ตอนที่ 289 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (1) / ตอนที่ 290 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 289 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (1)

ในที่ลับตาคน

หรงกุ้ยเฟยซ่อนตัวอยู่หลังป้ายไม้สลัก นางเห็นเสิ่นเยว่ที่มีท่าทีเย้ยหยัน นางยิ้มแบบชั่วร้าย

เฟิงหรูชิง เจ้าเห็นแล้วหรือยัง ต่อให้ฝ่าบาทเอนเอียงปกป้องเจ้า แต่ในสายตาคนทั้งหลาย เจ้าไม่มีวันสู้เฟิงหรูซวงได้

ความดีเลิศของเฟิงหรูซวงล้วนเป็นที่ประจักษ์ เจ้าเป็นได้แค่ตัวประกอบฉากเท่านั้น

ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตา รูปร่าง นิสัยใจคอ ความสามารถ เจ้าไม่มีวัน…เทียบเฟิงหรูซวงได้!

หลิ่วอวี้เฉินถือจอกเหล้าอยู่ เขายกซดหมดจอก

คำพูดถากถางของเสิ่นเยว่ ลอยผ่านหูเขาไปดังสายลมพัด ไม่มีคำไหนที่ติดอยู่ในโสต

แต่ภายในใจของเขากลับถาโถมด้วยคลื่นความคิดนับไม่ถ้วนตั้งนานแล้ว

ผู้หญิงอย่างเฟิงหรูชิง…ช่างร้ายกาจนัก ไม่อย่างนั้นถานซวงซวงคงไม่แพ้ยับเยิน และแม้แต่ลูกหลานขุนนางใหญ่ที่เคยห้อมล้อมเฟิงหรูซวง บัดนี้ก็ไปเข้าพวกกับเฟิงหรูชิงคนเดียว

แม้แต่เขา…ตั้งแต่วันนั้นมา ก็มักเห็นภาพแววตาอันเย็นชาดูห่างเหินผุดขึ้นในความคิดเป็นประจำ

ถ้าหาก…ถ้าหากมีโอกาสอีกครั้ง บางที…เขาคงไม่ขอหย่ากับนาง และรับนางเป็นเมียเอก ถานซวงซวงเป็นเมียน้อย ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

แต่ในใจผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้มีไม่เขาแล้ว!

“ลูกสาวของข้า” เฟิงเทียนอวี้ค่อยๆ ลุกขึ้น เขาเอามือลูบชุดมังกร ทั้งๆ ที่ในตำหนักไม่มีลมพัด แต่ชุดมังกรกลับลอยขึ้น “พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์อะไรลูกสาวข้า! คนจากแคว้นหลงอ้าวถือเป็นแขก หวังว่าพวกเจ้าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรแก่ฐานะ! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้า!”

เสิ่นเยว่ยิ้มถากถาง “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะพูดตรงๆ วันนี้ที่ข้ามาก็เพื่อจะให้โอกาสพวกท่านในการแต่งงานผูกสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น แม้จะเป็นเพียงตำแหน่งสนมชั้นโท แต่คนที่รับตำแหน่งนี้ได้ ท่านคิดว่าเป็นเฟิงหรูชิงคนไม่เอาถ่านหน้าตาไม่เอาไหนนั่นหรือ ดังนั้น ขอให้ฝ่าบาทเรียกองค์หญิงเฟิงหรูซวงกลับมาเถิด”

กลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างพลับพลาต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่

ที่จู่ๆ องค์ชายแห่งแคว้นหลงอ้าวมาเยือนแคว้นหลิวอวิ๋น ที่แท้เป็นเพราะเรื่องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์อย่างนั้นหรือ และยังเป็นแค่ตำแหน่งสนมชั้นโท?

องค์หญิงแห่งแคว้นหลิวอวิ๋นผู้สูงศักดิ์ จะให้เป็นแค่เมียน้อยอย่างนั้นหรือ

เหยียดหยามกันเพียงนี้ ไม่มีใครทนได้หรอก! มันเหมือนตบหน้าคนแคว้นหลิวอวิ๋น!

โครม!

โต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเฟิงเทียนอวี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในชั่วพริบตา ชิ้นส่วนร่วงหล่นลงพื้นสภาพดูไม่ได้

เขามองเสิ่นเยว่ด้วยรอยยิ้มน่ากลัว “ลูกสาวของข้ากับเยียนเอ๋อร์ คนอย่างเจ้านั้นไม่คู่ควรอยู่แล้ว คนที่จะได้เคียงคู่กับนางในชาตินี้ มีเพียงชายที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในโลกนี้เท่านั้น ไม่ต้องมาพูดถึงตำแหน่งสนมชั้นโทอะไรนั่น ต่อให้เป็นสนมเอก ก็เทียบไม่ได้กับฐานะของนาง”

ตั้งแต่เริ่มต้นจนบัดนี้ เฟิงเทียนอวี้ไม่พูดถึงเฟิงหรูซวงเลยสักครั้ง คนๆ เดียวที่เขาพูดถึงตลอดนั่นคือ…เฟิงหรูชิง!

หรงกุ้ยเฟยกำมือแน่น สีหน้าโกรธ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาฆาต

ผู้ชายที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในโลก? น่าขำ!

นางสู้เฟิงหรูซวงไม่ได้เลยสักนิด ใครเลยจะตาถั่วมาชอบคนอย่างเฟิงหรูชิงได้

“ฝ่าบาท ข้ารู้ว่าท่านกริ้วเพราะรู้สึกอับอาย” เสิ่นเยว่ยกมือขึ้นเสยผมด้วยคิดว่าตนเองรูปงาม “ถึงอย่างไร มีผู้หญิงมากมายบนโลกนี้ที่อยากแต่งงานกับข้า! ที่ข้ามาวันนี้ก็เพื่อสู่ขอเฟิงหรูซวง ไม่เกี่ยวอะไรกับเฟิงหรูชิง ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรกับข้า! ท่านขึงขังแบบนี้ คิดจะจับนางแต่งงานกับข้า ไม่ได้ผลหรอก”

ในบรรดาสี่แคว้น แคว้นหลงอ้าวเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด นอกจากฮ่องเต้ของแคว้นหลงอ้าวที่บรรลุฌานระดับหลิงอู่ขั้นสูง ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีคนอีกหลายคนทยอยกันบรรลุฌานขั้นหลิงอู่

เสิ่นเยว่ในฐานะผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งแห่งแคว้นหลงอ้าว สามารถบรรลุฌานระดับเจินอู่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย จึงมีความหยิ่งผยองเป็นธรรมดา

ตอนที่ 290 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (2)

นอกจากคนในโลกสันโดษ เสิ่นเยว่ไม่พบใครที่สู้เขาได้เลยในโลกปุถุชน!

เฟิงหรูชิงเคยได้ยินชื่อของเขา เพื่อลูกสาวแล้ว แน่นอนว่าเฟิงเทียนอวี้อยากให้นางได้แต่งงานกับเขา!

ใครเลยจะคิดว่าคนที่เขาสนใจคือเฟิงหรูซวงซึ่งไม่เป็นที่รักของเฟิงเทียนอวี้ ภายใต้ความโกรธจากความรู้สึกอับอาย เฟิงเทียนอวี้จึงพูดจาไม่สมตรรกะนัก

ยังกล้าพูดว่าต้องเป็นผู้ชายที่เก่งกล้าสามารถที่สุด

เหลวไหลสิ้นดี!

โลกสันโดษไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ เช่นนี้แล้วเสิ่นเยว่ไม่กลายเป็นชายที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในโลกหรอกหรือ

เพ้ง!

น่าหลานจิ้งบีบจอกเหล้าจนแตกเป็นเสี่ยงๆ คามือ เศษกระเบื้องทิ่มมือของเขาแต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรสักนิด

เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กายของเขาเร็วดุจกระบี่ พริบตาเดียวก็ไปอยู่ตรงหน้าของเสิ่นเยว่

ในดวงตาที่ดูเย็นชาคู่นั้น เต็มไปด้วยความอาฆาตที่รุนแรง

เฟิงเทียนอวี้ไม่ได้ห้ามน่าหลานจิ้งแต่อย่างใด

ถึงแม้เขาจะป่วยหนัก แคว้นหลิวอวิ๋นมีปัญหาทั้งภายนอกและภายใน แต่มันไม่ได้หมายความว่า เขาจะยอมให้ใครมาเหยียดหยามลูกสาวเขาได้!

“น่าหลานจิ้ง คนอย่างเจ้าคิดจะต่อสู้กับข้าหรือ” เสิ่นเยว่ยิ้มแสยะ เขายื่นมือออกไปกันหมัดของน่าหลานจิ้งไว้ “อีกอย่าง ข้าได้ยินมาว่า หลายปีที่ผ่านมาเฟิงหรูชิงสร้างความเสียหายให้กับคนในจวนแม่ทัพไม่น้อย”

น่าหลานจิ้งตัวสั่น เขากำหมัดแน่น

ที่เสิ่นเยว่พูดนั้นเป็นความจริง เฟิงหรูชิงทำร้ายคนในจวนแม่ทัพไว้มาก

แต่ว่า…

ยังไม่ต้องพูดถึงการที่เฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ต่อให้นางไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาก็ไม่มีทางยอมให้ใครมาเหยียดหยามนางมากขนาดนี้

เพราะว่านาง เป็นลูกพี่ลูกน้องเพียงคนเดียวของเขา! และเป็น…ญาติร่วมสายโลหิตของเขาที่ตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด

“ข้าแค่อยากรู้ว่า ผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งในสี่แคว้น จะแน่สักแค่ไหน!”

ฟับ!

พลังของน่าหลานจิ้งแผ่ซ่านออกมา พลังวิเศษมากมายมหาศาลหมุนวนรอบกายของเขา

แววตาของเขาดูเย็นชา สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ เขามองดูเสิ่นเยว่ด้วยสายตาอันหยิ่งทะนง”

“ฌานระดับเจิ่นอู่ขั้นกลางอย่างนั้นหรือ” สีหน้าของเสิ่นเยว่เปลี่ยนไปทันที

ไม่มีใครรู้ดีกว่าเขา ฌานระดับเจิ่นอู่ขั้นกลางของเขาได้มาอย่างไร

คนทั้งหลายต่างคิดว่าเขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ มีสติปัญญาชาญฉลาดเหนือคนทั่วไป แต่กลับไม่รู้ว่าเขาก็แค่ใช้สายสัมพันธ์ที่มีกับจื่อเยียนในการเข้าไปฝึกตบะในโลกสันโดษเป็นเวลาหนึ่งปี ถึงบรรลุฌานระดับเจินอู่ขั้นกลางได้

แต่น่าหลานจิ้ง…บรรลุฌานระดับนี้ได้อย่างไร

ที่ทำให้เขารับไม่ได้ก็คือ น่าหลานจิ้งอายุน้อยกว่าเขาตั้งหลายปี หากความสามารถของน่าหลานจิ้งมีคนรู้ต่อๆ กันไป ตำแหน่งผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งของเขาคงตกเป็นของคนอื่น

พอคิดถึงจุดนี้ แววตาของเสิ่นเยว่ก็เต็มไปด้วยความโกรธ ดูอาฆาตมาดร้าย

“คิดไม่ถึงว่าเพื่อจื่อเยียนแล้ว เจ้าพยายามได้ขนาดนี้” เสิ่นเยว่หัวเราะหึ “น่าเสียดายที่สุดท้ายนางก็ไม่ใช่คนของเจ้า เจ้าไม่คู่ควรกับนาง”

ครึ่งปีก่อนที่แคว้นหลงอ้าวส่งคนมาถอนหมั้น น่าหลานจิ้งยังฝึกฝนไม่ถึงฌานระดับเจินอู่เลย เวลาเพียงครึ่งปีเขากลับบรรลุฌานระดับเจินอู่ขั้นกลางได้แล้ว

เพียรพยายามขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ทำเพื่อให้ได้จื่อเยียนคืนมา แล้วจะทำไปเพื่ออะไรกัน

“ข้าจะบอกอะไรเจ้าสักอย่าง” เสิ่นเยว่เข้าไปใกล้ๆ น่าหลานจิ้ง เขาแย้มยิ้ม “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคู่หมั้นคนปัจจุบันของจื่อเยียนคือใคร เขาเป็นผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋น เขาจัดสินสอดคือยาวิเศษระดับสองห้าสิบต้น ยาวิเศษระดับสามสิบต้น และยาวิเศษระดับสี่อีกสองต้น สินสอดแบบนี้ เจ้ามีปัญญาหาได้หรือ”

ยาวิเศษระดับสองและสาม เอาทรัพย์สินของทั้งแคว้นหลงอ้าวมารวมกันยังพอหาซื้อได้ แต่จุดสำคัญอยู่ที่ยาวิเศษระดับสี่ ราคาสูงเสียดฟ้าและหาซื้อไม่ได้ ต่อให้เอาทรัพย์สิ้นของเชื้อพระวงศ์รวมกันก็ไม่อาจรับประกันว่าจะหาซื้อได้

เพราะเหตุว่ายาวิเศษระดับสี่นั้นอยู่ในโลกสันโดษ ไม่มีใครเคยพบในโลกปุถุชน

สำหรับแคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นหลิวอวิ๋นนั้น แม้แต่ยาวิเศษระดับสาม…ก็ยังหาซื้อไม่ได้

เดิมเสิ่นเยว่คิดว่าคำพูดเหล่านี้จะทำให้น่าหลานจิ้งรู้สึกสับสนวุ่นวายใจได้ แต่ปรากฏว่าสีหน้าของเขายังคงเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีหวั่นไหวใดๆ