ตอนที่ 289 เธอไม่ต้องการเกียรติแล้วงั้นเหรอ / ตอนที่ 290 คุณชายหานผู้ติดดิน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 289 เธอไม่ต้องการเกียรติแล้วงั้นเหรอ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กอดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ก่อนจะกระเถิบก้นไปข้างๆ 

 

 

พลางเม้มปาก ไม่สนใจเขา 

 

 

คนที่บอกว่าเธอบื้อไม่คู่ควรที่จะพูดกับเธอแล้ว เชอะ! 

 

 

นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานหรี่ลงเล็กน้อย ราวกับมองความเย่อหยิ่งของเธอออก จึงกระแอม 

 

 

จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางคนขับรถ แล้วสั่ง “จอดรถข้างหน้า” 

 

 

“…คุณจะลงรถเหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่ถามตามสัญชาตญาณ 

 

 

ตรงนี้เข้าเขตของคฤหาสน์ตระกูลอวี๋พอดี รอบข้างจึงไม่มีร้านค้าและผู้คน เขาจะลงไปทำอะไร 

 

 

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเขาเอ่ยขึ้น 

 

 

“คนที่ต้องลงไปคือคุณ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

เมื่อคำสั่งของเขาออกมาจากปาก คนขับรถก็จอดรถนิ่งสนิทอยู่ข้างทางทันที 

 

 

แม้แต่ล็อกประตูก็เปิดออกแล้ว 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมองนอกหน้าต่างรถครั้งหนึ่ง ลมเย็นพัดแรง แค่ฟังจากเสียงอย่างเดียว ก็ทำให้คนขนลุกซู่แล้ว 

 

 

ถ้าโชคไม่ดี เรียกรถแท็กซี่ไม่ได้ ให้เดินกลับคฤหาสน์จากตรงนี้ ถ้าไม่เหนื่อยตายก็หนาวตาย 

 

 

เกียรติสำคัญ หรือชีวิตสำคัญกว่า 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ก่นด่าเขาอยู่ในใจเงียบๆ ก่อนจะหันหน้าไปอย่างว่าง่าย 

 

 

แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อกี้คุณชายถามอะไรฉันหรือเปล่าคะ ลมแรงเกินไปฉันได้ยินไม่ชัดเลย ตอนนี้ฉันอธฺบายให้คุณฟังชัดๆ สักหน่อย” 

 

 

อวี๋เยว่หาน “…” 

 

 

เขามองใบหน้าเล็กสะสวยตรงหน้า และรู้ดีว่าเธอกำลังจงใจหลอกล่อเขา มุมปากจึงยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว 

 

 

ครั้นเหนียนเสี่ยวมู่เห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปบ้าง จึงรีบสั่งให้คนขับรถรีบขับรถไป จากนั้นถึงจะพูดต่อ “ความจริงแล้วก็”ม่มีอะไร ก็แค่งานเลี้ยง รองประธานเฉินถามว่าฉันไปได้ไหม…” 

 

 

เธอยังพูดไม่จบ แต่รู้สึกว่าในรถมีลมหนาวโหมอยู่ระลอกหนึ่ง 

 

 

ทำเอาเธอตัวสั่นไปทั้งตัว! 

 

 

ใครเปิดกระจกรถเนี่ย 

 

 

ทำไมอยู่ๆ ถึงหนาวแบบนี้… 

 

 

“งานเลี้ยงเมื่อไหร่” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานพลันมืดครึ้ม แต่บนใบหน้ากลับเรียบนิ่งมาก 

 

 

“พรุ่งนี้ นอกจากแผนกของฉันแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมงานจากทางบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจำนวนหนึ่งด้วย” เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่พูดถึงตรงนี้ เธอก็พึมพำเสียงเบา “เดิมทีฉันอยากเชิญซ่างซินให้มาด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ตอบข้อความฉันเลย โทรไปก็ไม่รับ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูด ก่อนจะเงยหน้ามองเขาตาปริบๆ 

 

 

“คุณชายหาน คุณรู้ที่อยู่ของซ่างซินไหม” 

 

 

“…” 

 

 

“ฉันก็ไม่ได้อยากจะให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงให้ได้หรอก ฉันแค่เป็นห่วงเธอ” หญิงสาวมองนิ้วมือของตนเอง สายตาปรากฏความกังวล 

 

 

ที่เธอมองเหม่อไปที่โทรศัพท์มือถือนั้น เป็นเพราะซ่างซิน 

 

 

สีหน้าบูดเบี้ยวของอวี๋เยว่หาน ค่อยๆ คลายลง 

 

 

เขางอนิ้วยาวดีดหน้าผากของเธอเล็กน้อย “ไม่มีเรื่องอะไร อย่าคิดมากเลย ซ่างซินไม่เป็นอะไรหรอก” 

 

 

“จริงเหรอ งั้นน่าจะแค่ยุ่งมากสินะ เธอถึงไม่เห็นข้อความของฉัน” เหนียนเสี่ยวมู่ไม่สงสัยคำพูดของเขาเลย 

 

 

ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมา 

 

 

อวี๋เยว่หานมองรอยยิ้มของเธอ ลูกตาพลันหดตัว 

 

 

แต่ไม่ได้บอกเธอว่า ตระกูลถังจัดนัดบอดให้ถังหยวนซือ และเขาก็ตอบรับ 

 

 

ซ่างซินได้รับข่าวนั้น เธอจึงไปหาเขาที่ตระกูลถัง แต่สุดท้ายก็ถูกถังหยวนซือปฏิเสธ 

 

 

เธอรออยู่ข้างนอกคฤหาสน์ตระกูลถังอยู่หนึ่งคืนเต็มๆ และหายตัวไป… 

 

 

เรื่องของความรัก คนนอกอย่าเข้าไปยุ่งจะดีที่สุด 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ช่วยซ่างซินไม่ได้หรอก 

 

 

อวี๋เยว่หานหลุบตาลง ไม่ได้พูดอะไรอีก 

 

 

เมื่อถูกเหนียนเสี่ยวมู่เบี่ยงเบนประเด็นไป เขาจึงลืมถามเรื่องงานเลี้ยงไปเลย 

 

 

จนกระทั่งถึงตอนบ่ายของวันถัดมา ผู้ช่วยนำเอกสารมาส่งที่ห้องทำงานของเขา แล้วถามว่า “คุณชายครับ วันนี้บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ากับแผนกประชาสัมพันธ์มีงานเลี้ยง ผู้จัดการเหวินให้ผมมาถามคุณว่า คุณว่างไปร่วมงานไหมครับ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 290 คุณชายหานผู้ติดดิน 

 

 

“…” อวี๋เยว่หานที่กำลังเซ็นชื่อมือสั่นขึ้นมาเล็กน้อยในทันที 

 

 

และฟังผู้ช่วยพูดต่อ 

 

 

“งานในครั้งนี้ รองประธานเฉินจากทางฝั่งเทคโนโลยีเซิ่งต้าเป็นคนเสนอ ผู้จัดการเหวินก็หวังว่าจะใช้โอกาสนี้ ตอบแทนเพื่อนร่วมงานที่ลำบากมาโดยตลอด ก็เลยตกลงไปครับ” 

 

 

พูดขึ้นมาแล้ว เฉินจื่อซินเป็นคนเสนอเรื่องงานเลี้ยงในครั้งนี้จริงๆ 

 

 

เขาคิดจะทำอะไร 

 

 

ถือเอางานมาทำเรื่องส่วนตัวน่ะสิ! 

 

 

อวี๋เยว่หานมีสายตาดำคล้ำ ความเฉยชาปรากฏขึ้นในนั้น 

 

 

เขาวางปากกาในมือลง ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างเชื่องช้า “ในเมื่อต้องการตอบแทนเพื่อนร่วมงาน ถึงแม้ฉันไม่ว่าง ก็ต้องเจียดเวลาไปเข้าร่วมสินะ”  

 

 

“…” ผู้ช่วยตะลึงไปในทันที 

 

 

ก่อนหน้านี้คุณชายไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงของแผนกเลย ช่วงนี้เป็นอะไรไปนะ 

 

 

ทำไมอยู่ๆ เขาถึงได้พบว่าคุณชายติดดินขึ้นมาอย่างนี้! 

 

 

ผู้ช่วยดึงสติกลับมา แล้วรีบพยักหน้ารับ “งั้นผมไปบอกผู้จัดการเหวินนะครับ” 

 

 

ถึงเวลาเลิกงาน 

 

 

ทั้งแผนกประชาสัมพันธ์ครึกครื้นทีเดียว 

 

 

“พอคิดว่าเดี๋ยวจะได้ไปกินดื่มอย่างเต็มที่ ความเหนื่อยล้าทั้งวันก็หายไปในพริบตาเลย!” 

 

 

“วันนี้ฉันตั้งใจอดข้าวทั้งวัน เพื่อกินมื้อเย็นนี้ให้เต็มคราบ พวกเธออย่ามาขวางฉันล่ะ!” 

 

 

“ฉันก็เหมือนกัน…” 

 

 

เพื่อนร่วมงานในแผนกเก็บของพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย 

 

 

ไม่นานนัก เหวินหย่าไต้ก็เดินออกมาจากห้องทำงานผู้จัดการ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม 

 

 

“งานเลี้ยงทำให้ทุกคนมีความสุขขนาดนี้ ถ้าฉันบอกพวกเธอว่า คุณชายหานก็ไปงานเลี้ยงเย็นนี้ด้วย…” 

 

 

เมื่อเหวินหย่าไต้พูดประโยคนี้ออกมา เพื่อนร่วมงานรอบๆ ก็ร้องเสียงหลงด้วยความตื่นเต้นขึ้นมา 

 

 

“ผู้จัดการเหวิน จริงเหรอคะ” 

 

 

“จริงสิ เดิมทีฉันแค่ให้ผู้ช่วยหยางเท่อช่วยฉันถามหน่อย คิดไม่ถึงว่าคุณชายอวี๋จะตอบรับโดยไม่รีรอ เพื่อร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อเป็นรางวัลให้ทุกคน” เหวินหย่าไต้พูด พลางชื่นชมผลงานในช่วงนี้ของทุกคนด้วย 

 

 

ทันใดนั้นก็มีแต่เสียงชื่นชมเธอทั้งแผนก 

 

 

“ถ้าไม่มีผู้จัดการเหวิน คุณชายหานจะสังเกตเห็นว่าพวกเราทำงานลำบากกันเร็วขนาดนี้ได้ยังไง แถมยังมาให้รางวัลพวกเราอีก” 

 

 

“จริงด้วย คุณชายหานมาร่วมงานเลี้ยงได้ เป็นเพราะผู้จัดการเหวิน” 

 

 

“ผู้จัดการเหวินสร้างความสุขให้ทุกคนแบบนี้ วันหลังพวกเราต้องทำงานหนักตอบแทนคุณแน่ค่ะ!” 

 

 

“ใครไม่เคารพผู้จัดการเหวิน ฉันจะสู้เป็นคนแรกเลย” 

 

 

“…” 

 

 

เหวินหย่าไต้ยิ้มอย่างสง่างามเมื่อได้ยินทุกคนพูดอย่างนั้น 

 

 

แต่ในใจกำลังลำพองอยู่ 

 

 

ไม่รู้ว่าใครถามขึ้นมา “นอกจากผู้จัดการเหวิน ตอนนี้แผนกของพวกเรามีซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนด้วย เธอทำงานใหญ่สองงานสำเร็จในเวลาอันสั้น เรียกได้ว่าทั้งสวยและเก่ง ต่อไปแผนกของพวกเขาต้องเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นแน่นอน!” 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มที่มุมปากของเหวินหย่าไต้ก็แข็งทื่อไป 

 

 

มือที่ตกอยู่ข้างลำตัวกำหมัดอย่างเงียบๆ 

 

 

เธอเป็นผู้จัดการของแผนกประชาสัมพันธ์นะ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งโผล่มาได้ไม่นาน ก็มีคนนำเหนียนเสี่ยวมู่มาพูดเทียบกับเธอแล้วเหรอเนี่ย! 

 

 

ทั้งสวยและเก่ง กำลังถากถางว่าเธอสวยสู้เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ 

 

 

“ผู้จัดการเหวิน รถของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ามาถึงแล้วค่ะ บอกว่ามารับพวกเรา” เลขาเดินมาข้างๆ เหวินหย่าไต้ ก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม 

 

 

ความไม่พอใจในสายตาของเหวินหย่าไต้พลันหายไปเมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้ากลับมาเรียบนิ่งดังเดิม 

 

 

“ทุกคนรีบเก็บของเธอ พวกเราต้องลงไปกันแล้ว” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จัดงานงานจนเสียเวลาไปเล็กน้อย จึงรั้งท้ายกลุ่ม 

 

 

หลังจากออกจากลิฟต์ เธอมองเห็นเฉินจื่อซินยืนอยู่หน้ารถรับส่งในทันที ขณะที่เตรียมขึ้นรถนั้นเอง มือแข็งแรงข้างหนึ่งพลันคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วดึงเธอเข้าไปในอ้อมอก!