ตอนที่ 136 ที่ไปของหานซู

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

“ถูกต้อง” หยวนเจียงพยักหน้า “ข่าวที่ยมโลกส่งกลับมาคือ ราชาโยวตูหานซูหายตัวไปเป็นเวลานาน มีกว่าครึ่งปีไม่เคยปรากฏตัว ตอนนี้เขตเมืองโยวหลิงไร้ผู้นำ”

“เป็นไปไม่ได้!” ชายแก่คัดค้านขึ้นมา “เรื่องของเมืองทางตะวันตก อีกทั้งเรื่องของอาจารย์กู่พิษ เพิ่งเกิดเมื่อหลายเดือนก่อน” ไม่ถึงครึ่งปี ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าหานซูตัวปลอมอยู่ยมโลกในตอนนั้น

“ใช่แล้ว” หยวนเจียงขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าหนักใจก่อนจะพูดต่อ “ข้ากับศิษย์น้องเล็กเห็นมากับตา คนนั้นไม่ว่าจะหน้าตาหรือท่าทางล้วนเหมือนกับราชาโยวตูหานซู เพียงแต่คำอธิบายของทางยมโลกคือ ระยะเวลาครึ่งปีที่ราชาโยวตูหายตัวไป อาจมียมทูตใช้ชื่อของศิษย์หลานหานในการออกคำสั่งเหลวไหล ดังนั้นถึงก่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้”

“ดังนั้น…” สีหน้าของอวิ๋นเจี่ยวเปลี่ยนไป ก่อนจะพูดออกมาอย่างมั่นใจ “ความจริงคือคนที่ปลอมตัวเป็นหานซูหนีไปแล้ว ส่วนยมโลกใช้ข้ออ้างนี้เพราะต้องการผลักความรับผิดชอบ?” บอกเพียงยมทูตภายใต้ตัดสินใจเอง เรื่องก็ผ่านไป เรื่องของหานซูตัวปลอมกลับไม่มีข่าวแม้แต่น้อย

“ศิษย์หลานฉลาดเสียจริง พูดตรงประเด็น” หยวนเจียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม สักพักราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ สายตาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เพียงแต่สถานการณ์ในยมโลกค่อนข้างซับซ้อน ถึงแม้ยมโลกมียมราชเจ็ดเขตเมือง แต่ปกติพวกเขารับผิดชอบเพียงเขตเมืองของตนเอง ไม่แทรกแซงซึ่งกันและกัน ตอนนี้ศิษย์หลานหานเกิดเรื่อง พวกข้าไม่อาจกลับไปสืบต่อที่ยมโลกได้ด้วยตนเอง ถึงแม้ยมราชของเขตเมืองอื่นช่วยเหลือ ก็คงสืบอะไรไม่ได้”

อวิ๋นเจี่ยวผงะไป ก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้นทำไมไม่หาราชายมโลก” รองบัญชาการสืบไม่ได้ ก็หาผู้บัญชาการสิ ราชายมโลกถึงจะเป็นผู้นำสูงสุดของยมโลกหรือ

ทันทีที่พูดจบ ไม่เพียงหยวนเจียง แม้แต่เหวินชิงก็ผงะไป พวกเขาสบตากันหนึ่งทีก่อนจะพูดขึ้น “ศิษย์หลานไม่รู้อะไร…ราชายมโลกถึงแม้จะเป็นผู้นำของยมโลก แต่ท่านแตกต่างจากยมราชและยมทูตโดยสิ้นเชิง ท่านไม่เคยแทรกแซงเรื่องของยมโลก มีเพียงเวลาที่เกิดภัยคุกคามต่อการมีอยู่ของยมโลกเท่านั้นถึงจะปรากฏตัว อีกทั้ง…เล่าลือกันว่าท่านหลับไหลเป็นเวลากว่าพันปีแล้ว ตอนนี้คงจะยังไม่ตื่น”

“อ่อ” หมายความว่า ที่จริงแล้วราชายมโลกเป็นแค่ผู้นำในนาม เขาไม่ดูแลเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ติดอยู่ตรงนี้แล้ว

“ศิษย์หลานวางใจ” เหวินชิงพูด “เรื่องนี้พวกข้าจะสืบให้ถึงที่สุด”

“…” อวิ๋นเจี่ยวกวาดตามองเขาขึ้นลง หรี่ตาลงเล็กน้อย ครั้งที่แล้วก็เป็นเพราะวางใจเกินไป สุดท้ายนอกจากเขาจะสืบข่าวอะไรมาไม่ได้แล้ว ยังเกือบจะไม่รอดกลับมาอีก

เหวินชิง: “…” ทำไมรู้สึกเหมือนโดนดูถูก ไม่ ต้องเข้าใจผิดเป็นแน่

“จริงสิ…ศิษย์หลาน!” เหวินชิงนึกบางอย่างขึ้นได้ ถูมือไปมาก่อนจะพูดกลั้นหัวเราะ “คือ…มีเรื่องอยากจะรบกวนเจ้า! ศิษย์พี่หานของเจ้าต้องการสถานที่ที่มีพลังวิญญาณเพียงพอต่อการฝึกฝน ยมโลกเดิมทีเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด แต่ว่าเจ้าก็รู้ว่าตอนนี้ศัตรูอยู่ในที่มืด ค่อนข้างอันตราย เขาไม่อาจไปยมโลกในสภาพนี้ได้ เดิมทีข้าคิดว่าจะหาสถานที่ที่ปลอดภัยให้เขาอยู่ แต่ว่าต้องใช้เวลาเล็กน้อย ดังนั้นเขาสามารถ…สามารถ…”

“ท่านอยากให้เขาอยู่ในห้องใต้ดินต่อ?” อวิ๋นเจี่ยวพูด

“ใช่ๆๆๆ!” เขารีบพยักหน้า “เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น รอข้าหาสถานที่ที่เหมาะสม ข้าจะพาเขาไปทันที”

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกไม่เป็นไร ในเมื่อตู้เย็นนั้นใช้ได้ค่อนข้างดี กำลังคิดจะพยักหน้า “แต่ว่า…”

“ไม่ได้!” เสียงเย็นดังขึ้นอย่างกะทันหัน แสงสีขาวสว่างขึ้น ร่างของอาจารย์ปู่ปรากฏขึ้นภายในห้อง เขาอยู่ในชุดยาวสีขาวราวหิมะ สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ในมือยังถือ…ขวดกลม?!

เหวินชิงและหยวนเจียงตกใจ สีหน้าดีใจ ไม่คิดว่าอาจารย์จะปรากฏตัวกะทันหัน พวกเขารีบลุกขึ้นเดินไปทางเยี่ยยวน ก่อนจะคุกเข่าลงทำความเคารพ “ลูกศิษย์ทำความเคารพอาจารย์”

ท่าทางเป็นระเบียบ สีหน้าเกรงขาม ราวกับกำลังทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรบางอย่าง

อวิ๋นเจี่ยวที่กล่าวทักทายอย่างเดียว: “…”

ไป๋อวี้ที่ทักทายตามอวิ๋นเจี่ยว: “…”

จะว่าไป พวกเขาควรจะให้ความร่วมมือเสียหน่อยหรือไม่ ไม่อย่างนั้นดูไม่ค่อยเข้าพวก

“อืม” ไม่รอทั้งสองคนลังเล เยี่ยยวนเพียงแค่ตอบรับอย่างเฉยเมย เขาเดินไปหาทั้งสองคน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างตัวอวิ๋นเจี่ยว สายตาเย็ยะเยือกจ้องมองไปคนทั้งสองที่ลุกขึ้นยืน ความรังเกียจแทบจะล้นออกมา ก่อนจะพูดขึ้น “ลูกศิษย์ของพวกเจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณ แต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา กลับไปยังสถานที่ของพวกเขา” เอาแต่อยู่ที่นี่ คิดจะลักพาตัวศิษย์หลานของข้าอีกแล้วใช่หรือไม่

(╰_╯)

“แต่ว่าอาจารย์…” เหวินชิงกำลังจะคัดค้านเสียงเบา

สายตาของเยี่ยยวนกวาดมองมาทันที พร้อมกับพูดเสริมขึ้น “พวกเจ้าทั้งสองก็ด้วย” ท่าทางรังเกียจนั้น ขาดแค่ไม่ได้เขียนว่า กลิ้งกลับไปโลกบน

หยวนเจียงและเหวินชิงคอตกกลับไปในทันที น้อยใจ เสียใจ อยากร้องไห้…

อวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านข้างพูดโน้มน้าวอย่างอดไม่ได้ “อาจารย์ปู่ หานซูตอนนี้ไม่มีพลัง หากกลับยมโลกจะเป็นอันตราย”

สีหน้าของเยี่ยยวนเย็นลงกว่าเดิม อุณหภูมิรอบด้านลดลงหลายสิบองศาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดทีละคำ “เจ้าจะเลี้ยงเขาไปตลอด?”

ทันใดนั้น ราวกับอากาศก็กลายเป็นน้ำแข็งขึ้นมา คำพูดเพียงสั้นๆ แต่หนาวเหน็บอย่างยิ่ง ราวกับมีความโกรธปะปนกับ…ความน้อยใจ? ราวกับศิษย์หลานไม่ได้อยากช่วยเลี้ยงวิญญาณ แต่เป็นผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ไม่เพียงแต่เหวินชิง แม้แต่ชายแก่ก็ตกใจ อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปพร้อมกัน

อวิ๋นเจี่ยวกลับไม่รับรู้ เธอยังคงพูดเองเออเอง “ไม่ใช่ ข้าแค่อยากถามอาจารย์ปู่ว่า มีสถานที่ปลอดภัยที่ไหนให้หานซูฝึกฝนได้อย่างสบายใจบ้าง” ดีกว่ามานั่งเป็นตู้เย็นตรงนี้

แรงดันรอบตัวของเยี่ยยวนถึงได้ผ่อนคลายลง เขาขมวดคิ้ว ราวกับกำลังครุ่นคิดปัญหานี้ขึ้นมา สักพักถึงได้พูดขึ้น “เหตุใดไม่ส่งไปเขตหมิงเฝิน”

เขตหมิงเฝินคืออะไร

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ถาม เหวินชิงและหยวนเจียงราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้

“อาจารย์หมายถึง…ศิษย์พี่ใหญ่หลงฉาง?”

“อืม” เยี่ยยวนตอบรับ นั่นคือลูกศิษย์ที่เขารับคนแรก เป็นลูกศิษย์ที่ไม่ได้โง่เขลามาก

ศิษย์พี่ใหญ่? เช่นนั้นก็คืออาจารย์ของเถิงสี?

อวิ๋นเจี่ยวราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ว่าเถิงสีเคยพูดไว้ อาจารย์ของเขาอยู่ในยมโลก เพียงแต่เขาไม่ได้ฝึกฝนพลังวิญญาณ แต่เป็นท่านเทพ ส่วนคนในโลกสวรรค์ทำไมถึงเฝ้าอยู่ในยมโลก เธอไม่รู้

หยวนเจียงสีหน้าดีใจ ก่อนจะพยักหน้ารับ “อาจารย์พูดถูก หากเป็นศิษย์พี่ใหญ่ คงจะรับรองความปลอดภัยของศิษย์หลานหานได้” จากนั้นเหมือนนึกอีกเรื่องขึ้นได้ เขาขมวดคิ้ว “เพียงแต่ศิษย์พี่ใหญ่…”

เขาไม่ได้พูดต่อไป เพียงแต่หันไปแลกเปลี่ยนสายตากับเหวินชิง ทันใดนั้นในหัวก็ปรากฏใบหน้าใหญ่ขึ้นมา ทั้งสองคนตัวสั่นสะท้าน สีหน้าพูดไม่ออก

เพียงแค่ส่งลูกศิษย์ไปรักษาตัวเท่านั้น น่าจะไม่เป็นอะไร?

…น่าจะ?