบ้านแล้วลากน้องชายตัวดีมาจัดการ ประณามความปากไม่มีหูรูดของน้องชาย หลังจากที่เพิ่มแบบฝึกหัดจบสิ้นวันหยุดลาป่วยอันสวยงามของน้องชายแล้วเสี่ยวเชี่ยนจึงนั่งรถกลับมหาวิทยาลัย
อันที่จริงเธออยากไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ไปอยู่เป็นเพื่อน
แต่เธอรู้ว่าตอนนี้แม่อยากให้พ่อเลี่ยวอยู่ดูแลมากกว่า
“พี่ครับ ได้ยินว่าพี่เป็นจิตแพทย์เหรอครับ?” คนที่ขับรถให้เธอเป็นคนขับรถของพี่ใหญ่ เขาค่อนข้างได้ใกล้ชิดกับพี่ใหญ่จึงรู้ว่าภรรยาของน้องชายบอสเป็นจิตแพทย์ที่เก่งมาก
“ใช่ค่ะ”
“งั้นช่วยผมวิเคราะห์หน่อยได้ไหมครับ ช่วงนี้ลูกสาวผมชอบคิดหาวิธีตามติดผม เวลาผมอยู่บ้านทำอะไร ครึ่งชั่วโมงเขาก็จะมาขัดจังหวะผมถึงห้าครั้ง ทำผมเสียเวลามาก เด็กคนนี้เป็นโรคจิตเวชหรือเปล่าครับ”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้ม “เด็กยังอายุไม่ถึงห้าขวบใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ เพิ่งจะสี่ขวบ”
“กลับไปอยู่กับแกให้มากๆหน่อย เด็กคนนี้ต้องการคุณ”
“หา? ไม่ได้มีปัญหาเหรอครับ?”
“พฤติกรรมของเขาแสดงออกถึงสิ่งที่อยู่ในใจ คุณคงงานยุ่งมากจนไม่ค่อยได้อยู่กับเขา เด็กใช้วิธีรบกวนคุณเพราะอยากได้รับความสนใจจากคุณ ใช้เวลากับเขาให้มากขึ้นก็จะดีขึ้นค่ะ นี่ไม่ถือเป็นโรคจิตเวช ก็แค่เด็กต้องการให้พ่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน”
“ที่แท้ก็แบบนี้ ขอบคุณมากครับหมอเฉิน” คนขับรถได้รับคำตอบที่กระจ่างแล้ว
“จะพ่อแม่ก็ดี หรือลูกก็ดี ยื่นมือเข้าไปจับแกไว้ในเวลาที่จำเป็น อย่าปล่อยให้แกรู้สึกโดดเดี่ยว จับมือแกไว้นั่นคือความรัก แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมปล่อยมือให้แกไปตามหาชีวิตของตัวเอง มีชีวิตเป็นของตัวเอง นั่นก็คือความรักเหมือนกันค่ะ”
“หมอเฉินพูดมีเหตุผลครับ” คนขับรถรู้สึกศรัทธาในตัวเสี่ยวเชี่ยนมาก
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มมุมปาก มองออกไปนอกตัวรถ ยังคงเป็นถนนที่ผู้คนรถรามีมาอย่างไม่ขาดสาย ทุกครั้งที่เธอจากบ้านไปมหาวิทยาลัยมักจะไม่ค่อยวางใจเรื่องแม่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เธอควรปล่อยมือแล้ว เธอต้องมอบมือของแม่ให้กับผู้ชายอีกคนแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำก็คือปล่อยมือของแม่ จากนั้นก็คอยยืนปกป้องอยู่ด้านหลัง ถ้ามีคนมารังแกแม่เธอ เธอก็จะทำลายคนๆนั้นทั้งครอบครัว
คนนับพันนับหมื่นเบื้องหลังก็ซ่อนด้วยหัวใจนับหมื่นนับพัน พฤติกรรมของแต่ละคนล้วนแฝงไว้ซึ่งความต้องการของตัวเอง การค้นหาวิธีที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการแก้ปมในใจนั้นเป็นงานของเธอ
ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนเพิ่งกลับชาติมาเกิดเป็นช่วงที่เธอเกลียดการนึกถึงอนาคต เธอคิดแค่ว่าอยากจะจัดการคนที่เธอเกลียด จากนั้นก็ปลดปล่อยตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน
เธอยื่นมือไปวาดรูปหัวใจที่หน้าต่างรถ คล้ายกับว่าได้เห็นใบหน้าของอวี๋หมิงหลางในใจ
เป็นเขาที่ทำให้เธอเฝ้ารอแบบนี้
มีเคสรักษาเป็นพันเป็นหมื่นรอเธออยู่ แต่สิ่งที่เธออยากค้นหาที่สุดกลับมีแค่ใจดวงนี้เท่านั้น พรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ไหมเธอไม่รู้ แต่เธอรู้ว่าตัวเองในตอนนี้เต็มไปด้วยการรอคอย