บทที่ 143 ลอบสังหาร

ไหปีศาจ

บทที่ 143 ลอบสังหาร

“ต้องฆ่าเจ้าพวกนั้นด้วยรึเปล่า?”

“ฆ่าพวกมันด้วย พวกมันทั้งหมด”

“รับทราบ”

นอกลานหลังร้าน เงาดำสองคนกำลังยืนคุยกัน แสงเย็นจะกะพริบเป็นครั้งคราวกับพื้นหลังของแสงจันทร์

ในความมึนงงนั้นเหล่าตั๊กแตนขู่เซิงดูเหมือนจะเริ่มขยับเล็กน้อย

……

……

“ฟู่!!”

ไร้หน้าตื่นขึ้นมาในห้องของเขา

ตั้งแต่เข้าสู่ขั้นที่สองของกระบวนท่าวิชาผีเสริมกระดูก การรับรู้ของเขาก็เฉียบคมมากขึ้น แม้ในยามหลับ เขาก็ยังสามารถตรวจจับจิตสังหารรอบตัวเขาได้

ปัจจุบันเขามีความแข็งแกร่งเท่ากับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงิน

เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

มีดอันแหลมคนจี้มาที่เอวของเขา

“เจ้าช่างโชคไม่ดีเสียเลย เจ้าหนู” เสียงเศร้า ๆ ดังออกมา

ไร้หน้าไร้ความรู้สึก และพูดด้วยเสียงแหบเบา ๆ “เจ้ามาจากพรรคหวงชางั้นหรือ??”

“อยากจะตายสบาย ๆไหม? ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าคือผู้ที่จะมาฆ่าเจ้ายังไงล่ะ” เขาแทงมีดไปที่หน้าท้องของไร้หน้า

แววตาของไร้หน้าเย็นยะเยือก

……

……

ณ บ้านในสวนของศาลาไป่หยู่

ที่นี่คือห้องพักชั่วคราวหลังจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้คุ้มกัน ทุก ๆ คืนจะมีเหล่าพี่น้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อลาดตระเวน แต่ว่าวันนี้หลิวหูเข้าเวรด้วยตนเอง

“ฟ่อ”

งูทมิฬปีกกระดูกส่งเสียงสัญญาณออกมาเตือนทุกคน

หลิวหูหน้านิ่งไปสักพัก

“เจ้ากำลังบอกว่ามีคนบุกรุกเข้ามางั้นเหรอ?”

งูทมิฬปีกกระดูกพยักหน้า

ใบหน้าของหลิวหูหม่นหมองไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็กระซิบคำสองสามคำกับงูทมิฬปีกกระดูก งูทมิฬปีกกระดูกก็บินออกไปในทันที

……

……

ลั่วอู๋อยู่ในห้องของเขา นั่งอยู่บนเตียงในท่านั่งสมาธิ

เนื่องจากการไหลเวียนของเวลาในโลกแห่งไหและโลกภายนอกนั้นแตกต่างกัน เขาจึงนอนหลับอยู่ในโลกแห่งไห เมื่อเขาตื่นขึ้นมันต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการออกมาสู่โลกภายนอก

โดยส่วนใหญ่ในเวลานี้ เขามักจะตื่นแล้ว

“เอี๊ยด!”

ประตูห้องถูกเปิดออก

ลั่วอู๋สัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ขณะอยู่ในโลกแห่งไห ไม่เคยมีใครบุกเขามาในห้องของเขาแบบนี้มาก่อน แม้แต่หลี่หยิน สาวใช้คนโปรดของเขาก็เช่นกัน

“ตายซะ!”

ชายสวมหน้ากากแทงมีดอันแหลมคมเข้ามาที่เขาอย่างไม่ลังเล กล่าวได้ว่า เขามีความเด็ดขาดและจะไม่มีทางพลาดอย่าง “ตายจากการพูดมากเกินไป” ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับตัวร้ายเสมอ

แต่ลั่วอู๋ไม่มีคนคุ้มกัน

ชั่วะ!

ทันใดนั้นโล่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นและปิดกั้นลั่วอู๋

โล่ส่องแสงสีเขียวและเหลือง แสงทั้งสองก็ประสานกลมกลืนเข้าด้วยกัน ราวกับว่าเพิ่มชั้นของโล่ขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น

“เคร้ง!”

ใบมีดอันแหลมคมแทงเข้ามาที่โล่จนเกิดเสียงดัง

ลั่วอู๋ยกโล่ขึ้น เขายกตัวออกจากเตียงอย่างทุลักทุเล ใช้โล่ปกป้องตัวเองเอาไว้และปรับสภาพร่างกายอย่างรวดเร็ว

“หืม ตอบสนองเร็วดีนี่” เสียงอันขุ่นเคืองดังออกมา

ลั่วอู๋ยกหัวศรีษะขึ้น ชายในผ้าคลุมสีคำยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่มองไม่เห็นใบหน้า แต่กลับได้ยินเสียงลมหายใจได้อย่างชัดเจน เขาห่างจากการเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงเพียงแค่ก้าวเดียว

กล่าวได้ว่า คนคนนี้เขาน่าจะใกล้เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง

“เจ้าเป็นใครกัน?” ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น

ชายคนนั้นลูบมีดที่อยู่ในมือของเขา “ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดแน่ ข้าจะถอดหน้ากากออกให้เจ้าดูใบหน้าของข้า ก็ต่อเมื่อเจ้าตายไปแล้วเท่านั้น!”

หลังจากนั้น ลมหายใจของเขาแรงขึ้นอย่างมาก

“ชิ เจ้าต้องการหินวิญญาณขนาดไหนกันเพื่อมาฆ่าข้า?” ลั่วอู๋ยกโล่ขึ้นและพูดจาเยาะเย้ย

ขณะนั้น ใบมีดแทงเข้ามาที่โล่ เกิดแสงสว่างวาบ

ใบมีดที่แทงเข้ามาที่โล่นั้นไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เอาไว้ ไม่ต้องพูดถึงลั่วอู๋ที่อยู่ด้านหลังของโล่

ลั่วอู๋พูดจาเยาะเย้ย “ทำไมเจ้าถึงไม่เรียกสัตว์วิญญาณออกมา”

เมื่อชายชุดดำคนนั้นได้ยิน ดังนั้น เขาจึงเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เขาต้องการฆ่าลั่วอู๋และตะโกนออกมาด้วยเสียงที่แหบ “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ลั่วอู๋รู้สึกหดหู่

เมื่อพูดถึงสัตว์วิญญาณ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก สัตว์วิญญาณของเจ้าตายไปแล้วงั้นหรือ?

“เต่าหดหัวออกมาซะ!” ชายชุดดำตะโกนออกมา “เจ้าน่าจะมีฝีมืออยู่บ้างนี่ จะเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังของโล่หรือไงกัน?”

ลั่วอู๋หัวเราะเยาะเย้ย “ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ เจ้าก็ไม่ควรอยู่แค่ระดับเงิน เจ้าน่าจะสามารถพัฒนาตัวเองไปถึงระดับสูงได้ มันไม่น่าสบอารมณ์เลย”

เขาอยากจะถ่มเลือดออกมาเมื่อได้ยินคำนี้

ถ้าหากสัตว์วิญญาณทั้งหมดของเขาอยู่ที่นี่ การฆ่าลั่วอู๋คงจะไม่เป็นปัญหามากเช่นนี้

อะไรกัน!

นั่นมันโล่อะไรกัน? แข็งชะมัดยาด

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนเจ้าจะรีบร้อนมากไปนะ” ลั่วอู๋ยกโล่ขึ้น แล้วเดินออกไปอย่างสบายใจ “เจ้าอยู่ตรงนี้ ถ้าหากมีคนกำลังเข้ามา ข้าจะรอดูสิว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง”

ชายชุดดำสงบลงในทันที และหัวเราะออกมาด้วยความ “คนอื่น? เจ้าคิดว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเจ้างั้นหรือ?”

“ หมายความว่าไง?” ลั่วอู๋ครุ่นคิด

“ข้ามาที่นี่เพื่อให้ศาลาไป่หยู่ของเจ้าเต็มไปด้วยกองเลือด อย่าพยายามหนี! มีคนมากับข้าเจ็ดคน มีผู้ใช้พลังวิญญาณ 2 คน และนักฆ่าอีก 5 คน พวกเขาทั้งหมดนั้นเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร ข้าเกรงว่าพวกคนทั้งหมดที่อยู่ในศาลาไป่หยู่ของเจ้า น่าจะตายไปแล้ว” ชายชุดดำหัวเราะ

สีหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไป

ในสภาวะที่ไร้คนคุ้มกัน มันเห็นได้ชัดว่า ผู้ใช้พลังวิญญาณที่เชี่ยวชาญในการลอบสังหารนั้น น่ากลัวขนาดใด

“ไอ้เวรเอ๊ย อยากตายงั้นเหรอ!” ดวงตาของลั่วอู๋เต็มไปด้วยจิตสังหาร

ชายชุดดำหัวเราะ “เข้ามาฆ่าข้าเลยสิ ถ้าเจ้ามีความสามารถพอนะ”

“ถ้างั้น ข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”

ลั่วอู๋ยกโล่ขึ้นมาและใช้มันเป็นอาวุธ เขาฟาดมันด้วยความรุนแรง

ชายชุดดำแสดงความเหยียดหยาม

แม้ว่าโล่ของเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เจ้าจะใช้มันเพื่อฆ่าคนรึ? มันช่างไร้สาระมาก

ด้วยความคล่องแคล่วของชายชุดดำ เขาหลบการโจมตีของลั่วอู๋อย่างง่ายดาย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “หึ ในที่สุดก็มีช่องโหว่แล้วสินะ”

ชายชุดดำแทงมีดเข้าที่หลังของลั่วอู๋

ถ้ามันแทงเข้ามาได้ แม้แต่พระเจ้าก็คงช่วยอะไรไม่ได้

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ลั่วอู๋ไม่ได้ลุกลี้ลุกลน แต่ค่อย ๆ พูดออกมาว่า “เจ้าเองก็มีช่องโหว่เหมือนกันนั่นแหละ”

ต้าหวงได้ถูกเรียกออกมา

“โฮ่ง!”

ต้าหวงคำราม

สั่งใช้งานทักษะ [ก้าวพริบตา]

ต้าหวงปรากฏตัวออกมาด้านหลังของชายชุดดำทันที จากนั้นมันก็ได้อ้าปากและกัดไปที่ต้นขาของชายชุดดำในทันที เวลาต่อมาเลือดได้ไหลออกมาจนท่วมไปหมด

เวลาเดียวกันนั้น ทักษะระดับ S [พิชิตโค่นล้ม] ได้ถูกใช้งาน

พลังงานพิเศษรูปร่างของสุนัขได้เข้าปกคลุมชายชุดดำในทันที

นั่นคือพลังของทักษะ พิชิตโค่นล้ม

“นี่มันอะไรกัน?” ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ความสามารถของทักษะ [พิชิตโค่นล้ม] นั้นแข็งแกร่งมาก หลังจากใช้งานแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ฝ่ายตรงข้ามจะถูกหยุดเอาไว้ในระยะเวลา 10 วินาที

ชายชุดดำเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงิน มิติที่ 10 ดังนั้น ลั่วอู๋จึงประเมินเอาไว้ว่า เขาสามารถถูกหยุดเอาไว้ได้เพียง 3 วินาที

น่าเสียดาย มันต้องใช้การสัมผัสทางกายภาพ

ดังนั้น จึงไม่มีวิธีแก้ไขการถูกหยุดการเคลื่อนไหวได้

“ตายซะ!” ลั่วอู๋ยกโล่ขึ้นฟาดไปที่ชายชุดดำอย่างรุนแรง ชายชุดดำถูกฟาดจนกระเด็นออกไป

“เพร้ง!”

หน้าต่างแตกกระจาย

ชายชุดดำล้มลงทันที

“ต้าหวง!” ลั่วอู๋สั่งต้างหวงอีกครั้ง

ต้าหวงเข้าสู่สถานะการต่อสู้ และกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง มันใช้เขี้ยวอันแหลมคมกัดเข้าไปที่ขาของชายชุดดำ และฉีกร่างของชายชุดดำออกมา

ชายชุดดำถูกฉีกร่างจนกระดูกหักจนนอนราบไปบนพื้น และจ้องมองไปที่ลั่วอู๋ “ข้าเกลียดเจ้า! ถ้าสัตว์วิญญาณของข้ายังไม่ตาย หากมันยังมีชีวิตอยู่ ข้าจะฆ่าเจ้าให้เหมือนกับเชือดสุนัข!”

ลั่วอู๋ตะคอกอย่างเย็นชา และถอดหน้ากากของชายชุดดำออกมา

“ชิงชู?”

“เจ้ายังไม่ตายอีกอย่างงั้นเหรอ?” ใบหน้าของลั่วอู๋มืดหม่น