ตอนที่ 125 : การเคลื่อนไหวในภูเขาแกะ
แม้ว่าการวิวัฒนาการสัตว์อสูรจะง่ายสำหรับหวังเย่า แต่เขาก็ไม่ใช่คนใจดีอะไร เขาไม่จำเป็นต้องทำให้แพรี่ด็อกพอใจ โดยการช่วยวิวัฒนาการทั้งเผ่า ตราบใดที่เงื่อนไขยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ใช้เวลาราว ๆ 30 นาทีกว่าที่หวังเย่าจะทำตามเงื่อนไขจนเสร็จ เขาได้เก็บหินเทพใส่แหวนมิติ ก่อนจะทำให้แพรี่ด็อก 3 ตัววิวัฒนาการขึ้นเป็นระดับทอง รวมถึงเจ้าขาวและแพรี่ด็อกอีก 10 ตัวที่เลเวลเพิ่มขึ้นมา
“ผู้กอบกู้ เราคงไม่ไปส่ง” กลุ่มแพรี่ด็อกเดินมาร่ำลาหวังเย่า
หวังเย่าพยักหน้าและออกจากรังของแพรี่ด็อกไป เพราะเขาเสียเวลากับที่นี่ไปเยอะแล้ว
เมื่อขึ้นมาที่พื้นดิน หวังเย่าก็ใช้เวลาพักผ่อน พร้อมกับเรียบเรียงข้อมูลที่ได้มาจากแพรี่ด็อก เพื่อทำให้รายงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“ไปกันต่อ” หวังเย่ามุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่นั่นมีหญ้าสีน้ำตาลที่ผลิตของเหลวสีน้ำตาลออกมา หลังจากที่กินมันเข้าไปแล้วจะรู้สึกสดชื่น
การสำรวจนั้นน่าเบื่อ มันคงไม่จำเป็นต้องพูดถึง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนผ่านไปถึง 6 วัน
ใน 6 วันนี้ หวังเย่าได้ตรวจสอบข้อมูลตามที่ราชาแพรี่ด็อกได้บอกมา เขาได้พบกับฉลามเขี้ยวและยังได้พบกับเย่ฉิวเกา แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ทักทายรึพูดคุยอะไรกัน
“ ตอนนี้คงได้เวลาไปหาแร่ไฟแล้ว “ หวังเย่าตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ตลอดสามวันมานี้เขาแทบไม่ได้นอน หากเหนื่อยเขาก็จะกินน้ำหญ้ามังกรแทน
น้ำหญ้ามังกรคือน้ำที่ได้มาจากหญ้าสีน้ำตาลซึ่งมันคือหญ้ามังกร เพราะผลการทำงานที่โดดเด่นอย่างการฟื้นฟูแรงกายขึ้นมา หวังเย่าจึงเก็บน้ำนี่กลับมาจำนวนมาก
2 ชั่วโมง ต่อมา หวังเย่าก็มาถึงภูเขาแกะ มิติลับแห่งนี้ส่วนใหญ่นั้นเป็นป่าและเต็มไปด้วยเนินเขา แต่ภูเขาแกะนั้นคือยอดเขาจริง ๆ ที่สูงขึ้นไปกว่า 2 เมตร มันขดไปมาราวกับเขาแกะ
เขาตั้งใจจะเก็บแร่ไฟและเดินอ้อมไปทางตะวันออก ก่อนจะออกจากที่นี่
ตลอดหลายวันมานี้เขาได้แต่ทำการยืนยันตามข้อมูลที่ได้มา ไม่ได้ทำอะไรอื่นเลย
“นายท่าน นี่คือภูเขาแกะ” เจ้าขาวตั้งใจจะมาขุดรูให้กับหวังเย่าเพื่อลงไปเอาแร่ไฟ
ตามที่ราชาแพรี่ด็อกบอกมาแล้ว แร่ไฟที่นี่มีไม่ใช่น้อย มันแทบเรียกว่าเป็นเหมืองเลยก็ว่าได้
แร่ขนาดเท่ากับกำปั้นนั้นสามารถใช้เผาไหม้ได้ทั้งคืน มันโดดเด่นอย่างมาก บอกได้ว่ามันคือของมีค่าในมิตินี้
หวังเย่าตื่นเต้นอย่างมาก ตอนนี้มนุษย์มัวแต่มุดหัวอยู่ในเมือง ทรัพยากรต่าง ๆ นั้นมีน้อยนิด ไฟที่พวกเขาใช้ตอนนี้จุดขึ้นมาจากน้ำมันสัตว์ที่แสนแพง
ส่วนมากในเมืองจะใช้ไฟฟ้าในการต้มน้ำ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่า หลายคนจึงได้แต่กินอาหารแห้งและอาบน้ำทุก ๆ 15 วัน
แร่นี้เป็นของหายาก หากขุดแร่พวกนี้ออกไปได้หมด งั้นมันก็อาจจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้บ้าง
หวังเย่ามาที่โลกนี้ได้สักพักแล้ว ตอนนี้เขาปรับตัวกับโลกนี้ได้แล้ว เขาต้องสร้างชื่อให้ตัวเองและดูแลคนที่เขารัก เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ถ้าในมิตินี้มีของที่เป็นประโยชน์ งั้นก็เป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่มองข้าม
ตอนที่เขาเพิ่งจะออกมาจากอุโมงค์ใต้ดินนั้นเขาก็พบกับแสงสีแดง ตอนนั้นเองที่เขาเงยหน้าขึ้น แต่เขาก็ต้องพบกับความแปลกใจ
“นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ”
ภูเขาแกะสะท้อนแสงสีแดงออกมา แสงนี่มีขนาดใหญ่ราวกับโล่ที่ปกคลุมภูเขาเอาไว้ มันไม่น่าจะใช่เรื่องปกติ
ตอนนั้นเองได้มีเงาสีแดงบินเข้าไปยังภูเขาแกะ
หวังเย่ารีบตามไปทันทีแต่สุดท้ายเขาก็พบกับกิเลนไฟกลายพันธุ์ บนหลังของมันมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ซึ่งก็คือหลงปู้หยู๋
“ทำไมเขาถึงมาที่นี่ ? ” หวังเย่าสงสัยมากกว่าเดิม หลงปู้หยู๋ถึงกับรีบบินมาที่ภูเขาแกะ ? ในใจของหวังเย่ามีความสงสัยมากมาย ว่าหลงปู้หยู๋มีเป้าหมายอะไรที่นี่ ?
แต่ความแปลกใจไม่ได้หมดแค่นั้น ห่างออกไปไม่ไกลนักเขาได้พบกับฮวงจินเทียน หลังจากที่แสงสีแดงปรากฏขึ้นมาไม่ถึงหนึ่งนาที ฮวงจินเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นมาทันที มันเหมือนจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
มิติแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มันมี 4 คนที่มาสำรวจที่นี่ นอกจากเย่ฉิวเกาที่ไม่ได้ปรากฏตัวแล้ว หวังเย่า, หลงปู้หยู๋ และ ฮวงจินเทียน ต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่
หวังเย่าเห็นฮวงจินเทียนเดินเข้ามาหา ก็รู้ว่าอีกฝ่ายเห็นเขาแล้ว เขาจึงรออีกฝ่ายและอยากถามว่าทำไมถึงได้มาที่นี่ ?
ฮวงจินเทียนเดินทางอย่างรวดเร็วราวกับสายลม และมาอยู่ตรงหน้าหวังเย่าในพริบตา
“หวังเย่างั้นหรือ ? ” ฮวงจินเทียนเหมือนจะแปลกใจ
หวังเย่าเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงสงสัยว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร “ทำไมพี่ฮวงมาที่นี่ ? ”
ฮวงจินเทียนลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาไม่ได้ตอบตรง ๆ แต่กลับถามว่า “แสงสีแดงเมื่อสักครู่ นายมองเห็นใช่ไหม”
หวังเย่ายิ่งสงสัย ฮวงจินเทียนแสร้งโง่รึว่าไม่รู้จริง ๆ กันแน่ ?
โล่แสงสีแดงนั่นสามารถมองเห็นได้ในระยะ 100 ไมล์ เขาจะไม่เห็นได้ยังไง ?
ถ้าบอกว่าตัวเองตามคนอื่นมาถึงที่นี่ก็คงจะฟังดูไม่มีเหตุผล
“ใช่ ฉันเห็นแสงสีแดงเลยมาที่นี่” หวังเย่าพูดขึ้น “พี่ฮวง พี่มาทำอะไรที่นี่กัน ? ”
ฮวงจินเทียนสีหน้าหม่นลงและมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าเย็นชา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย ? ฉันจำเป็นต้องตอบนายรึไง ? ”
“งั้นก็ไม่เป็นไร ในเมื่อพี่ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด”
หวังเย่าเริ่มรำคาญ เขาเองก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะไว้หน้าเขา งั้นเขาก็ไม่ต้องสนใจอีกฝ่าย
หวังเย่าหันหลังและวิ่งไปที่ภูเขาแกะต่อ เขาเองก็อยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ภูเขาแกะนั่น
เมื่อเห็นหวังเย่าไม่สนใจตัวเอง ฮวงจินเทียนก็หรี่ตาลงด้วยสายตาที่เย็นชา เขาเองก็วิ่งไปที่ภูเขาแกะเช่นกันแต่แค่เลือกคนละทาง
ตอนนั้นเองที่ภูเขาแกะมีเสียงดังเกิดขึ้น หวังเย่ารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินราวกับว่ามีสัตว์อสูรกำลังทุบพื้นจนทำให้เกิดแผ่นดินไหว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะมองหาหลงปู้หยู๋ แต่เขาก็ไม่เห็นอีกฝ่าย