บทที่ 67 ไม่อันตราย แต่น่าขายหน้า

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียคุกเข่าลงพร้อมกัน ไม่กล้าเงยหน้ามองท่านอ๋อง กู้ชูหน่วนรีบอธิบายว่า “ปรักปรำกันชัดๆ ข้าไม่รู้จริงๆว่างูตัวเล็กๆพวกนั้นจะกัดตรงนั้น……เออ……ของเจ้า พวกมันมีตาหามีแววไม่ ข้าจะกำจัดพวกมันทิ้งเอง……”

เย่จิ่งหานโมโห

โมโหมากจริงๆ

ที่โมโหกว่าก็คือ ทุกครั้งตอนที่ถูกกู้ชูหน่วนรังแก เขาก็ขยับตัวไม่ได้เลย

ขนาดครั้งนี้ ก็อ่อนแอจนยกมือขึ้นไม่ได้

งูเล็ก?

นั่นเป็นงูเล็กเหรอ?

งูใหญ่ชัดๆ เคยเห็นงูเล็กที่ยาวถึงสองเมตรไหม?

“ดูสิ มันรนหาที่เอง ไปเจอท่านยมทูตแล้วล่ะ”

กู้ชูหน่วนชี้งูตัวนั้น ใบหน้าเหมือนผู้ผดุงความยุติธรรม เหมือนว่างูตัวนั้นเป็นคนผิด

ตายไปตัวหนึ่ง ยังมีอีกหลายตัว รวมไปถึงตะขาบแมงป่องอีก เย่จิ่งหานถูกสัตว์มีพิษล้อมตัวไปหมด สัตว์มีพิษกัดตัวเขาไม่ยอมปล่อย

ความเจ็บปวดเป็นระยะ เจ็บจนเขาแทบจะขาดใจ

กู้ชูหน่วนเอาถ้วยยาที่เขาเพิ่งดื่มเสร็จมา แล้วเอาลงไปในกระถางทองสัมฤทธิ์ลึกๆ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “นี่ไง ปิดไว้ก็ได้แล้วนี่”

“……”

“หมับ……”

เย่จิ่งหานบีบคอกู้ชูหน่วนไว้อย่างรวดเร็วเหมือนดั่งสายฟ้าแลบ

“เจ้ารนหาที่ตายหรือไง”

น้ำเสียงเย็นชาจนไร้ความอบอุ่น ความอาฆาตแผ่ซ่านออกมา

อาการขาดอากาศหายใจทำเอาสีหน้ากู้ชูหน่วนแดงก่ำไปหมด

นางพลิกหลังมือ ฝังเข็มไปที่จุดเลือดลมบนร่างกายของเย่จิ่งหานอย่างรวดเร็ว

แต่ทว่า นางว่าเร็วแล้ว เย่จิ่งหานเร็วกว่านางเยอะ

“หมับ……”

เข็มเงินตกลงพื้น มือของนางถูกเย่จิ่งหานจับเอาไว้

กู้ชูหน่วนพยายามขัดขืน แต่มือของเย่จิ่งหานเหมือนมีกาวเหนียวๆติดไว้ ไม่ว่านางจะขัดขืนยังไงก็ไม่มีประโยชน์

ถ้าจะบอกว่าไม่ตะลึงนั่นคงไม่จริง

ถูกนางวางยาหนักๆ แถมยังเป็นช่วงที่เวลาสำคัญในการขับพิษ เย่จิ่งหานยังรวดเร็วขนาดนี้ได้ เขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจริงๆเหรอ?

กู้ชูหน่วนไม่ลังเลเลย ขอแค่เขาใช้แรงอีกนิด นางคงถูกหักคอทิ้งแน่

ขัดขืนไม่ได้ นางจึงไม่ขัดขืนอีก แล้วฝืนยิ้มออกมา พูดเสียงแหบว่า “ข้าช่วยชีวิตเจ้า เจ้ากลับจะฆ่าข้า คนดีเป็นยากจริงๆด้วย”

“เจ้าช่วยชีวิตข้างั้นเหรอ? เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าเป็นลิง คอยให้เจ้าหยอกล้อเล่นหรือไง?”

“เจ้าลองกำหนดลมปราณดู ดูสิว่าตันเถียนของเจ้า……ยังเจ็บจี๊ดอยู่ไหม”

คำพูดสั้นๆ กลับใช้แรงทั้งหมดของกู้ชูหน่วนที่มีอยู่

สีหน้าของนางเริ่มม่วงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะขาดอากาศหายใจได้ทุกครั้ง เย่จิ่งหานก็ปล่อยมือออกเล็กน้อย

เขาลองกำหนดลมปราณดู ตันเถียนไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เมื่อก่อนตอนที่อาการยาพิษในตัวกำเริบ ร่างกายก็เหมือนตกลงในน้ำแข็ง หนาวจนตัวสั่นเทา

ตอนนี้……

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายไม่ได้เย็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมยังรู้สึกอบอุ่นด้วย เหมือนตันเถียนของเขารวมตัวกันแล้ว

เย่จิ่งหานตะลึง

ปล่อยมือที่จับมือของนางออก

หรือว่าผู้หญิงคนนี้รักษาเขาได้จริงๆ?

“คอกแคก……”

กู้ชูหน่วนสูดอากาศหายใจลึกๆ แล้วบ่นว่า “คนดีไม่ได้ผลดีตอบแทน”

“ใครใช้ให้เจ้าแกล้งข้าล่ะ” ตั้งแต่เล็กจนโต เขายังไม่เคยถูกคนแกล้งให้อับอายขนาดนี้มาก่อน

“ใครแกล้งเจ้ากัน เจ้าดูสัตว์มีพิษในกระถางทองสัมฤทธิ์นั่นสิ”

เย่จิ่งหานกับชิงเฟิงเจี่ยงเสวียต่างก็มองเข้าไป เห็นสัตว์มีพิษในกระถางทองสัมฤทธิ์ต่างก็ตายกันหมด ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำเต็มไปหมด ดูแล้วน่ากลัวชอบกล

กู้ชูหน่วนพึมพำ “พิษในร่างกายของเจ้า ขนาดสัตว์มีพิษขนาดนี้ยังกลัวเลย เจ้าคิดว่าพวกมันจะทำอะไรเจ้าได้”

ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้?

ก็มีตัวหนึ่งกัดเขาแล้วไง?

แถมยังกัดน้องชายเขาด้วย

ที่น่าโมโหที่สุดคือกู้ชูหน่วนใช้ถ้วยยาให้เขาปิดไว้

ไม่อันตราย แต่น่าขายหน้ามากกว่า