บทที่ 145 แยกเตียงนอน

“ข้าจะนอนแล้ว ถึงข้าไม่อยากนอน ลูกในท้องข้าก็ต้องนอน!” แม่โจวเอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะนอนลงบนเตียง

ตอนนี้แม่โจวรู้ว่าถึงเวลาที่นางจำเป็นต้องใช้ลูกในท้องปกป้องตนเองแล้ว

ต่อให้ไม่รู้ว่าเด็กที่คลอดออกมาจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ก่อนจะคลอด เด็กก็เหมือนยันต์ป้องกันตัว ส่วนเรื่องหลังจากนั้นแม่โจวยังไม่อยากคิดไปไกลนัก

ตอนนี้นางแค่อยากผ่านแต่ละวันไปให้ได้

จางต้าหูสะดุดเมื่อได้ยินแม่โจวเอ่ยถึงเรื่องนี้ จึงนั่งหายใจฮึดฮัดด้วยความโกรธกรุ่น

แต่วันนี้แม่โจวตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่สนใจจางต้าหู ไม่นานนักก็มีเสียงหายใจเป็นจังหวะดังมา นางหลับไปแล้วจริง ๆ!

จางต้าหูรู้ว่าแม่โจวหลับแล้ว ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

แต่เมื่อนึกถึงลูกในท้องแม่โจว จางต้าหูก็ข่มอารมณ์อดกลั้นอยู่นานกว่าจะนอนหลับ ตั้งใจไว้แล้วว่าในเมื่อแม่โจวไม่ไปขอ ตัวเขาเองก็ต้องไปขอ!

เช้าวันรุ่งขึ้น

จางซิ่วเอ๋อตื่นมาก็เห็นแสงแดดสดใสสาดส่องเข้ามาในห้อง หน้าต่างและกระดาษบุหน้าต่างถูกเปลี่ยนแล้ว ทำให้หน้าต่างในตอนนี้ที่ไม่ได้ใช้ผ้าอุดไว้ดูสว่างขึ้นกว่าเดิมมาก

หลังอยู่อาศัยมานาน นอกจากพวกโต๊ะเก้าอี้ที่ดูเก่าไปหน่อย บ้านที่นางอยู่นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวต่อให้เทียบกับบรรดาบ้านในหมู่บ้าน

ครั้นจางซิ่วเอ๋อตื่นแล้วจางชุนเถาก็ตื่นตาม

สองพี่น้องล้างหน้าล้างตาอย่างว่องไวเหมือนปกติ ก่อนจะอุ่นข้าวในหม้อ

หลังจากนั้นก็ไปทำความสะอาดลานบ้าน การอยู่ในหมู่บ้านนี้ ต่อให้ทำความสะอาดลานบ้านไปเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนนอนแล้ว แต่ตอนเช้าก็ยังมีกิ่งไม้ใบหญ้าถูกลมพัดมาตกในลานบ้านอยู่ดี

จางซิ่วเอ๋อทำความสะอาดเสร็จแล้วจึงไปเปิดประตู

พอเปิดประตูก็เห็นจางซานหยานั่งยอง ๆ อยู่หน้าประตู และดูจากท่าแล้วไม่ได้เพิ่งมา น่าจะอยู่ตรงนี้สักพักแล้ว

จางซิ่วเอ๋อเห็นแล้วรีบถาม “ซานหยา เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมมานั่งยอง ๆ อยู่ตรงนี้ล่ะ? ทำไมไม่เข้าบ้าน?”

จางซานหยาเอ่ยตอบเสียงแผ่ว “ข้าคิดว่าเมื่อวานพี่กับพี่รองคงจะเหนื่อยมาก ข้ากลัวว่าพวกพี่ยังไม่ตื่นจึงไม่ได้เคาะประตู”

จางซิ่วเอ๋อมองท้องฟ้า วันนี้นางตื่นเวลาเดียวกับทุก ๆ วัน จางซานหยาก็มาในเวลานี้ทุกวัน แต่วันนี้เหมือนจางซานหยาจะมาเร็วกว่าปกติ

จางซิ่วเอ๋อจึงถามขึ้น “ซานหยา ทำไมวันนี้เจ้ามาเช้านัก? คนพวกนั้นสั่งให้เจ้าทำงานไวขึ้นหรือเปล่า?”

จางซานหยาพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น เป็นข้าเองที่นอนไม่ค่อยหลับน่ะเจ้าค่ะ”

จางซานหยายังเด็ก เก็บงำความลับอยู่ที่ไหนกัน? เพียงนางพูดเท่านี้จางซิ่วเอ๋อก็มองสีหน้าจางซานหยาออกว่ามีเรื่องรบกวนใจ

จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจเบา ๆ จางซานหยาเพิ่งจะอายุไม่เท่าใดเองก็มีเรื่องรบกวนใจเสียแล้ว

สุดท้ายก็ชีวิตที่ตระกูลจางนั่นแหละที่ไม่น่ารื่นรมย์

จางซิ่วเอ๋อเอ่ยขึ้น “ซานหยา เกิดอะไรขึ้น? เล่าให้พี่ฟังได้นะ”

ขณะนั้นจางชุนเถาก็ออกมา ถามอย่างสงสัย “ซานหยาเป็นอะไรไป?”

จางซิ่วเอ๋อโบกมือเป็นสัญญาณว่าจางชุนเถาอย่าเพิ่งพูด ฟังที่จางซานหยาพูดก่อน

จางซานหยาสูดลมหายใจลึก ก่อนที่ดวงตาจะแดงขึ้นมา

จางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถาเห็นแบบนั้นก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที

เสียงจางชุนเถาดังขึ้นกว่าเดิม “ท่านย่ากับท่านอาเล็กตีเจ้าใช่ไหม?”

ถ้าแค่ด่าอย่างเดียวพวกนางสามพี่น้องชินกันหมดแล้ว ไม่มีทางโดนด่าจนร้องไห้หรอก

“ซานหยา ไม่ต้องร้อง มีอะไรบอกพวกพี่ เดี๋ยวพวกพี่จัดการให้เอง” จางซิ่วเอ๋อรีบถาม

จางซานหยาถึงได้เช็ดน้ำตาแล้วพูดอย่างเศร้าสร้อย “เมื่อคืนท่านพ่อทะเลาะกับท่านแม่”

ตอนที่จางต้าหูทะเลาะกับแม่โจว จางซานหยาก็อยู่ในห้องฝั่งตะวันตก

นางแค่เงียบเหมือนหลับไปแล้วเท่านั้น จางต้าหูเคยสังเกตที่ไหนกันว่าลูกสาวตัวเองก็ยังอยู่? ต่อให้สังเกตเห็นคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาก็ยังพูดในสิ่งที่เขาจะพูดอยู่ดี

ส่วนแม่โจวคงโมโหจางต้าหูเกินไป จึงลืมไปเหมือนกันว่าซานหยายังอยู่

คนที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกในหมู่บ้านนี้มีเยอะมาก คนทั่ว ๆ ไปไม่สนเรื่องพวกนี้หรอก

สรุปคือจางซานหยาได้ยินพ่อแม่ทะเลาะกันแล้วรู้สึกเสียใจ นางก็เลยเป็นแบบนี้

เมื่อคืนจางซานหยานอนหลับไม่ค่อยสนิท แถมวันนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า

จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็เกิดสงสัยขึ้น “ทะเลาะกันเหรอ? ทำไมล่ะ?”

ในสายตาจางซิ่วเอ๋อ ต่อให้แม่โจวจะมีเรื่องที่ไม่พอใจจางต้าหูอยู่มาก แต่ไม่ใช่คนประเภทที่ชวนทะเลาะ ถ้าทะเลาะกันจริ งๆ คงไม่รอนานขนาดนี้แล้วถึงทะเลาะ

จางซานหยาตาแดง “ท่านพ่อ ท่านพ่อให้ท่านแม่มาขอเงินจากพี่”

จางซิ่วเอ๋อได้ฟังก็ชะงักงัน “ขอเงิน?”

“ค่าพิธีไล่ผีแล้วก็ค่าเสื้อท่านอาเล็ก…..จริงสิ แล้วก็ค่ารักษาบาดแผลของท่านอาเล็กด้วย” จางซานหยาเล่าทุกอย่างจนกระจ่าง

จางซิ่วเอ๋อหน้าเป็นสีเขียวเมื่อฟังมาถึงตรงนี้ นางโมโหมาก

คนตระกูลจางทำแบบนี้ได้อย่างไร?

ตัวเองขอเงินจากนางไม่ได้เลยยุให้จางต้าหูมาขอ แล้วให้จางต้าหูไปยุแม่โจว

แต่ดูท่าทางแม่โจวคงไม่ได้รับปากจางต้าหู

จางซิ่วเอ๋อสบายใจมากกว่าเดิม ถ้าขนาดแม่โจวยังเห็นด้วย นางก็คิดว่าต้องเลิกทำดีกับมารดาราคาถูกของตัวเองได้แล้ว

แต่ตอนนี้แม่โจวทะเลาะกับจางต้าหูเพราะนาง จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกผิด

นึกในใจว่าตัวเองต้องทำดีกับแม่โจวให้มาก ๆ

จางชุนเถาก่นด่าเสียงกราดเกรี้ยว “หน้าไม่อายจริง ๆ! ท่านพ่อของเราคงคิดเรื่องมาขอเงินที่นี่เองไม่ได้หรอก ต้องเป็นท่านย่ากับท่านอาเล็กแน่ ๆ ที่ยุ!”

ไม่ต้องให้จางชุนเถาพูด จางซิ่วเอ๋อก็รู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ข้าอยากเห็นจริง ๆ ว่าเขาจะมาขอเงินข้าด้วยวิธีไหน!”

“พี่……ถ้าพ่อเรา ถ้าเกิด…..ถ้าเกิดเขามาจริง ๆ ล่ะ……” จางชุนเถากังวลนิดหน่อย

จางซิ่วเอ๋อกัดฟันพูด “พวกเจ้าไม่ต้องกลัว พ่อเราแล้วอย่างไร? พวกเราเป็นลูกสาวนะไม่ใช่ลูกชาย! เขาอยากได้ลูกชายไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเรื่องตอบแทนบุญคุณก็ไม่ใช่เรื่องที่ลูกสาวอย่างพวกเราต้องทำ!”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อเสียงเข้ม “เพราะฉะนั้นถ้าเขามา เราแค่ปฏิบัติกับเขาเหมือนปกติก็พอ!”

“ถ้ามาเยี่ยมพวกเราต้อนรับ แต่ถ้ามาขอเงิน…..”​ จางซิ่วเอ๋อไม่ได้พูดจนจบ เพียงแต่แค่นเสียง

จางชุนเถาสบายใจมากขึ้นหลังจากได้ฟังที่จางซิ่วเอ๋อพูด

“พี่พูดถูก! ถ้าเขามาขอเงินให้ท่านย่ากับท่านอาเล็กจริงเราก็ไม่ต้องเกรงใจ! ถ้าครั้งนี้เขาเอาเงินไปได้ วันหน้าท่านย่ากับท่านอาเล็กจะไม่ส่งพ่อเรามาขอเงินเราบ่อย ๆ เหรอ?” จางชุนเถาคิดได้แบบนี้ก็ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

รอดูเช่นกันค่ะว่าอิพ่อโง่จะพยายามขอเงินน้องด้วยวิธีไหน

ไหหม่า(海馬)