ตอนที่ 291 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (3) / ตอนที่ 292 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (4)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 291 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (3)

ในขณะที่เสิ่นเยว่กำลังรู้สึกผิดคาด หมัดของน่าหลานจิ้งก็พุ่งเข้ามาที่หน้าของเขาอีกครั้ง

ในวังหลวงไม่อนุญาตให้พกอาวุธติดตัว ดังนั้น พวกเขาจึงต้องสู้กันด้วยมือเปล่า

ทุกคนต่างกลัวว่าการต่อสู้ของเขาสองคนจะกระทบมาถึงตนเอง พวกเขาจึงหลบไปอยู่ข้างๆ เปิดเป็นพื้นที่กว้างๆ ให้กับสองคนนั้น

น่าหลานฉางเฉียนกำถ้วยชาแน่น สายตาจับจ้องดูคนสองคนที่กำลังสู้กันตรงหน้า แววตาดูกังวล

ไอ้ลูกคนนี้ เหล้าวิเศษที่ดื่มไปมากมายไม่เสียเปล่า โดยไม่ทันรู้ตัวก็บรรลุฌานระดับเจินอู่ขั้นกลางเสียแล้ว

แต่เสิ่นเยว่บรรลุมานานแล้ว อยากเอาชนะเขาคงไม่ง่ายขนาดนั้น

“น่าหลานจิ้ง!”

หมัดกระแทกเข้าไปที่กลางอกของเสิ่นเยว่ เขาไม่ทันได้ป้องกัน จึงเคลื่อนตัวไปข้างหลังหลายก้าว เขาเอามือปาดเลือดที่มุมปาก นัยน์ตาอาฆาต “นี่เจ้ายั่วข้าเองนะ!”

เขารู้ดีว่าถ้าวันนี้เขาไม่บดขยี้น่าหลานจิ้งให้เละ เขาจะไม่มีวันลุกกลับขึ้นมาอีกเลย

ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร เขาต้องเหยียบน่าหลานจิ้งให้จมดิน ไม่ปล่อยให้น่าหลานจิ้งตั้งตัวกลับมาใหม่ได้!

ทันใดนั้น เสิ่นเยว่ควักกล่องใบหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ เขาเปิดกล่องออกแล้วหยิบผลไม้สีเขียวในกล่องมาอมไว้ในปาก

ทันทีที่ผลไม้เข้าปาก เขารู้สึกถึงพลังที่ซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าพลังวิเศษมหาศาลกำลังจะระเบิดออกมา

ฟับ!

หมัดนั้นมีพลังรุนแรง ราวกับพายุฝนฟ้ากระหน่ำ มันพุ่งไปอย่างรวดเร็ว

“จิ้งเอ๋อร์ ระวัง!” น่าหลานฉางเฉียนตกใจหน้าถอดสี เขารีบตรงเข้าไป

แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็ปรากฏคนหลายคนตามมาด้วย น่าหลานฉางเฉียนขวางพวกเขาไว้

“ท่านแม่ทัพน่าหลาน นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างองค์ชายของพวกข้ากับลูกชายของท่าน หากพวกท่านเข้าไปก้าวก่าย จะไม่เป็นการเล่นหมาหมู่หรอกหรือ แบบนี้จะทำให้คนเขาครหาได้นะ” ชายสูงวัยแสยะยิ้ม พูดเหน็บแนม

ในระหว่างที่พูด พลังของชายสูงวัยทั้งสามก็แผ่ซ่านออกมา พลังมีอานุภาพราวกับมีภูเขายักษ์ใหญ่กดทับศีรษะของทุกคนไว้

ผู้มีฌานระดับหลิงอู่!

ชายสูงวัยทั้งสามเป็นผู้มีฌานระดับหลิงอู่หรือนี่!

เกิดอะไรขึ้นกับแคว้นหลงอ้าวหรือนี่ ถึงได้มีผู้มีฌานระดับหลิงอู่มากมายขนาดนี้ มิน่าล่ะเสิ่นเยว่ถึงกล้าทำตัวสามหาวในแคว้นหลิวอวิ๋น ที่แท้เพราะมีพรรคพวกนี่เอง!

เฟิงเทียนอวี้นั่งไม่ติดแล้ว เขารีบเดินลงจากพลับพลา

ขณะเดียวกันพวกองครักษ์ได้ชักกระบี่ออกมาแล้วชี้ไปที่ผู้มีฌานระดับหลิงอู่สามคนนั้น

“ฝ่าบาท!” หลินกงกงย่ำเท้าอย่างกระวนกระวาย

องค์หญิงเคยบอกไว้ว่าฝ่าบาทจะใช้พลังวิเศษอีกไม่ได้ มิฉะนั้น…จะทำให้อาการทรุดหนักลงอีก ทนอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งปี!

ในเวลานั้นเอง หมัดของเสิ่นเยว่ก็ชกเข้าที่หัวไหล่ของน่าหลานจิ้งเสียงดังปัก

น่าหลานจิ้งกระอักเลือด และตัวลอยไปข้างหลัง ก่อนจะตกลงบนแท่นที่นั่งจัดเลี้ยง

“ทุกคนถอยไป!”

เฟิงเทียนอวี้จ้องมองดูพวกชายสูงวัยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาขึงขัง น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว

ชายสูงวัยเหล่านั้นยืนนิ่ง รอบกายของพวกเขามีพลังที่ดูร้ายกาจ ยืนอยู่ตรงหน้าเฟิงเทียนอวี้โดยไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด

“ฮ่องเต้แห่งแคว้นหลิวอวิ๋นผู้สูงส่ง คิดจะก้าวก่ายการประลองฝีมืออย่างยุติธรรมระหว่างข้ากับน่าหลานจิ้งอย่างนั้นหรือ” เสิ่นเยว่ยิ้มถากถาง “หากการกระทำที่ไร้ยางอายเช่นนี้แพร่สะพัดออกไป ท่านจะต้องกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้านแน่นอน!”

“ยุติธรรมหรือ” เฟิงเทียนอวี้หัวเราะหึ “ความยุติธรรมของเจ้าคือการที่สู้จิ้งเอ๋อร์ไม่ได้ เลยต้องกินยาวิเศษเพื่อเพิ่มพลัง?”

“ฮ่าๆๆ !” เสิ่นเยว่หัวเราะเสียงดัง “ข้าใช้ยาวิเศษเพิ่มพลังแล้วจะทำไม ถ้ามีปัญญา พวกท่านก็ใช้ยาวิเศษเพิ่มพลังได้เหมือนกัน อ้อ ข้าลืมไป แคว้นหลิวอวิ๋นที่ไม่มีน่าหลานเยียน จะมีปัญญาหาซื้อยาวิเศษได้อย่างไร ร้านขายยาวิเศษต่างเลือกลูกค้า ถ้ามีกำลังไม่มากพอ พวกเขาไม่มีทางขายยาวิเศษระดับสามให้พวกท่านหรอก”

ตอนที่ 292 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (4)

นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าความเลอค่าแต่หาซื้อไม่ได้ของยาวิเศษ

เมื่อเสิ่นเยว่พูดจบ เขาก็เดินไปอยู่ตรงหน้าของน่าหลานจิ้ง เขาเอื้อมมือไปหิ้วตัวน่าหลานจิ้งขึ้นมาจากพื้น

“หยุดนะ!” น่าหลานฉางเฉียนโมโห “ท่านเอาชนะจิ้งเอ๋อร์ด้วยวิธีการแบบนี้ก็มากพออยู่แล้ว ตอนนี้เขาแพ้แล้ว เหตุใดท่านยังหมายจะเอาชีวิตเขาด้วย”

เสิ่นเยว่ก้มหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

วันนี้เขาเอาชนะน่าหลานจิ้งได้ด้วยยาวิเศษ หากวันหน้าน่าหลานจิ้งเก่งกว่าเขาล่ะ?

เพื่อป้องกันเหตุที่คาดไม่ถึง เขาต้องทำให้น่าหลานจิ้งพิการ! แบบนี้ตำแหน่งผู้มีพรสวรรค์ที่สุดในสี่แคว้นจะได้ไม่เปลี่ยนมือ!

“ข้าบอกว่าหยุดเดี๋ยวนี้!” น่าหลานฉางเฉียนโมโหถลึงตา อาการโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในขณะที่เขาจะพุ่งเข้าไป ชายสูงวัยคนหนึ่งก็เข้ามาขวางหน้าเขาไว้ ทำให้เขาต้องหยุดอยู่กับที่

“ท่านแม่ทัพ” เฟิงเทียนอวี้สายตาโกรธเกรี้ยว “ข้าส่งคนไปตามแม่ทัพเฒ่าและผู้เฒ่าฉินแล้ว เดี๋ยวพวกเขามาถึง ไอ้แก่สามตัวนี้ต้องตายไม่เหลือหลอ!”

แม่ทัพเฒ่ากับผู้เฒ่าฉินอายุมากแล้ว จึงไม่รู้สึกสนใจงานเลี้ยงสังสรรค์ และไม่รู้ว่างานเลี้ยงรับรองจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงไม่ได้มาร่วมงาน

“แต่ ฝ่าบาท…” สุขภาพของฝ่าบาทไม่สู้ดีนัก จึงไม่สามารถต่อสู้ได้

“เดี๋ยวข้ากับหลิวอวิ๋นเซียวจะขวางพวกมันไว้ก่อน เจ้าจงไปช่วยน่าหลานจิ้ง”

เฟิงเทียนอวี้เงยหน้าขึ้น พูดเสียงเข้มว่า “หลิวอวิ๋นเซียว เจ้ากับข้ารับมือไอ้แก่สามตัวนี่ ส่วนคนอื่นๆ ถอยไปให้หมด”

เมื่ออยู่ตรงหน้าผู้มีฌานระดับหลิงอู่ มีแต่คนที่มีฌานระดับเดียวกันเท่านั้นที่จะต่อสู้กันได้ คนอื่นๆ…ต่อให้มีจำนวนมากกว่าแค่ไหน ก็ถือว่ารนหาที่ตาย

หลิวอวิ๋นเซียวกำลังจิบเหล้าและยิ้มสะใจ ราวกับว่ากำลังดูการแสดงสนุกๆ ต่อให้เฟิงเทียนอวี้สั่งให้เขาไปร่วมต่อสู้ แต่เขาก็ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา

เฟิงเทียนอวี้ “…”

ไอ้แก่นี่แม้จะเป็นขุนนางของแคว้นหลิวอวิ๋น กลับทำเป็นไม่สนคำพูดของเฟิงเทียนอวี้!

ถ้าหาก…ถ้าหากเขาไม่ถูกพิษละก็ ไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วยเลย เขาคนเดียวก็จัดการกับชายสูงวัยที่มีฌานระดับหลิงอู่สามคนนั้นได้

“หลิวอวิ๋นเซียว ท่านมัวทำอะไรอยู่” น่าหลานฉางเฉียนพูดด้วยความโมโห

หลิวอวิ๋นเซียวพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “อยากให้ข้าช่วย ข้าก็จะช่วย แต่ฝ่าบาทต้องแต่งตั้งหรงเอ๋อร์เป็นฮองเฮาทันที และตีเฟิงหรูชิงให้พิการซะ ถ้าถึงจะยอมช่วย”

ก่อนนี้เฟิงเทียนอวี้โอหังนักมิใช่หรือ ไม่เพียงปฏิบัติกับหรงเอ๋อร์แบบนี้ แถมยังสั่งเนรเทศซวงเอ๋อร์เพื่อเฟิงหรูชิงอีก!

ในเมื่อฝ่าบาทไม่เห็นสกุลหลิวอยู่ในสายตา แล้วไยตอนนี้ต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากข้า

อีกอย่าง หลิวอวิ๋นเซียวอยากให้ชายสูงวัยสามคนนั้นฆ่าเฟิงเทียนอวี้ให้ตายใจจะขาด แล้วจัดการคนจากตระกูลน่าหลานสองคนนั้นให้กลายเป็นคนพิการ ถ้าเป็นแบบนี้ เขาคงประหยัดแรงไปได้มากทีเดียว

หรงกุ้ยเฟยที่แอบอยู่หลังฉากได้ยินคำพูดดังกล่าว ตาของนางเป็นประกายและรีบมองไปที่เฟิงเทียนอวี้

เฟิงเทียนอวี้ยังคงวางตัวสง่าเช่นเดิม ชุดมังกรที่โบกพลิ้วแม้ไม่มีลมพัด ถึงแม้จะเห็นแค่ด้านข้าง ก็ทำให้ใจนางสั่นระรัว

ขอเพียงฝ่าบาทแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาและตีเฟิงหรูชิงให้พิการ นางก็จะยอมปล่อยวางความแค้นในอดีตไปเสีย แล้วเป็นฮองเฮาที่แสนดีของไพร่ฟ้า!

แต่ว่าภายใต้การท้าทายของหลิวอวิ๋นเซียว เฟิงเทียนอวี้เลือกที่จะหลับตาลง ผ่านไปสักพัก เขาลืมตาขึ้น แววตาของเขาแข็งกร้าวราวกับเพชร

“ข้าจะจัดการกับสามคนนั้นเอง คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง!”

เขาจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาหยามเกียรติแคว้นหลิวอวิ๋นเป็นอันขาด

เหยียดหยามลูกสาวของเขา แล้วยังรังแกหลานชายอีก!

“ฝ่าบาท!” น่าหลานฉางเฉียนหน้าซีดขาว

เฟิงเทียนอวี้ยิ้มน้อยๆ “ข้าจะถ่วงเวลาไว้จนกว่าพวกผู้เฒ่ามาถึง ถ้าวันนี้ข้าเป็นอะไรไป เฟิงหรูชิงจะสืบทอดบัลลังก์ต่อจากข้า มีท่านแม่ทัพคอยช่วยสนับสนุน ไม่ว่าใครก็ห้ามคัดค้าน”