บทที่ 80

ในตอนนั้น คุณย่าลินดันนั่งลง เธอมองไปในกลุ่มคนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฝูงชนนี้เป็นสมาชิกครอบครัวของตระกูลลินดัน ทุกคนมีใบหน้าบูดบึ้งและนิ่งเงียบ อำนาจสุดท้ายของบริษัทภายใต้เหล่าลินดันตกไปอยู่ในมือของพอล เจมส์ แล้ว พอลนั้นไม่ใช่คนธรรมดา การที่คุณย่าลินดันพยายามนำอำนาจกลับมาจากเขานั้นดูเป็นความคิดเพ้อฝันไป ในทันใดนั้น วิลเลียม ลินดัน ก็กะพริบตา เขายืนขึ้นแล้วกล่าว “คุณย่า ผมมีความคิด”
“เยี่ยม วิลเลียม บอกความคิดของหลานมาเลย!” คุณย่าลินดันกล่าวพร้อมท่าทางพอใจ
จากเหตุการของจีเซลล์ ลินด์ท ในรายการโชว์ครั้งก่อน วิลเลียมถูกลงโทษโดยการห้ามยุ่งกับธุรกิจของตระกูล แต่ในเมื่อนี่เป็นปัญหาความเป็นความตายของบริษัท คุณย่าจึงไม่สนใจเรื่องการลงโทษนัก แต่ที่สำคัญที่สุด มันก็เป็นเพราะคุณย่านั้นโปรดปรานวิลเลียมที่สุดอยู่ดี
ความยินดีรับฟังของคุณย่าทำให้วิลเลียมกล้าขึ้น เขากล่าวอย่างเชื่องช้า “คุณย่า ตอนนี้พอลถือหุ้นอยู่ 51% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัทเครือลินดัน เราพูดอะไรไม่ได้อีก ถ้าเราต้องการมันกลับมา มันก็คงจะไม่ง่าย เราควรจะยอมแพ้”
“ยอมแพ้?” คุณย่าขมวดคิ้วเช่นเดียวกับคนที่เหลือทั้งหมด
วิลเลียมกล่าวต่อ “ไม่ใช่ว่าเรายังเหลือหุ้น 49% เหรอ? ถ้าเราขายเพิ่มอีก 20% เราจะสามารถเริ่มต้นสร้างบริษัทใหม่ด้วยเงินนั้น หรือลงทุนกับบริษัทอื่น เมื่อบริษัทใหม่ของเราโตขึ้น เราก็จะกลับสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง!”
ว้าว!
ด้วยคำกล่าวนั้น ทั้งฝูงชนก็อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ ดวงตาพวกเขาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ไม่เว้นแม้แต่คุณย่าลินดัน “โอ้ วิลเลียม เจ้าหนุ่มอัจฉริยะของย่า ต้องยอมรับว่ามันเป็นความคิดที่ดีมากจริง ๆ”
แต่ตอนนั้นเองที่ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาท่ามกลางนทั้งหมด “มันเป็นความคิดที่ดี แต่ใครล่ะที่จะซื้อมัน?” ด้วยคำถามนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจ
แต่รอยยิ้มมั่นใจก็ปรากฏบนปากของวิลเลียม “ความจริงมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมมีเพื่อนที่สนใจจะซื้อหุ้น 20% จากเรา”
คุณย่าลินดันตื่นเต้นกับข่าวนั้น “ใคร?”
ในเวลาเดียวกัน ทั้งฝูงชนก็สนใจวิลเลียมพร้อมกับความฉงน วิลเลียมชอบใจเสมอเวลาที่ทุกคนสนใจเขา เขาประกาศอย่างภาคภูมิ “ผมมีเพื่อนที่เป็นเจ้าของสำนักศิลปะการต่อสู้ ชื่อของเขาคือเทรนท์ ยัง”
อะไรนะ? เทรนท์ ยัง?
เสียงฮือฮาระเบิดขึ้นในโถงเมื่อชื่อนั้นถูกประกาศ เทรนท์ ยัง นั้นเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่โด่งดัง เขาชนะการแข่งขันมาสามปีซ้อน เขามีสำนักศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศ และในเมืองตงไห่ก็มีอยู่บ้างสองสามสำนัก ต้องเป็นคนที่ร่ำรวยแบบเขาเท่านั้นที่จะสามารถซื้อหุ้น 20% ของพวกเขาได้
ในทันใดนั้น ทุกคนก็ประหลาดใจ ภายในโถงเต็มไปด้วยความชื่นชม
“ไม่อยากเชื่อว่าวิลเลียมจะรู้จักคนแบบ เทรนท์ ยัง!”
“เขามีเส้นสายที่ดี!”
“ใช่ เขารู้จักการเข้าสังคมจริง ๆ ฮ่าฮ่า”
เมื่อทุกคนชื่นชมวิลเลียม ลิลี่ที่นั่งอยู่ในมุมถึงกับหน้านิ่ง เธอรู้สึกว่าบริษัทลินดันนั้นดีอยู่แล้วไม่มีเหตุผลที่ต้องขายหุ้นทิ้งเลย แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนเห็นด้วย เธอก็ไม่มีอะไรต้องพูด
“โอ้ วิลเลียม ทำไมหลานไม่โทรไปหาคุณเทรนท์ ยัง ล่ะ?” คุณย่าลินดันกล่าวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

วิลเลี่ยมพยักหน้าแล้วหยิบมือถือออกมา เขากดหมายเลข ด้วยความรวดเร็ว สายก็ถูกรับ เพื่ออวดความกว้างขวางของเส้นสายของเขากับคนอื่น เขาก็เปิดลําโพง “เฮ้ พี่ชายเทรนท์! นีวิลเลียมเองครับ ผมมีไอเดียร์เรื่องธุรกิจมาเสนอคุณ คุณสนใจไหมครับ?” วิลเลียมคุยกับมือถือด้วยรอยยิ้ม เสียงของเทรนท์นั้นดังออกมาผ่านลําโพง “เอาสิ ผมรู้จักคุณดีแน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาที่เราจะร่วมมือกัน!” เมื่อได้ยินแบบนั้น วิลเลียมก็ยิ้มจนปากแทบฉีก “ยอดเยี่ยม! มาที่คฤหาสน์เลยครับ เราจะได้คุยกัน!” “ได้เลย ผมอยู่ในเมืองตงไห่แล้ว ผมจะไปเดียวนี้!” เสียงของเทรนท์ดูอารมณ์ดีในสาย หลังจากวางสาย วิลเลียมก็รายงานคุณย่าดินนั้น “คุณย่าครับ เรียบร้อยแล้ว เขาจะมาที่นี” คุณย่าลินดันพอใจมาก โดยเฉพาะเพราะว่าความคิดนี้มาจากหลานชายคนโปรดของเธอ เธอพยักหน้า “ดีดี มันจะต้องเรียบร้อยหลังจากนี้ เธอเป็นฮีโร่ของตระกูลเรา ย่าจะให้รางวัลหลานอย่างงาม!” วิลเลียมดีใจมากเขาร้อง “ขอบคุณครับคุณย่า”