บทที่ 144 ความตาย

ไหปีศาจ

บทที่ 144 ความตาย

ตัวจริงของชายชุดดำคนนั้นคือชิงชู

ครั้งก่อนในส่วนลึกของพื้นที่ป่าหวงชา หลังจากพ่ายแพ้กับลั่วอู๋ กองทัพทั้งหมดได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น พี่น้องของเขาได้เสียชีวิตลง ไม่เว้นแม้แต่สัตว์วิญญาณ เขาพยายามหลบหนี แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และมิติของเขาก็ได้พังทลายลง เขาไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาสู่สภาพเดิมได้อีกต่อไป

เขาทำการรักษาบาดแผล เขาเชิญชวนผู้คนให้กลับมาแก้แค้น แต่มันน่าเสียดาย ที่เขากลับพ่ายแพ้ให้กับลั่วอู๋อีกครั้ง

ไม่มีทาง เขาได้เสียสัตว์วิญญาณ ความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณนั้นต่างชั้นกันเกินไป

“ใช่แล้ว ข้ายังไม่ตาย” ชิงชูนอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น จ้องมองลั่วอู๋ด้วยความไม่พอใจ “ตกใจกันล่ะสิ ที่ข้ากลับมาหาเจ้า”

ลั่วอู๋วางโล่ลงพร้อมกับต้าหวงที่ยืนอยู่ด้านข้าง เขาไม่กังวลที่จะตอบโต้ชิงชู

“ทำไมเจ้าถึงยังไม่ตาย? งั้นข้าจะฆ่าเจ้าอีกครั้ง” ลั่วอู๋หัวเราะ

ลมหายใจของชิงชูรุนแรงขึ้น “แม้ว่าข้าจะตายมันก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยข้าก็พาคนของศาลาไป่หยู่ ของเจ้าไปลงนรกกับข้าได้ คนของศาลาไป่หยู่ของเจ้าน่าจะตายไปหมดแล้ว”

ใบหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไป

ไม่ เราต้องได้รับความช่วยเหลือ

“ตายงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะน่า” ขณะนั้นมีเสียงเย้ยหยันดังออกมา

เสียงนั้นเป็นของหลิวหู

เขาเดินตามมาพร้อมกับเหล่าพี่น้อง

หลิวหูแบกชายชุดดำมา และโยนพวกเขาไปตรงหน้าของชิงชู “เจ้าพวกนั้นคือมือสังหารที่เจ้าส่งมางั้นเหรอ? พวกมันอ่อนแอเกินไปไหม?”

ผู้ใช้วิญญาณ 1 คน และนักฆ่าอีก 2 คน

ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีม่วง เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นถูกทักษะพิษ และพวกเขาน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

“ฝีมือแค่นี้ไม่มีทางฆ่าข้าได้หรอก!” หลิวหูตกใจ

หลิวหูพูดเย้ยหยัน

เมื่อเขาพบว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา เขาจึงส่งงูทมิฬปีกกระดูกไปเพื่อเรียกเหล่าพรรคพวกเข้ามา ด้วยความสามารถของเขา เขาจึงเอาชนะทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย

นี่คือความต่างชั้นของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง เขาเองก็เชี่ยวชาญการลอบสังหาร และเผชิญหน้าโดยตรง ๆ กับศัตรู ยิ่งไปกว่านั้นหลิวหูนั้นไม่ใช่ผู้ใช้พลังวิญญาณธรรมดา ๆ

ใบหน้าของชิงชูหม่นหมอง “ต่อให้ข้าสังหารเจ้าไม่ได้ ข้าก็สามารถฆ่าพวกพ้องในศาลาไป่หยู่ของเจ้าแทนได้อยู่ดี และเจ้าจะต้องเสียใจแน่”

“ปัง!”

มีเสียงของวัตถุตกลงมา

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ร่างกายบาดเจ็บจนกระดูกหักทั้งตัว บาดแผลทั้งร่างดูเหมือนจะประสบกับการต่อสู้อันดุเดือด จนถูกฆ่าในที่สุด

“ข้าฆ่าได้หนึ่งคน”

ไร้หน้าเดินออกมา

เขาหายใจอย่างติดขัด หลังจากมองอย่างถี่ถ้วน เขาก็พบว่าร่างกายของไร้หน้าเต็มไปด้วยบาดแผลและมีเลือดไหล แม้แต่ขาข้างขวาของเขาก็ดูเหมือนว่ากำลังจะหักทำให้เดินลำบาก

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันยากมากที่เขาจะต่อกรกับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงได้ แต่เขาก็ทำสำเร็จ

“ไร้หน้า เจ้าเป็นอะไรไหม?” ลั่วอู๋ประหลาดใจ

ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ความแข็งแกร่งของไร้หน้านั้นจะมาถึงจุดนี้ได้

ไร้หน้าต้องการบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเป็นลม ลั่วอู๋จึงรีบขอให้คนไปช่วยรักษาเขา

ชิงชูดูสับสน

คนเหล่านี้ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามา กล่าวกันว่าทักษะการลอบสังหารของพวกเขานั้นอยู่ในระดับสูง

แต่ทำไมถึงอ่อนแอเยี่ยงขยะ?

โชคดี ที่ยังมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงเหลืออยู่อีกถึง 2 คน

“นายน้อย นายน้อย!” ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ “นายน้อย มีศพ 2 ศพแขวนอยู่บนตั๊กแตนขู่เซิงตรงลานหลังร้าน มันน่าสยดสยองมาก”

“ไม่ต้องกลัว นำศพทั้ง 2 คนนั้นมาให้ข้า” ลั่วอู๋พูด

หลังจากนั้นไม่นาน ร่างทั้งสองก็ถูกอุ้มมา และถูกโยนไปตรงหน้าของชิงชู

ชายชุดดำ 2 คน

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกพันด้วยเถาวัลย์ที่ยังมีชีวิตอยู่

“พวกนี้คือคนที่เจ้าส่งมางั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า กะอีแค่ต้นไม้พวกเจ้ายังเอาชนะไม่ได้เลย แต่เจ้ากลับต้องการเข้ามาฆ่าข้าในศาลาไป่หยู่เนี่ยนะ?” ลั่วอู๋เยาะเย้ยชิงชู

ชิงชูกัดฟันแน่น เขาต่อว่าคนเหล่านี้หลายต่อหลายครั้ง

“น่าขันชะมัด พวกนี้เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ และเป็นเพื่อนที่ดีของข้า ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นหาที่เปรียบมิได้ ทักษะการลอบสังหารของพวกเขานั้นอยู่ในระดับหนึ่งในสามของพรรคหวงชา พวกเขาเฝ้ามองเป้าหมายอยู่ในความมืด และเป้าหมายไม่สามารถลอดจากการสังหารของพวกเขาได้!” ชิงชูตะโกนออกมา

ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว

พวกเขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่ใด เขามีฝีมือในการลอบสังหารผู้ใช้พลังวิญญาณ ทำให้เป้าหมายไม่สามารถนอนหลับและรับประทานได้อย่างสบายใจ

โชคดีที่ชิงชูไม่เชี่ยวชาญการลอบสังหาร ไม่เช่นงั้นเขาก็แอบเข้ามาในห้องของลั่วอู๋และฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

“แยกกันไปหา!” ลั่วอู๋ออกคำสั่ง

ทุกคนพยักหน้า

เราต้องตามหาผู้ใช้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่

เมื่อมองไปที่กำลังลุกลี้ลุกลนชิงชูก็ใจเย็นลง

ขณะนั้นหยู่เฮาเดินออกมาด้วยความสงสัย “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน? มันเสียงดังมากจนทำให้ข้าตื่น”

“เรากำลังตามหามือสังหารที่เหลือ” ลั่วอู๋อธิบาย

หยู่เฮาถาม “ชายชุดดำคนนั้นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว เจ้าเห็นมันงั้นหรือ?”

“อืม.. ตอนนั้นข้ากำลังหลับอยู่ ข้ารู้สึกว่ามีคนแอบเข้ามาในห้องของข้า ข้าเฝ้ามองชายชุดดำคนนั้นและเขาก็ส่งจิตสังหารออกมา ข้าคิดว่านั่นไม่ใช่คนดีแน่นอน ข้าเลยสับมันด้วยขวานไปทีนึง แต่มันก็ดึกมากแล้ว ข้าเลยกะว่าจะไปบอกเจ้าตอนพรุ่งนี้เช้าแทน” หยู่เฮาพูด

ทุกคนตกตะลึง

สับทีเดียวตายเลยเหรอ?

เจ้าหมอนี่มันมาจากที่ไหนกัน? ป่าเถื่อนชะมัด

หยู่เฮาเกาศีรษะแล้วถามว่า “ทำไมเจ้าไม่บอกข้างั้นเหรอ? ข้าสับมันทิ้งแล้วผิดรึยังไง? มันไม่ใช่ความผิดข้าสักหน่อย เจ้านั่นมันแอบเข้ามาในห้องของข้าเอง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้จะโทษเจ้าหน่อย ข้าต้องขอบใจเจ้าด้วยซ้ำ” ลั่วอู๋หัวเราะ

หยู่เฮาโล่งใจ

มีเพียงใบหน้าของชิงชูเท่านั้นที่ซีดลง “เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง เขานั้นเชี่ยวชาญการลอบสังหาร ยิ่งไปกว่านั้น แถมมีมีดอาบโลหิตเป็นอาวุธวิญญาณทำไมเขาถึงถูกคนเถื่อนสังหารได้กันล่ะ? ”

“มีดอาบโลหิตงั้นหรือ? มันก็เป็นแค่มีดสีแดงปกติ มันทรงพลังมากงั้นหรือ? มันหักเพราะขวานของข้าไปแล้ว ไม่เห็นว่ามันจะทรงพลังขนาดไหนเลย” หยู่เฮารู้สึกสับสน

สีหน้าของชิงชูหม่นหมอง

เจ้าคนเถื่อนคนนี้

ทำไมกัน?

ลั่วอู๋ได้แต่ถอนหายใจ ผู้ใช้พลังวิญญาณคนนั้นโชคร้ายชะมัด เพราะเขาดันเลือกเป้าหมายแรกเป็นหยู่เฮา

ทักษะการต่อสู้ของหยู่เฮานั้นช่างน่าเกรงขาม ถ้าหากมีคนส่งจิตสังหารออกไป ก็จะถูกเขารับรู้ได้ในทันที ยิ่งไปกว่านั้นเขามีพลังกายที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดที่น่ากลัว ผู้ใช้พลังวิญญาณที่เชี่ยวชาญในด้านการลอบสังหารจะไปหยุดขวานยักษ์นั่นได้อย่างไร?

การต่อกรกับหยู่เฮาต้องเว้นระยะห่าง ไม่ก็เอาชนะเขาขณะอยู่ในน้ำ หรือจากการโจมตีระยะไกล

ณ จุดนี้ มือสังหารทั้งหมดที่บุกรุกเข้ามา ทั้งหมดถูกจับได้และถูกสังหารยกเว้นชิงชูเพียงคนเดียว

ชิงชูไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ความแข็งแกร่งของศาลาไป่หยู่มาถึงจุดนี้แล้วยังงั้นหรือ? มันห่างชั้นกันเกินไป

ถ้าหากพรรคหวงชาให้ความสำคัญกับการต่อสู้ในครั้งนี้ และส่งผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหารที่แท้จริงมา มันก็เป็นไปได้ที่จะจัดการกับศาลาไป่หยู่ลงได้

แต่ว่าตอนนี้ ภายในทีมหวงชานั้นกำลังอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เพราะกองกำลังที่นำโดยคงฉิน หนึ่งใน 2 ผู้มีอิทธิพลในพรรคหวงชา กลับต้องเผชิญกับมรสุม ผู้นำสูงสุดของพรรคหวงชาต้องการปรับสมดุลและยังไม่ลงรอยกันเท่าไหร่

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับศาลาไป่หยู่

ลั่วอู๋ก้มศีรษะลงและมองไปที่ชิงชูอย่างเย็นชา “เจ้ามั่นใจมากรึยังไงกัน?ว่าจะสามารถฆ่าทุกคนในศาลาไป่หยู่ได้น่ะ?”

ชิงชูอยู่ในสภาพไร้พลังและมีท่าทีจะยอมแพ้

“นายน้อย เราจะจัดการมันยังไงดี?” หลิวหูถามอย่างสงสัย

ลั่วอู๋พูดอย่างสบาย ๆ “ฆ่าพวกมันซะ”

“ขอรับท่าน”

ในขณะที่ต้าหวงได้หุบปากอันน่ากลัวของมันลง จู่ ๆชิงชูก็ลืมตาขึ้นมาและพลังวิญญาณได้รวมกันทั่วร่างจนพองขึ้นในทันที

หลิวหูตะโกนออกมา “ระวังเขาจะระเบิดตัวเอง!”

ฝูงชนแยกย้ายออกไปในทันที

แต่ใครจะรู้ ชิงชูแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว เขาใช้มือทุบพื้นลุกขึ้น จากนั้นก็วิ่งหนีออกไปด้วยความเร็ว มันไม่ใช่การระเบิดตัวเองแต่อย่างใด

เป็นทักษะพิเศษชนิดหนึ่ง ที่สามารถระเบิดพลังวิญญาณในร่างกายได้ช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ทุกส่วนของร่างกายได้รับการเสริมพลังอย่างมาก

ด้วยวิธีนี้ ทำให้เขาหลบหนีออกมาจากปากของปีศาจยาหลงได้

แต่ผลกระทบจากการใช้วิธีชานี้นั้นร้ายแรงมาก เขาเกรงว่าหลังจากนี้ เส้นเลือดในร่างของเขาจะฉีกขาด โดยแม้แต่ความแข็งแกร่งในฐานะผู้ใช้พลังวิญญาณของเขาก็ไม่อาจช่วยต้านทานมันได้

ชิงชูรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกของเขา แต่เขาก็ต้องยับยั้งความเจ็บปวดเอาไว้

ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาสกลับมาแก้แค้นได้!

สีหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไป “เขาไม่ได้จะระเบิดตัวเอง เขากำลังจะหนีไป เข้าไปหยุดเขาซะ!”