ตอนที่ 75 อาวุธลับตัดสินชีวิต

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

จากข้อมูลของตระกูลโอวหยางของเขา องครักษ์เงาตระกูลมู่ถูกมู่เฟิงอวิ๋นเลี้ยงดูมาอย่างพิถีพิถัน

องครักษ์เงาล้วนมีอายุไม่เกินสามสิบปี กลับมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง แต่พวกเขาจะไม่น่ากลัวถึงจุดสูงสุดของนักรบระดับเก้าอย่างแน่นอน

พวกเขาแข็งแกร่งมากและมีพรสวรรค์พิเศษ  ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี ตระกูลมู่ก็จะมีแต่กลุ่มราชายอดยุทธ์ ราชาแห่งภูต  เมื่อคิดดูแล้ว เขารู้สึกกลัวจนอกสั่นขวัญแขวน

มู่เฉียนซีมาถึงตรงหน้าโอวหยางสือหลงแล้ว โอวหยางสือหลงมองลึกเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นของนาง  กล่าวทั้งที่ร่างสั่นเทา “ผู้นำตระกูลมู่ อย่าฆ่าข้านะ!”

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “เสียใจด้วย มันสายไปแล้วที่จะอ้อนวอนขอความเมตตา”

โอวหยางฉีกัดฟันแน่น กล่าวโต้ “มู่เฉียนซี เจ้ากล้าแตะต้องคนตระกูลโอวหยางของข้าก็ลองดู”

กระบี่ยาวแหลมคมจ่ออยู่ที่คอโอวหยางสือหลง มู่เฉียนซีกล่าว “คนที่คิดร้ายต่อข้า เจ้าคิดว่าข้าจะเก็บมันไว้รึ ?! จุดจบของเขามีเพียงอย่างเดียวนั่นคือความตาย”

“มู่เฉียนซี หยุด!”

ในตอนนั้นเอง โอวหยางฉีลงมือ เขาพุ่งผ่านมู่อีที่ขัดขวางมาถึงข้างโอวหยางสือหลงในฉับพลัน

มู่เฉียนซีเอียงตัวหลบการโจมตีของเขาอย่างรวดเร็ว เข็มยาพิษในมือพลันกระเด็นหลุดมือไป

“โอวหยางฉี หากข้าต้องการจะฆ่าใครสักคนแล้วละก็  แม้จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้าก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”

เมื่อเข็มยากระเด็นออกไปแล้ว โอวหยางฉีรู้ได้ในทันทีว่าสายไปเสียแล้ว  เข็มยาพิษเล็ก ๆ นั่นเพียงตัดผ่านผิวหนังของโอวหยางสือหลงเท่านั้น มิได้โดนจุดสําคัญแต่อย่างใด โอวหยางฉีคิดเสมอว่าโอวหยางสือหลงจะตายไม่ได้

โอวหยางฉีกล่าว “ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำสำเร็จแน่”

มู่เฉียนซีเย้ยหยันทันที “ฮิ ๆ โอวหยางฉี เจ้าตัดสินเร็วเกินไปแล้ว”

— พรืด!  พรืด!  พรืด! —

ทันใดนั้นร่างกายของโอวหยางสือหลงมีอาการชัก ร่างกายของเขาเริ่มมีสีคล้ำลงเรื่อย ๆ  ดวงตาเบิกกว้าง ในที่สุดก็ไม่สามารถหลีกหนีความตายได้

โอวหยางสือหลง ตายเสียแล้ว…

แม้โอวหยางฉีจะพยายามปกป้องเขามากเพียงใด สุดท้ายโอวหยางสือหลงก็ต้องมาตายต่อหน้าเขาอย่างน่าเวทนา

หมอปีศาจทําให้คนตาย เทพเซียนยากที่จะช่วย!  ยิ่งไปกว่านั้นโอวหยางฉียังมีบทบาทเล็ก ๆ เพียงเท่านั้น

โอวหยางฉีกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “มู่เฉียนซี เจ้ามันเลวทรามเกินไป  บังอาจวางยาพิษ!”

มู่เฉียนซีโบกมืออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะกล่าวว่า “โอวหยางฉี ข้าไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า คืนนี้ข้าออกกำลังมากพอแล้ว ทั้งยังโชคดีพละกำลังเพิ่มไปอีกระดับหนึ่งได้ ข้าควรกลับไปพักผ่อนเสียที”

“เหอะ! คิดจะออกไปเรอะ  ฝันไปเถอะ!” โอวหยางฉีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ข้าจะไป เจ้าคิดว่าเจ้าจะขวางข้าได้หรือ ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

— แปะ!  แปะ!  แปะ! —

โอวหยางฉีปรบมือขึ้นอย่างกะทันหัน  ทันใดนั้นจอมยุทธ์กว่าร้อยคนกรูกันเข้ามาล้อมรอบทุกด้าน ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยจิตสังหารอันโหดเหี้ยม

ทหารเดนตายของตระกูลโอวหยางหลายร้อยคน มาแล้ว!

โอวหยางฉียิ้มเย้ยหยัน “ผู้นำตระกูลมู่คิดว่าคืนนี้จะหนีรอดไปได้รึ ? ตอนที่เจ้าสู้กับโอวหยางสือหลง ข้าส่งสัญญาณให้คนไปตามคนจากตระกูลโอวหยางมาที่นี่”

ตอนนี้พวกเขามีจอมยุทธ์มากกว่าหนึ่งร้อยคน แต่มีเพียงยี่สิบคนเท่านั้นที่ปกป้ององครักษ์เงาของตระกูลมู่

แม้องครักษ์เงาของตระกูลมู่ทุกร่างล้วนเป็นจอมยุทธ์ใหญ่ และปรมาจารย์ภูตขั้นสูงสุดระดับเก้า  ก็อย่าได้คิดจะปกป้องผู้นำตระกูลของพวกเขาให้ปลอดภัยภายใต้การล้อมสังหารเช่นนี้ได้

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการล้อมสังหารอันน่าสะพรึงกลัว มู่เฉียนซีกลับมีรอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“โอวหยางฉี เจ้าคงจะไม่คิดว่าข้านั้นกินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำจึงได้หาเรื่องไปทะเลาะต่อยตีกับบุคคลกระจอก ๆ อย่างโอวหยางสือหลงหรอกใช่ไหม ?  ที่ข้ากำลังทำอยู่นี่ก็เพื่อให้พวกเจ้าเรียกคนมาให้มากพอ เพราะกลัวว่าเมื่อถึงเวลานั้น จะไม่พอให้ข้าฆ่าได้อย่างสะใจอย่างไรล่ะ”

สีหน้าโอวหยางฉีพลันเปลี่ยนไป มันหม่นคล้ำดำมืดมิมีใครเกิน

“มู่เฉียนซี หรือว่าเจ้าก็เตรียมการซุ่มรอโจมตีไว้เช่นกัน  แต่เจ้าเตรียมการซุ่มโจมตีแล้วอย่างไรล่ะ ? องครักษ์เงาตระกูลมู่ของพวกเจ้ามีเพียงเก้าสิบเก้าคนเท่านั้น ต่อให้ทั้งหมดมาจนครบแล้ว วันนี้เจ้าก็ต้องตาย!”

“เจ้าเดาผิดแล้ว ยังมาถึงกันไม่ทันครบ ที่เจ้าเห็นมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น”

มู่เฉียนซีพูดไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้น เงาร่างอีกสามสิบร่างปรากฏขึ้นรอบ ๆ!

โอวหยางฉีหัวเราะเยาะเย้ย “ฮ่า ๆ ๆ  มู่เฉียนซี เจ้ามีแค่ห้าสิบกว่าคนยังคิดจะฆ่าพวกข้ารึ ? ฝันไปเถอะ!”

มู่เฉียนซีหัวเราะเบา ๆ “หึ ๆ ไปเถอะมู่อี ในเมื่อนายท่านรองแห่งตระกูลโอวหยางไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ใช้การกระทําจริงพิสูจน์ให้พวกเขาดูเสียเลยเถอะ”

“ขอรับ!”

ทันใดนั้นจิตสังหารเย็นยะเยือกพลันแผ่ซ่าน  คนสิบคนปกป้องมู่เฉียนซีออกจากวงสงคราม คนของตระกูลโอวหยางไม่สามารถเข้าใกล้นางได้เลย

— เปรี๊ยะ!  เปรี๊ยะ!  เปรี๊ยะ! —

เสียงราวกับอากาศปริแตกออกมานับไม่ถ้วน!

“อ๊ากกกก!”

องครักษ์ตระกูลโอวหยางร้องโหยหวน เข็มบาง ๆ นับไม่ถ้วนกวาดผ่านราวกับสายฝนโหมกระหน่ำ

ทั้งยังมีหน้าไม้ที่ระเบิดพลังออกมาอย่างแรง พลังโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น เกรงว่าทั้งราชาแห่งภูตและราชายอดยุทธ์คงต้องล้ม

โอวหยางฉีกล่าว อารมณ์โกรธเกรี้ยวแฝงในน้ำเสียงเต็มสิบส่วน “บัดซบเอ๊ย! อาวุธลับพวกนี้คืออะไรกัน ? เหตุใดจึงแข็งแกร่งนัก ?”

แผ่นดินเซี่ยโจวไม่ใช่ว่าไม่มีอาวุธลับ เพียงเพราะพลังวิญญาณและพลังชีวิตปกป้องแข็งแกร่งมาก อาวุธลับจึงเป็นอะไรที่เปราะบาง  แต่ว่าอาวุธลับที่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ปรมาจารย์ยุทธ์ได้ กลับไม่เคยได้ยินมาก่อน

อาวุธลับเช่นนี้ถูกปล่อยออกมา ทําให้ทหารเดนตายหลายร้อยคนของตระกูลโอวหยางได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส

มู่เอ๋อร์กล่าวด้วยใบหน้าประหลาดใจว่า… “ตอนผู้นำตระกูลนําของพวกนี้ออกมา พวกข้าก็รู้แล้วว่าพวกมันไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะร้ายกาจถึงเพียงนี้”

“เจ้าพูดไร้สาระแล้ว  ของที่ท่านผู้นำหยิบออกมาจะไม่ร้ายกาจได้อย่างไร ?  เรียกได้ว่าแข็งแกร่งไปอีกหนึ่งร้อยเท่า ข้าไม่แปลกใจเลย” มู่เฉียนซีพูดยิ้ม ๆ

ผลของอาวุธลับนี้ มู่เฉียนซีพึงพอใจอย่างมาก

ครึ่งเดือนก่อนถึงเวลานัด นางไม่มีเวลาไปรับเตาวิเศษที่ฝากฝังท่านผู้อาวุโสฮั่วทำให้จึงให้มู่อีไป แล้วให้ถือเอาพิมพ์ของอาวุธลับไปให้ผู้อาวุโสฮั่วอวิ๋นทำให้

อาวุธลับพวกนี้เป็นสิ่งที่ในอดีต พวกลูกศิษย์ใหญ่สำนักถังเหมินได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องการให้พวกหมอปีศาจรักษา ทว่าตอนนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะให้ไปแล้วเข้าตานาง ท้ายที่สุดจึงต้องยอมสละอาวุธลับที่เก็บซ่อนไว้อยู่หลายชนิดให้นางอย่างฝืดฝืนใจ

เขาเอาภาพการออกแบบเข็มหลีฮัวที่เหมือนพายุฝน หน้าไม้เทพจูเก๋อ กรงเล็บเทพเหินฟ้า ภาพการออกแบบอาวุธลับเหล่านี้ให้นาง นางจึงรับไว้อย่างลําบากใจ

จวนตระกูลมู่มียอดฝีมือเพียงน้อยนิด กำลังทหารต่ำ นางจึงคิดถึงภาพแผนการนั้นขึ้นมา

นางดัดแปลงอาวุธลับเหล่านี้เล็กน้อยเพื่อผสมผสานให้เข้ากับแคว้นเซี่ยโจว และเมื่อจับคู่กับทักษะการหลอมอุปกรณ์ของนักหลอมอาวุธระดับสูงอย่างผู้อาวุโสฮั่วอวิ๋น พลังสังหารของอาวุธลับที่หลอมขึ้นมาก็สําเร็จตามที่นางคาดไว้จริง ๆ

กองทหารเดนตายจำนวนมากที่ถูกปลูกฝังจากตระกูลโอวหยาง ตอนนี้ต้องกลายมาเป็นวิญญาณที่ตายภายใต้อาวุธลับ  โอวหยางฉีโมโหแทบกระอักเลือด

“มู่เชียนซี เจ้ามันร้ายกาจมาก! เจ้าวางกับดักไว้ตั้งแต่เริ่ม  ต้องการให้กองทัพทั้งหมดของพวกข้าถูกทําลาย”

มู่เฉียนซียิ้ม กล่าวว่า “เจ้าทายถูกแล้ว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรางวัลให้”

“ฆ่ามัน! คนของตระกูลโอวหยางจงฆ่ามันและเหล่าคนผู้นั้นเสีย อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว”

เดิมทีนางเพียงแค่อยากมาช่วยชายลึกลับชุดเขียวแกมน้ำเงินคนนั้น คิดไม่ถึงว่าตาแก่โอวหยางจูนั่นจะระแวงสงสัยคิดว่าชายคนนี้เกี่ยวข้องกับนางจึงได้ซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่

ในเมื่ออีกฝ่ายซุ่มโจมตี นางจึงเล่นใหญ่กว่าหน่อย ๆ

เมื่อถ่วงเวลาในการประมือกับโอวหยางสือหลง ทำให้องครักษ์เงาสามารถกลับบ้านไปย้ายทหารมาช่วยและหยิบอาวุธลับใหม่ออกมาทดลอง

ดังนั้นการทดลองอาวุธลับของตระกูลมู่จึงสนุกสนานเพลิดเพลิน ทหารของตระกูลโอวหยางก็น่าสังเวชใจ  พลังสังหารของอาวุธลับเหล่านี้น่ากลัวนัก ไม่เพียงแต่ความเร็วที่เร็วมาก แต่ยังแฝงไว้ด้วยพิษร้ายแรง

โอวหยางฉีรู้สึกเย็นยะเยือกทั่วกายจนต้องรีบหนีไป หากเขาไม่ไปต้องตายเป็นแน่ เขากลืนยาลงไปคําหนึ่ง  ระเบิดพลังออกมาก่อนที่จะพุ่งออกไป

มู่เฉียนซีรีบกล่าวเสียงเยียบเย็น “ตามไป  อย่าให้โอวหยางฉีหนีไปได้!”

.