ตอนที่ 74 เรียนแล้วใช้เลย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

— ตู้ม! —

โอวหยางสือหลงปล่อยพลังระดับจอมยุทธ์พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี

“มู่เฉียนซี เจ้าโอหังมากเกินไปจริง ๆ ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ความแตกต่างว่าระหว่างระดับขั้นใหญ่ ๆ นั้น มันมีมากมายเพียงใด!”

สิ้นเสียง โอวหยางสือหลงโจมตีในทันใด ทว่ามู่เฉียนซีรวดเร็วราวผีสาง นางแยกร่างเงาออกมามากมาย

เขาใช้พลังชีวิตอย่างเต็มที่โจมตีออกไปแต่กลับโจมตีโดนแค่เงาร่างแยกเท่านั้น ไม่ได้โดนตัวจริงของมู่เฉียนซีแม้แต่น้อย

มู่เฉียนซีมิได้เชื่องช้า ตอบโต้กลับในทันใด “ผนึกมังกรวารี!”

— ตู้ม! —

การต่อสู้ของระดับจอมภูตมีความพิเศษไม่เหมือนใคร

มู่เฉียนซีโจมตีสวนไปไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว โอวหยางสือหลงจำต้องใช้พลังชีวิตจอมยุทธ์ระดับสองเข้าต่อต้าน

— ตู้ม! —

แม้โอวหยางสือหลงจะต้านทานไว้ได้ กลับต้องถอยหลังไปหลายก้าว อีกทั้งร่างกายของเขาก็รู้สึกแย่

เขาอึ้งงันมองมู่เฉียนซี นี่นางเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตระดับเจ็ด แต่การโจมตีเมื่อครู่นี้  แม้ผู้บำเพ็ญภูตระดับเก้าก็ยังมิอาจต้านทานได้

โชคดีที่พลังของเขาเหนือกว่านางถึงสี่ระดับ มิเช่นนั้นคงจะไม่แค่รู้สึกระคายร่างกายเล็กน้อยเช่นที่เป็นอยู่นี้

— ชิ๊ง! —

โอวหยางสือหลงชักกระบี่ที่พกติดตัวออกมา กระบี่แหลมคมนั้นพุ่งไปทางมู่เฉียนซี

“ตายซะเถอะ!”

“โล่วิญญาณวารี!” มู่เฉียนซีป้องกันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต่อด้วย ‘ผนึกมังกรวารี’ ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังกวาดผ่านไป

— ซู่ม! —

ทันใดนั้นร่างมู่เฉียนซีขยับ เท้าของนางพุ่งไปทางโอวหยางสือหลง เตะเขาเต็มแรงกระเด็นออกไป

— ปั้ง! —

โอวหยางสือหลงเบิกตากว้างมองจ้องมู่เฉียนซี กล่าวขึ้น “เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูต เหตุใดถึงได้มีพลังชีวิต เจ้า…”

โอวหยางฉีเองก็ตกตะลึง “สือหลง เจ้าว่าอย่างไรนะ? นางยังมีพลังชีวิตด้วยรึ ?!”

ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครในเซี่ยโจวสามารถใช้พลังได้ทั้งสองแบบ สรุปแล้วมู่เฉียนซีเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่ ?

โอวหยางฉีขมวดคิ้วมุ่น กล่าวขึ้น “โอวหยางสือหลง สู้ให้เต็มที่ ฆ่ามู่เฉียนซีให้จงได้!”

“ใช่!”

“กระบี่พายุฟ้าฝน!” โอวหยางสือหลงตะโกนก้อง ความโกรธอัดแน่นในน้ำเสียง  ฉับพลันกระบี่วายุที่เย็นเฉียบดั่งฟ้าฝนทะยานไปที่มู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวทำให้ตนหายใจไม่ออก ภัยคุกคามจากความตายกำลังทะยานเข้ามา

— ฉวก!  ฉวก! —

ความเร็วของนางท้าทายฟ้าดิน หลบเลี่ยงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาราวกับฝนตกกระหน่ำได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว อีกทั้งท่วงท่ายังงามสง่ายิ่งนัก

“มู่เฉียนซี ดูซิว่าเจ้าจะหลบไปไหน!”

โอวหยางสือหลงสู้อย่างสุดแรง ชักดาบออกอีกหน  ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มร้าย ราวกับมั่นใจว่าจะได้เห็นมู่เฉียนซีโดนกระบี่ทำให้บาดเจ็บหนักเจียนตาย

โอวหยางสือหลงตามต่อตีมู่เฉียนซีอย่างไม่ลดละ ระดับของมู่เฉียนซีนั้นต่ำกว่าเขามาก นางเสียเปรียบเป็นอย่างมาก จะเอาอะไรมาสู้เขาได้ ?

เงาลับของตระกูลมู่มองดูอยู่อย่างร้อนใจ “ท่านผู้นำตระกูล!”

มู่อีกล่าวขึ้น “หัวหน้าตระกูลไม่ได้ออกคำสั่ง ห้ามลงมือเด็ดขาด”

ฉับพลันทันใดนั้น พลังวิญญาณกับพลังชีวิตระหว่างสวรรค์และโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  มันมารวมกันอยู่ในสถานที่ที่เดียว …นั่นก็คือที่ที่มู่เฉียนซียืนอยู่

ใบหน้าของโอวหยางสือหลงแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน เขาหยุดชะงัก ปากก็บ่นพร่ำออกมาอย่างอารมณ์เสีย “ให้ตายเถอะ มู่เฉียนซีได้เลยขั้นนั้นไปแล้ว!”

มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก กระบี่ของโอวหยางสือหลงบีบคั้นพลังที่ซ่อนในตัวนางอยู่ออกมา ช่วยให้นางบรรลุระดับแปด

นางตั้งใจฝึกการปรุงยา ที่ปรุงออกมาแล้วล้มเหลวก็มีไม่น้อย

ชัดเจนว่าโลกนี้เคารพผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่านางจะปรุงยาได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็ต้องมีความสามารถที่แข็งแกร่งคุ้มกันตนเองได้ ฉะนั้นแล้วเมื่อพูดถึงการต่อสู้กับโอวหยางสือหลง นางจึงใช้การต่อสู้ในสนามจริงเป็นการพัฒนาฝีมือตนเอง

ยามนี้บรรลุผู้บำเพ็ญภูตระดับแปด มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว  นางสะบัดมือ กล่าวขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น “ห่าฝนบุบผา!”

หยดน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับลูกธนูพุ่งทะยานตรงเข้าหาโอวหยางสือหลง!

โอวหยางฉีมองเห็นทุกเหตุการณ์ ท่านี้ของมู่เฉียนซี เหตุใดจึงดูคล้ายท่าไม้ตายของโอวหยางสือหลงนัก คงไม่ใช่ว่านางเรียนรู้มันมาจากเมื่อครู่นี้หรอกกระมัง!

บนโลกนี้… คงไม่มีท่าที่คล้ายกันเช่นนี้  แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงละก็ ปีศาจมู่เฉียนซีจัดได้ว่าน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

สิ่งที่โอวหยางฉีคาดเดานั้นไม่ผิด เมื่อโดนกระบี่พายุฝนของโอวหยางสือหลงตามติดโจมตี นางก็เรียนรู้ท่าใหม่นี้ขึ้นมา

เพราะระดับผู้บำเพ็ญภูตของนาง ท่วงท่าห่าฝนบุบผานี้ไม่ใช่พลังที่มังกรเทพวารีมอบให้แก่นาง เช่นนั้นแล้วนางจึงเรียนได้เพียงแต่ท่าผนึกมังกรวารีกับโล่วิญญาณวารีเท่านั้น

— ตู้ม!  ต้าม!  ตู้ม! —

ลูกธนูวารีจำนวนนับไม่ถ้วนถูกระดมยิงออกไป โอวหยางสือหลงรีบร้อนที่จะหลบหลีก แต่เช่นเคย เขาโดนท่านั้นเข้าอีกครา

“พรวด!”

โอวหยางสือหลงกระอักเลือด เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่อยู่นั้นก็โดนฝนธนูกรีดขาดวิ่น

เหอะ! คอยดูเถอะ ในตอนที่เจ้ากำลังบาดเจ็บนี่แหละ ข้าจะฆ่าเจ้า!

เมื่อครู่นี้โอวหยางสือหลงเป็นฝ่ายรุกไล่มู่เฉียนซี มาตอนนี้สายน้ำวนกลับ ลมได้เปลี่ยนทิศ ถึงคราวที่มู่เฉียนซีจะตามราวีโอวหยางสือหลงบ้างแล้ว

“ห่าฝนบุบผา!”

“ผนึกมังกรวารี!”

ผู้บำเพ็ญภูตธาตุวารีมู่ฉียนซีเข้าโจมตีสองสามกระบวนท่าติดต่อกัน กระหน่ำใส่โอวหยางสือหลงไม่ยั้งมือ

ทุกกระบวนท่าที่ออกไปนั้นแทบไม่เว้นช่องว่างเลย ผ่านไปไม่นานโอวหยางสือหลงมึนงงทิศทาง

โอวหยางฉีอึ้งทึ่งขณะมองดู แม้ว่าผู้บำเพ็ญภูติธาตุวารีจะโจมตีได้ร้ายกาจยิ่ง แต่ว่าเบื้องบนคงไม่ได้ลำเอียงรักผู้บำเพ็ญภูติธาตุวารีฝ่ายเดียวกระมัง

การโจมตีอย่างแข็งกร้าวนั้นหมายถึงนางจะสูญเสียพลังไปอย่างมาก  ถึงแม้ว่าระดับของมู่ฉียนซีจะถึงระดับแปดแล้ว แต่นี่นางก็ช่างทนต่อการสิ้นเปลืองพลังเสียเหลือเกิน!

โอวหยางฉี เขาได้เห็นมู่เฉียนซีหยิบยาจินอวี่ซูหวงจือขั้นสองขึ้นมาแล้วกินมันเข้าไป ก่อนจะโจมตีโอวหยางสือหลง เขาจึงกระจ่างแล้ว

เขาแสยะยิ้ม มู่เฉียนซีคือตัวประหลาดเป็นแน่แท้ ยานั่นมีราคาเทียบเท่าได้กับเมืองเมืองหนึ่ง นางกลับกินมันเข้าไปง่าย ๆ เช่นนี้

โอวหยางสือหลงที่โดนเด็กรุ่นหลังไล่ตามต่อตีจนถึงขั้นอนาถเช่นนี้  มันช่าง…

“มู่เฉียนซี มันจะมากไปแล้ว! เจ้าคิดว่าข้าผู้นี้รังแกได้ง่ายนักใช่ไหม ?”

“สี่วันแห่งการฆ่า!  ห่าฝนบุบผา!  ผนึกมังกรวารี!” มู่เฉียนซีถึงกับใช้การโจมตีแบบทับซ้อนท่าทางวิญญาณขึ้นมา

— ซู่มมมมม! —

พลังที่น่ากลัวเข้ามาชนปะทะกัน พลันเงาร่างของทั้งสองกระเด็นออกมาจากที่ตรงนั้น

มู่เฉียนซีหมุนตัวกลางอากาศก่อนจะลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย แต่โอวหยางสือหลง กลับตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจนกระอักเลือดคำโต!

“พรวด!”

มู่เฉียนซีผงกหัว กล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าผลการโจมตีของการผสมสองท่าเข้าด้วยกันนั้นได้เพิ่มพลังในการโจมตีขึ้นมาไม่น้อย!”

โอวหยางสือหลงเลิกคิ้วขึ้น เผยให้เห็นถึงความงุนงงสงสัยที่มีมาก นางปีศาจมู่เฉียนซีนี้สามารถข้ามระดับได้สามระดับในการต่อสู้ และทั้งสามระดับนี้มีระดับขั้นใหญ่ระดับหนึ่งรวมอยู่ในนั้นเสียด้วย นางยังคงได้เปรียบอยู่เหมือนเดิม

เรื่องนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย สรุปแล้วมู่เฉียนซีทำได้อย่างไร ?

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “โอวหยางสือหลง  ทำไมรึ ?  ท่านมิใช่ว่าจะมาแก้แค้นหรืออย่างไร ?  มาสิ… คลานขึ้นมาสู้กับข้าสิ!”

โอวหยางสือหลงอยากที่จะลุกยืนขึ้น น่าเศร้าเขายังคงกระอักเลือดไม่หยุด

โอวหยางสือหลงกล่าวอย่างมาดร้าย “นายท่านรอง ฆ่ามู่เฉียนซีเสีย นางมู่เฉียนซีผู้นี้เป็นสตว์ประหลาดชัด ๆ”

‘ไม่ต้องให้เจ้ามาบอก ข้าก็จะทำแน่!’ โอวหยางฉีกล่าวในใจ

ถ้าหากให้มู่เฉียนซีเติบโตมาเป็นดั่งมู่อวู่ซวงละก็ ตระกูลโอวหยางคงได้กลายเป็นก้อนเนื้อบนเขียงให้พวกตระกูลมู่แล่หั่นเป็นแน่แท้

มู่เฉียนซีต้องตายสถานเดียวเท่านั้น!

โอวหยางฉีพุ่งทะยานไปทางมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีกล่าววาจาเย็นชา “โอวหยางฉีไสหัวไปซะ คู่ต่อสู้ของข้าคือโอวหยางสือหลง ไม่ใช่เจ้า!”

เพียงแค่มู่อีเข้ามาร่วมวงก็สามารถป้องกันโอวหยางฉีได้อยู่หมัด

— ตู้ม! —

การโจมตีของมู่อีปะทะเข้ากับการโจมตีของโอวหยางฉี โอวหยางสือหลงดวงตาเบิกโพลง

“องครักษ์เงาตระกูลมู่  พลังของมันถึงขั้นจอมยุทธ์สูงสุดระดับเก้า! เป็นไปได้อย่างไรกันนี่ ?!”

.